- Bitcoin และ NFTs: ความเป็นมาแบบคร่าวๆ
- ถึงเวลาเรียนรู้เรื่อง Bitcoin Ordinals
- Ordinals NFTs ทำงานอย่างไร?
- ขนาดของบล็อก: SegWit, Taproot และ Ordinals
- Ordinals จะมีได้มากเพียงใด?
- แล้วเรื่องค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของ Bitcoin NFTs ล่ะ?
- Ordinals และคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์
- คุณจะฝังข้อมูลให้กับ Ordinal ชิ้นแรกของคุณได้อย่างไร?
- Bitcoin NFTs (Ordinals) vs. NFTs ทั่วไป
- ชุมชนแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายหลังการเปิดตัวของ Ordinals
- Bitcoin NFTs: ไม่ Ordinary แต่ Ordinaly
- คำถามที่พบบ่อย
ในตอนที่เราคิดว่าไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในแวดวงคริปโต Bitcoin ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วย Bitcoin NFT หรือ Ordinals ซึ่งแตกต่างจากสิ่งเดิมที่เราคุ้นเคยจาก Ethereum และ Solana พวกมันได้เพิ่มมิติใหม่ (รวมถึงความขัดแย้ง) ให้กับบล็อกเชนดั้งเดิมนี้
Bitcoin NFT นี้ได้สร้างความแตกแยกให้กับชุมชน Bitcoin ซึ่งเหล่าสาวก BTC ตั้งตนเป็นผู้ต่อต้านเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจเกี่ยวกับ Ordinals ในทุกแง่มุม รวมไปถึงความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชน แต่ก่อนอื่น เราไปดูประวัติความเป็นมาของ Bitcoin และ Tokenization (การแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปของสินทรัพย์ดิจิทัล) กันก่อนดีกว่า!
BeInCrypto Trading Community บน Telegram:
พูดคุยกันเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด รับชมคอร์สพื้นฐานการซื้อขายฟรี และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่คุณต้องการจากนักเทรดมืออาชีพ!
Bitcoin และ NFTs: ความเป็นมาแบบคร่าวๆ
ในปี 2013 และ 2014 Mastercoin และ Colored Coins ได้เปิดตัวในระบบนิเวศของ Bitcoin เพื่อขยายขอบเขตและเพิ่มกรณีการใช้งานใหม่ๆ Mastercoin มีสัญญาอัจฉริยะซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากความไม่ลงรอยกันโดยธรรมชาติกับเชนพื้นฐานของ Bitcoin แต่ Colored Coins นั้นมีวิสัยทัศน์ที่เรียบง่ายกว่า แนวคิดของ Colored Coins คือการย้อมสี Bitcoin (BTC) ใดๆ เพื่อเชื่อมโยงมันเข้ากับสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง
การยอมรับที่จำกัด, เลเยอร์พื้นฐานที่เข้ากันไม่ได้, และความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นของ Ethereum ทำให้ Mastercoin และ Colored Coins ไม่ได้กลายเป็นโปรเจกต์อย่างเต็มตัว แต่ทั้งสองก็ก่อให้เกิดคอนเซปต์ของการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็นที่พยายามจะสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Bitcoin คล้ายๆ กับ NFT ขึ้นมา
การมาถึงของ Counterparty Protocol
ในปี 2014 Counterparty Protocol ได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยการสร้างขึ้นบนเลเยอร์พื้นฐานของ Bitcoin Counterparty ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเชนและสินทรัพย์คริปโตใหม่ได้ (รวมถึง NFTs) ในขณะที่ยังได้รับประโยชน์จากระดับความปลอดภัยจากเครือข่าย Bitcoin ดั้งเดิม
คุณลองนึกภาพของแอปใหม่ๆ มากมายที่จะช่วยเพิ่มความสามารถ, ประสิทธิภาพ, และฟังก์ชั่นอื่นๆ อีกมากมาย ในการทำงานให้กับคุณดูสิ แอปแต่ละแอปเหล่านี้ก็เหมือนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลของ Counterparty คอมพิวเตอร์หรือ OS ที่แอปเหล่านี้ทำงานอยู่ก็เปรียบเสมือนระบบนิเวศดั้งเดิมของ Bitcoin ดังนั้น คิดซะว่า Counterparty เป็นเหมือนกับโซลูชั่นเลเยอร์ 2 สำหรับ Bitcoin นั่นเอง
NFTs และ เกมที่มุ่งเน้นในเรื่องของสะสมดิจิทัล จำนวนมาก อย่างเช่น Age of Chains, Sarutobi, Spell of Genesis และ Rarepepes ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ Counterparty Protocol และนั่นคือสิ่งที่ใกล้เคียงกับคำว่า NFT มากที่สุดเมื่อพูดถึงเครือข่าย Bitcoin ก่อนที่ Bitcoin NFT หรือ Ordinals จะถือกำเนิดขึ้นมา
Rarepepes: Bitcoin NFTs?
เหมือนที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้ Rare Pepe เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่น NFT (การ์ดดิจิทัล) ยอดนิยมซึ่งมีกบมีมเป็นธีมหลัก ตัวโปรเจกต์เองก็มี Rarepepes หรือ การ์ดหายากของ Pepe อยู่หลายใบ ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วย Counterparty Protocol บนบล็อกเชน Bitcoin
สิ่งที่ทำให้ RarePepes มีความพิเศษก็คือตัวระบุตัวตนหรือโทเค็นที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครที่ติดอยู่กับมัน ตัวระบุตัวตนเดียวกันนี้ถูกจัดเก็บไว้ในเชนพื้นฐานของ Bitcoin และมันก็ถูกนำมาใช้งานในปี 2016
ต่อไปนี้คือข้อมูลที่โดดเด่นของมัน:
- Rarepepes ใช้ธีมของ “Pepe the Frog” ซึ่งเป็นมีมเก่าแก่ของโลกอินเทอร์เน็ต
- นี่คือหนึ่งในโปรเจกต์ NFT แรกๆ ที่นำเสนอคอนเซปต์ของความหายากในแบบดิจิทัล
- RarePepes สามารถซื้อและขายได้โดยการใช้ BTC
Spell of Genesis: เกมของ Bitcoin โดยเฉพาะ?
Spell of Genesis หรือ SoG เป็นเกมมือถือเกมแรกบนบล็อกเชนที่เปิดตัวในปี 2016 เกมแนวสะสมการ์ดที่เชื่อมโยงกับคอนเซปต์ของเกมแนวอาร์เคด (Arcade) และแนวชู๊ตติ้ง (Point-and-Shoot) และสิ่งที่ทำให้มันไม่เหมือนใครคือการใช้ Counterparty Protocol และอยู่บนเชน Bitcoin
ทั้ง Rarepepes และ Spell of Genesis คือตัวอย่างของ NFT/เกม ที่ขับเคลื่อนด้วย Bitcoin อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่สามารถใช้เชนพื้นฐานของ Bitcoin เพื่อการเติบโตขึ้นได้ ดังนั้น เลเยอร์ 2 ใน Counterparty จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในเรื่องนี้
ไซด์เชน Liquid และโปรเจกต์ NFT อื่นๆ
ในขณะที่ Counterparty Protocol ได้นำเสนอความเป็น NFTs เต็มรูปแบบให้กับ Bitcoin การยอมรับ NFT ในวงกว้างนั้นก็ยังต้องการพลังที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ดังนั้น ในปี 2018 Liquid Network จึงถูกสร้างขึ้นโดย Blockstream ซึ่งเป็น sidechain ของ Bitcoin Chain ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและรองรับการออกโทเค็นอีกด้วย
โปรเจกต์ NFT ยอดนิยมบางโปรเจกต์ที่เติบโตบนเชนนี้ ได้แก่ MakersPlace, CryptoArt.ai และ Nifty Gateway
และนี่คือรายชื่อของแพลตฟอร์ม NFT บน Liquid Network
Bitcoin Stacks และ NFT ที่ได้รับความนิยม
คุณยังมองหา Bitcoin NFTs ที่มีมาก่อน Ordinals อยู่ใช่หรือไม่? Stacks คือบล็อกเชนที่สร้างขึ้นบน Bitcoin ซึ่งเป็นโฮสต์ของโปรเจกต์ NFT มากมายในขณะที่ยังคงเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย Bitcoin ผ่านเทคโนโลยี “Stacking” คอลเล็กชั่นยอดนิยมบางส่วนบน Stacks ได้แก่:
- BNS (Bitcoin Name System)
- Crash Punks
- Bitcoin Birds
Bitcoin Sidechains และ NFT อื่นๆ
นอกเหนือไปจาก Liquid Network แล้ว Bitcoin ยังมีไซด์เชนอื่นๆ เช่น Rootstock (RSK) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นโฮสต์เวอร์ชั่นของ Cryptopunks NFTs ชื่อดัง SideShift AI เป็นอีกหนึ่งไซด์เชนที่โฮสต์ Non-Fungible Pepes (หนึ่งในคอลเล็กชั่น Rare Pepe) เพื่อการซื้อขาย
และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น/ถูกสร้างขึ้นก่อน Bitcoin Ordinals
ถึงเวลาเรียนรู้เรื่อง Bitcoin Ordinals
Ordinals Protocol เป็นวิธีการที่เฉพาะเจาะจงในการระบุตัวตนของ Sats หรือ Satoshi และส่งมันไปพร้อมกับ “ข้อมูลแนบไฟล์” ข้อมูลแนบไฟล์เหล่านี้อาจจะเป็นอะไรก็ได้ เช่น ข้อความ, วิดีโอ, รูปภาพ เป็นต้น
อย่างที่คุณทราบ 1 BTC นั้นประกอบไปด้วย 100 ล้าน Sats (Satoshi) ชื่อ “Ordinals” จึงมีที่มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า Sats ที่มีความเกี่ยวข้องกับ BTC นั้นเป็นตัวเลขจากชุดลำดับตามกฏเกณฑ์ของ Set Theory (ทฤษฎีเซต) ซึ่งหมายความว่า Satoshi จะถูกมอบหมายเลขลำดับให้โดยจะขึ้นอยู่กับลำดับของการขุดและการโอนย้าย
ดังนั้น Bitcoin Ordinals จึงปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ของ Ordinals Protocol และชุดลำดับดังกล่าวเพื่อแสดงเป็น NFTs บนเชน
นอกจากนี้ กระบวนการการแนบข้อมูลไปกับ Satoshi นั้นจะถูกเรียกว่า “Inscription” (การฝังข้อมูล) ซึ่งมีความหมายคล้ายกับมาตรฐานการระบุตัวตนของ NFT สิ่งที่ทำให้ Bitcoin NFTs หรือ Ordinals เหล่านี้เป็นสิ่งที่ปฏิวัติวงการคือการที่ไม่มีไซด์เชนใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้แต่ Bitcoin Core เองก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในระดับ Code Level เลย
Casey Rodarmor ผู้สร้าง Ordinals ระบุว่าพวกมันคือ “สิ่งประดิษฐ์ดิจิทัล” และด้วยสิ่งนี้ เขาเชื่อว่า Bitcoin NFT จะสามารถสร้าง NFTs ที่ดีกว่าได้ ซึ่งเราจะมาทำการเปรียบเทียบในเรื่องดังกล่าวกันในช่วงถัดไปของบทความ
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Casey Rodarmor เคยทำงานเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ Bitcoin Core มาก่อน ซึ่งนั่นทำให้เข้าเป็นส่วนสำคัญของชุมชน OG
Ordinals NFTs ทำงานอย่างไร?
เหมือนที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Ordinals นั้นเป็นเพียงลำดับตัวเลขที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ถูกมอบให้กับ Satoshis ที่มีการทำธุรกรรม พูดง่ายๆ ก็คือ Ordinal Number หรือ ตัวระบุตัวตนของ Bitcoin NFT ที่เป็นเอกลักษณ์นี้คือตัวเลขที่ถูกกำหนดให้กับ Satoshi ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยให้สามารถทำการติดตามตรวจสอบได้
ด้วย Ordinals Protocol ตอนนี้ Satoshi ที่ได้รับหมายเลขมาแล้วจะสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น (ไฟล์ข้อมูลดิจิทัล อย่างเช่น รูปภาพ วิดีโอ หรืออะไรก็ตามแต่) Satoshis ที่ได้รับหมายเลขและติดแท็กเอาไว้ก็จะกลายเป็น NFTs ที่อยู่บนเครือข่าย Bitcoin นั่นเอง
ชาร์ตด้านล่างแสดงให้เห็นถึงการแท็กไฟล์ดิจิทัลกับ Sats มาจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2023 จะสังเกตเห็นได้ว่าผู้ใช้งานเริ่มจากการเพิ่มรูปภาพ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มที่จะเพิ่มข้อความเข้ามาเช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะต้นทุนการทำธุรกรรมและความล่าช้าที่เพิ่มมากขึ้น
และเนื่องจาก Satoshi ที่มีหมายเลขและได้รับการติดแท็กเหล่านี้สามารถเผยแพร่บนเครือข่าย Bitcoin ได้ มันจึงเป็น NFTs ที่อยู่บนเชนอย่างแท้จริงและไม่มีการโฮสต์จากที่อื่นแต่อย่างใด
ขนาดของบล็อก: SegWit, Taproot และ Ordinals
เดิมทีแล้ว แต่ละบล็อกของ Bitcoin นั้นสามารถเก็บข้อมูลได้เพียง 1 MB เท่านั้น แต่หลังจากการอัพเกรด SegWit ในปี 2017 ขนาดในเชิงทฤษฏีของมันก็เพิ่มขึ้นเป็น 4 MB
หมายเหตุ: ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้แนวทางใหม่ในการวัดขนาดบล็อก
Bitcoin NFTs หรือ Ordinals ใช้ประโยชน์จากการอัพเกรด SegWit ในครั้งนี้โดยการจับคู่ไฟล์ดิจิทัลเข้ากับ Satoshi และในขณะที่ขนาดสูงสุดคือ 4 MB นี่คือชาร์ตที่แสดงให้เห็นถึงขนาดโดยเฉลี่ยของแต่ละบล็อกที่ได้รับการบันทึกมาจนถึงปัจจุบัน
ยิ่งไปกว่านั้น การอัพเกรด Taproot ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2021 ยังเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแท็ก Satoshi ด้วย Inscription ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ในขณะที่ SegWit ช่วยเปิดทางให้กับ Bitcoin NFTs ด้วยขนาดบล็อกที่ใหญ่ยิ่งขึ้น Taproot ก็จะช่วยเพิ่มความสามารถในการฝังข้อมูลลงไปได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Taproot ยังนำเสนอความสามารถใหม่ของสัญญาอัจฉริยะให้กับแกนหลักของ Bitcoin ซึ่งได้รับการสนับสนุนมาจากภาษาโปรแกรมใหม่อย่าง Tapscript
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าการอัพเกรดของ Bitcoin ทุกครั้งมาจนถึงปี 2021 ได้มีการวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ลองดูสิว่าขนาดโดยเฉลี่ยของบล็อกและธุรกรรมเพิ่มขึ้นมาเพียงใดหลังจากการเปิดตัว Bitcoin NFTs
Ordinals จะมีได้มากเพียงใด?
หลังจากที่เราได้เรียนรู้ถึงการถือกำเนิดของ Ordinals เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ เราจะมาดูกันว่าจำนวนของ Ordinals นั้นจะสามารถมีอยู่ได้มากเพียงใด
เราสามารถคำนวนได้ง่ายๆ ก็คือ Bitcoin จะมีอยู่ 21 ล้าน Bitcoin และแต่ละ Bitcoin นั้นจะมีอยู่ 100 ล้าน Satoshi ดังนั้น อุปทานโดยรวมของ Satoshi จะอยู่ที่ 2,100 ล้านล้าน หรือ 2.1 พันล้านล้าน นอกจากนี้ แต่ละ Inscription จะใช้ 10,000 หรือ 10K Sats เป็นค่าเริ่มต้น ดังที่ระบุไว้ในรายละเอียดของ Ordinals Protocol
ดังนั้น ยังมีเหลืออยู่เกือบ 1.7 ล้าน BTC ที่สามารถเข้าสู่ระบบหมุนเวียนได้ ซึ่งหมายความว่ายังสามารถสร้าง Ordinals เพิ่มขึ้นได้อีก 1.7 ล้าน x 10K ซึ่งเท่ากับ 1.7 หมื่นล้าน Ordinals ส่วนตัวเลขของจำนวนรวมทั้งหมด (ของ Ordinals ที่สามารถมีได้ + เกิดขึ้นไปแล้ว) จะถูกเรียกว่า Cardinals
ข้อมูลจากวันที่ 1 มีนาคม 2023 เครือข่าย Bitcoin มี Inscriptions อยู่แล้วเกือบ 224K ดังนั้น เราคาดว่าจะมี Ordinals สูงสุดที่ 17,000 ล้าน + 223,987 Ordinals (โดยประมาณ) ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2023 เป็นต้นไป
ดังนั้น สำหรับ Bitcoin NFTs จำนวนของ Cardinal และ Ordinal หลังวันที่ 1 มีนาคม 2023 จะเป็นดังนี้:
จำนวน Cardinal = 1.7 หมื่นล้าน + 223,987
จำนวน Ordinal = 0 ถึง 2.1 พันล้านล้าน
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลสำคัญอีกอย่างที่คุณต้องจับตาดูเอาไว้:
Casey Rodmarmor ผู้สร้าง Ordinal ได้สร้างเมตริกการจำแนกประเภทเพื่อติดตามความหายากของ Ordinal โดยจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของ Sat แรกของ Inscription และนี่คือรายละเอียดดังกล่าว
และต้องจำไว้เสมอว่าจะมีระดับ Common 2.1 พันล้านล้านรายการ ระดับ Uncommon 6,929,999 รายการ, ระดับ Rare 3,437 รายการ, ระดับ Epic 32 รายการ, ระดับ Legendary 5 รายการ, และระดับ Mythic อยู่ 1 รายการ
แล้วเรื่องค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของ Bitcoin NFTs ล่ะ?
มีวิธีการง่ายๆ ในการคำนวนค่าใช้จ่ายในการ Inscribing (การฝัง Inscription) และส่ง Ordinal หรือ Bitcoin NFT แต่ละรายการไปยังกระเป๋าเงินที่ใช้งานร่วมกันได้อย่างรวดเร็ว
แต่ก่อนที่คุณจะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการคำนวน ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม สิ่งที่คุณควรรู้ไว้ก่อนก็คือ:
- ธุรกรรม SegWit จะถูกวัดเป็น vB หรือ Virtual byte และหนึ่ง vB เท่ากับ 4 ไบต์จริง
- ดังนั้น หากขนาดธุรกรรมของคุณคือ 100 KB หรือ 100 กิโลไบต์ ขนาดก็จะเท่ากับ 25,000 vB หรือ Virtual bytes
ตอนนี้ มาดูกันที่การประเมินค่าธรรมเนียมของ Bitcoin ธุรกรรมมาตรฐานพร้อมดีเลย์ 1 ชั่วโมงจะมีอัตราค่าธรรมเนียมที่ 5 Sat/vB หรือ 0.17 ดอลลาร์ (ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต)
เพราะฉะนั้น ธุรกรรม 25,000 vB จะมีราคาใกล้เคียงกับ 125,000 Sat และนั่นสำหรับการทำธุรกรรมเท่านั้น
หากคุณดูเรื่อง Inscription (การฝังข้อมูล) แต่ละ Inscription จะใช้ 10,000 Sat โดยอัตโนมัติ ดังนั้น ธุรกรรมที่ฝังข้อมูลไว้ที่มีขนาด 100 KB จะมีค่าใช้จ่ายเท่ากับ:
125,000 + 10,000 = 135,000 Sat ซึ่งจะเท่ากับ 0.00135 BTC หรือ 31.99 ดอลลาร์นั่นเอง
ด้านล่างคือชาร์ตที่จะช่วยให้คุณได้ไอเดียเกี่ยวกับเรื่องค่าธรรมเนียมเครือข่าย, ประเภทของดีเลย์ที่ผู้ใช้งานเลือก และขนาดบล็อกมาตรฐานที่ต้องพิจารณา
นี่คือชาร์ตที่น่าสนใจอีกชาร์ตซึ่งเกิดขึ้นใกล้ๆ กับช่วงที่มี Inscription ถึง 100,000 รายการ ผู้ใช้งานจะเลือกอัตรา Sat/vB ที่ต่ำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระแสความนิยมก่อนหน้านี้ใน Mempool กำลังลดลง พัฒนาการในส่วนนี้บอกเป็นนัยๆ ว่า Inscription 100,000 รายการนี้เป็นเหมือนหมุดหมายสำคัญของ Bitcoin NFTs
Ordinals และคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์
เราได้พูดคุยกันถึงเรื่องที่มาที่ไปของ Ordinals, Cardinal, และหมายเลขของ Ordinals ที่มีพื้นฐานมาจาก Set Theory ไปกันแล้ว รวมไปถึงเรื่องขนาดบล็อก, ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และรายละเอียดอื่นๆ ต่อไป เราจะมาพูดถึงคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ordinals กัน:
- Bitcoin NFT เหล่านี้มาพร้อมกับขีดจำกัดของอุปทาน
- หลังจากรอบการ Halving NFTs เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับเหล่านักขุดได้
- Ordinals Protocol ได้เปิดรับโปรเจกต์มากมายเข้ามาเรียบร้อยแล้ว รวมถึงโปรเจกต์บางโปรเจกต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโปรเจกต์ NFT ยอดนิยมบน Ethereum อย่าง Bored Ape Yacht Club (BAYC) เป็นต้น
Yuga Labs หนึ่งในองค์กร NFT ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอลเล็กชั่น Bored Apes ได้ประกาศเปิดตัวคอลเล็กชั่น Ordinals NFT จำนวน 300 รายการในชื่อว่า TwelveFold
นอกเหนือจากเรื่องค่าธรรมเนียมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2023 ค่าใช้จ่ายในฝังข้อมูล Bitcoin NFT นั้นยังคงที่ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (ณ วันที่ 1 มีนาคม 2023) ดูเหมือนว่าความนิยมนั้นจะลดลง ซึ่งเหตุผลอาจจะเป็นเพราะว่าผู้ใช้งานดูข้อความมากกว่ารูปภาพหรือกระทั่งเลือกช่วงเวลา(ในการทำธุรกรรม)ที่ยาวนานขึ้น
Ordinals ยังได้ช่วยเพิ่มยอดการใช้งาน Taproot เนื่องจากโปรโตคอลนี้เป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการ Inscription (ฝังข้อมูล) ให้กับ Bitcoin NFTs
นอกจากนี้ คุณยังสามารถจัดเก็บ Bitcoin Ordinals ไว้บน Metamask ได้อีกด้วย ซึ่งทำให้คุณมีตัวเลือกเพิ่มเติมที่สามารถใช้ได้กับ Bitcoin NFT ของคุณ
สุดท้าย คุณสามารถค้นหา Ordinals เพื่อซื้อและขายด้วยประเภทคำสั่งแบบ OTC ได้
ต่อไปนี้คือตลาดซื้อขาย NFT สำหรับ Ordinals ที่เพิ่งเปิดตัว 2 แห่ง:
- Scarce City
- Ordinals Market
คุณจะฝังข้อมูลให้กับ Ordinal ชิ้นแรกของคุณได้อย่างไร?
แล้วคุณจะฝังข้อมูลให้กับ Ordinal ได้อย่างไร? เราลองมาดูกระบวนการดังกล่าวอย่างละเอียดกันเลยดีกว่า โดยเราจะใช้ Ordinals Wallet ที่พึ่งเปิดตัวเพื่อเป็นตัวอย่างในบทความนี้
ในกระบวนการสร้างกระเป๋าใหม่ มันจะเกี่ยวข้องกับ Seed Phrase และการยืนยันตัวตน เหมือนกับกระเป๋าเงินคริปโตรายอื่นๆ
เมื่อกระเป๋าเงินของคุณพร้อมใช้งานแล้ว ให้ใช้ Gamma ซึ่งเป็นบริการฝังข้อมูลแบบไม่ต้องใช้โค้ด เพื่อเตรียม Bitcoin NFT ของคุณให้พร้อม, อัพโหลด, และส่งออกไปได้เลย
Ordinals Bot สำหรับการฝังข้อมูล Sats
อีกหนึ่งวิธีที่เราจะมาอธิบายกันคือการใช้งาน Ordinalsbot.com ซึ่งสร้างขึ้นโดยทีมงาน Satoshibles เพื่อทำให้กระบวนการต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น ตัวอย่างด้านล่างจะแสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายของ UI อัพโหลดข้อมูลดิจิทัลที่คุณต้องการฝังลงไปแล้วปล่อยให้บอททำงานที่เหลือให้กับคุณ!
และนี่คือขั้นตอนดังกล่าว:
เมื่อคุณชำระเงินและได้รับใบเสร็จแล้ว Inscription ควรจะถูกส่งไปยัง Ordinals Wallet ของคุณภายใน 24 ชั่วโมง
ตอนนี้ เราจะมาฝังข้อมูลกันอีกครั้ง คราวนี้ด้วยการใช้ Gamma และนี่คือภาพที่เราอัพโหลดลงไป
คุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายค่าธรรมเนียมมากน้อยเพียงใด
เมื่อคุณชำระเงินแล้ว Bitcoin NFT หรือ Ordinals จะถูกส่งไปยัง Ordinals Wallet ของคุณ
หมายเหตุ: เพื่อชำระเงิน ให้คุณเติมเงินลงในกระเป๋าเงินที่คุณต้องการด้วย USD หรือ BTC และเมื่อคุณได้รับ Ordinal หรือ Sat ที่ฝังข้อมูลแล้ว มาอยู่ในกระเป๋าเงินของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องระวังให้ดี ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะใช้มันจ่ายออกไปเหมือนเป็น Satoshi ทั่วไปได้
และเมื่อ Ordinal ของคุณพร้อมใช้งานบนเชนแล้ว คุณจะต้องตรวจสอบสถานะของมันบนเว็บไซต์ Ordinals
และนี่คือหน้าตาของใบเสร็จจาก Gamma
Bitcoin NFTs (Ordinals) vs. NFTs ทั่วไป
Bitcoin NFT นั้นไม่เหมือนกับ NFT ทั่วไปที่เราพบเห็นได้บนตลาดซื้อขาย NFT ยอดนิยมบน Ethereum ถึงอย่างไรก็ตาม มันก็เหมาะสมที่จะเปรียบเทียบ Bitcoin NFTs หรือ Ordinals กับ NFTs ทั่วไป และนี่คือตารางข้อมูลที่อาจจะช่วยได้
ชุมชนแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายหลังการเปิดตัวของ Ordinals
การเปิดตัวของ Ordinals ได้ทำให้ชุมชม Bitcoin นั้นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายดังนี้
ผู้ที่เป็นกลาง/ผู้ที่สนับสนุน
ฝ่ายนี้เชื่อว่าหากมันเป็นไปตามข้อกำหนดของเครือข่ายก็ไม่มีปัญหาอะไร ยิ่งไปกว่านั้น Ordinals ยังอาจจะเป็นการนำมิติใหม่เข้ามาสู่ Bitcoin ซึ่งอาจจะช่วยให้คนนอกที่ไม่ให้ความสนใจใดๆ สามารถมองเครือข่ายอย่างเป็นมิตรขึ้นได้
Dan Held ผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับ Bitcoin เชื่อว่านี่คือโอกาสในการทำให้ Bitcoin ที่ดียิ่งขึ้นและยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น:
ฝ่ายอนุรักษ์นิยม/ฝ่ายตรงข้าม
ฝ่ายนี้เชื่อว่า Ordinals กำลังกินพื้นที่บล็อก, สร้างหน่วยความจำที่ไม่จำเป็น, ทำให้ต้นทุนการทำธุรกรรมพุ่งสูงขึ้น, และเป็นวางแผนที่จะให้ประโยชน์แก่นักขุดหลังรอบการ Halving เท่านั้น และยังกล่าวด้วยว่า Bitcoin NFT ไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Satoshi
นี่คือทวีตที่แสดงให้เห็นถึงความคิดที่แตกต่างของฝ่ายนักอนุรักษ์นิยม:
Bitcoin NFTs: ไม่ Ordinary แต่ Ordinaly
สรุปแล้ว การมาถึงของ NFTs บน Bitcoin นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน มันแสดงให้เห็นว่าเครือข่ายคริปโตดั้งเดิมนี้พร้อมที่จะพัฒนาและวิวัฒนาการขึ้นไปอีกขั้นเพื่อเข้าแข่งขันกับระบนิเวศใหม่ๆ (ซึ่งรวมไปถึง Ethereum ด้วยเช่นเดียวกัน) บางที คุณอาจจะอยู่ฝั่งผู้อนุรักษณ์นิยมที่เชื่อว่า Ordinals เป็นเพียงสิ่งที่ขัดแย้งกับวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Satoshi หรือ คุณอาจจะเป็นผู้ที่ยินดีต้อนรับนวัตกรรมใหม่ๆ บนเครือข่าย Bitcoin นี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายใด Ordinals ก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าชุมชนคริปโตนั้นต้องการความสามารถในการแปลงสินทรัพย์ต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลมากเพียงใด
คำถามที่พบบ่อย
Bitcoin NFTs คืออะไร?
มี NFTs อื่นๆ ที่อยู่บนเครือข่าย Bitcoin หรือไม่?
Litecoin รองรับ Ordinals หรือไม่?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์