สำหรับเรื่องการลงทุนในพื้นที่ Crypto นั้น คุณจะต้องทำการตัดสินใจในหลายๆ เรื่อง เช่น เลือกโปรเจกต์ที่จะลงทุน, ที่ที่คุณซื้อใช้โทเค็น, และกระเป๋าเงินที่จะเก็บทุกอย่างไว้ เป็นต้น นี่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่เชี่ยวชาญก็ตาม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจ เราได้รวบรวมข้อมูลการเปรียบเทียบระหว่าง Coinbase vs. Robinhood ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากกับเหล่ามือใหม่ที่เริ่มตั้งแต่ศูนย์
ในบทความนี้ เราจะมาพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียของแพลตฟอร์มคริปโตระดับโลกที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด 2 แพลตฟอร์ม ในการต่อสู้ระหว่าง Coinbase vs. Robinhood ใครที่จะเหนือกว่ากัน? มันจะมีผู้ชนะที่อย่างขาดลอยหรือไม่? พวกเขานำเสนอบริการในรูปแบบเดียวกันหรือไม่? มันจะปลอดภัยกว่าที่อื่นๆ หรือไม่? เราไปดูกันเลยดีกว่า!
💡 ต้องการรับทราบข่าวสารที่ร้อนแรงทั้งหมดเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Crypto ยอดนิยมหรือไม่? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram สิ: อ่านข่าวใหม่ๆ พูดคุยกันเรื่องคริปโต และสอบถามการวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ และรับฟังคำตอบจากเหล่านักเทรดมืออาชีพ! เข้าร่วมเลยเดี๋ยวนี้
Coinbase คืออะไร?
Coinbase เป็นแพลตฟอร์มกระดานเทรด Cryptocurrency ยอดนิยมที่ทำให้การซื้อและขาย Crypto นั้นกลายเป็นเรื่องง่าย ไซต์อนุญาตให้ผู้ใช้งานซื้อ, ขาย, และแลกเปลี่ยน Crypto ได้มากกว่า 100 รายการ พวกเขามีผู้ใช้งานมากกว่า 98 ล้านคนและมีสินทรัพย์กว่า 2.56 แสนล้านดอลลาร์ แพลตฟอร์มนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการทำการซื้อและขาย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์และประเภทคำสั่งซื้ออื่นๆ เพิ่มเติมได้ผ่าน Coinbase Pro อีกด้วย
บริษัทถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2012 (ทำให้มันเป็นบริษัทที่ค่อนข้างเก่าแก่โลกของ Crypto!) โดย Brian Armstrong และ Fred Ehrsam พวกเขาเริ่มต้นจากการเป็นตัวเลือกที่ทำให้ผู้คนสามารถส่ง Bitcoin ให้กันและกันโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนเหรียญเป็นสกุลเงิน Fiat ก่อน แพลตฟอร์มของพวกเขานั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน พวกเขามีพนักงานมากกว่า 5,000 คนที่ทำงานในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
Coinbase เป็นกระดานเทรด Cryptocurrency ที่เปิดให้บริการต่อสาธารณะเพียงเจ้าเดียวในสหรัฐฯ ถึงกระนั้น บริษัทก็ยังตกเป็นเรื่องอื้อฉาวในด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ พวกเขาได้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์กับ New York Department of Financial Services ในช่วงเดือนมกราคม 2023 คดีนี้นำมาซึ่งข้อมูลของความบกพร่อง “ในอดีต” ของกระดานเทรดในกระบวนการ AML (การป้องกันการฟอกเงิน) และ KYC (รู้จักลูกค้าของคุณ) ที่บริษัทได้ดำเนินการ ผลจากข้อตกลงดังกล่าว หุ้นของ Coinbase ตอบสนองในเชิงบวกโดยมีราคาเพิ่มขึ้น 12%
ข้อดีและข้อเสียของ Coinbase
ข้อดี
- ตัวเลือก Cryptocurrency ที่ไม่ซ้ำใคร
- ซัพพอร์ตลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
- มีสื่อการสอนที่มีคุณภาพ
ข้อเสีย
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูง
- มีข่าวเรื่องการถูกละเมิดความปลอดภัยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
- มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อน
Robinhood คืออะไร?
Robinhood เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการการซื้อขายหุ้น, ETF, ออปชั่น และ Crypto โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น แอปของพวกเขาเปิดตัวในปี 2013 พวกเขากล่าวว่าพวกเขามีลูกค้ามากกว่า 21 ล้านคนและสินทรัพย์กว่า 1.02 แสนล้านดอลลาร์
โบรกเกอร์ Crypto นั้นมีบทบาทสำคัญในโลกการลงทุน โดยจะเป็นตัวเลือกแทนที่นายหน้าแบบดั้งเดิมที่มีค่าธรรมเนียมสูง วัตถุประสงค์หลักๆ ของ Robinhood คือการจัดหาเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถลงทุนอย่างชาญฉลาดและช่วยประหยัดค่าธรรมเนียม
แพลตฟอร์มนี้เสนอการซื้อขายหุ้น, ETFs, ออปชั่น และCrypto โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น นอกจากนี้ Robinhood ยังให้การเข้าถึงข้อมูลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับบริษัทต่างๆ ของบุคคลที่สามเพื่อให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้เงินอย่างไรได้อย่างชาญฉลาด
ผู้ใช้งานยังสามารถลงทุนโดยใช้ฟีเจอร์ Robinhood Crypto รวมถึงลงทุนในทองคำหรือทองคำขาวผ่านฟีเจอร์ “Gold Buying & Selling” แพลตฟอร์มยังมีบัตรเดบิต Robinhood Gold ซึ่งช่วยให้ลูกค้าทำการซื้อโดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยใดๆ
อย่างไรก็ตาม Robinhood ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องอื้อฉาว พวกเขาถูกกล่าวหาว่ามีการควบคุมตลาด (Market Manipulation) หลังจากที่ระงับการถอนเงินของลูกค้าระหว่างการล่มสลายของ GameStop และในปี 2021 พวกเขายังได้ถูกสั่งปรับจาก FINRA — ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงิน — เป็นจำนวนเงินเกือบ 70 ล้านดอลลาร์ ในข้อหาก่อให้เกิดอันตราย “ในวงกว้างและมีนัยสำคัญ” ในหลายๆ ด้าน; รวมถึงทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับเงินในบัญชีของพวกเขา จากนั้นในเดือนสิงหาคม 2022 Robinhood ถูก DFS สั่งปรับอีก 30 ล้านดอลลาร์จากการละเมิดกฎ AML และความปลอดภัยทางโลกไซเบอร์
ข้อดีและข้อเสียของ Robinhood
ข้อดี
- มีการออกแบบที่ใช้งานได้ง่าย
- อนุญาตให้ทำการซื้อขาย Crypto และเศษส่วนของมันได้
- เข้าถึงเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว
- ไม่มีค่านายหน้า
ข้อเสีย
- ไม่สามารถถอน Crypto ได้
- มี Crypto ที่ซื้อขายได้จำกัด
- ให้บริการสำหรับผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
- เคยมีชื่อเสีย(ง)ในเรื่องการหลอกลวงลูกค้า
ข้อมูลเปรียบเทียบ Coinbase vs. Robinhood
Coinbase vs. Robinhood: ความแตกต่างในเรื่องที่สำคัญ
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
Robinhood และ Coinbase นั้นแตกต่างกันตรงที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขาย Robinhood ไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อหรือขาย Crypto อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูน่าสนใจ แต่คำว่า ‘ไม่มีค่าธรรมเนียม’ ก็ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเสมอไป Robinhood นั้นทำรายได้ผ่านกระบวนการที่ยังคงเป็นข้อถกเถียงกัน (ซึ่งถูกแบนในสหราชอาณาจักรและแคนาดา) ซึ่งเรียกว่าการชำระเงินสำหรับ Order Flow
พูดอีกอย่างก็คือ แพลตฟอร์มจะได้รับเงินจากกระดานเทรดเพื่อแลกกับการส่งคำสั่งซื้อไปยังพวกเขาก่อน นักลงทุนมักจะไม่ได้รับผลประโยชน์และต้องจ่ายเงินมากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น ถึงแม้ว่านักลงทุนจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่มันก็ไม่ได้ดีกว่าเสมอไป
ในทางตรงกันข้าม Coinbase คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย แต่ค่าธรรมเนียมเหล่านี้สูงกว่าที่เรียกเก็บจากกระดานเทรดยอดนิยมอื่นๆ พื้นฐานค่าธรรมเนียมของแฟลตฟอร์มอยู่ที่ 0.05% ถึง 0.60% ต่อการซื้อขายและ 2% สำหรับธุรกรรมบัตร Coinbase สำหรับระบบ Banking ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไป Coinbase Pro คิดค่าบริการ 0% ถึง 0.50% ต่อการซื้อขาย
ผู้ชนะในหัวข้อค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: เสมอกัน
สกุลเงินที่สามารถซื้อขายได้
Coinbase รองรับ Crypto ชื่อดังมากกว่า 200 รายการ เช่น Bitcoin, Ethereum, Solana, Dogecoin และอื่นๆ อีกมากมาย
ในทางกลับกัน Robinhood อนุญาตให้ผู้ใช้งานซื้อขาย Crypto ได้เพียงไม่กี่ตัว ซึ่งได้แก่ Bitcoin Cash, Ethereum Classic และ Litecoin หากคุณต้องการตัวเลือก Crypto ที่หลากหลาย Coinbase คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ
ผู้ชนะในหัวข้อสกุลเงินที่สามารถซื้อขายได้: Coinbase
Crypto Staking
Coinbase จ่ายให้มากถึง 5.75% APY ขึ้นอยู่กับเหรียญที่ใช้ Staking ในขณะที่ Robinhood ไม่มีข้อเสนอการ Staking หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่คุณสามารถ Stake เหรียญและซื้อขายมันได้ Coinbase นั้นจะเป็นตัวเลือกของคุณอย่างชัดเจน
ผู้ชนะในหัวข้อ Crypto Staking: Coinbase
การลงทุนนอกเหนือจาก Crypto
Robinhood นั้นเริ่มต้นจากการเป็นแอปซื้อขายหุ้นมาก่อน และต่อมาได้เพิ่มการซื้อขาย Crypto ลงไปในแพลตฟอร์มของตน ช่วยให้คุณสามารถลงทุนในสินทรัพย์ทั่วไป เช่น หุ้น, ETF, และออปชั่นได้ Coinbase นั้นโฟกัสไปที่ Crypto เพียงเท่านั้น แต่พวกเขายังเสนอการซื้อขายอนุพันธ์สำหรับ Crypto และสินทรัพย์อื่นๆ ด้วย
ผู้ชนะในหัวข้อการลงทุนนอกเหนือจาก Crypto: Robinhood
ความง่ายในการใช้งาน
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ซื้อและขาย Crypto ได้ง่ายๆ ทั้ง Robinhood และ Coinbase ต่างก็คุ้มค่าที่จะลองใช้งานดู ทั้ง 2 แพลตฟอร์มนำเสนอแอปที่ใช้งานได้ง่าย, รวดเร็ว, เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน, และทำงานได้ดีบนอุปกรณ์พกพา
Coinbase นั้นมีฟีเจอร์การซื้อขายขั้นสูงสำหรับผู้ใช้งานขั้นสูง แพลตฟอร์ม Coinbase พื้นฐานนั้นยังคงใช้งานได้ง่ายสำหรับมือใหม่ ในขณะเดียวกันก็มีตัวเลือกการซื้อขายขั้นสูงให้สำหรับผู้ที่ต้องการอีกด้วย
Robinhood ไม่มีฟีเจอร์การซื้อขายขั้นสูง — แต่มันเป็นมิตรกับมือใหม่เป็นอย่างมาก — แต่ผู้ใช้งานยังสามารถซื้อและขาย BTC, ETH, LTC, BCH, XRP, XLM และ NEO บนแอปได้โดยใช้บัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคาร อย่างไรก็ตาม โปรดทราบก่อนว่าคุณไม่สามารถถอน Crypto จาก Robinhood ได้
ผู้ชนะในหัวข้อความง่ายในการใช้งาน: เสมอกัน
การสนับสนุนลูกค้า
Coinbase เปิดให้ติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าของพวกเขาได้หลายช่องทาง คุณสามารถส่งอีเมลหรือส่งทิคเกตโดยคลิกที่ลิงก์ในส่วนท้าย คุณยังสามารถโทรไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของพวกเขาเพื่อรับการสนับสนุนได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นมีชื่อเสียงในด้านการสนับสนุนลูกค้าที่ย่ำแย่ ในปี 2021 ลูกค้าเป็นจำนวนมากบ่นเกี่ยวกับคำตอบที่ไม่น่าพอใจของ Coinbase หลังจากที่บัญชีของพวกเขาถูกแฮกและถูกดูดเงินออกไป
Robinhood เปิดให้ติดต่อได้ทางแชทตลอด 24/7 (ทุกวัน 24 ชั่วโมง) คุณยังสามารถติดต่อ Robinhood ผ่าน Twitter ได้ เพียงทวีต @AskRobinhood พร้อมกับคำถามใดๆ ที่คุณต้องการ และพวกเขาจะตอบกลับโดยเร็วที่สุด
ผู้ชนะในหัวข้อการสนับสนุนลูกค้า: Robinhood
วิธีการชำระเงิน
Robinhood และ Coinbase เสนอวิธีการชำระเงินที่หลากหลายให้กับผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกการชำระเงินของ Coinbase นั้นครอบคลุมมากกว่าเล็กน้อย พวกเขาเสนอการโอนเงินผ่านธนาคาร, บัตรเดบิต, การโอนเงินทางไกล, PayPal, Apple Pay และ Google Play
ในทางกลับกัน Robinhood มีเพียงตัวเลือกบัตรเดบิตให้กับผู้ใช้งาน บัตรเดบิตนั้นรองรับ Apple Pay, Samsung Pay และ Google Pay
ผู้ชนะในหัวข้อวิธีการชำระเงิน: Coinbase
กระเป๋าเงิน Crypto
เมื่อพูดถึงเรื่องกระเป๋าเงิน Crypto Coinbase นั้นมีตัวเลือกมากกว่า Robinhood ผู้ใช้งาน Coinbase สามารถเก็บเหรียญของพวกเขาไว้ในกระดานเทรดซึ่งเป็น Hot Wallet หรือสร้างกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ได้ อีกฝั่ง ผู้ใช้ง่ร Robinhood ไม่สามารถเข้าถึง Private Key หรือกระเป๋าเงินของตนได้ สิ่งที่ทำได้คือสามารถส่งเหรียญจากภายนอก Robinhood ไปยังบัญชีของคุณได้เท่านั้น
ผู้ชนะในหัวข้อกระเป๋าเงิน Crypto: Coinbase
Coinbase vs. Robinhood: สูสีกันระหว่างยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ราย
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในการต่อสู้ระหว่าง Robinhood กับ Coinbase คือการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล สิ่งที่คุณต้องการลงทุน, จำนวนเงินที่คุณยินดีที่จะใช้ลงทุน, และประสบการณ์การซื้อขายแบบใดที่คุณต้องการ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ควรจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของคุณ
อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้ว Coinbase นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งกว่า, โดยมีข้อเสนอมากกว่า, แต่ต้องใช้การเรียนรู้ที่มากกว่าเล็กน้อย Robinhood มุ่งเป้าไปที่นักเทรดหน้าใหม่และนักลงทุนทั่วไปโดยเฉพาะ เนื่องจากพวกเขาให้บริการ Crypto เพียง 7 สกุลเท่านั้น หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกที่ใช้งานได้ง่ายสุดๆ โดยต้องเรียนรู้ในช่วงเริ่มต้นน้อยกว่า และไม่คิดมากที่เข้าถึง Crypto ได้น้อยกว่า Robinhood อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่มีเรื่องอื้อฉาวน้อยกว่า (เล็กน้อย) สามารถถอน Crypto ได้ และมีตัวเลือกกระเป๋าเงินหลายใบ Coinbase จะอยู่ในอันดับต้นๆ แน่นอน
คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ
- Non-Custodial Wallet: กระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ให้บริการเป็นเพียงผู้พัฒนาโปรแกรมหรือ แอปพลิเคชั่นและไม่ได้ทำหน้าที่เก็บรักษา Private Key ให้แก่ผู้ใช้งาน การใช้งาน Wallet ลักษณะนี้มีข้อดีคือ ผู้ใช้งานจะเป็นผู้เก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลเอง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือหรือระบบในการเก็บรักษา
คำถามที่พบบ่อย
Coinbase มีข้อเสียหรือไม่?
Robinhood เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการซื้อขาย Crypto หรือไม่?
มีตัวเลือกใดที่ดีกว่า Coinbase หรือไม่?
ทำไมผู้คนถึงเลือกใช้ Coinbase มากกว่า?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์