Concordium คืออะไร? มันเป็นโครงการบล็อกเชนที่มีเป้าหมายในอนาคต ถ้าจะพูดให้ชัดเจนมากขึ้น ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังโครงการมีเป้าหมายในการสร้างมันขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่รบกวนระบบนิเวศของบล็อกเชนหรือสิ่งที่กลายเป็นปัญหาสำคัญ
Concordium เป็นบล็อกเชน Layer 1 มันทำงานโดยใช้กลไก Proof-of-Stake ที่ไม่มีการกำหนดสิทธิ์และกระจายอำนาจ และที่สำคัญที่สุด มันประกอบไปด้วย ID ที่ระดับโปรโตคอล สิ่งนี้ก็เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น แง่มุมเหล่านี้ยังช่วยให้สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบในปัจจุบันและอนาคตภายในระบบนิเวศของ Crypto ได้อย่างง่ายดาย
Concordium เป็นโครงการที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนา Crypto และผู้ใช้งานทั่วไปหรือไม่? CCD ที่เป็นเหรียญดั้งเดิมของ Concordium ควรอยู่ในการจับตามองของคุณหรือไม่? ในคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ เราจะพยายามตอบคำถามเหล่านี้ให้กับคุณ และให้ข้อมูลเชิงลึกยิ่งขึ้นกับอนาคตของเทคโนโลยีบล็อกเชนนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
Concordium คืออะไร?
แม้ว่า Cryptocurrency, NFT หรือ Metaverse เป็นแง่มุมที่ได้รับความสนใจจากจินตนาการของสาธารณชน แต่มันก็เป็นศักยภาพของเทคโนโลยี Blockchain ที่น่าตื่นเต้นที่สุด มันมีสามารถนำไปใช้งานได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และข้อดีที่เหนือกว่ารูปแบบเครือข่ายแบบดั้งเดิม ทำให้มันกลายเป็นพื้นที่ที่ทุกธุรกิจควรจะพิจารณาเพื่อที่จะเข้ามาลงทุน
และพวกเขาจะทำอย่างนั้นแน่นอน นี่คือสิ่งที่ Concordium เชื่อ ปัจจุบัน บริษัทกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอนาคต ด้วยเหตุนี้ บล็อกเชน Layer 1 ของ Concordium จึงมุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาที่สำคัญๆ ซึ่งปัญหาบางส่วนเหล่านี้ทำให้ผู้คนในพื้นที่ Crypto ปวดหัวมากมายอยู่แล้ว ซึ่งอีกไม่นาน พวกเขาคงต้องเข้ามาร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้อย่างแน่นอน
สรุปแล้ว Concordium เป็นสถาปัตยกรรมบล็อกเชนพร้อมคุณสมบัติการกระจายอำนาจที่เน้นความเป็นส่วนตัวและไม่มีการกำหนดสิทธิ์ในตัว เป็นเครือข่ายที่นักพัฒนาการ Crypto ทั่วไปสามารถสร้างด้วยวิธีที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ นอกจากนี้ พวกเขายังคำนึงถึงกฎระเบียบของ Crypto ในปัจจุบันและคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในไม่ช้า
บล็อกเชน Layer 1 คืออะไร?
บล็อกเชน Layer 1 มีเซตของกฎเกณฑ์ที่สามารถทำให้เครือข่ายปรับขนาดได้อย่างแท้จริง เซตของโซลูชันนี้มีคุณสมบัติในระดับพื้นฐาน ซึ่งรวมไปถึง เครือข่ายบล็อกเชนที่เก่าแก่กว่า เช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin รวมไปถึงเวอร์ชั่นที่ทันสมัยกว่า เช่น Concordium
โปรโตคอลฉันทามติและการแบ่งส่วนเป็น 2 คำตอบของ Layer 1 ที่เป็นคำตอบสำหรับปัญหาต่างๆ ของบล็อกเชนต่างๆ ทั้งคู่มีเป้าหมายในการทำให้เครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งพวกเขาบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยวิธีการต่างๆ
โซลูชัน Layer 1 vs. layer 2
โซลูชัน Layer 1 บอกเป็นนัยๆ ว่าสถาปัตยกรรมบล็อกเชนนั้นไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติมแล้ว ในทางกลับกัน โซลูชัน Layer 2 แสดงถึงการผสานรวมของ 3rd Party ซึ่งทำงานควบคู่ไปกับบล็อกเชน Layer 1 ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว ช่วยปรับปรุงความสามารถของมัน Layer เหล่านี้แสดงถึงสถาปัตยกรรมของบล็อกเชนที่ช่วยจัดการการยืนยันธุรกรรม
ระบบนิเวศของ Crypto ในปัจจุบันต้องการโซลูชันเหล่านี้ พูดง่ายๆ ก็คือ ปริมาณธุรกรรมที่สูงขึ้นและความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของความต้องการของผู้ใช้งาน Crypto ทำให้เครือข่ายบล็อกเชนทำงานภายใต้เงื่อนไขเดิมไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่โครงการต่างๆ เช่น Concordium กำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้และเสนอวิธีแก้ปัญหาที่มีความท้าทายที่อาจจะรออยู่ข้างหน้า
ประวัติโดยสังเขปของ Concordium
Lars Christensen เป็นผู้ที่รับผิดชอบในการเปิดตัว Concordium ในปี 2018 Christensen เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Saxo Bank ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนของประเทศเดนมาร์กที่เชี่ยวชาญในด้านการซื้อขายออนไลน์
ทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง Concordium กล่าวว่าเป้าหมายของโครงการคือการทำให้ธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคตสามารถผสานรวมศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนได้อย่างง่ายดาย โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่อาจจะมีขึ้นในอนาคต
Christensen คิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะร่วมมือกับบุคคลชั้นนำในภาค Crypto และการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการจะยังแสดงถึงวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของนักพัฒนา
สิ่งนี้หมายถึงการให้อาจารย์จากมหาวิทยาลัย Aarhus และ ETH Zurich จัดทำรายละเอียดเอกสารโครงการของ Concordium นอกจากนี้ มันยังหมายถึงการจัดตั้ง Concordium Blockchain Research Center Aarhus (COBRA) โดยเป้าหมายขององค์กรคือการทำงานอย่างขยันขันแข็งในด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับโปรโตคอลการจัดการข้อมูลประจำตัว ตลอดไปจนถึงเรื่องอัลกอริธึมฉันทามติ
Concordium เข้าสู่ Mainnet และเปิดให้สาธารณชนเข้าถึงได้ในปี 2021 พวกเขาได้เปิดตัวโปรโตคอลฉันทามติ 2 Layer ที่มีชื่อว่า Alpha Centauri ในขณะนี้ โครงการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจทุกประเภทสามารถเชื่อมต่อกับบล็อกเชนและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของมันได้
การปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบของ Crypto ที่เพิ่มมากขึ้น
กฎระเบียบของ Cryptocurrency ใช้เวลาพอสมควรในการพูดคุยและร่างมันขึ้นมา แน่นอนว่า ในช่วงบุกเบิกของเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นมีสิ่งเหล่านี้อยู่น้อยกว่า แน่นอนว่าเสรีภาพที่เราได้จากเทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบบางประเภทที่มีความสำคัญในการผสานรวมภายในระบบการเงินกระแสหลักและรับรองการป้องกันการฉ้อโกงต่างๆ
ในเดือนมีนาคม 2022 สหรัฐอเมริกาได้ออก Executive Order (หนังสือคำสั่งที่ออกโดยประธานาธิบดีโดยไม่ต้องผ่านการรับรองจากสภา) ว่าด้วยการประกันการพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนได้ และอย่างน้อยที่สุด มันก็เป็นสัญญาณว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
Lars Christensen ผู้ก่อตั้ง Concordium อ้างว่าเป้าหมายของบริษัทคือการทำให้ทุกธุรกิจมีศักยภาพด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน และพยายามที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเต็มที่
การออกแบบของบล็อกเชน Concordium นั้นทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งหมายความว่า มันสามารถผสานเข้ากับระบบธุรกิจปัจจุบันซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ธุรกรรมบนเครือข่ายมักมาพร้อมกับการประทับตรา ID ที่เข้ารหัสซึ่งทำงานควบคู่ไปกับความเข้ากันได้ของสัญญาอัจฉริยะของเครือข่าย
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เกิดประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือความเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ Concordium ให้ความสำคัญ โดยนำเสนอบล็อกเชนแบบไม่มีการกำหนดสิทธิ์ กระจายอำนาจ และเน้นไปที่ความเป็นส่วนตัว
ช่วยทางการในการต่อสู้กับการฟอกเงิน
การได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วของ Cryptocurrency นั้นหมายความว่ากฎระเบียบยังจะคงเป็นปัญหาอยู่ ต่างจากธนาคารทั่วไป พื้นที่ Crypto นั้นไม่ได้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้ที่ชื่นชอบในสกุลเงินดิจิทัลนั้นก็มองว่านี่เป็นลักษณะเฉพาะของมัน อย่างไรก็ตาม มันเป็นลักษณะที่เริ่มถูกพิจารณาใหม่แม้กระทั่งในหมู่ผู้ใช้งาน crypto ที่กระตือรือร้นที่สุด
ประการแรก สกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนและอ่อนไหวต่อการจัดการ
การแฮ็กก็ยังเป็นปัญหาทั่วไปในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล การแฮ็กอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียทางการเงินแก่นักเทรดและนักลงทุนสกุลเงินดิจิทัล รัฐบาลนั้นไม่สามารถปกป้องทรัพย์สินของนักลงทุนได้เนื่องจากว่าสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ขาดกฎระเบียบ ผู้ใช้งานทำได้เพียงพึ่งพาตนเองในการกู้คืนเงินทุนกลับมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น และถ้าให้พูดกันตรงๆ มันยังเป็นเรื่องที่ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนทั่วไปในเรื่องเทคโนโลยีบล็อกเชนลดน้อยถอยลงอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่ากระบวนการต่างๆ จะเกิดขึ้นช้า แต่รัฐบาลและสถาบันต่างๆ ก็กำลังพยายามที่จะควบคุมตลาดสกุลเงินดิจิทัลให้ได้อยู่ สหภาพยุโรปได้เสนอให้ใช้คำแนะนำจาก Financial Action Task Force (FATF) คำแนะนำเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่การฟอกเงินสามารถทำได้ผ่านการโอนสินทรัพย์ดิจิทัล และสหรัฐอเมริกาก็กำลังดำเนินการเพื่อผ่านกฎระเบียบในภาคส่วนนี้เช่นกัน
แม้ว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมจำนวนมากได้ชี้ให้เห็นถึงข้อเสียของกฎหมายเหล่านี้ แต่ก็มีข้อดีที่ชัดเจนเช่นกัน กฎระเบียบเหล่านี้สามารถส่งเสริมความไว้วางใจในหมู่นักลงทุนสถาบันและการยอมรับในกระแสหลักได้ มันจะชาวยผลักดันให้ธุรกิจจำนวนมากเกิดการพิจารณาในการผสานรวมบริการที่ใช้บล็อกเชนเข้ากับงานของพวกเขา
กระบวนการการยืนยันตัวตน
Concordium ต้องการที่จะใช้ ID บิ้วท์อินและกลไก PoS เพื่อจัดการกับความต้องการเหล่านี้ต่อกฎระเบียบ Crypto ที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทมุ่งเน้นไปในการให้บริการของธุรกิจที่จำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบของกฎระเบียบอย่างไม่ต้องสงสัย
โมเดลธุรกิจของบล็อกเชนนี้มุ่งเน้นไปที่ความโปร่งใสและความเสถียรโดยมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ สิ่งนี้ช่วยส่งเสริมรูปแบบธุรกิจในระยะยาวและยั่งยืน สุดท้าย ต้นทุนการทำธุรกรรมขึ้นอยู่กับความผันผวนของสกุลเงิน Fiat ในชีวิตจริง สิ่งเหล่านี้คือแง่มุมบางส่วนที่ Concordium ยอมรับเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทจะได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเงื่อนไขการกำกับดูแลที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการของเทคโนโลยีบล็อกเชน
ประโยชน์ของ Concordium ที่มีเหนือคู่แข่งในตลาด
แน่นอนว่า Concordium ไม่ใช่บล็อกเชนแห่งแรกที่ได้รับการรับรองในระดับโลก นอกเหนือไปจากพวกเขาแล้ว มันก็ยังมีโครงการอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมตลอดไปจนเรื่องความรู้ด้านเทคนิค แล้ว Concordium มีอะไรที่แตกต่างไปจากคู่แข่งเช่น Ethereum?
พูดง่ายๆ ก็คือ Concordium ได้ระบุปัญหาหลักที่ทำให้เกิดปัญหากับเครือข่ายเหล่านี้ โครงการของพวกเขาลงทุนเป็นอย่างมากในแผนกวิจัยทางเทคนิค โดยเป้าหมายคือการหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
บริษัทสำคัญๆ หลายแห่งมีความเชื่อมั่นในกลยุทธ์เหล่านี้และได้ร่วมมือกับ Concordium รายชื่อของบริษัทที่มีชื่อเสียงที่โดดเด่นที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา ได้แก่ Ikea, Saxo Bank, Mastercard, Volvo และอื่นๆ
ความสามารถในการปรับขนาดของบล็อกเชน
ปัญหาหนึ่งที่มักจะถูกกล่าวถึงมากที่สุดเมื่อพูดถึงบล็อกเชนรุ่นเก่าๆ คือความสามารถในการปรับขนาด อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ Crypto พิสูจน์ได้ว่ามันก็ยังคงทำงานได้ แต่จำเป็นจะต้องเพิ่มจำนวนธุรกรรมและความเร็วของการประมวลผลเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ในเฟส Vega ของ Concordium จะมีการแนะนำเทคโนโลยีการแบ่งส่วนข้อมูล ซึ่งจะทำให้ระบบสามารถประมวลผลธุรกรรมจำนวนมากได้พร้อมๆ กัน
ปัญหาประเภทอื่นๆ ที่ผู้ใช้งาน Bitcoin และ Ethereum มักจะบ่นบ่อยครั้งว่า ตัวอย่างเช่น เวลาที่ใช้ในการยืนยันธุรกรรมนั้นยาวนานมาก ในชณะเดียวกัน เครือข่าย Concordium ใช้เวลาเฉลี่ย 12 วินาทีในการยืนยันธุรกรรม
นอกจากนี้ การขุด Crypto ซึ่งเป็นแกนหลักของบล็อกเชนส่วนใหญ่ ก็มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้งานโหนดบน Concordium จะใช้พลังงานเท่าที่ต้องการในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งน้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ส่วนใหญ่ที่ใช้กลไกฉันทามติของ PoW
การตรวจสอบความปลอดภัย
บล็อกเชน Concordium ภาคภูมิใจในการพัฒนานวัตกรรมทางเทคนิคอย่างค่อยเป็นค่อยไปและพิถีพิถัน เพื่อจุดประสงค์นี้ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท พวกเขาภูมิใจที่จะกล่าวว่าโครงการได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยตัวแทนภายนอกหลายแห่ง
Kudelski Security Research ดำเนินการตรวจสอบครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2021 โดยกล่าวว่า Concordium สร้างขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและเป็นโซลูชันเชิงธุรกิจ ข้อมูลในการดำเนินการยังสนับสนุนข้อกล่าวอ้างว่าบล็อกเชนนี้เป็นระบบแรกที่พร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบในขณะที่ดำเนินการสัญญาอัจฉริยะไปด้วย
Kudelski ร่วมกับ Concordium ได้ทำการทดสอบการสร้างแบบจำลองภัยคุกคามจำนวนหนึ่ง รายงานระบุว่าสามเลเยอร์ของบล็อกเชน ได้แก่ Network Layer, Consensus Layer และ Identity Layer ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโซลูชันที่ปรับขนาดได้อย่างแท้จริง แม้ว่าจะตรวจพบภัยคุกคามบางอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ประเภทที่นำไปสู่การสูญเสียเงินทุนได้ สุดท้ายแล้ว รายงานก็ได้ระบุว่า Concordium นั้นปลอดภัยต่อการใช้งาน
การตรวจสอบครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2021 บริษัท NowSecure ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการประเมินแอพพลิเคชันมือถือของ Concordium ซึ่งทำงานได้ทั้งบนแพลตฟอร์ม iOS และ Android
NowSecure แชร์ข้อมูลที่ค้นพบซึ่งยืนยันว่าแอพนั้นปลอดภัยและพร้อมที่จะเผยแพร่ต่อสาธารณะ นอกจากนี้ การทดสอบไม่พบช่องโหว่ที่สำคัญที่อาจจะทำให้ผู้ใช้งานตกอยู่ในความเสี่ยง
Concordium ให้ความสำคัญกับปัญหาความเป็นส่วนตัว
โครงการ Concordium นำเสนอตัวเองเป็นโครงการที่สร้างขึ้นไม่เพียงแต่เป็นสูตรสำเร็จสำหรับปัจจุบัน แต่ยังเป็นทางออกของเศรษฐกิจในอนาค นี่เป็นการมองการณ์ไกลและเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลได้เป็นอย่างดี ทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง Blockchain ได้ระบุถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบของ Crypto เช่นเดียวกับความสามารถในการให้ความเป็นส่วนตัวที่แท้จริงแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นประเด็นหลักในความสามารถการทำงานของมัน
นี่คือเหตุผลที่ Concordium นำเสนอบล็อกเชน Layer 1 ที่เป็นนวัตกรรมใหม่พร้อมคุณสมบัติ ID ที่สร้างขึ้นในโปรโตคอล ซึ่งหมายความว่า แม้ว่าธุรกรรมที่ดำเนินการบนเครือข่ายจะมีการประทับตรา ID แต่มันก็จะถูกเข้ารหัสทั้งหมด ก่อนการทำธุรกรรมบนเครือข่ายแต่ละครั้ง แต่ละบัญชีจะได้รับ ID อย่างไรก็ตาม มันจะต้องถูกตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบตัวตนบุคคลที่สาม
Concordium ยังใช้งาน Zero-knowledge-proofs (ZKP) ซึ่งช่วยให้ผู้ตรวจสอบทำงานได้โดยไม่ต้องจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย ซึ่งหมายความว่าข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานจะไม่ถูกเก็บไว้ในบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม Concordium กล่าวว่าผู้ใช้งานที่สงสัยว่ามีการฉ้อโกงสามารถเพิกถอนสิทธิ์เหล่านี้ได้ และสามารถแชร์ข้อมูลกับหน่วยงานบังคับที่ใช้กฎหมายได้
เหรียญ CCD
CCD คือสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของ Concordium มันทำหน้าที่ในการใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนเป็นหลัก โหนดตรวจสอบมีบทบาทสำคัญในการประมวลผลธุรกรรมและความปลอดภัยของเครือข่าย พวกเขาจะได้รับรางวัลโดยเป็นเหรียญ CCD เหล่านี้
โหนดตัวตรวจสอบความถูกต้องแบ่งออกเป็น Baker และ Finalizer Baker นั้นสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการกำกับดูแลได้ เพื่อให้สามารถทำเช่นนี้ได้ พวกเขาต้องมีส่วนร่วมใน CCD ที่พวกเขาได้รับ เมื่อล็อกเหรียญแล้ว พวกเขากำลังช่วย “อบ” บล็อกและรักษาความปลอดภัยเครือข่าย
กระบวนการกำกับดูแลเป็นส่วนสำคัญของคำมั่นสัญญาของบริษัท Concordium ในเรื่องการกระจายอำนาจ ระบบนิเวศของพวกเขานั้นยินดีต้อนรับแอพพลิเคชัน DeFi โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยเหรียญ CCD ใช้เป็นหลักประกันและสื่อกลางในการชำระบัญชี
CCD สามารถจัดเก็บได้อย่างปลอดภัยในกระเป๋าเงินมือถือและเดสก์ท็อปของ Concordium แอพมือถือสามารถใช้ได้กับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
การจัดสรรโทเค็น CCD
ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ CCD มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบนิเวศของ Concordium บทบาทหลักคือการให้สิ่งจูงใจแก่ผู้เข้าร่วมที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาเครือข่าย
เพื่อสร้างมันขึ้นบนหลักการพื้นฐานของความขาดแคลน CCD จะออกในจำนวนคงที่เช่นกัน อุปทานทั้งหมดของเหรียญ CCD คือ 10,000,000,000 Genesis ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน 2021 มูลค่าตามราคาตลาด ณ เวลาที่เขียนบทความอยู่ที่ประมาณ 151,000,000 ดอลลาร์
CCD ถูกสร้างขึ้นโดยใช้อัตราที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและมีความโปร่งใสอย่างเต็มที่ ผู้ที่ใช้โหนดตรวจสอบความถูกต้องบนเครือข่ายจะแบ่งออกเป็น Baker และ Finalizer และBaker จะที่ได้รับ CCD ผ่านทั้งค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและผ่านการทำสร้างเหรียญเอง
การแจกจ่ายเหรียญ CCD ที่เพิ่งสร้างใหม่เกิดขึ้นตามอัลกอริธึมที่ชัดเจนดังนี้:
- 85% ถูกแจกจ่ายให้กับ Banking Reward Account
- 10% มอบให้กับ Concordium Foundation
- 5% จ่ายให้กับ Finalization Reward Account
ค่าธรรมเนียมแก๊สส่วนใหญ่ (90%) เกิดขึ้นเมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้น มันถูกแจกจ่ายไปยังบัญชี GAS ค่าธรรมเนียมจะถูกกำหนดโดยความซับซ้อนของการทำธุรกรรม สุดท้าย ค่าแก๊สจะเป็นรางวัลให้กับ Baker
CCD มีให้บริการในเว็บเทรด Crypto ที่มีชื่อเสียงและ Trading Desk OTC จำนวนมาก ตัวอย่างของบางแพลตฟอร์มที่สามารถซื้อ CCD ได้ ได้แก่ Bitfinex, Amdax, AscendEx และ KuCoin
รางวัลและการล็อกเหรียญเพื่อรับรางวัล
ผู้ใช้งานที่มีมากกว่า 14,000 CCD สามารถ “อบ” ได้โดยมีส่วนร่วมในฉันทามติของของเชน ด้วยการทำสิ่งนี้ พวกเขาจะได้รับ CCD เป็นรางวัล การเรียกใช้งานโหนดรวมไปถึงการสร้างบัญชีมือถือ การสร้าง Baker Keys และการลงทะเบียนพวกมันกับบัญชี
Baker ที่ล็อกเหรียญมากกว่า 0.1% ของอุปทานเหรียญหมุนเวียนทั้งหมดสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการปิดท้ายบล็อกได้
กระบวนการกำกับดูแลทำงานอย่างไร?
กระบวนการกำกับดูแลนั้นมีความสำคัญในระบบนิเวศของ Concordium เป็นอย่างมาก ประการแรก มันคือการแสดงถึงหลักการของการกระจายอำนาจและการเป็นตัวแทนที่ยุติธรรม กระบวนการนี้จะต้องใช้เหรียญ CCD
Concordium ได้จัดตั้งคณะกรรมการธรรมาภิบาล ซึ่งมีหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้งานที่สำคัญหลายประการที่ส่งผลต่อระบบนิเวศ ปัญหาเหล่านี้บางส่วนรวมไปถึงอัตราการเติบโตของ CCD เปอร์เซ็นต์การจ่ายเงิน หรือการอัพเดตระบบต่างๆ
ปัจจุบัน การกำกับดูแลนั้นจัดการโดย Concordium Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสวิสที่จัดตั้งขึ้นโดยนักพัฒนาบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม แผนการของพวกเขาคือการเพิ่มคณะกรรมการกำกับดูแล สมาชิกใหม่จะถูกเพิ่มเข้ามาเป็นคณะกรรมการ โดยพิจารณาจากการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น CCD ท้ายที่สุด ในเวลาเพียง 8 ปี คณะกรรมการจะทำการรวมตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งโดยเฉพาะเพิ่มเข้ามาโดยผู้ถือเหรียญ
Concordium จะเป็นบล็อกเชนแห่งอนาคตได้หรือไม่?
Cryptocurrency, NFT หรือ Metaverse คำเหล่านี้ทุกคำล้วนได้รับการยอมรับอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเป็นการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในเชิงปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม วิธีการที่เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ได้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด
Concordium นั้นประเมินว่าจะมีธุรกิจและบุคคลจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะต้องการผสานรวมกิจกรรมต่างๆ ของพวกเขาไว้ในเครือข่ายบล็อกเชน พวกเขาไม่ใช่ผู้เดียวที่แสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้ นักวิเคราะห์หลายคนก็ได้มีการเปรียบเทียบยุคปัจจุบันของเรากับ Dot-com ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะแพร่หลาย
สุดท้ายนี้ เพื่อตอบคำถามที่ว่า Concordium คืออะไร? จากปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ Concordium นั้นมีจุดมุ่งหมายในอนาคต บล็อกเชนของพวกเขามุ่งเน้นไปที่การสร้างกรอบการทำงานที่สอดคล้องกับหน่วยงานกำกับดูแล ความเป็นส่วนตัว การกระจายอำนาจ และการทำงานที่ราบรื่นของเครือข่ายเป็นปัจจัยอื่นๆ ที่บ่งบอกถึงตัวตนของเครือข่าย Concordium
เข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของ BeInCrypto เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Concordium และโครงการอื่นๆ ที่คล้ายกัน
คำถามที่พบบ่อย
ฉันสามารถซื้อ Concordium (CCD) ได้ที่ไหน?
บล็อกเชน Concordium คืออะไร?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์