- ทำความเข้าใน “รูปแบบ Cup and Handle”
- ลักษณะและรูปร่างของรูปแบบ Cup and Handle
- การระบุรูปแบบ Cup and Handle
- การใช้งานอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ ในการยืนยันรูปแบบ
- การซื้อขายในรูปแบบ Cup and Handle
- ตัวอย่างและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
- รูปแบบต่างๆ ที่ควรรู้สำหรับนักเทรดในระดับมือโปร
- การผสานรวมรูปแบบ Cup and Handle เข้ากับเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
- ผู้ชนะจะได้รับถ้วย (และด้ามจับเช่นกัน)
- คำถามที่พบบ่อย
ในเรื่องการคาดการณ์แนวโน้มของราคาของสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง อย่าง สกุลเงินคริปโต และ หุ้น เราจำเป็นจะต้องมีการวิเคราะห์ในหลายๆ เรื่อง เพราะถึงแม้ว่าการศึกษาปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์จะเป็นกลยุทธ์ที่ดี แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคก็จะเหมาะสมกว่าสำหรับผู้ที่สนใจในการคาดการณ์ราคาในระยะสั้นและระยะยาว แต่อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นเป็นสังเวียนที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ด้วยอินดิเคเตอร์และรูปแบบราคาต่าง ๆ ทำให้มันเป็นเรื่องยากที่มือใหม่จะทำความเข้าใจในตลาดซื้อขายเหล่านี้ได้ ในบทความนี้ เราจะมาโฟกัสกันที่ “รูปแบบ Cup and Handle” (กราฟรูปถ้วยกาแฟพร้อมด้ามจับ) ซึ่งเป็นสัญญาณขาขึ้นที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถไว้วางใจได้เป็นอย่างมาก
“รูปแบบ Cup and Handle” เป็นหนึ่งในรูปแบบราคาที่หาได้ยาก ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นได้ ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เรื่องลักษณะโดยทั่วไป, วิธีการระบุ, และข้อบ่งชี้ต่าง ๆ ไปจนถึงตัวอย่างแบบเรียลไทม์ที่จะแสดงให้เห็นถึงวิธีที่ดีที่สุดในการเทรดในรูปแบบนี้
เข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram: พูดคุยกันเกี่ยวกับเทรนด์ของตลาดซื้อขาย รับชมคอร์สพื้นฐานการซื้อขายฟรี และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่คุณต้องการจากทีมงานนักเทรดมืออาชีพของเรา!
ทำความเข้าใน “รูปแบบ Cup and Handle”
รูปแบบ Cup and Handle เป็นรูปแบบ “ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ตามมาตรฐานที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะบ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาของสินทรัพย์จะพุ่งสูงขึ้น มันได้ชื่อมาจากการที่มันมีลักษณะคล้ายกับถ้วยชา/กาแฟ ซึ่งในส่วนของ “ถ้วย” เป็นช่วงระยะเวลาของการปรับฐานราคาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายตัวออกไปจากนั้นก็พุ่งสูงขึ้น และ “ด้ามจับ” แสดงถึงช่วงเวลาของการชะลอตัวและลดลงเล็กน้อยก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปอีกครั้ง
ต้นกำเนิด
ก็เหมือนกับรูปแบบราคาที่น่าเชื่อถือส่วนใหญ่ รูปแบบ Cup and Handle นั้นก็มีต้นกำเนิดที่ชัดเจนเช่นกัน นักเขียนและนักลงทุน William O’Neil ได้ทำการสังเกตและกล่าวถึงการก่อตัวของรูปแบบนี้ในหนังสือ “How to Make Money in Stocks” ในปี 1988
ข้อมูลจากหนังสือของเขาระบุว่า รูปแบบนี้มาพร้อมกับความสามารถในการช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์การ Breakout (การที่ราคาที่การวิ่งทะลุแนวรับหรือแนวต้านไปได้ โดยทั่วไปจะใช้ในการวิ่งทะลุแนวต้าน ส่วนแนวรับมักจะใช้คำว่า Breakdown) และยังกล่าวด้วยว่า “ปัจจัยพื้นฐานที่ดี” เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่สำคัญ
รู้หรือไม่ว่า? William O’Neil ผู้คิดค้นการคาดการณ์กราฟ ด้วยรูปแบบ Cup and Handle นี้ ยังเป็นผู้ก่อตั้ง Investor’s Business Daily ซึ่งเป็นสื่อหนังสือพิมพ์ทางการเงินชั้นนำในปี 1984 อีกด้วย
การวิเคราะห์รูปแบบ Cup and Handle: จิตวิทยาและการนำไปใช้งาน
สิ่งแรกที่คุณต้องทราบก่อนเลยก็คือรูปแบบ Cup and Handle ไม่ใช่รูปแบบขาขึ้นต่อเนื่องเพียงตัวเดียวที่มีอยู่
มันยังมีรูปแบบอย่าง Flag (ธง) หรือ Ascending Triangle (สามเหลี่ยมขาขึ้น) อีกด้วย (และยังมีอีกมากมายที่เราอาจจะยังไม่ได้เอ่ยถึง) อย่างไรก็ตามรูปแบบเหล่านี้จะแตกต่างจากรูปแบบ Cup and Handle ตามคุณลักษณะดังต่อไปนี้
จิตวิทยาที่ชัดเจน
เมื่อวิเคราะห์ในส่วนของ “ถ้วย” อย่างใกล้ชิด การปรับฐานของราคาจะกลายเป็นการพุ่งขึ้นของราคาในท้ายที่สุด แสดงให้เห็นว่าแรงขายเริ่มหมดลงไปอย่างช้าๆ ในส่วนช่วงบนของถ้วยแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อกำลังจะเข้ามามีส่วนร่วม ก่อให้เกิดการวิ่งขึ้นของราคา
หรือแม้แต่ “ด้ามจับ” ที่ราคาลดลงก็สื่อความหมายที่ชัดเจน มันเปรียบเสมือนการที่ผู้ซื้อหยุดพักหายใจก่อนที่จะเริ่มมีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง การชะลอตัวของราคาในลักษณะนี้เป็นการสลัดพวก Weak Hands (นักลงทุนที่ใจไม่นิ่ง ไม่สามารถรับแรงกดดันของตลาดได้) ที่เหลือออกไป ก่อนที่เทรนด์ขาขึ้นจะกลับมาดำเนินการต่อด้วยความมั่นใจ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียกรูปแบบในลักษณะนี้ว่าเป็นรูปแบบ “ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับสินทรัพย์ใด ๆ ก็ตาม การปรากฏตัวของรูปแบบขาขึ้นต่อเนื่องจะหมายความว่าความผันผวนโดยรอบนั้นจะผ่อนคลายลงเช่นกัน
“Short-term volatility is greatest at turning points and diminishes as a trend becomes established”
George Soros, investor and hedge fund manager: The Alchemy of Finance
การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขาย
หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการซื้อขาย เราขอแนะนำให้คุณจับตามองที่การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขาย สำหรับรูปแบบ Cup and Handle ปริมาณการซื้อขายในส่วนของ “ถ้วย” จะอยู่ในระดับที่ต่ำและจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อ “ด้ามจับ” เริ่มก่อตัว การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในปริมาณการซื้อขายทำให้รูปแบบนี้มีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้มากยิ่งขึ้น
ตำแหน่งเข้าออกที่ชัดเจน
รูปแบบ Cup and Handle ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุจุดเข้าออกที่ชัดเจนได้ เมื่อคุณได้ระบุความลึกของ “ถ้วย” ได้ — โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขาย — คุณสามารถระบุราคาเป้าหมายโดยการตรวจสอบระดับแนวต้านในหลาย ๆ ระดับ นอกจากนี้ เส้นแนวต้านที่เกิดขึ้นจาก “ด้ามจับ” ก็จะช่วยให้สามารถระบุบริเวณที่จะเกิดการ Breakout ของราคาสินทรัพย์ได้
ใช้งานได้ในทุกช่วงกรอบเวลา
ประการสุดท้าย รูปแบบ Cup and Handle นั้นสามารถตรวจสอบได้ในทุกช่วงกรอบเวลา ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น คุณก็สามารถตรวจสอบรูปแบบกราฟนี้ได้ในกรอบเวลา 1 หรือ 4 ชั่วโมง สำหรับการวิเคราะห์ราคาในระยะกลาง การตรวจสอบรูปแบบกราฟและการวิ่งของราคาก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล และในการกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายในภาพรวมที่กว้างขึ้น การตรวจสอบรูปแบบในกรอบรายสัปดาห์ก็สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญได้อีกด้วย
เราสามารถพูดอย่างมั่นใจได้เลยว่ารูปแบบราคา “Cup and Handle” นี้สามารถช่วยให้คุณระบุระดับการ Breakout ที่สำคัญพร้อม ๆ ไปกับจิตวิทยาของตลาดได้ ทั้งหมดนี้ทำให้มันเป็นรูปแบบที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและเข้าใจได้ง่ายในแง่ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ลักษณะและรูปร่างของรูปแบบ Cup and Handle
ลักษณะและรูปร่างของรูปแบบ Cup and Handle นั้นมีความสำคัญเนื่องจากมันจะช่วยให้คุณสามารถระบุรูปแบบกราฟและวางแผนกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างเหมาะสม การพูดคุยในส่วนนี้ เราจะมาพูดคุยกันในกรณีที่ว่ารูปแบบดังกล่าวได้ก่อตัวขึ้นมาแล้ว สิ่งที่เราทำก็เป็นเพียงแค่การแกะส่วนประกอบของมันออกมาเพื่อเรียนรู้ความหมายของในแต่ละองค์ประกอบ
ด้านข้างของถ้วย
ในส่วนของตัวถ้วยนั้นจะมีอยู่ 2 ด้าน ด้านซ้ายจะแสดงถึงการลดลงจากราคาเริ่มต้น(ของรูปแบบ) และด้านขวาจะแสดงถึงการฟื้นตัวของราคาที่ตามมาหลังจากนั้น ลักษณะของทั้ง 2 ด้านนั้นควรจะค่อนข้างสมมาตร และควรจะมาบรรจบกันเป็นรูปตัว “U” หรือตัว “V” อย่างไรก็ตาม ตัว “V” ที่มีความชัดเจนหรือแหลมคมมากเกินไปยังจะไม่ใช่สิ่งที่สมเหตุสมผล
ความลึกของถ้วย
ด้านซ้ายของถ้วยนั้นจะเป็นเหมือนการร่วงหล่นลงจากที่สูง เนื่องจากมันเป็นการแสดงถึงการลดลงของราคา ที่บริเวณจุดสิ้นสุดของด้านซ้ายและจุดเริ่มต้นของด้านขวาจะถูกระบุให้เป็นความลึกของถ้วย ซึ่งนี่คือจุดพลิกผัน ด้วยแรงขายและเหล่า Weak Hands ที่เริ่มหายไป การวัดความลึกของถ้วยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากมันช่วยให้นักเทรดสายรุกสามารถระบุศักยภาพในการทำกำไรสูงสุดได้
ตามหลักการแล้ว ความลึก — ระยะห่างของขอบถ้วยถึงก้นถ้วย — ควรจะน้อยกว่า 50% ของการพุ่งขึ้นของราคาสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะเริ่มเกิดการก่อตัวของรูปแบบ Cup and Handle วิธีที่ดีที่สุดในการระบุมันคือการยืนยันจุดสุดท้ายของเทรนด์ขาขึ้น และดูว่าราคาเคลื่อนไหวไปมากหรือน้อยเพียงใดจากจุดต่ำสุดก่อนจุดเริ่มต้นทางฝั่งซ้ายของถ้วย ให้คิดว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นกณฑ์มาตรฐานดูว่าความลึกนั้นน้อยกว่า 50% ของค่าเดียวกันหรือไม่
ถ้วยที่ลึกมากกว่าอาจจะทำให้รูปแบบขาขึ้นกลายเป็นโมฆะและอาจจะบ่งบอกถึงการกลับตัวของเทรนด์ หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับความลึกในช่วงระยะกลางของรูปแบบ ให้ลองมองหารูปแบบแท่งเทียนกลับตัวและดำเนินการไปตามนั้น หากไม่มีแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นให้เห็น มันก็อาจจะเกิดหนึ่งในสองสถานการณ์นี้:
- คุณอาจจะกำลังมองดูรูปแบบ Falling Knife ที่ยังตกลงไปไม่ถึงจุดต่ำสุด
- ความลึกที่มากกว่า 50% ของการเพิ่มขึ้นของราคาก่อนหน้าอาจจะเป็นการเริ่มต้นของรูปแบบการกลับตัวขาขึ้น เช่น Double Bottom หรือ Inverted Head and Shoulders
เพราะฉะนั้น การยึดมั่นในกฏ 50% จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัย
ก้นถ้วย (จุดต่ำสุดของถ้วย)
ก้นถ้วยคือจุดที่ลึกที่สุดของถ้วย นี่คือจุดเปลี่ยนที่แน่นอน คุณสามารถตรวจสอบมันได้โดยการตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย เพื่อให้การก่อตัวของรูปแบบ Cup and Handle ประสบความสำเร็จและชัดเจน ปริมาณการซื้อขายจะเริ่มเอนเอียงไปทางฝั่งผู้ซื้อมากขึ้นในจุดนี้ รูปแบบกราฟที่น่าเชื่อถือมักจะมีจุดต่ำสุดที่โค้งมนกว่าเสมอ จุดต่ำสุดที่แหลมคมอาจจะไม่ใช่สัญญาณที่ดี
เส้นและระดับแนวต้าน
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ องค์ประกอบรูปถ้วยของการก่อตัวของกราฟจะมีเส้นแนวต้านที่ชัดเจน เส้นแนวต้านเริ่มต้นจะอยู่ที่ด้านบนซ้ายของกราฟ จากจุดที่เริ่มปรับฐาน ยาวไปจนถึงด้านล่างสุด เส้นแนวต้านนี้ทำหน้าที่เป็นแนวรับของเทรนด์ขาขึ้นก่อนหน้านี้ และเมื่อราคาสินทรัพย์เริ่มร่วงลง (ก่อตัวเป็นรูปแบบทางด้านซ้ายของถ้วย) เหล่า Weak Hands ก็จะเริ่มถอนตัวออกไป
เส้นแนวต้านนี้จะเริ่มจากด้านซ้ายและสามารถขยายขอบเขตไปทางด้านขวาของกราฟได้ ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุศักยภาพของราคาที่เพิ่มขึ้นจากจุดด้านล่างได้ หากราคาทะลุแนวต้านนี้ไป เทรนด์ขาขึ้นก็อาจจะดำเนินต่อไป
รูปแบบของด้ามจับ
รูปแบบของด้ามจับแสดงให้เห็นถึงถึงความพยายามครั้งสุดท้ายจากเหล่าผู้ขายส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาลดลง หรือคุณอาจจะพูดได้ว่าเป็นการพักหายใจของผู้ซื้อเพื่อเขย่าเหล่า Weak Hands ให้ถอนตัวออกไป ด้ามจับนั้นจะเป็นการชะลอตัวของราคาอย่างลาดเอียงที่ควรจะเกิดขึ้นที่ครึ่งบนของกราฟ
ด้ามจับไม่ควรจะลดลงมากเกินไปกว่า 1 ใน 3 ของความลึกของถ้วยเพื่อทำให้รูปแบบมีความน่าเชื่อถือ สำหรับรูปร่างของด้ามจับ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ Descending Channel, Wedge, Pennant, Flag ก็สามารถใช้งานได้ทั้งนั้น คุณควรจะตรวจสอบรูแบบของด้ามจับกับอินดิเคเตอร์ของปริมาณการซื้อขายอยู่เสมอ จำไว้ว่ารูปแบบดังกล่าวจะตามมาด้วยการลดลงของปริมาณการซื้อขาย และมีเพียงการ Breakout เท่านั้นที่จะผลักให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น
การซื้อขายในกรอบราคา
ช่วงการซื้อขายในกรอบราคาของรูปแบบ Cup and Handle จะปรากฏขึ้นใน 2 ช่วง ช่วงแรกที่บริเวณระหว่างเส้นแนวต้านและที่ด้านล่างของถ้วย และอีกช่วงอยู่ระหว่างเส้นแนวต้านและแนวรับ ที่บริเวณส่วนด้ามจับของรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม กรอบราคาคือช่วงที่การชะลอตัวของราคาเกิดขึ้น ช่วงการซื้อขายในกรอบราคาเช่นนี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถตรวจสอบแนวต้านและแนวรับรองเพื่อทำการกำหนดและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้
โดยรวมแล้ว ตามลักษณะของรูปแบบ การก่อตัวของรูปแบบ Cup and Handle จะมีอยู่ 4 ขั้นตอนก่อนที่จะมีการ Breakout เกิดขึ้น:
- เริ่มก่อตัว: เป็นการเพิ่มขึ้นของราคาจากจุดต่ำก่อนหน้า มันควรจะสูงขึ้นอย่างน้อย 30% เพื่อเป็นการยืนยัน
- การลดลง: ที่เป็นตอนที่ถ้วยเริ่มก่อตัว
- การฟื้นตัว: ณ จุดนี้ เหล่า Weak Hands จะเริ่มถอนตัว ราคาจะเริ่มขยับขึ้นจากจุดล่าสุดของเทรนด์ขาขึ้นก่อนหน้านี้
- การชะลอตัว: ณ จุดนี้ ราคาที่เพิ่มขึ้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงและมีการชะลอตัว ซึ่งไม่ควรจะลดลงมากเกินกว่า 1 ใน 3 ของความลึกของรูปแบบ
สิ่งสำคัญก็คือตัวชี้วัดของปริมาณการซื้อขายควรจะสอดคล้องไปกับบริเวณก้นถ้วย
การระบุรูปแบบ Cup and Handle
ตอนนี้เราทราบถึงลักษณะและรูปร่างของรูปแบบกราฟ Cup and Handle แล้ว ต่อไป เราจะมาทำดูวิธีการระบุรูปแบบด้วยข้อมูลบนกราฟต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกัน
การพิจารณาเรื่องกรอบเวลา
เหมือนที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้ รูปแบบ Cup and Handle ใช้ได้กับเกือบทุกกรอบเวลา อย่างไรก็ตาม มันจะมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นเมื่อดูในกรอบเวลาที่สูงกว่า เช่น กราฟรายวัน, รายสัปดาห์, หรือแม้แต่รายเดือนก็ตาม
หากคุณเป็น Position Trader (นักเทรดแบบซื้อแล้วถือยาว) คุณควรจะมองหารูปแบบนี้บนกราฟในกรอบเวลาแบบรายสัปดาห์หรือรายเดือน Swing Trader (นักเทรดที่ทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาเป็นรอบๆ) อาจจะมองหารูปแบบนี้ในกรอบเวลาแบบรายวันหรือรายสัปดาห์เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ และถึงแม้ว่ามันอาจจะใช้ได้กับการเทรดแบบ Scalping (การเทรดระยะสั้น เน้นเก็บกำไรจากส่วนต่างเพียงเล็กน้อย) โดยดูผ่านกราฟในกรอบเวลาแบบรายนาทีและรายชั่วโมง แต่ ณ จุดนี้ ความน่าเชื่อถือของมันจะลดลง
ความเคลื่อนไหวและระดับของราคา
วิธีการที่ดีในการระบุรูปแบบกราฟก็คือการดูความเคลื่อนไหวของราคาในหลายๆ ช่วงอย่างระมัดระวัง นี่คือจุดที่คุณควรตรวจสอบ:
- เทรนด์ขาขึ้นก่อนหน้าก่อนที่ถ้วยจะเริ่มก่อตัวขึ้น
- การวัดระยะห่างระหว่างจุดสูงสุดท้ายกับความลึกของถ้วย
- ด้ามจับที่ถูกจำกัดไว้ที่ส่วนบนของถ้วย
การยืนยันรูปแบบกราฟ
เช่นเดียวกับในแง่มุมอื่น ๆ ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค แม้แต่รูปแบบ Cup and Handle เองก็สามารถให้สัญญาณที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เพื่อที่จะยืนยันว่าการก่อตัวนั้นถูกต้อง ให้ตรวจสอบหัวข้อดังต่อไปนี้:
- มีความสมมาตรระหว่างด้านซ้ายและด้านขวาของกราฟ
- ก้นถ้วยมีความโค้งมนและไม่เป็นรูปตัว “V” ที่ชัดเจน
- มีระดับแนวต้านของด้ามจับที่ชัดเจน เตรียมพร้อมไว้สำหรับการ Breakout
- ดูภาพรวมของตลาดในมุมมองที่กว้างขึ้นในกรณีของหุ้นและตลาดคริปโต
- ดูดัชนี Fear-and-Greed เพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งของการ Breakout เพิ่มเติม หากมันเกิดขึ้น
การใช้งานอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ ในการยืนยันรูปแบบ
ก่อนหน้านี้ เราโฟกัสในเรื่องการใช้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อระบุภาพรวมของรูปแบบเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถใช้อินดิเคเตอร์ต่างๆ เพื่อช่วยระบุได้ว่ารูปแบบกราฟคริปโตหรือหุ้นนั้น ๆ ให้สัญญาณที่ถูกต้องจริง ๆ หรือไม่ อินดิเคเตอร์เหล่านี้จะเป็นการนำเสนอข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนสมมติฐานที่สอดคล้องกันกับรูปแบบขาขึ้นต่อเนื่อง:
ปริมาณการซื้อขาย
สิ่งหนึ่งที่เราต้องกล่าวย้ำอีกครั้งก็คือ ช่วงต่างๆ ของรูปแบบ Cup and Handle ควรจะแสดงให้เห็นถึงปริมาณการซื้อขายที่แตกต่างกันออกไป การก่อตัวของถ้วยควรตามมาด้วยด้วยปริมาณการซื้อขายที่ลดลง และเมื่อรูปแบบด้ามจับก่อตัวขึ้น ปริมาณการซื้อขายควรจะลดต่ำลงก่อนที่จะพุ่งสูงขึ้นหรือเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการยืนยันการ Breakout ของราคา
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
หนึ่งในแนวทางที่ดีในการตรวจสอบความแข็งแกร่งของรูปแบบ Cup and Handle คือการตรวจสอบระดับราคากับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างใกล้ชิด มันจะสามารถช่วยให้คุณคาดการณ์เทรนด์ของตลาดโดยรวมได้ เพื่อให้คุณรู้ได้ว่าการก่อตัวของรูปแบบนั้นเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ หากคุณกำลังดูรูปแบบในกราฟรายวัน ตรวจสอบให้แน่ใจอยู่เสมอว่าในขณะที่รูปแบบ Cup and Handle ก่อตัวขึ้น ระดับราคาจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันหรือ 200 วันเสมอ การลดลงของ MA (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) อาจจะทำให้การก่อตัวของรูปแบบไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ หากคุณเห็นการ Golden Cross (รูปแบบของการวิ่งตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เป็นสัญญาณในเชิงบวก) เกิดขึ้น — โดยการที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่มีขนาดเล็กกว่า (50 วัน) ตัดผ่านเส้นค่าเฉลี่ยที่สูงกว่า (200 วัน) — มันอาจจะเป็นการยืนยันถึงการ Breakout ของรูปแบบ Cup and Handle
RSI (Relative Strength Index)
โมเมนตัมขาขึ้นจะเกิดขึ้นเมื่อ Relative Strength Index อยู่ที่ระดับประมาณ 50 หากคุณต้องการยืนยันและตรวจสอบความถูกต้องของรูปแบบ Cup and Handle ของรูปแบบกราฟของคริปโตหรือหุ้น ลองดูให้แน่ใจว่า RSI อยู่ในบริเวณที่เป็นกลางที่ระดับบ 50 หรือ น้อยกว่านั้นเล็กน้อยในรูปแบบทางด้านขวา หรือ ในช่วงการก่อตัวของด้ามจับ หาก RSI มีการขยับไปที่ระดับ 70 หรือ 80 อย่างรวดเร็วก่อนที่การ Breakout จะเกิดขึ้น เราก็อาจจะได้เห็นการชะลอตัวมากยิ่งขึ้นบริเวณด้ามจับ
MACD (Moving Average Convergence Divergence)
เราทุกคนต่างก็ต้องการเห็นการ Breakout ขึ้นไป แต่มันก็มีกรณีของการ Breakout ที่ผิดพลาดซึ่งเป็นเหมือนกับดักที่ดักจับนักลงทุนที่ขาดความระมัดระวัง ในกรณีที่คุณกังวลในเรื่องเดียวกันนี้ การวิ่งตัดกันของสัญญาณ MACD — เมื่อเส้น MACD ตัดเหนือเส้นสัญญาณ — ก็จะถือเป็นตัวชี้วัดที่ดี
และเราก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวชี้วัดต่างๆ และการยืนยันรูปแบบไปแล้ว ต่อไป เราไปดูหลักการซื้อขายในรูปแบบนี้กัน
การซื้อขายในรูปแบบ Cup and Handle
ก่อนที่เราจะไปดูตัวอย่างของสินทรัพย์จริงๆ กัน เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องทฤษฏีการซื้อขายเพื่อให้แน่ใจได้ว่าการซื้อขายในรูปแบบ Cup and Handle นี้จะเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับคุณ:
การวัดระยะทางและเป้าหมายการทำกำไรที่เป็นไปได้
สิ่งแรกที่นักเทรดเดอร์ควรทำ โดยไม่ต้องไปสนใจรูปแบบขาขึ้น ก็คือ การกำหนดระยะทางและเป้าหมายการทำกำไรที่สามารถเป็นไปได้ ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยการระบุระดับแนวต้านของถ้วยและก้นถ้วย และวัดระยะห่างระหว่างระดับทั้งสองนั้น
เนื่องจากนี่เป็นการคาดการณ์เป้าหมายโดยประมาณ นักเทรดสามารถเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ใดก็ได้ภายในช่วงกรอบการซื้อขายนี้ โดยใช้อินดิเคเตอร์อื่นๆ ช่วยในการตรวจสอบและยืนยันการก่อตัวของรูปแบบ
การ Breakout ของราคา
สุดท้ายแล้ว มันก็จะเกี่ยวข้องกับการ Breakout ของราคา และในกรณีของรูปแบบนี้ มันควรจะเกิดขึ้นหลังจากการชะลอตัวที่เฉพาะเจาะจงของด้ามจับ เคล็ดลับในส่วนนี้คือการจับตาดูเส้นแนวโน้มด้านบน (เส้นที่ลาดลงมา) ของด้ามจับและตรวจสอบมันด้วยอินดิเคเตอร์ประเภทโมเมนตัมหรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ระบุสัญญาณขาขึ้นโดยเฉพาะ
กลยุทธ์การซื้อขายและการบริหารความเสี่ยง
ตอนนี้ เรามาดูหลักเกณฑ์การซื้อขายกัน:
จุดเข้า
นักเทรดสายรุกสามารถเข้าซื้อที่จุดต่ำสุดของถ้วยได้ — โดยมีเงื่อนไขว่าราคาสินทรัพย์จะต้องอยู่ที่ระดับแนวรับสำคัญใกล้กับจุดต่ำสุดอย่างเหนียวแน่น กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการตรวจสอบสัญญาณ RSI Bullish Divergence หรือ Golden Cross เพื่อให้แน่ใจว่าจุดต่ำสุดอยู่ตรงนี้แล้วและจะเริ่มก่อตัวเป็นถ้วยที่ฝั่งด้านขวา
นักเทรดที่ไม่ชอบความเสี่ยงสามารถเข้าซื้อได้เมื่อราคาของสินทรัพย์ทะลุระดับแนวต้านของถ้วยไปแล้ว ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอาจจะเป็นตัวชี้วัดที่ดีได้ และสุดท้าย หากคุณต้องการที่จะจัดการความเสี่ยงสมบูรณ์ คุณอาจจะต้องการรอ retest (การที่ราคากลับมาทดสอบที่แนวเดิมที่ Breakout ไปอีกครั้ง) ระดับหลังจากการ Breakout เพื่อให้ได้สัญญาณยืนยันที่ชัดเจน
การวางจุด Stop-loss
เช่นเดียวกับกลยุทธ์การเทรดอื่นๆ คุณจำเป็นจะต้องรู้ว่าจุด Stop-loss ของคุณควรจะอยู่ที่ใดหากราคาของมันลดลง หากคุณมีแนวทางในการเทรดแบบอนุรักษ์นิยม ให้ลองวางจุด Stop-loss ไว้ใต้เส้นแนวโน้มด้านล่างของด้ามจับของถ้วย และถ้าคุณเต็มใจที่จะเสี่ยงมากยิ่งขึ้น คุณสามารถวางมันไว้ที่ใต้ก้นถ้วยได้
คุณควรจะให้ความสำคัญกับการจำกัดการสูญเสียเงินทุนเสมอ ดังนั้น ให้ทำการวางจุด Stop-loss อยู่เสมอ
เป้าหมายของการทำกำไร
แน่นอนว่าการขี่คลื่นขาขึ้นเป็นเรื่องที่เย้ายวนใจ แต่อย่างไรก็ตาม การกำหนดจุดทำกำไรที่ไว้ล่วงหน้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญ คุณควรจะวัดระยะห่างระหว่างจุดล่างสุดกับแนวต้านเพื่อกำหนดระดับการทำกำไรที่เหมาะสม เมื่อการ Breakout เกิดขึ้น มันเหมาะเป็นอย่างยิ่งในกำหนดระยะห่างเดียวกันนั้นเป็นเป้าหมายในการขายทำกำไร
ประเด็นทั้งหมดเหล่านี้ ทั้งการเข้าซื้อ, เป้าหมายในการทำกำไร, และจุด Stop-loss เป็นเพียงหลักเกณฑ์ทั่วไปและไม่ได้เป็นคำแนะนำที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น คุณควรทำการตรวจสอบสิ่งต่างๆ อย่างละเอียดก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ต่อไป
นักเทรดมือโปรหลายคนมักจะให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การออกเสมอ
“I know where I am getting out before I am getting in.”
Bruce Kovner, Founder: Caxton Associates (from “Market Wizards: Interviews with Top Traders, by Jack D.Schwager)
Breakout หลอกและวิธีการหลีกเลี่ยงมัน
ก็เหมือนกันรูปแบบกราฟขาขึ้นอื่นๆ แม้แต่รูปแบบ Cup and Handle ก็อาจจะเกิด Breakout หลอกได้เช่นกัน ซึ่งแนวต้านอาจจะหลุดออกจากด้ามจับได้ ซึ่งเป็นเหมือนการดักจับนักลงทุน ก่อนที่จะกลับลงไปที่ด้านล่างของถ้วยหรือต่ำกว่านั้น และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการเข้าซื้อหลังจาก retest จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ถึงแม้ว่าจะไม่มีวิธีที่จะรับประกันได้ว่าจะหลีกเลี่ยงการเกิด Breakout หลอกได้ แต่คุณก็สามารถใช้งานอินดิเคเตอร์เสริมต่างๆ, ตรวจสอบดูการฝ่าระดับของราคาที่ชัดเจน, และจับตาดูความเคลื่อนไหวของราคาเพื่อลดความเสี่ยงได้
ตัวอย่างและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
ตอนนี้ เราจะมาดูตัวอย่างรูปแบบ Cup and Handle โลกแห่งความเป็นจริงจากตลาดคริปโตและตลาดหุ้นกัน
ตัวอย่างรูปแบบ Cup and Handle ที่ประสบความสำเร็จในการซื้อขายในตลาดหุ้น
ตัวอย่างภาพด้านล่างคือกราฟของ Amazon (AMZN) ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2017 ถึงกุมภาพันธ์ 2018 โดยจะสังเกตเห็นได้ว่าเส้นโค้งในรูปแสดงให้เห็นถึงการก่อตัวของ “ถ้วย” พร้อมกับ “ด้ามจับ” ที่ลาดลงที่เตรียมพร้อมให้หุ้นเกิดการ Breakout หลังจากที่เกิดการ Breakout แล้ว ราคาของ AMZN ก็พุ่งขึ้นไปเกือบ 26% ภายในช่วง 23 วัน
ตัวอย่างรูปแบบ Cup and Handle ที่ประสบความสำเร็จในการซื้อขายในตลาดคริปโต
นี่คือกราฟของ ETH ในช่วงปลายปี 2020 โดยที่ระดับ 483 ดอลลาร์ ทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งสำหรับรูปแบบ Cup and Handle ที่เกิดขึ้น ที่ระดับ 427 ดอลลาร์ เราจะเห็นถึงการก่อตัวของด้ามจับ การ Breakout นั้นใช้เวลาพอสมควร และเกิดการ retest ที่ชัดเจนในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2020 หลังจากการ retest ราคาของ ETH ก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นไปเป็น 2116 ดอลลาร์ ภายในเวลาไม่กี่เดือน
การวิเคราะห์การซื้อขายในรูปแบบ Cup and Handle ที่ล้มเหลว
เราลองมาดูตัวอย่างของกราฟของ General Electric (GE) จากปี 2016 โดยมีรูปแบบ Cup and Handle ที่ชัดเจน หลังจากที่มัน Breakout จากแนวต้านที่ราคา 193.08 ดอลลาร์ GE ไม่สามารถทะยานสูงขึ้นไปได้และตกลงมาตามลูกศรในภาพ มันตกลงไปต่ำกว่าก้นถ้วยเสียด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นเป็นการบอกใบ้ถึงการ Breakout หลอก
อย่างไรก็ตาม หากคุณดูที่กราฟปริมาณการซื้อขาย การ Breakout แนวต้านขึ้นไปนั้นไม่ได้รับการสนับสนุนจากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งนี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้นต่อรูปแบบ
รูปแบบต่างๆ ที่ควรรู้สำหรับนักเทรดในระดับมือโปร
เส้นทางสู่การวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างมีประสิทธิภาพนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่รูปแบบ Cup and Handle ทั่วไปเท่านั้น นักเทรดระดับมือโปรควรจะรู้ไว้ด้วยว่ามันยังมีรูปแบบที่แตกต่างออกไปอีกด้วย
Inverted Cup and Handle
รูปแบบ Cup and Handle ปกตินั้นเป็นรูปแบบขาขึ้นต่อเนื่อง และรูปแบบ Inverted ของมันนั้นเป็นรูปแบบขาลง มันจะมีรูปร่างลักษณะที่เหมือนถ้วยคว่ำที่มีช่องทางขาขึ้น หรือ Wedge เป็นด้ามจับ ในกรณีส่วนใหญ่ ซึ่งก็เหมือนรูปแบบ Cup and Handle ในมุมกลับ การ Breakdown แนวรับลงไป ก็จะทำให้มันกลายเป็นรูปแบบขาลงต่อเนื่อง
การผสานรวมรูปแบบ Cup and Handle เข้ากับเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
เราได้พูดถึงอินดิเคเตอร์บางตัวที่สามารถเสริมข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของราคาและระดับราคาให้กับรูปแบบ Cup and Handle ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถเลือกใช้งานอินดิเคเตอร์อื่นๆ เพิ่มเติมได้ด้วย เช่น:
Trendlines
ถึงแม้ว่ารูปแบบ Cup and Handle เป็นสิ่งที่ค่อนข้างแตกต่างออกไป แต่คุณสามารถทำใช้เส้นแนวโน้มของกราฟเพื่อหาระดับที่สำคัญอื่นๆ ภายในช่วงกรอบการซื้อขายได้ ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถเข้าซื้อกลางทางได้แม้ว่าคุณจะราคาที่เพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุด
Bollinger Bands
ตลาดคริปโตและตลาดหุ้นต่างก็มีความผันผวน อย่างไรก็ตาม นักเทรดมือโปรสามารถใช้ Bollinger Bands และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเพื่อประเมินความผันผวนและความเป็นไปได้ในการ Breakout จากกราฟที่เฉพาะเจาะจงได้
Fibonacci Retracements
นักเทรดมือโปรสามารถใช้ Fib Level ในช่วงต้นเพื่อกำหนดจุด Stop loss ในระดับที่เฉพาะเจาะจงได้ วิธีการนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง หากคุณต้องการตรวจสอบว่าด้ามจับจะสามารถก่อตัวขึ้นได้ที่ไหนโดยไม่ทำให้เทรนด์ขาขึ้นกลายเป็นโมฆะ
อินดิเคเตอร์เหล่านี้จะช่วยให้การวิเคราะห์รูปแบบ Cup และ Handle มีความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ผู้ชนะจะได้รับถ้วย (และด้ามจับเช่นกัน)
รูปแบบ Cup and Handle สามารถเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ส่งคุณไปสู่ชัยชนะได้ มันเป็นรูปแบบที่อ้างอิงตามหลักจิตวิทยาที่กำหนดไว้เป็นอย่างดี, ไม่ครอบงำผู้ใช้งาน, และมาพร้อมกับจุดเข้าออกที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจน ถึงกระนั้น การใช้งานมันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการตีความอย่างมีอคติ, โอกาสการเกิด Breakout หลอก, และการพึ่งพาแง่มุมอื่นๆ ในวงกว้างมากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม เราสามารถพูดได้ว่ารูปแบบ Cup and Handle นั้นสามารถทำงานร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น MA, RSI, MACD, Bollinger Bands, และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้มันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในคลังแสงของนักเทรด
คำถามที่พบบ่อย
รูปแบบ Cup and Handle เป็นรูปแบบขาขึ้นใช่หรือไม่?
รูปแบบ Cup and Handle บ่งบอกอะไรได้บ้าง?
รูปแบบ Cup and Handle จะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
รูปแบบ Cup and Handle เป็นรูปแบบขาขึ้นหรือขาลง?
รูปแบบขาขึ้นรูปแบบไหนดีที่สุด?
รูปแบบ Cup and Handle จะเป็นขาลงได้หรือไม่?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์