การเปรียบเทียบระหว่าง Dogecoin vs. Bitcoin นั้นอาจจะดูแปลกไปบ้างสำหรับการเทียบกันในบางจุด สุดท้ายแล้ว Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลตัวแรกของโลก ก็ได้เริ่มต้นทำภารกิจที่จะท้าทายภาคส่วนทางการเงินจากทั่วทุกมุมโลก วัตถุประสงค์พื้นฐานของมันคือการใช้พลังการกระจายอำนาจของมันเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจโลกเป็นอิสระจากการร่วมมือกันของระบบธนาคารแบบดั้งเดิมที่ทรงพลังจนเกินไป ในทางกลับกัน Dogecoin เป็นเพียงเหรียญมีมซึ่งเริ่มขึ้นมาจากการเป็นเรื่องตลกเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม Dogecoin ได้หลุดจากสถานะ “ก็แค่เหรียญมีมอีกเหรียญ” มาได้และได้กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีศักยภาพอย่างจริงจัง จากการมันได้รับความสนใจจากหลายๆ คนซึ่งรวมไปถึงมหาเศรษฐีชื่อดังอย่าง Elon Musk นอกจากนี้ มันทำกำไรให้กับนักลงทุนได้เช่นเดียวกับ Bitcoin ดังนั้น การเปรียบเทียบระหว่างทั้งเหรียญทั้ง 2 ในทั้งทางด้านเทคนิคและด้านเศรษฐกิจก็คงจะเป็นเรื่องปกติ
Bitcoin (BTC) คืออะไร?
- ค่าธรรมเนียมเป็นศูนย์ในการซื้อขายแบบสปอต: Bybit | MEXC
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเปิดและปิดการซื้อขาย: eToro
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก: OKX | Bybit
ก่อนที่เราจะเริ่มการเปรียบเทียบระหว่าง Dogecoin กับ Bitcoin ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่าสินทรัพย์ทั้ง 2 นี้คืออะไร
อย่างที่คุณทราบอยู่แล้วว่า Bitcoin (BTC) ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 โดยผู้สร้างที่ไม่เปิดเผยตัวตนและใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto จนถึงวันนี้ ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้ว่าใครคือบุคคลหรือกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังนามแฝงดังกล่าว — ถึงแม้ว่าจะมีการคาดเดาอยู่กันบ้างก็ตาม
แก่นแท้ของ Bitcoin นั้นสร้างขึ้นจากแนวคิดที่เรียบง่าย มันต้องการเป็นเงินดิจิทัลหรือสินทรัพย์แบบกระจายอำนาจที่สามารถส่งหรือรับแบบ Peer-to-Peer (p2p) ทางอินเทอร์เน็ตได้ และโดยการ “กระจายอำนาจ” หมายความว่ามันจะเป็นอิสระจากบุคคลที่ 3 ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางและรัฐบาลต่างๆ
Bitcoin นั้นไม่เหมือนอะไรที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้แต่บริการชำระเงินดิจิทัลอย่าง PayPal หรือ Venmo นั้นก็ยังต้องขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบเดิมๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม คุณลักษณะที่สำคัญของ Bitcoin นั้นมีดังต่อไปนี้
คุณลักษณะที่สำคัญของ Bitcoin
- ธุรกรรมแต่ละรายการที่เกี่ยวข้องกับ BTC จะถูกบันทึกและตรวจสอบบน Bitcoin Blockchain
- บล็อกเชนนั้นคล้ายกับบัญชีแยกประเภทของธนาคาร หรือก็คือ ประวัติการเงินเข้าออกของลูกค้า ฯลฯ Bitcoin Blockchain ยังบันทึกทุกการเปลี่ยนแปลงถูกทำขึ้นโดย BTC ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ Blockchain เป็นแบบดิจิทัลและกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่ามันจะการกระจายไปทั่วทั้งเครือข่ายและผู้เข้าร่วมทั้งหมดในเครือข่ายจะร่วมกันควบคุมมัน (แทนที่จะเป็นบริษัท, รัฐบาล, หรือนิติบุคคลใดๆ) นั่นทำให้มันแทบจะปลอดภัยต่อความพยายามใดๆ ที่จะควบคุม จัดการ หรือเข้าควบคุมเครือข่ายทั้งหมด
- เนื่องจาก Bitcoin มีการกระจายอำนาจ คนสองคนไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน ก็จะสามารถส่ง BTC ให้กันและกันได้โดยตรงโดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับธนาคารหรือสถาบันการเงินใดๆ
- อุปทานทั้งหมดของ Bitcoin ถูกจำกัดไว้ที่ 21 ล้าน ซึ่งทำให้มันเป็นสินทรัพย์ที่มีความฝืดเคืองโดยเนื้อแท้
- คุณไม่จำเป็นต้องซื้อจำนวนเต็มของ Bitcoin เพื่อเพิ่มสินทรัพย์ลงในพอร์ตของคุณ คุณสามารถซื้อเพียงเศษเสี้ยวของหนึ่งของมันก็ได้
Dogecoin (DOGE) คืออะไร?
Dogecoin เปิดตัวในปี 2013 โดยเป็นเรื่องขำๆ ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Billy Marcus และ Jackson Palmer พวกเขาเป็นเพื่อนบนโลกออนไลน์ที่พบกันใน Reddit แต่ไม่เคยพบหน้ากัน
Marcus และ Palmer ผสมผสานเทรนด์ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 2 อย่างในปี 2013 นั่นคือ Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลที่ยังใหม่แต่มีแนวโน้มที่มูลค่าจะเพิ่มสูงขึ้น และมีมยอดนิยมอย่าง “Doge” ซึ่งเป็นมีมรูปสุนัขพันธ์ Shiba Inu อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าประหลาดใจที่ DOGE ได้รับความนิยมแทบจะในทันทีในหมู่สาวก Crypto และนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก
อันที่จริงแล้ว เว็บไซต์ของพวกเขา (www.dogecoin.com) ใช้เวลาน้อยกว่า 1 เดือนในการมีผู้เข้าชมรวมถึง 1 ล้านครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะเริ่มต้นโดยเป็นเพียงแค่เรื่องขำขัน แต่ DOGE เป็นสกุลเงินดิจิทัลเต็มรูปแบบที่มีระบบบล็อกเชนและระบบขุดเป็นของตัวเอง
ความสำเร็จส่วนใหญ่ของ DOGE นั้นมาจากชุมชน Reddit ที่มีความกระตือรือร้นสูง Subreddit ของ Dogecoin เต็มไปด้วยสมาชิกที่จะส่ง DOGE ไปมาเพื่อให้ปริมาณธุรกรรมเพิ่มสูงขึ้น พวกเขายังแชร์และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับ DOGE ในขณะที่สนับสนุนเพื่อนๆ สาวก Crypto รายอื่นๆ ให้เข้าร่วมชุมชน DOGE
นอกจากนี้ ตอนเวลาที่เหรียญถือกำเนิดขึ้นมานั้น DOGE มีราคาเพียงเศษสตางค์เท่านั้น ราคาที่ค่อนข้างต่ำของเหรียญ บวกกับความอุดมสมบูรณ์ของเหรียญ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการยอมรับอีกด้วย
สิ่งใดที่ทำให้ DOGE มีมูลค่า?
มูลค่าของสินทรัพย์ทั้งหมด — ทั้งในแบบดิจิทัลหรือทั่วไป — ถูกกำหนดโดยการเปลี่ยนแปลงของตลาด ซึ่ง DOGE ไม่ได้เป็นข้อยกเว้น มูลค่าของมันขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม แตกต่างจาก Bitcoin ซึ่งออกแบบมาให้เป็นทรัพย์สินที่มีความฝืดเคืองอันมีสาเหตุมาจากอุปทานที่จำกัด DOGE ไม่มีข้อจำกัดดังกล่าว ดังนั้น อุปสงค์ของมันจึงต้องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษา (และขยาย) มูลค่าของมัน แม้ว่าในอดีตราคา DOGE จะติดอยู่ที่เศษสตางค์ แต่พัฒนาการที่แท้จริงเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2021 เมื่อราคาของมันพุ่งขึ้นประมาณ 7,000%
เรื่องที่โดดเด่นยิ่งกว่านั้นก็คือนักลงทุนรายย่อยเพียงอย่างเดียวเป็นผู้ที่ทำให้มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากหลังจากที่ Elon Musk บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเริ่มที่จะแสดงความชื่นชมต่อ Dogecoin
ตอนนี้ เรามีข้อมูลพื้นฐานทั้งหมดแล้ว เรามาเจาะลึกความคล้ายคลึงกันระหว่างเหรียญทั้ง 2 ตัวนี้อย่างรวดเร็วกันดีกว่า
ความคล้ายคลึงกันระหว่าง Dogecoin และ Bitcoin
พัฒนาการแรกของ Dogecoin นั้นมาจากซอร์สโค้ดที่คัดลอกมาเป็นจำนวนมากจากส่วนหลักของ Bitcoin, Litecoin และ Lucky Coin
พูดให้ถูกต้องยิ่งขึ้นก็คือ Dogecoin เป็น Fork ของ Lucky Coin ซึ่งเป็น Fork ของ Litecoin ซึ่งก็เป็น Fork ของ Bitcoin อีกที ดังนั้น คุณสามารถพูดได้ว่าซอร์สโค้ดของ Dogecoin มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากกับ Bitcoin ดังนั้น สกุลเงินดิจิทัลทั้ง 2 ตัวนี้มีหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน
เหรียญทั้ง 2 ตัวนี้ใช้กลไกฉันทามติ Proof-of-Work (PoW) พูดง่ายๆ ก็คือ PoW เป็นรูปแบบหนึ่งของการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม การเพิ่มบล็อกธุรกรรมใหม่ลงในบล็อกเชน และการขุดเหรียญใหม่ คำว่า “Work” ใน PoW หมายถึงงานในการสร้างแฮช (หรือสตริงอักขระยาว) ที่ตรงกับแฮชเป้าหมายสำหรับบล็อกปัจจุบัน คนขุดแร่ที่พบแฮชนี้เป็นคนแรกจะได้รับสิทธิ์ในการเพิ่มบล็อกนั้นในบล็อกเชนและรับรางวัลบล็อก
ทั้ง Bitcoin และ Dogecoin สามารถใช้งานได้ใน 2 กรณี — เพื่อทำธุรกรรมที่มีมูลค่าและใช้เป็นที่กักเก็บมูลค่า กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณสามารถใช้ทั้ง 2 เหรียญเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าที่เปิดรับ BTC และ DOGE หรือคุณสามารถลงทุนในพวกมันและถือไว้เพื่อทำกำไรเมื่อมูลค่าของมันสูงขึ้นได้
ความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง Dogecoin และ Bitcoin
ความแตกต่างหลักๆ ระหว่างเหรียญทั้ง 2 ตัวได้แก่ :
Dogecoin vs. Bitcoin: วัตถุประสงค์ของเหรียญทั้ง 2 ตัว
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ วัตถุประสงค์พื้นฐานของสินทรัพย์ทั้ง 2 นั้นค่อนข้างแตกต่างกัน ในขณะที่ Bitcoin มุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบในโลกแห่งความเป็นจริงโดยการทำให้ภาคส่วนทางการเงินทั่วโลกเป็นไปอย่างยุติธรรม โปร่งใส ครอบคลุม และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น Dogecoin ที่เปิดตัวขึ้นมานั้นเป็นเพียงโปรเจกต์ที่ทำขึ้นสนุกๆ เท่านั้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า DOGE มีพัฒนาการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและตอนนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมตามความนิยมและมูลค่าตามราคาตลาด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากธรรมชาติของแหล่งกำเนิดของมัน มันยังห่างไกลที่จะเป็น “กระแสหลัก” เช่นเดียวกับ Bitcoin หรือ Ethereum อยู่พอสมควร ตัวอย่างเช่น หากพิจารณาจากตัวเลขแล้ว นักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่ยังคงชอบลงทุนใน Bitcoin มากกว่าที่จะลงทุนในเหรียญมีมอย่าง DOGE
Dogecoin vs. Bitcoin: มูลค่าตลาด
ในหัวข้อนี้ มันไม่สามารถเรียกว่าเป็นการแข่งขันได้เลย Bitcoin นั้นนำหน้า DOGE ไปไกลมากๆ ในแง่ของมูลค่าตลาด
ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2022 BTC มีมูลค่าตลาดประมาณ 3.87 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ามูลค่าตลาดของ DOGE ที่ 8.5 พันล้านดอลลาร์อยู่ (ประมาณ) 450 เท่า
ช่องว่างระหว่างทั้ง 2 เหรียญนั้นยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก่อนการบูมในช่วงต้นปี 2021 เมื่อมันเริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านั้น DOGE ไม่ได้แตะระดับ 1 พันล้านดอลลาร์ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม DOGE นั้นมีขนาดที่เล็กกว่า ซึ่งหมายความว่า มันมีพื้นที่ในการเติบโตมากกว่า และเป็นไปได้ว่าช่องว่างระหว่างทั้ง 2 จะเล็กลงเมื่อเวลาผ่านไป
Dogecoin vs. Bitcoin: ระยะเวลาในการทำธุรกรรม
ระยะเวลาในการทำธุรกรรมเป็นหนึ่งสิ่งที่ DOGE เหนือกว่า BTC มาก เวลาประมวลผลธุรกรรมโดยเฉลี่ยในเครือข่าย Dogecoin อยู่ที่ประมาณ 1 นาที ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ เวลาเฉลี่ยในการทำธุรกรรมโดย Bitcoin Network อาจจะสูงถึง 10 นาที และบางครั้งก็อาจจะยืดได้ถึงหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น
นอกจากนี้ Bitcoin Network ยังได้รับความนิยมมากกว่าเครือข่ายอื่นๆ อีกด้วย มันจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาความแออัดของเครือข่ายบ่อยครั้ง
Dogecoin vs. Bitcoin: อุปทาน
ความเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานของเหรียญทั้ง 2 นั้นแตกต่างกันมากจากมูลค่าตลาดหรือเวลาการทำธุรกรรม
Bitcoin เป็นสินทรัพย์ฝืดเคืองโดยพื้นฐาน ซึ่งหมายความว่าอุปทานของมันจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ด้วยอุปทานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อุปสงค์ของสินทรัพย์ควรจะเพิ่มขึ้นในทางทฤษฎี ซึ่งจะเป็นการปูทางให้ราคาของมันพุ่งสูงขึ้น
Bitcoin ทั้งหมดจะมีเพียงแค่ 21 ล้าน BTC ซึ่งหมุนเวียนอยู่ในระบบราวๆ 19.1 ล้านเท่านั้น อุปทานของ BTC ใหม่ (รางวัลบล็อก) จะลดลง 50% ทุก ๆ 4 ปีผ่าน “เหตุการณ์” ที่รู้จักกันในชื่อ “Halving”
ในขณะเดียวกัน DOGE เป็นสินทรัพย์ที่มีความเฟ้อเนื่องจากอุปทานของมันที่ไม่มีที่สิ้นสุด (ในทางทฤษฎี)
Dogecoin vs. Bitcoin: การ Halving
การ Halving (ลดลงครึ่งหนึ่ง) ของ Bitcoin จะเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี หลังจากนั้น รางวัลสำหรับการขุด BTC จะลดลงครึ่งหนึ่ง จุดประสงค์ของการลดลงครึ่งนึงก็คือการลดอุปทานใหม่ของเหรียญในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไป จนกว่า BTC สุดท้ายที่เข้าสู่การหมุนเวียนจะถูกขุดขึ้นในปี 2140
การ Halving ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2020 หลังจากนั้น รางวัลบล็อกก็ลดลงเหลือ 6.25 BTC (จาก 12.5 BTC) การ Halving ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในปี 2016 และ 2012 ซึ่งแต่ละครั้งตามมาด้วยราคา BTC ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในทางตรงกันข้าม การ Halving ของ Dogecoin Blockchain หยุดลงไปนานแล้ว ส่งผลให้นักขุดยังคงได้รับ 10,000 DOGE ต่อบล็อกและจะยังคงได้รับมากเท่าเดิมตลอดไป
หากคุณต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ Halving คุณสามารถเข้าไปอ่านบทความของ BeInCrypto ที่เขียนเกี่ยวกับการ Halving ของ Bitcoin ได้
Dogecoin vs. Bitcoin: การเข้ารหัส
กลไกฉันทามติ Proof-of-Work ใน Bitcoin Network นั้นเป็นไปตามมาตรฐาน SHA-256 สำหรับผู้ที่อยู่นอกวงการ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSA) ได้สร้างมาตรฐาน SHA-256 ในปี 2001 นับตั้งแต่นั้นมา มันก็นับเป็นวิธีการเข้ารหัสที่ล้ำหน้าที่สุด
ในขณะเดียวกัน Dogecoin ใช้ Scrypt ซึ่งเป็นมาตรฐานการเข้ารหัสเดียวกับที่คุณจะพบใน Litecoin Network แม้ว่า Scrypt จะไม่ล้ำสมัยเท่า SHA-256 แต่ก็ชดเชยข้อบกพร่องนั้นด้วยการทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปเข้าถึงการขุดได้ง่ายขึ้น
นี่คือเหตุผลที่การขุด Dogecoin ทำได้ง่ายกว่าและถูกกว่าการขุด Bitcoin
Dogecoin vs. Bitcoin: ความปลอดภัย
ก่อนที่จะกลายเป็นเจ้าใหญ่ในตลาด Dogecoin มีช่วงเวลาที่ค่อนข้างเงียบจนเหมือนว่าพัฒนาการของมันเกือบที่จะหยุดนิ่ง อันที่จริง การอัพเดตจากนักพัฒนาระหว่างปี 2015 ถึง 2020 ทั้งหมดเป็นศูนย์ (0)
อย่างไรก็ตาม ภายในปี 2022 ชุมชน DOGE เริ่มได้เห็นพัฒนาการมากมาย ด้วยเหตุนี้ การอัพเดตจึงมีมาอย่างสม่ำเสมอมากกว่าที่เคยเป็นมา แม้ว่ามันจะใช้งาน Codebase ของ Bitcoin เป็นจำนวนมาก แต่การรักษาความปลอดภัยในเครือข่าย Dogecoin นั้นไม่แน่นหนาเท่าใน Bitcoin
Dogecoin Blockchain มีอัตราแฮชที่ 540 TeraHash ต่อวินาที (TH/s) ซึ่งเท่ากับ 540 ล้านล้านแฮชต่อวินาที ตัวเลขที่สอดคล้องกันสำหรับ Blockchain ของ Bitcoin คือ 238 ExaHash ต่อวินาที (EX/s) หรือ 238 ล้านล้านล้านแฮชต่อวินาที
นี่เป็นความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่าง Hash Rate ในทั้ง 2 เครือข่าย ซึ่งหมายความว่าสามารถทำการโจมตีแบบ 51% ต่อ Dogecoin ได้ง่ายกว่ามาก
สำหรับผู้ที่อยู่นอกวงการ การโจมตีแบบ 51% หมายถึงสถานการณ์ที่ผู้ใช้งานรายเดียวหรือตัวตนใดๆ เข้าควบคุมเครือข่ายบล็อกเชนด้วยการเป็นเจ้าของ Hashing Power โดยส่วนใหญ่ เมื่อถึงจุดๆ นั้น ผู้โจมตีจะกลายเป็นผู้ควบคุมเครือข่ายไปโดยปริยาย
การเปรียบเทียบโดยสรุป
Dogecoin หรือ Bitcoin: ตัวไหนดีกว่าในการลงทุน?
อย่างที่คุณได้เห็น ทั้ง DOGE และ BTC ต่างมีข้อดีและข้อเสีย แม้ว่า DOGE จะใช้เวลาและค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมน้อยกว่ามาก แต่ Bitcoin ก็นำเสนอความปลอดภัยที่เหนือกว่าและมีประวัติที่น่าเชื่อถือมากกว่าในฐานะตราสารการลงทุน
ปัจจุบันในเดือนตุลาคม 2022 สกุลเงินดิจิทัลทั้ง 2 ตัวนี้มีศักยภาพในการเติบโตเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ล่าสุดชี้ให้เห็นว่าราคา DOGE อาจจะเพิ่มขึ้น 800% ภายในปี 2025 การคาดการณ์ต่อ BTC ในระยะยาวที่คล้ายคลึงกันก็มีมากมายเช่นกัน
จากทั้งหมดที่กล่าวมา เราไม่สามารถบอกได้ว่าคุณสามารถกำหนดกลยุทธ์การลงทุนของคุณด้วยการคาดการณ์เหล่านี้เพียงอย่างเดียวได้ สกุลเงินดิจิทัลทั้ง 2 ตัวนี้มีประวัติความผันผวนสูง ดังนั้น คุณควรที่จะศึกษาข้อมูลด้วยตัวคุณเองก่อนที่จะทำการลงทุนในเหรียญตัวใดตัวหนึ่ง
คำถามที่พบบ่อย
Bitcoin หรือ Dogecoin ดีกว่า?
Dogecoin ปลอดภัยกว่า Bitcoin หรือไม่?
Dogecoin มีประสิทธิภาพมากกว่า Bitcoin หรือไม่?
Dogecoin และ Bitcoin เหมือนกันหรือไม่?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์
