ทั้ง Dogecoin และ Shiba Inu ต่างก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากเรื่องตลกขบขัน แต่ในปัจจุบัน พวกมันได้กลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่มีความสำคัญในโลกสกุลเงินดิจิทัล อย่างไรก็ตาม เหรียญคริปโตที่มาในธีมของสุนัขเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ที่นี่ เราจะมาเปรียบเทียบระหว่าง เหรียญ Dogecoin (DOGE) กับ Shiba Inu (SHIB) กัน!
ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมา, ความสามารถ, คอมมูนิตี้, และศักยภาพในระยะยาวของ Memecoin เหล่านี้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร ความนิยมของ Dogecoin และการมาเป็นรายแรกจะทำให้มันได้เปรียบหรือไม่? หรือผู้มาใหม่อย่าง Shiba Inu จะมีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคตมากกว่ากันแน่? เราจะมาแจกแจงในเรื่องความเหมือนและความแตกต่างในหัวข้อที่สำคัญๆ — ตั้งแต่เรื่องอุปทานไปจนถึงประโยชน์การใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริงและอื่นๆ อีกมากมาย — เพื่อดูว่าโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนอยู่ที่ใดกันแน่
แนวทางในการเลือก
ตลอดช่วงระยะเวลา 6 เดือน เราได้ทำการตรวจสอบและประเมินแพลตฟอร์มหลายๆ แห่งเพื่อค้นหาแพลตฟอร์มชั้นนำที่สามารถซื้อ Shiba Inu ได้ การประเมินของเราจะอิงจากปัจจัยต่างๆ มากมาย เช่น ความปลอดภัย, ความคุ้มค่า, สภาพคล่อง, ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน, การปฏิบัติตามกฎระเบียบ, โครงสร้างค่าธรรมเนียม, และความหลากหลายของสกุลเงิน จากการตรวจสอบของเรา เราพบว่า CEX 3 แห่งนี้คือแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อเหรียญ SHIB: Binance, OKX, Coinbase
นอกจากนี้ เรายังได้มีการตรวจสอบแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆ สำหรับการซื้อขาย DOGE ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน เราได้มีการพิจารณาจากฟีเจอร์หลักๆ เช่น การผสานรวม NFT, โปรโตคอลความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง, ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน, ชื่อเสียงในอุตสาหกรรม, สภาพคล่องของตลาด และฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย
เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง โดยการให้อันดับที่สูงขึ้นแก่แพลตฟอร์มที่ไม่เคยมีประวัติการถูกแฮ็กหรือการมีข้อมูลรั่วไหลใดๆ การปฏิบัติตามกรอบทางกฎหมายอย่างถูกต้อง และการจัดเก็บทรัพย์สินของผู้ใช้งานอย่างปลอดภัย คือปัจจัยสำคัญในการประเมินของเรา
สำหรับ Shiba Inu:
1. Binance เป็นผู้นำในด้านปริมาณการซื้อขายและสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ ให้สภาพคล่องที่ไม่มีใครเทียบได้ และมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึง อนุพันธ์ และ NFT การมีเครือข่ายบล็อกเชนเป็นของตนเองทำให้การทำธุรกรรมภายในมีความราบรื่นยิ่งขึ้น
– ความลึกของตลาดที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งช่วยดึงดูดเทรดเดอร์มากมาย
– รางวัล Staking และการขุดที่มีมูลค่ามากกว่า
– บล็อกเชนของตนเองช่วยให้ถ่ายโอนมูลค่าได้อย่างรวดเร็วและราคาถูก
1. OKX โดดเด่นด้วยการโฟกัสที่ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย รองรับสินทรัพย์ที่หลากหลาย และมีสภาพคล่องที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ นักพัฒนายังได้รับประโยชน์มากมายจากการเข้าถึง API แบบเปิด
– รางวัลสำหรับผู้ใช้งานที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเข้าร่วม
– เปิดให้บริการทั่วโลก ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น
– APIs ที่ช่วยให้สามารถทำการผสานรวมแบบที่กำหนดเองได้
สำหรับ SHIB และ DOGE:
2. Coinbase คือกระดานเทรดที่ได้รับความนิยมและมีความน่าเชื่อถืออย่างมากในสหรัฐอเมริกา มีความโดดเด่นในด้านความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในด้านแหล่งข้อมูลการศึกษาและส่งเสริมให้ผู้ใช้งานมีโอกาสในการสร้างรายได้ แพลตฟอร์มนี้โดดเด่นด้วยประวัติเรื่องความปลอดภัยมาอย่างยาวนานและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด แพลตฟอร์มนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รางวัลการเรียนรู้ ความสามารถในการ Staking ที่หลากหลาย และเครื่องมือช่วยในการซื้อขายขั้นสูง นอกจากนี้ การเป็นสมาชิก Coinbase One ระดับพรีเมียมจะช่วยลดค่าธรรมเนียมและมอบสิทธิพิเศษต่างๆ
– ประวัติการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินต่างๆ
– สิทธิพิเศษของสมาชิกที่มอบส่วนลดค่าธรรมเนียมให้เพิ่มเติม
– การลิสต์เหรียญแบบสาธารณะถือเป็นความรับผิดชอบของผู้นำ
สำหรับ DOGE:
OKX ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นอันดับแรก ด้วยการผสานรวมคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความสามารถในการเข้าถึง NFT, API ของนักพัฒนา และบล็อกเชนของตัวเองอย่างง่ายดาย เพื่อช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกรรม นอกจากนี้ มาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งผสมผสานการป้องกันออนไลน์และออฟไลน์ เช่น โปรแกรม Risk Shield และ Insurance Fund ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้เป็นพิเศษ
YouHodler เปิดโอกาสให้คุณสร้างรายได้จากสกุลเงินประเภทต่างๆ ทั้งสกุลเงินเฟียตและสกุลเงินดิจิทัล ขณะเดียวกันก็ยึดมั่นในกฎระเบียบของสหภาพยุโรปและสวิตเซอร์แลนด์ สินทรัพย์ของผู้ใช้งานได้รับการรักษาความปลอดภัยโดยการจัดเก็บผ่าน Ledger Vault และกรมธรรม์ประกันภัยที่มีความครอบคลุม ผู้ใช้งานยังได้รับประโยชน์จากโปรโตคอลการตรวจสอบความถูกต้อง 3 ระดับเพื่อเสริมความปลอดภัยของบัญชีให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการตรวจสอบของ BeInCrypto ได้ที่นี่
- แนวทางในการเลือก
- ซื้อ Dogecoin ได้ที่ไหนบ้าง?
- ซื้อ Shiba Inu ได้ที่ไหนบ้าง?
- Dogecoin คืออะไร?
- Shiba Inu คืออะไร?
- Dogecoin vs. Shiba Inu: มูลค่าตลาดและประวัติของราคา
- Dogecoin vs. Shiba Inu: ความแตกต่างที่สำคัญ
- Dogecoin vs. Shiba Inu: ความคล้ายคลึง
- DOGE vs SHIB โดยสรุป
- Dogecoin vs. Shiba Inu: ตัวไหนน่าลงทุนกว่ากัน?
- คำถามที่พบบ่อย
ซื้อ Dogecoin ได้ที่ไหนบ้าง?
ซื้อ Dogecoin (DOGE) ได้ง่ายๆ ไม่กี่คลิกบนแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยสูง
YouHodler
ดีที่สุดสำหรับการขุด BTC ด้วยระบบคลาวด์ฟรีOKX
ดีที่สุดในเรื่องข้อเสนอ Mystery BoxCoinbase
ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ซื้อ Shiba Inu ได้ที่ไหนบ้าง?
ซื้อ Shiba Inu (SHIB) ได้ง่ายๆ ไม่กี่คลิกบนแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยสูง
Binance
มีชื่อเสียงในเรื่องสภาพคล่องที่สูงOKX
ดีที่สุดในเรื่องข้อเสนอ Mystery BoxCoinbase
ดีที่สุดสำหรับมือใหม่Dogecoin คืออะไร?
ในปี 2013 ชาย 2 คนที่เป็นเพื่อนกันบนโลกออนไลน์อย่าง Billy Marcus และ Jackson Palmer ซึ่งเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์เหมือนกัน ได้เปิดตัว Dogecoin ในฐานะเหรียญคริปโตที่สร้างขึ้นมาเป็นเรื่องขำๆ พวกเขาไม่เคยพบหน้ากัน และรู้จักกันผ่านการแชท Reddit เท่านั้น ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะผสมผสาน 2 เทรนด์ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2013 ซึ่งก็คือ Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และ มีม “Doge” สุนัขพันธ์ชิบะอินุยอดนิยมที่กลายเป็นไวรัล
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ผลงานที่มีแรงบันดาลใจมาจากมีมตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และดึงดูดเหล่าสาวกสกุลเงินดิจิทัลและนักลงทุนมาสู่คอมมูนิตี้อย่างต่อเนื่อง เว็บไซต์ Dogecoin.com มีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านครั้งภายในเดือนแรก ถึงแม้ว่ามันจะเริ่มจากการเป็นเรื่องขำๆ แต่ Dogecoin ก็ทำงานเป็นสกุลเงินดิจิทัลอย่างแท้จริงที่มาพร้อมกับบล็อกเชนและระบบนิเวศการขุดของตัวเอง
กลุ่ม Sub-Reddit ที่มีชีวิตชีวาและให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีช่วยให้ Dogecoin ประสบความสำเร็จได้ในช่วงแรก สมาชิกมักจะส่ง Dogecoin ให้กันและกันอย่างแข็งขันเพื่อเพิ่มปริมาณธุรกรรม และแบ่งปันข้อมูลต่างๆ เพื่อดึงดูดคนเข้าสู่คอมมูนิตี้มากขึ้น นอกจากนี้ ราคาที่ต่ำของ Dogecoin ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงมันได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่ามันจะเริ่มจากการเป็นเรื่องตลก แต่ Dogecoin ก็ได้กลายมาเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมอบบรรยากาศที่สนุกสนานและเป็นมิตรมากกว่าสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ ที่มีกลิ่นอายของความซับซ้อนมากกว่าอีกด้วย
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Dogecoin คือคอมมูนิตี้ที่มึความกระตือรือร้น พวกเขามีชื่อเสียงในด้านงานการกุศล, วัฒนธรรมการให้ทิป, และแคมเปญต่างๆ ในโลกโซเชียลมีเดีย Elon Musk ซีอีโอของ Tesla คือบุคคลที่ทำให้ Dogecoin ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น
Dogecoin แตกต่างจาก Bitcoin เนื่องจากมันมีอุปทานที่ไม่จำกัด เหรียญ DOGE ใหม่จะถูกสร้างขึ้น 5 พันล้านเหรียญทุกปี ทำให้มันเป็นสินทรัพย์ที่มีอัตราการออกเหรียญที่ค่อนข้างสูง
แม้ว่า Dogecoin จะไม่มีการอัพเดตใดๆ มากมายตั้งแต่ปี 2015 แต่สถานะที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในตลาดคริปโตก็แสดงให้เห็นว่า สกุลเงินที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมีมตัวนี้ยังคงส่งผลกระทบเป็นอย่างมากในตลาดการเงิน
ก่อนที่เราจะไปทำการเปรียบเทียบ Dogecoin กับ Shiba Inu เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า Dogecoin ทำงานอย่างไร
Dogecoin ทำงานอย่างไร?
เดิมที Dogecoin นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมากกว่า Bitcoin โดยใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work (PoW) โดยมี Scrypt เป็นอัลกอริทึมแฮช ซึ่ง Scrypt นั้นใช้ทรัพยากรน้อยกว่า SHA-256 ของ Bitcoin นั่นหมายความว่า มันจะช่วยให้กระบวนการขุดรวดเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น
ต่างจาก Bitcoin ซึ่งมีอุปทานที่จำกัด Dogecoin ได้รับการออกแบบให้มีอุปทานที่ไม่จำกัด เพื่อสนับสนุนให้เกิดการนำไปใช้งานมากกว่าที่จะเป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร การเพิ่ม Dogechain — ซึ่งเป็นเลเยอร์รอง — เข้ามาจะช่วยปรับปรุงระบบโดยการเพิ่มความสามารถให้กับ Smart Contract ทำให้ผู้คนสามารถสร้างแอปแบบกระจายอำนาจ (DApps) และมีส่วนร่วมในระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ได้ กล่าวโดยสรุปก็คือ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ Dogecoin มีประโยชน์มากกว่าการเป็นสื่อกลางสำหรับการทำธุรกรรมทั่วไป
นอกจากนี้ ความสามารถของ Dogechain ที่สามารถทำงานร่วมกับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ได้ช่วยให้มั่นใจได้ว่า นักพัฒนาจะสามารถพอร์ตแอปพลิเคชั่นจาก Ethereum มาได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้ระบบนิเวศของ Dogecoin มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์และประโยชน์หลักๆ ของ Dogecoin
- ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำ: เมื่อเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ Dogecoin มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่าเป็นอย่างมาก ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการธุรกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน
- ช่วงระยะเวลาในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว: Dogecoin ช่วยยืนยันการทำธุรกรรมอย่างรวดเร็ว ทำให้การประมวลผลและการชำระเงินเร็วยิ่งขึ้น
- การสนับสนุนจากคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง: Dogecoin ได้รับการสนับสนุนจากผู้คนมากมาย พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องการบริจาคเพื่อการกุศลและการมีส่วนร่วมทางโซเชียลมีเดีย สิ่งนี้ทำให้ Memecoin นี้เป็นที่นิยมและถูกนำไปใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
- อุปทานไม่จำกัด: ไม่เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่มีอุปทานที่จำกัด Dogecoin ไม่มีขีดจำกัดของอุปทาน ซึ่งหมายความว่า DOGE นั้นเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่าที่จะถือไว้เพื่อเป็นสินทรัพย์ในการเก็บรักษามูลค่า
- กลไกการขุด: Dogecoin ใช้อัลกอริธึม Proof-of-Work แต่มีพื้นฐานมาจากอัลกอริธึมแฮชที่เรียกว่า Scrypt ซึ่งช่วยให้การขุด Dogecoin รวดเร็วและประหยัดพลังงานมากกว่า Bitcoin ซึ่งใช้อัลกอริธึม SHA-256
- ทำงานร่วมกับ EVM ได้: Dogecoin สามารถผสานรวมกับระบบนิเวศ Ethereum ผ่าน Dogechain ได้ ซึ่งช่วยให้สามารถพอร์ต Smart Contract จาก Ethereum ที่มีอยู่ได้โดยไม่ต้องปรับแต่งใดๆ ช่วยเพิ่มอรรถประโยชน์ให้กับแอปพลิเคชั่นแบบกระจายอำนาจ
- ความสามารถในการทำงานข้ามเครือข่าย: Dogecoin ช่วยให้สามารถถ่ายโอนระหว่างเครือข่ายต่างๆได้อย่างง่ายดายด้วย Dogechain Bridge ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถ “ห่อ” Dogecoin เพื่อใช้งานบนเครือข่าย Dogechain และแกะมันออกเมื่อกลับสู่เครือข่าย Dogecoin ได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายไปยังบล็อกเชนต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ทำให้มีประโยชน์ใช้งานมากยิ่งขึ้น
คำวิจารณ์ที่มีต่อ Dogecoin
ดังที่เราทราบ Dogecoin มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจนก้าวข้ามต้นกำเนิดอันน่าตลกขบขันไปแล้ว ตอนนี้ มันมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เหรียญมีมตัวนี้ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับอุปทานที่ไร้ขีดจำกัด และความอ่อนไหวต่อสิ่งต่างๆ บนโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้ประโยชน์การใช้งานของมันถูกด้อยค่าลง
นักวิจารณ์กล่าวว่าโครงสร้างของ Altcoin นั้นเหมาะสมที่จะเป็นเหรียญมีมมากกว่าที่จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ยั่งยืน พวกเขายังเน้นย้ำด้วยว่า ระบบที่อุปทานขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ นั้นขัดแย้งกับความขาดแคลน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเหรียญกระแสหลักเช่น Bitcoin
สิ่งนี้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงว่า Dogecoin สามารถทำให้ตนเองกลายเป็นสกุลเงินที่มีเสถียรภาพได้หรือไม่ ถึงแม้ว่าจะมีอุปทานที่ไม่จำกัดและมีมูลค่าที่ผันผวนก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนแย้งว่ากลไกของอุปทานและแบรนด์ที่เป็นมิตรทำให้มันมีข้อได้เปรียบที่แตกต่างออกไป Dogecoin ให้การเข้าถึงที่ง่ายขึ้นต่อผู้ใช้งานทั่วไปที่อาจจะหวาดเกรงสกุลเงินดิจิทัลแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ พวกเขายังกล่าวถึง Dogechain ที่กำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ Dogecoin มีประโยชน์มากขึ้นในชีวิตประจำวัน
Shiba Inu คืออะไร?
Shiba Inu (SHIB) คือคู่แข่งคนสำคัญของ Dogecoin มันเปิดตัวในปี 2020 (หลังจาก DOGE เป็นเวลา 7 ปี) โดยมี Shytoshi Kusama เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว Kusama คือใคร แต่เขา/พวกเขาก็ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนโปรเจกต์มาได้เป็นอย่างดีนับตั้งแต่ช่วงเปิดตัว พวกเขาได้รับการสนับสนุนจาก ShibArmy ซึ่งเป็นกลุ่มนักพัฒนาและแฟนๆ ที่เชื่อมั่นในโปรเจกต์นี้จริงๆ
นอกเหนือจากแบรนด์ชิบะอินุและฟังก์ชั่นการทำงานของโทเค็นแล้ว นักพัฒนายังได้โฟกัสไปที่การสร้างระบบนิเวศทั้งหมดอีกด้วย ระบบนิเวศเหล่านี้รวมถึง:
- กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจซึ่งมีชื่อว่า ShibaSwap สำหรับการสวอปโทเค็น
- Shiboshi NFTs,
- แผนในการสร้างบล็อกเชนเลเยอร์ 2 ที่มีชื่อว่า Shibarium ก็อยู่ในระหว่างดำเนินการเช่นกัน
ความพยายามร่วมกันในการสร้างประโยชน์การใช้งานต่างๆ อย่างมีความหมายได้นำ Shiba Inu ไปสู่การมีจุดยืนในฐานะ “Dogecoin Killer”
Shiba Inu ทำงานอย่างไร?
หัวใจหลักของระบบนิเวศ Shiba Inu ก็คือ SHIB ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดั้งเดิมของเครือข่าย มันเป็นโทเค็น ERC-20 ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Ethereum ที่มีอุปทานเริ่มต้นที่มหาศาลที่ 1 พันล้านล้านโทเค็น อย่างไรก็ตาม ทีมงานที่ดูแลโปรเจกต์นี้ได้ล็อกอุปทานส่วนใหญ่เอาไว้ ซึ่งหมายความว่าอุปทานเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในการหมุนเวียน ซึ่งเป็นการทำเพื่อควบคุมและจัดการสภาพคล่อง นอกจากนี้ พวกเขายังเผาอุปทานที่เหลือจำนวนมากเพื่อเป็นการจำกัดจำนวนโทเค็นทั้งหมดในการหมุนเวียนอีกด้วย
นอกจาก SHIB แล้ว ในระบบนิเวศยังมีโทเค็นอยู่อีก 2 ตัว ได้แก่ — LEASH และ BONE ซึ่งมีบทบาทในระบบนิเวศที่แตกต่างกัน
LEASH มอบสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับสมาชิกผู้ภักดีในคอมมูนิตี้ ตัวอย่างเช่น การเข้าถึงการมิ้นต์ NFT แบบพิเศษ หรือ การเข้าถึงการขายที่ดินล่วงหน้าใน Shiba Inu Metaverse ที่กำลังจะมาถึง โทเค็น LEASH จะมีอยู่เพียง 107,646 โทเค็นเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน BONE ทำหน้าที่เป็นโทเค็นสำหรับการกำกับดูแล (Governance Token) และมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คอมมูนิตี้สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในระบบนิเวศได้ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว BONE มีอุปทานโดยรวมที่ค่อนข้างมาก ด้วยโทเค็นกว่า 250 ล้านโทเค็น สมาชิกในคอมมูนิตี้จะสามารถมีส่วนร่วมในระบบนิเวศได้มากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์และประโยชน์หลักๆ ของ Shiba Inu
- อัตราการเผาโทเค็นของ Shiba Inu เป็นแบบ Deflationary; กลไกการเผาโทเค็นของเครือข่ายจะลบส่วนหนึ่งของธุรกรรมแต่ละรายการอย่างถาวร สิ่งนี้จะค่อยๆ ลดปริมาณการหมุนเวียนลงเมื่อเวลาผ่านไป
- ระบบนิเวศของ Shiba Inu ตั้งอยู่บนหลักการของการให้ความสำคัญกับคอมมูนิตี้เป็นอันดับแรก จะไม่มีบุคคลหรืออำนาจแบบรวมศูนย์ใดๆ ที่จะควบคุมระบบนิเวศของพวกเขาได้
- นอกเหนือจากโทเค็น SHIB ที่เป็นโทเค็นเรือธงของระบบนิเวศแล้ว โปรเจกต์นี้ยังมีบล็อกเชนเลเยอร์ 2 ในชื่อ Shibarium, กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจในชื่อ ShibaSwap, คอลเล็กชั่น NFT ในชื่อ Shiboshi, และเมต้าเวิร์สของ Shiba Inu และเกมแนว Play-to-Earn ที่มีชื่อว่า Shiba Eternity
- ShibaSwap คือแพลตฟอร์มเทรดแบบกระจายอำนาจที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถสวอปสกุลเงินดิจิทัลประเภทต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย โดยทั่วไปแล้ว มันเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนนิยมใช้ในการซื้อขาย SHIB และ LEASH ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของเครือข่าย
- Shiba Inu Incubator ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีความสามารถเชิงสร้างสรรค์ในงานศิลปะทุกประเภท ไม่ใช่แค่ภาพวาดหรือภาพถ่ายแบบดั้งเดิมเท่านั้น
- Shiboshis เป็น NFT ที่สร้างขึ้นตามลำดับ 10,000 รายการบน Ethereum ด้วยการผสมผสานลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ Shiboshi แต่ละตัวมีคุณค่าและความหายากที่แตกต่างกันออกไป
คำวิจารณ์ที่มีต่อ Shiba Inu
เช่นเดียวกับ DOGE Shiba Inu เองก็ต้องเผชิญหน้ากับคำวิพากษ์วิจารณ์มากมายเนื่องจากความเป็น Memecoin หลายๆ คนได้ให้ความเห็นว่า ต้นกำเนิดในฐานะ Memecoin ของมันนั้นทำให้มันไม่เหมาะสำหรับการลงทุนอย่างจริงจัง นักวิจารณ์ยังชี้ให้เห็นว่าอุปทานของมันมีอยู่เป็นจำนวนมาก และมูลค่าของมันก็ขึ้นอยู่กับกระแสบนโลกโซเชี่ยลมีเดียและการโปรโมทของเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ มากกว่าที่จะเป็นประโยชน์การใช้งานหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้มันถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับ Dogecoin
นอกจากนี้ การที่โปรเจกต์ต้องพึ่งพาสิ่งต่างๆ ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยคอมมูนิตี้ ถึงแม้ว่าอาจจะดูสร้างสรรค์ แต่มันก็ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนและวิธีการจัดการโปรเจกต์ในระยะยาว
Dogecoin vs. Shiba Inu: มูลค่าตลาดและประวัติของราคา
ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2024 Dogecoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) มากที่สุดเป็นอันดับที่ 10 และ Shiba Inu อยู่ในอันดับที่ 18 มูลค่าตลาดของ Dogecoin อยู่ที่ 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่ามูลค่าตลาดของ SHIB ที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์ เกือบ 2 เท่า
ในแง่มุมของประวัติราคา ทั้ง Dogecoin และ Shiba Inu ต่างก็เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา ทั้ง 2 ได้แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างของความผันผวนของราคาซึ่งเป็นธรรมชาติของสกุลเงินดิจิทัล
Dogecoin มีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเพียงแค่เศษส่วนหนึ่งของเพนนีไปสู่จุดสูงสุดที่น่าประทับใจที่ 0.7376 ดอลลาร์ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 ลองเข้าไปดูที่บทความการคาดการณ์ราคา DOGE ของเราเพื่อดูว่าราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางใดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ในทำนองเดียวกัน Shiba Inu ก็พุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในเดือนตุลาคม 2021 ที่ 0.00008845 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน ราคาของมันอยู่ที่ราวๆ 0.000009075 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วเกือบ 30% แล้วราคาของ SHIB จะเป็นอย่างไรต่อไป? บทความการคาดการณ์ราคา SHIB ของเราระบุว่าราคาสูงสุดในปี 2024 นั้นจะอยู่ที่ 0.00002406 ดอลลาร์
สินทรัพย์ทั้ง 2 ไปถึงจุดสูงสุดได้ด้วยการสนับสนุนจากคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเดินทางมาไกลกว่าการเป็นเหรียญมีมทั่วๆ ไปแล้ว แต่ราคาของมันก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะเกิดความผันผวนเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้ว Dogecoin จะซื้อขายอยู่ในราคาต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ ทำให้มันมีความเสี่ยงน้อยกว่าสินทรัพย์ที่มีราคาสูง (เช่น Bitcoin) ถึงแม้ว่าจะเกิดความผันผวนก็ตาม ในทำนองเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีความผันผวนหรือมีข้อถกเถียงเรื่องอุปทาน แต่ SHIB ก็ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของตลาด
Dogecoin vs. Shiba Inu: ความแตกต่างที่สำคัญ
- Dogecoin ใช้อัลกอริธึม Proof-of-Work บนบล็อกเชนของตัวเอง ในขณะที่ Shiba Inu ใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Ethereum เป็นโทเค็น ERC-20 ที่สร้างขึ้นผ่านระบบ Proof-of-Stake
- Dogecoin ไม่มีโทเค็นการกำกับดูแล ในขณะที่ Shiba Inu มี BONE ที่ช่วยให้ผู้ถือโทเค็นสามารถมีส่วนร่วมในการลงคะแนนเสียงและการตัดสินใจต่างๆ ที่มีต่อระบบนิเวศได้
- Dogecoin ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของคอมมูนิตี้และมีมคัลเจอร์ในโทเคโนมิคส์ของมัน ในขณะเดียวกัน Shiba Inu จะมอบสิทธิประโยชน์และโบนัสต่างๆ ให้แก่ผู้ที่ถือเหรียญของตน
- Dogecoin มีอุปทานไม่จำกัด ในทางกลับกัน Shiba Inu มีอุปทานแบบ Deflationary เริ่มต้นอยู่ที่ 1 พันล้านล้านโทเค็น เมื่อเวลาผ่านไป Shiba Inu ได้มีการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์บางอย่าง เช่น การล็อกและการเผาโทเค็น เป็นต้น
- Dogecoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลสำหรับการทำธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer เป็นหลัก ในทางกลับกัน Shiba Inu ใช้โทเค็นหลายตัวเพื่อสร้างระบบนิเวศทางการเงินแบบกระจายอำนาจ
Dogecoin vs. Shiba Inu: ความคล้ายคลึง
- โปรเจกต์ทั้ง 2 มีต้นกำเนิดมาจากการเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นมาจากมีม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากมีมสุนัข Shiba Inu เช่นเดียวกัน
- Shiba Inu และ Dogecoin ให้ความสำคัญกับคอมมูนิตี้เป็นอย่างมาก ซึ่งได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญในการโปรโมตและก่อให้เกิดการยอมรับต่อโปรเจกต์
- แม้ว่าจะมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นเรื่องตลกและมีมทางอินเทอร์เน็ต แต่สินทรัพย์ทั้ง 2 นี้ก็ตั้งเป้าที่จะทำให้เกิดประโยชน์การใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริง
- สกุลเงินดิจิทัลทั้ง 2 ตัวนี้มีความผันผวนของราคาที่คล้ายคลึงกัน การเปลี่ยนแปลงต่างๆ มักจะได้รับแรงผลักดันจากกระแสบนโลกโซเชียลมีเดียและบุคคลสำคัญอย่าง Elon Musk
- Shiba Inu และ Dogecoin มีราคาถูกกว่า Bitcoin เป็นอย่างมาก ทำให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์สามารถเริ่มลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น
- สินทรัพย์ทั้ง 2 ตัวนี้มักจะถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนของมัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนับสนุนสินทรัพย์เหล่านี้ได้โต้แย้งและแสดงให้เห็นถึงการยอมรับและพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นของพวกเขา
DOGE vs SHIB โดยสรุป
Dogecoin | Shiba Inu | |
---|---|---|
สร้างขึ้นในปี | 6 ธันวาคม 2013 | 1 สิงหาคม 2020 |
มูลค่าตลาด (ณ ช่วงเวลาที่เขียนบทความ) | 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ (โดยเฉลี่ย) | 5.3 พันล้านดอลลาร์ (โดยเฉลี่ย) |
เหรียญในการหมุนเวียน (ณ ช่วงเวลาที่เขียนบทความ) | 1.43 แสนล้านเหรียญ (โดยเฉลี่ย) | 590 ล้านล้านเหรียญ (โดยเฉลี่ย) |
อันดับ (อิงจากมูลค่าตลาด ณ ช่วงเวลาที่เขียนบทความ) | 10 | 18 |
เทคโนโลยี | Proof-of-Work (PoW) แบบ Scrypt | โทเค็น ERC-20 บน Ethereum (กำลังจะย้ายไปที่ Shibarium) |
อุปทานสูงสุด | ไม่จำกัด (บล็อกใหม่ถูกขุด 10,000 บล็อกทุกวัน) | 1 พันล้านล้านเหรียญ (ส่วนใหญ่ถูกล็อกหรือถูกเผา) |
ระยะเวลาในการทำธุรกรรมโดยเฉลี่ย | 1 นาที (โดยเฉลี่ย) | 13-15 วินาที (บน Ethereum, บน Shibarium เร็วกว่า) |
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม | ต่ำ | แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความแออัดของเครือข่าย Ethereum |
ความผันผวนของราคา | สูง | สูงมาก |
ความปลอดภัย | ค่อนข้างปลอดภัย แต่เสี่ยงต่อ “การโจมตี 51%” | 540 TH/s |
การขุด | สามารถขุดได้ | ไม่สามารถขุดได้ |
Dogecoin vs. Shiba Inu: ตัวไหนน่าลงทุนกว่ากัน?
ในการแข่งขันระหว่าง Dogecoin กับ Shiba Inu เหรียญมีมทั้ง 2 ตัวนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันไป พวกเขาทั้ง 2 แสดงให้เห็นถึงคอมมูนิตี้ที่มีชีวิตชีวาและมีมูลค่าตลาดนับพันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนที่คาดเดาไม่ได้และความยั่งยืนของมันก็เป็นความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเลือกระหว่าง Dogecoin หรือ Shiba Inu ก็จะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่คุณสามารถยอมรับได้และกรอบระยะเวลาการลงทุนของคุณ แม้ว่า Shiba Inu จะมีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต แต่ Dogecoin ซึ่งเป็นเหรียญมีมรายแรก ก็มีสถานะที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเช่นกัน และถือเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือมากกว่าที่จะฝ่าฝันตลาดหมีคริปโตไปได้ หากคุณกำลังมองหาผลกำไรอย่างรวดเร็ว SHIB อาจจะอยู่เหนือกว่า DOGE อย่างไรก็ตาม หากคุณให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือมากกว่าศักยภาพ คุณอาจจะชอบ DOGE มากกว่า เนื่องจากมันอยู่มายาวนานและได้รับการพิสูจน์แล้ว
คำถามที่พบบ่อย
ราคา Shiba Inu จะขึ้นไปถึง 1 ดอลลาร์ได้หรือไม่?
Bitcoin ดีกว่า Shiba Inu ใช่หรือไม่?
Dogecoin ปลอดภัยหรือไม่?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์