Trusted

ERC-4337: มาทำความรู้จักกับแนวคิด “Account Abstraction” กัน!

19 mins
อัพเดทโดย Tanutcha Roongroj

การจะนำผู้คนเข้ามาสู่พื้นที่คริปโตนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากแนวคิดต่างๆ ในพื้นที่นี้ยังเต็มไปด้วยความซับซ้อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาอัจฉริยะ หลักการทำงานของกระเป๋าเงินคริปโต หรือแม้กระทั่งข้อจำกัดระหว่างตัวตนแบบรวมศูนย์หรือกระจายศูนย์ พูดอีกอย่างก็คือ นอกเหนือจากเรื่องการเทรดคริปโตแล้ว แทบจะไม่มีสิ่งไหนเลยที่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ แต่ในปี 2023 Ethereum วางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าวด้วย EIP และ ERC-4337 ซึ่งมีเป้าหมายหลักก็คือ การนำ Smart Accounts มาสู่ผู้ใช้งาน Web3 ด้วยแนวคิด Account Abstraction นั่นเอง

ในบทความนี้ เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องของ ERC-4337 รวมถึงแนวคิดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น Account Abstraction, Entry Point และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมกับให้ตัวอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย

เข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram: อ่านข่าวสารที่ร้อนแรงที่สุดในแวดวงคริปโต อ่านบทความวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวกับเหรียญต่างๆ และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่คุณต้องการจากนักเทรดมืออาชีพ!

เข้าร่วมตอนนี้เลย!

กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดในการทำการซื้อขาย

ที่สุดในเรื่องอัตราดอกเบี้ย

ที่สุดในเรื่องอัตราดอกเบี้ย
สำรวจ YOUHOLDER บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ YouHolder
เปิดให้บริการ E.U. & U.K.
สินทรัพย์ที่รองรับ 54+
ค่าธรรมเนียมการฝาก 0
ค่าธรรมเนียมการเทรด ค่าธรรมเนียมโรลโอเวอร์เป็นงวดๆ

ที่สุดในเรื่องการเทรดสปอต

ที่สุดในเรื่องการเทรดสปอต
สำรวจ BYBIT บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Bybit
เปิดให้บริการ E.U. & U.K. และ 100+ ประเทศ
สินทรัพย์ที่รองรับ 380+
ค่าธรรมเนียมการฝาก 0
ค่าธรรมเนียมการเทรด 0.10%

ที่สุดในเรื่องการเทรด Altcoins

ที่สุดในเรื่องการเทรด Altcoins
สำรวจ BINANCE บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Binance
เปิดให้บริการ E.U. & U.K. และ 150+ ประเทศ
สินทรัพย์ที่รองรับ 380+
ค่าธรรมเนียมการฝาก 0
ค่าธรรมเนียมการเทรด 0.10%

คำอธิบายของ EIP-4337 และ ERC-4337

EIP-4337

สิ่งหนึ่งที่ต้องทราบก่อนเลยก็คือ EIP-4337 และ ERC-4337 มักจะใช้แทนกันได้ แต่พวกมันก็มีความแตกต่างกันอยู่เช่นกัน

การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงในเชิงเทคนิคต่างๆ ที่ถูกเสนอต่อระบบนิเวศของ Ethereum จะเริ่มต้นมาจากการเป็น EIP หรือ Ethereum Improvement Proposal เมื่อระบบกำกับดูแลของเครือข่ายให้การยอมรับ, อนุญาต และยืนยันเรื่องการเปลี่ยนแปลงแล้ว มันก็จะกลายมาเป็น ERC หรือ Ethereum Request for Comment

ERC-4337
EIP vs. ERC: Medium

เพราะฉะนั้น การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะเริ่มขึ้นจากการเป็น EIP-4337 และเปลี่ยนเป็น ERC-4337 นอกจากนี้ ERC คือหนึ่งในองค์ประกอบของ EIP ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการจัดการกับมาตรฐานของโปรโตคอลและการพัฒนาเป็นหลัก

คำนิยามของ ERC-4337

ERC-4337 เป็นมาตรฐานของ Ethereum (ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นมาตรฐานของโทเค็นเสมอไป) ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงบัญชีผู้ใช้งาน (User Accounts) ให้เป็นบัญชีอัจฉริยะ (Smart Accounts) วิธีที่เราจะนิยามเรื่องนี้ในเชิงเทคนิคได้ก็น่าจะเป็นแนวคิดของ Account Abstraction

ทำไมต้อง Abstraction

Abstraction คือ แนวคิดหรือคอนเซปต์ ซึ่งว่าด้วย EIP-4337 หรือที่ปัจจุบันก็คือ ERC-4337 ของ Ethereum ที่วางแผนในการนำแนวคิดใหม่ ๆ มาสู่ “บัญชีผู้ใช้งาน” (User Accounts) ซึ่งอาจจะหมายถึงการถอนหรือลบบางสิ่งออกไป เพื่อทำให้ผู้ใช้งานสามารถขจัดคุณสมบัติในการจัดการบัญชีผู้ใช้งานแบบเก่า (อย่างเช่น MetaMask) ที่ไม่ต้องการออกไปได้ — เช่น การโฟกัสในเรื่อง Seed Phrases การที่จะต้องเซ็นชื่อธุรกรรมในแต่ละรายการแยกกัน หรือการพึ่งพาคีย์ส่วนตัวมากจนเกินไป

พูดง่าย ๆ ก็คือ Ethereum วางแผนที่จะนำฟังก์ชั่นของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) เข้าสู่กระเป๋าเงิน (Wallet) ด้วย ERC-4337 หรือมีเป้าหมายที่จะทำให้กระเป๋าเงินสามารถทำงานได้เหมือนกับบัญชีอัจฉริยะ (Smart Account) — ตัวตนที่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน จัดการ MFA (การรับรองความถูกต้องหลายปัจจัย) ทำให้ผู้ใช้งานมีความคุ้นเคยกับคริปโตมากยิ่งขึ้น และอีกมากมาย — ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำผ่านโค้ด

และนี่คือทุกต่างๆ ที่มันสามารถทำได้:

ERC-4337 คริปโต
ERC-4337 และ Account Abstraction: ETHGlobal

อธิบายถึง ERC-4337 ในแบบที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด

ลองจินตนาการว่า คุณเป็นเจ้าของกระเป๋าเงินใบหนึ่ง (กระเป๋าเงินปกติทั่วไป) มีส่วนหนึ่งที่เอาไว้ใช้สำหรับเก็บเงินสด อีกส่วนอาจจะเอาไว้ใช้สำหรับเก็บบัตรเครดิต คูปอง และอื่น ๆ ทุกครั้งที่คุณต้องการใช้เงินสด คุณก็ต้องเปิดไปใช้ในส่วนของเงินสดเท่านั้น การเปิดไปในส่วนของที่เก็บบัตรเครดิตหรือคูปองก็จะไม่ช่วยอะไร

ทีนี้ ให้ลองจินตนาการว่า กระเป๋าเงิน คือ กระเป๋าเงินอัจฉริยะ (ตามแนวคิดของ Account Abstraction) โดยจะมีเพียงส่วนเดียวที่มีกลไกการชำระเงินที่รับทั้งเงินสด บัตรเครดิต หรือแม้กระทั่งคูปอง เหมือนว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่คุณต้องการให้มันเป็นอยู่เสมอ เช่น หากคุณต้องการเงินสด มันก็จะเป็นเงินสด หากคุณต้องการบัตร มันก็จะเป็นบัตร

สิ่งที่คล้ายๆ กันนี้ที่เกิดขึ้นในระดับบล็อกเชนจะถูกเรียกว่า Account Abstraction ซึ่งจะเป็นคำศัพท์ที่ใช้กันอย่างเฉพาะเจาะจงในแง่ของบล็อกเชนเสียมากกว่า หากนำไปใช้ในแง่ของผู้ใช้งาน มันจะถูกเรียกว่า Smart Accounts

และนี่คือวิธีที่ Biconomy นิยามคำว่า Account Abstraction ด้วยการเปรียบเทียบกับการนำไปใช้งานในรูปแบบอื่น:

ความเป็นมาของ Account Abstraction

เราจะเห็นประโยชน์การใช้งานของ ERC-4337 ได้จากประวัติของข้อเสนอต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง Account Abstraction ไปดูกันเลยดีกว่า

EIP-86: ข้อเสนอในปี 2016-17 ซึ่งจะโฟกัสในเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถของสัญญาอัจฉริยะเพื่อใช้งานและทำการอนุมัติธุรกรรม สิ่งที่คุณควรรู้ไว้ก่อนก็คือ กระเป๋าเงินในปัจจุบัน (ทั้งแบบฮาร์ดแวร์ มือถือ ฯลฯ) กำหนดให้เจ้าของบัญชีต้องลงชื่อออกจากธุรกรรม

EIP-2938: ข้อเสนอในปี 2020 โฟกัสในเรื่องการสร้างบัญชีในระดับ Top ประเภทใหม่โดยใช้การสร้างและการใช้งานสัญญาอัจฉริยะกับที่อยู่ (Address) ที่เฉพาะเจาะจง

EIP-3074: อีกหนึ่งข้อเสนอที่เกิดขึ้นในปี 2020 EIP-3074 จะช่วยให้การดำเนินการของสัญญาอัจฉริยะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย Opcode ใหม่ (สัญญาอัจฉริยะสร้างบล็อก) ข้อเสนอนี้จะโฟกัสในเรื่องการทำให้สัญญาอัจฉริยะสามารถดำเนินการด้วยตนเองได้

นอกเหนือจาก EIP เหล่านี้ กระทั่ง EIP-196 ก็ยังให้ความสำคัญกับการทำให้สัญญาอัจฉริยะมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งหมดที่โฟกัสในบางแง่มุมของ Account Abstraction ก็ไม่ได้ผ่านไปเสียทั้งหมด ซึ่งก็เป็นเพราะพวกมันต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน Consensus Layer (เลเยอร์ฉันทามติ) ของ Ethereum

หากพูดให้เข้าใจง่าย ๆ Consensus Layer เปรียบเสมือน Back-end ในขณะที่ Execution Layer (เลเยอร์ดำเนินการ) นั้นเปรียบเสมือน Front-end ของระบบนิเวศ Ethereum

EIP-4337 ถูกเสนอขึ้นมาในปี 2021 และท้ายที่สุดก็ได้รับการอนุมัติในปี 2023 เนื่องจากมีการรับประกันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ใน Consensus Layer Protocol โดย Yoav Weiss นักวิจัยในด้านความปลอดภัยของ Ethereum Foundation คือผู้ที่ออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้

ลองนึกภาพว่าคุณต้องการที่จะข้ามถนนที่พลุกพล่านจากฟากหนึ่งไปอีกฟากหนึ่ง แทนที่จะติดสัญญาณไฟจราจรซึ่งจะทำให้รถหยุด แต่คุณกลับสร้างสะพานลอยแทน ซึ่งเปรียบเสมือนโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกสร้างขึ้น โดยไม่ได้มีการไปปรับเปลี่ยนสถานะของการดำเนินงานของถนนในแต่ละวัน

สิ่งที่ทำให้สะพานลอยของ Ethereum อย่าง EIP-4337 หรือที่ตอนนี้เป็น ERC-4337 ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าปกติก็คือการที่มันสามารถทำงานร่วมกับถนนอื่นๆ ของ Ethereum ได้ หรือก็คือทำงานร่วมกันได้กับระบบนิเวศ EVM นั่นเอง

แนวคิดเบื้องหลังของ Account Abstraction: EOAs vs. CAs

เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ERC-4337 กันไปบ้างเล็กน้อยแล้ว ตอนนี้ เรามาดูแรงจูงใจเบื้องหลังการนำเวอร์ชั่นที่ “ตรวจสอบแล้ว” มาใช้งานบน Ethereum Mainnet กันดีกว่า

ประการแรก กระเป๋าเงินส่วนใหญ่ที่อยู่บน Ethereum คือ EOAs หรือ Externally Owned Accounts ที่ขับเคลื่อนโดย 3rd Party ซึ่งรวมถึงกระเป๋าเงินอย่าง imToken หรือ MetaMask เป็นต้น ถึงแม้ว่ามันจะค่อนข้างเป็นที่นิยม แต่ความรับผิดชอบในการควบคุมบัญชีทั้งหมดนั้นตกไปอยู่ที่ Private Key ของผู้ใช้งาน ซึ่งหากคุณทำ Key หาย คุณก็บอกลาบัญชีและเงินของคุณในนั้นได้เลย

เหรียญคริปโต ERC-4337
CAs vs. EOAs: Jarrodwatts

แม้แต่ Hardware Wallets เช่น Ledger Nano X หรืออื่นๆ ก็มีกลไกการควบคุมบัญชีที่คล้ายคลึงกัน ERC-4337 มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ โดยการทำให้บัญชีสามารถทำงานได้เหมือนกันกับสัญญาอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ

และถึงแม้ว่ากระเป๋าเงินอย่าง Argent หรือ Gnosis จะมีฟังก์ชั่นบัญชีอัจฉริยะ (Smart Account) อยู่แล้ว แต่การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่าธรรมเนียมนั้นจะได้รับการจัดการโดยรีเลย์ส่วนกลาง แต่ด้วย ERC-4337 และ Account Abstraction สิ่งต่าง ๆ จะได้รับกระจายอำนาจออกไป

และนี่คือข้อเปรียบเทียบบางส่วนระหว่าง CAs (Contract Accounts) กับ EOAs (Externally Owned Accounts):

Abstraction

เพราะเหตุใด ERC-4337 จึงถือกำเนิดขึ้นมา?

พูดสั้นๆ เลยก็คือ ERC-4337 อาจจะทำให้คุณเลิกใช้คำว่า กระเป๋าเงิน (Wallet) ไปตลอดกาล คำเดียวที่ผู้ใช้งาน Web3 อาจจะถูกนำมาใช้งานแทนก็คือ บัญชีอัจฉริยะ (Smart Accounts) และสมมุติว่าคุณเคยใช้บริการธนาคารแบบดั้งเดิมที่ขับเคลื่อนด้วยสกุลเงินเฟียต และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งาน ในกรณีดังกล่าว ERC-4337 ตั้งเป้าที่จะทำให้ประสบการณ์ของคุณ “เหมือนธนาคาร” ในแง่มุมของประสบการณ์การใช้งานและความเรียบง่ายในการจัดการบัญชี

หากคุณกำลังมองหาเหตุผลที่เฉพาะเจาะจงว่าทำไม ERC-4337 จึงถือกำเนิดขึ้นมา เหตุผลเหล่านี้คือเหตุผลบางประการ:

  1. ไม่ต้องพึ่งพา Seed Phrases
  2. สร้างมาตรฐานให้กับผู้ใช้งานที่ใช้อุปกรณ์มือถือ
  3. กระเป๋าเงินสัญญาอัจฉริยะ จะช่วยลดโอกาสในการเกิดความผิดพลาดจากมนุษย์
  4. การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ง่ายต่อการนำไปใช้กับเครือข่ายอื่น ๆ ที่สามารถทำงานร่วมกับ Ethereum Virtual Machine ได้
  5. มีความยืดหยุ่นต่อการเปิดใช้งานคุณสมบัติต่าง ๆ ที่คล้ายกับบริการของธนาคาร เช่น การจ่ายเงินอัตโนมัติ การกู้คืนบัญชี และการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย
  6. ความสามารถในการทำงานร่วมกันได้กับรูปแบบลายเซ็นแห่งอนาคต เช่น BLS (Boneh-Lynn-Shacham) และ Quantum Resistance ซึ่งทำให้โอกาสที่เครือข่ายจะถูกโจมตีมีน้อยลง

โดยรวมแล้ว ERC-4337 จะช่วยส่งเสริมแนวคิด “Trustless Banks(ธนาคารที่ไร้ตัวกลาง)

Smart Accounts สำคัญกว่า Smart Contracts ในแง่มุมของ Account Abstraction!

“สัญญาอัจฉริยะ” ไม่เคยเป็นสิ่งที่นำไปใช้งานอย่างเฉพาะเจาะจงกับผู้ใช้งานมากนัก พวกมันดูแลและจัดการคุณสมบัติและการทำงาน แต่จะเป็นไปในเชิงลักษณะเฉพาะของระบบนิเวศหรือโปรโตคอล โดยเฉพาะกับแอปพลิเคชั่น DeFi, ตลาด NFT, DAO และเอนติตี้อื่น ๆ

วิธีเดียวที่ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับสัญญาอัจฉริยะของบล็อกเชนได้คือการใช้งาน EOAs หรือ Externally Owned Accounts เช่น Metamask ตั้งแต่การโอนเงินไปยังกลุ่ม DeFi การโอน NFT ไปยังตลาดเพื่อทำการขาย ไปจนถึง การเชื่อมโยงบัญชีกับเชนที่หลากหลาย การดำเนินการทุกอย่างโดยใช้ EOAs จะต้องมีการเซ็นชื่อในธุรกรรมแต่ละรายการ

และในขณะที่พวกเราชาวคริปโตหลายคนเข้าใจในเรื่องกระบวนการเหล่านี้ แต่กับพวกมือใหม่หรือคนรุ่นเก่าล่ะ? เพราะพวกเขาส่วนใหญ่คงจะไม่ชอบการต้องมาตั้งค่ามากมายหลายสิ่ง หรือใช้ EOA ทั้งที่เคยได้สัมผัสกับความสะดวกสบายของธนาคารแบบดั้งเดิมมาแล้ว

และนี่คือลักษณะของโฟลว์สำหรับผู้ใช้งานหน้าใหม่:

Abstraction Flow EOA
โฟลว์ของ EOA ในปัจจุบัน: Jarrodwatts

และนั่นจะนำเราไปสู่แนวคิดของบัญชีอัจฉริยะ (Smart Accounts) ซึ่งทำให้กระเป๋าเงินของคุณสามารถทำหน้าที่เป็นสัญญาอัจฉริยะที่สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง

“บัญชีอัจฉริยะ” ซึ่งขับเคลื่อนด้วย ERC-4337 จะมาพร้อมกับประโยชน์การใช้งานต่างๆ ต่อผู้ใช้งานดังนี้:

  1. พวกมันจะทำให้มือถือของคุณมีประสิทธิภาพเหมือนกับว่ามันเป็น Hardware Wallet ซึ่งต้องขอบคุณพื้นที่จัดเก็บคีย์เข้ารหัสในรูปแบบใหม่
  2. ตัวเลือกการกู้คืนบัญชีที่หลากหลาย เช่น Google หรือ บัญชีธนาคาร เป็นต้น
  3. Seed Phrases, โค้ดการจัดการบัญชี, และคุณลักษณะที่เฉพาะเจาะจงอื่น ๆ ของนักพัฒนาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ทำให้ UX ดูสะอาดและเข้าถึงได้ง่าย
  4. ระบบรีเลย์ที่นำมาใช้งานในกรณีนี้จะเป็นแบบกระจายศูนย์ จึงทำให้มีความปลอดภัยและต่อต้านการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น
  5. นวัตกรรมนี้จะผสานรวมทุกแง่มุมของ Account Abstraction ที่ถูกนำเสนอโดย EIP อื่น ๆ

และข้อมูลเหล่านี้คือประโยชน์บางส่วนที่คุณจะได้รับจากการใช้งานบัญชีอัจฉริยะ

ERC-4337 มีความหมายอย่างไรต่อผู้ใช้งาน?

ERC-4337 ทำให้เกือบทุกคนที่มีมือถือใช้งานสามารถเข้าสู่พื้นที่ Web3 และ คริปโต ได้อย่างง่ายดาย ต่อไปนี้คือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ลงลึกในเรื่องที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น:

การตั้งค่าการกู้คืนบัญชีและกระเป๋าเงินอย่างราบรื่น

สำหรับบัญชีอัจฉริยะ สิ่งที่คาดว่า ERC-4337 จะนำมาให้กับผู้ใช้งานคือสิ่งที่เรียกว่า “Group-Access” Wallets ซึ่งหมายความว่าหากคุณทำ Seed Phrase หาย คุณสามารถติดต่อไปยังสัญญาหรือบัญชีของผู้พิทักษ์ (Guardian) ที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้เพื่อช่วยกู้คืนการเข้าถึงได้

นอกจากนี้ หากใครสมัครกระเป๋าเงินหลังอัพเดต ERC-4337 พวกเขาจะไม่ต้องจด Seed Phrase เพื่อกู้คืนบัญชีอีกต่อไป

การรวมธุรกรรม

ทุกธุรกรรมกับ EOAs จะต้องมีการลงชื่อออก ซึ่งอาจจะทำให้มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อได้ ด้วย Account Abstraction คุณจะสามารถรวมธุรกรรมและส่งมันเป็นรายการเดียว เพื่อช่วยให้คุณประหยัดเวลาหรือแม้กระทั่งค่าแก๊สได้

ธุรกรรมที่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า

สมมติว่าคุณกำลังสร้าง NFT หลาย ๆ รายการ หรือ เล่นเกมที่ต้องใช้โทเค็น (เช่น SLP) ในเซสชั่นต่างๆ ด้วย “กระเป๋าเงินสัญญาอัจฉริยะ” เหล่านี้ คุณสามารถอนุมัติธุรกรรมล่วงหน้าตามโค้ดกระเป๋าเงินและคีย์เซสชั่นที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังมิ้นต์บางอย่าง หรือ เริ่มการทำธุรกรรมจำลองในนามของบริษัท หรือ วางแผนที่จะตั้งค่า DApp ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานไม่ต้องจ่ายค่าแก๊สในช่วง 30 วันแรก เรื่องนี้สามารถทำได้ด้วย Paymasters ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากกระเป๋าเงินสัญญาอัจฉริยะ คุณสามารถใช้ Sponsored Transaction (ธุรกรรมของบริษัทหรือผู้สนับสนุนใด ๆ) ได้ และค่าแก๊สจะถูกตัดจาก Address อื่นเมื่อมีการยืนยันเรียบร้อยแล้ว

โทเค็นไหน ก็ใช้เป็นค่าแก๊สได้

หากต้องการจ่ายค่าแก๊สด้วยการใช้กระเป๋าเงินสัญญาอัจฉริยะ คุณสามารถจ่ายมันได้ด้วยโทเค็น ERC-20 ตัวไหนก็ได้ด้วยฟังก์ชั่นของ Account Abstraction รวมทั้ง บริการของ 3rd Party ที่ใช้งานมาตรฐาน ERC-4337 ในการสร้างบริการใด ๆ เพื่อต้อนรับผู้ใช้งานใหม่ จะสามารถทำให้บริการนั้นรับชำระค่าแก๊สด้วยสกุลเงินเฟียตได้

แนวทางนี้จะช่วยเพิ่มความเร็วในการโต้ตอบกับ DApp เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้โทเค็นดั้งเดิมของเครือข่ายอีกต่อไป

รูปแบบการสมัครสมาชิก

บัญชีจะกลายเป็นสิ่งที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะกำหนดและอนุญาตให้มีการใช้จ่ายล่วงหน้า (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโค้ดกระเป๋าเงิน) เพื่อสมัครสมาชิกบริการ Web3 ได้ สิ่งนี้จะทำให้แผนสมาชิกใด ๆ ของบริการ Web3 สามารถเปลี่ยนเป็นการรับสมัครสมาชิกเป็นแบบชำระด้วยคริปโตเท่านั้นได้

การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัยและการเข้ารหัสแบบกำหนดเอง

ก่อนอื่น โค้ดกระเป๋าเงินที่เป็นตัวกำหนด “บัญชีอัจฉริยะ” ของคุณจะทำงานร่วมกับอุปกรณ์มือถือของคุณได้อย่างราบรื่น ดังนั้น หากคุณมี Face ID บน iPhone คุณสามารถตั้งค่าให้ Face ID เป็นวิธีการตรวจสอบธุรกรรมหรือการกระทำบางอย่างได้

ลองจินตนาการดูว่าจะเป็นอย่างไร หากทุกธุรกรรมที่เริ่มต้นทำในขณะที่เปิดแอปไว้ จะได้รับการอนุมัติล่วงหน้า การปรับแต่งในลักษณะนี้จะสามารถทำได้ด้วย ERC-4337

การจำกัดการใช้จ่ายหรือวงเงินที่ปรับแต่งเองได้

ก็เหมือนกับบัตรเครดิตของคุณ ผู้ใช้งานจะสามารถปรับเปลี่ยนข้อจำกัดการใช้งานและการแจ้งเตือนต่างๆ ด้วยการกำหนดวงเงินได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าให้บัญชีของคุณแจ้งเตือนเมื่อใดก็ตามที่บริการ DeFi ที่คุณสมัครเป็นสมาชิกมีมูลค่ามากกว่า 100 USDT ต่อเดือน

การเข้าถึง DeFi และการซื้อขายโดยอัตโนมัติ

เมื่อพูดถึงในส่วนของ DeFi คุณสามารถสั่งให้บัญชีอัจฉริยะของคุณส่งเงินที่ไม่ได้ใช้งาน ไปยังพูลสภาพคล่องเพื่อรับผลตอบแทนได้ หรือ หากคุณวางแผนที่จะทำการซื้อขายโทเค็นหรือ NFT คุณสามารถตั้งโปรแกรมกระเป๋าเงินบัญชีอัจฉริยะของคุณ เพื่อให้ทำการตรวจสอบตลาดซื้อขายและกระดานเทรดเพื่อค้นหา NFT และเหรียญ ที่มีมูลค่าต่ำได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าการติดตามข้อมูลโทเค็นและคำแนะนำในขั้นตอนการลงทุนได้อีกด้วย

นี่คือโค้ดตัวอย่างที่คุณสามารถนำไปใช้ได้หากคุณเป็นนักพัฒนา Ethereum:

Abstraction
โค้ดเบื้องต้นสำหรับการลงทุนแบบอัตโนมัติ

หากตรวจสอบโค้ดนี้ดู คุณจะเห็นได้ว่ามันคือโปรแกรมการลงทุนอัตโนมัติ ที่ช่วยให้คุณลงทุนอะไรก็ได้ที่มีมูลค่ามากกว่า 100 USDT ไปยังกลุ่มที่สร้างผลตอบแทน

หมายเหตุ: คุณยังคงต้องป้อนที่อยู่ EOA ของคุณและที่อยู่ของพูล เพื่อทำการรันโค้ด

และถึงแม้ว่าโค้ด Boilerplate (ส่วนหนึ่งของโค้ดที่มีรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ และคล้ายคลึงกัน) ลักษณะนี้จะทำให้ส่วนของการลงทุนเป็นไปอย่างอัตโนมัติ แต่มันก็มีปัญหาบางอย่าง ในกรณีของ EOAs คุณจะต้องลงนามในการทำธุรกรรมเมื่อได้รับการแจ้งเตือนการลงทุนอัตโนมัติ ให้ลองนึกภาพว่า คุณไม่ได้อยู่ที่หน้าอุปกรณ์ของคุณ และล้มเหลวในการลงชื่อในธุรกรรมดังกล่าว ทำให้พลาดผลตอบแทนที่อาจจะได้รับเพิ่มเติม บัญชีแบบ Account Abstraction จะช่วยให้คุณผ่านปัญหาติดขัดนี้ไปได้

นอกเหนือไปจากเรื่องที่มันเป็นมิตรกับผู้ใช้งานแล้ว Account Abstraction ยังช่วยให้เกิดแนวทางดังต่อไปนี้:

  • การตรวจสอบการฉ้อโกง
  • ป้องกัน Replay Attack (การที่แฮกเกอร์ใช้ข้อมูลที่ดักจับเอาไว้เพื่อเลียนแบบกระบวนการการเข้าสู่ระบบ)
  • การกำหนดวงเงินการถอน (คล้ายกับธนาคาร)
  • ประสบการณ์การดำเนินการด้วยคลิกเดียว
  • การดูแล(กระเป๋าเงิน)ด้วยตนเอง (Self-Custody) แต่ด้วยความสามารถในการควบคุมที่มากยิ่งขึ้น

ERC-4337 มีข้อเสียหรือไม่?

ถึงแม้ว่า ERC-4337 จะเต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย แต่มันก็มีข้อเสียอยู่บ้าง

ค่าใช้จ่ายสูง

ค่าใช้จ่ายของเครือข่าย Ethereum ยังคงสูงอยู่ ถึงแม้ว่าจะสามารถลดการจ่ายค่าแก๊สได้ด้วย Paymaster หรือตัดจ่ายค่าแก๊สที่ส่วนอื่นได้ด้วย Sponsored Transaction มันก็ยังมีคนที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมดังกล่าวอยู่ดี นอกเสียจากว่า โซลูชั่นการปรับขนาด หรือ บล็อกเชน L2 ที่สามารถทำงานร่วมกับ EVM ได้ทั้งหมดจะหันมาใช้งาน ERC-4337 ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายก็จะยังคงเป็นปัญหาอยู่ดี

การยืนยันสัญญา

ถึงแม้ว่า CAs (Contract Accounts) จะมีคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เหนือไปกว่า EOAs แต่พวกมันก็ไม่อนุญาตให้ใช้การลงชื่อด้วย Key — ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการยืนยันตัวตนครั้งแรก — ได้ แม้ว่า EIP-1271 จะอนุญาตให้มีการลงชื่อผ่านสัญญาอัจฉริยะได้ แต่การนำมันไปใช้งานนอกเครือข่าย Ethereum ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากได้

ความต้องการในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาล

การนำบัญชีแบบ Account Abstraction ไปใช้งานในวงกว้างจะต้องการ Bundlers (ตัวรวมไฟล์) มากขึ้น ซึ่งจะเป็นความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานและความรู้ทางเทคนิคอย่างมหาศาล

ความกังวลเรื่องการรวมศูนย์

กรณีที่มี Bundlers เข้าร่วมไม่มาก ความสามารถในการขับเคลื่อนธุรกรรมให้ไปข้างหน้า จะตกอยู่ในมือของตัวตนเพียงไม่กี่ตัวตนเท่านั้น ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความกังวลเรื่องการรวมศูนย์ได้

มันมีความหมายอย่างไรต่อ Ethereum และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง?

โดยรวมแล้ว ERC-4337 อาจจะกลายเป็นสิ่งที่พลิกโฉมวงการได้ สำหรับ Ethereum แล้ว มันอาจจะช่วยให้ปริมาณการทำธุรกรรมรายวันและ Active Addresses เพิ่มสูงขึ้นได้ (จากความรวดเร็วที่มากยิ่งขึ้น) อีกทั้ง เมื่อสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นแล้ว รายได้ที่มาจากค่าแก๊สก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย

DApps รวมไปถึงแอปที่โฟกัสในส่วนของ DeFi หรือ NFTs ก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน เมื่อกระเป๋าเงินของผู้ใช้งานสามารถซิงค์กับสัญญาได้แล้ว นี่หมายความว่า ผู้พัฒนา DApp จะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมมาก ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังสามารถเลือกที่จะโฟกัสในเรื่องการสร้างบริการที่ไม่ขึ้นอยู่กับเครือข่ายได้ เพราะว่า “กระเป๋าเงินสัญญาอัจฉริยะ” จะมีความสามารถในการเชื่อมต่อและตอบโต้ข้ามเชนได้

ผู้สร้างที่ต้องการนำโปรเจกต์ไปสู่ Web3 สามารถใช้ประโยชน์จาก ERC-4337 เพื่อปรับแต่งขั้นตอนการขอคำอนุญาตได้ ซึ่งจะช่วยให้มีการนำไปใช้งานเพิ่มมากขึ้นในท้ายที่สุด

หมายเหตุ: Ethereum Foundation มี Wallet Contract API และ SDK ที่จำเป็นสำหรับ 3rd Party และผู้สร้างเพื่อช่วยให้สร้างสิ่งต่าง ๆ ตามมาตรฐาน ERC-4337 ได้

Abstraction
API การใช้งาน ERC-4337: ETHGlobal

นี่คือวิธีการทำงานของ API ที่ถูกเสนอมา:

นี่จะเป็นปีของ Ethereum กับ ERC-4337 หรือไม่?

หากจะให้สรุปสั้น ๆ ก็คือ ด้วย ERC-4337 ทุกคนจะสามารถทำการซื้อขาย NFT, สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารเกี่ยวกับคริปโต, เล่นเกม Web3, และสร้างกระเป๋าเงินสัญญาอัจฉริยะแบบใหม่ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นกูรูในเรื่องทางเทคนิคแต่อย่างใด สิ่งต่าง ๆ กำลังจะเป็นเรื่องที่ง่าย และสนุกมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานโดยทั่วไป นอกจากนี้ผู้ใช้งานหน้าใหม่ในแวดวงคริปโต ยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากกว่าเดิม และแน่นอนว่า หากคุณจับตามองราคาของ ETH ในปี 2023 นี้ไว้ดี ๆ รับรองขึ้นรถไฟทันทุกขบวนแน่!

คำถามที่พบบ่อย

Ethereum Request for Comment คืออะไร?

สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ในพื้นที่ Cryptocurrency คืออะไร?

EIP และ ERC คืออะไร?

🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024
🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024
🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน