Trusted

ขุดบิทคอยต์ยังคุ้มมั้ย ต้องใช้พลังงาน ค่าไฟเท่าไหร่ [2024]

7 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

Bitcoin (บิทคอยต์) คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ต้องใช้กระบวนการในการแก้สมการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะ “ขุด” เหรียญใหม่ได้ กระบวนการนี้จะช่วยให้เหล่านักขุดได้รับรางวัลเป็น Bitcoin ประมาณทุกๆ 10 นาที ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่จะช่วยให้นักขุดดูแลรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายในตัว อย่างไรก็ตาม ยิ่งมีนักขุดหรือเครื่องขุดพยายามที่จะแก้สมการมากขึ้นเท่าไหร่ ระดับความยากก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า เครื่องขุดจะต้องการพลังงานสำหรับการประมวลผลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้พลังงานมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ถ้าอย่างนั้น ในปี 2024 นี้ ขุดบิทคอยต์ยังคุ้มมั้ย? มันจะต้องใช้พลังงาน หรือ ค่าไฟเท่าไหร่?

การคำนวณการใช้พลังงาน

หากต้องการวัดการใช้พลังงานในการขุดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) และ การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) เราจะต้องใช้การคำนวนค่า Hashes (แฮช) หรือ ผลรวมของการคำนวณทั้งหมดที่ทำทุกๆ วินาทีในกระบวนการต่างๆ เช่น การขุด Bitcoin หรือ การใช้งาน Smart Contract เป็นต้น จากนั้น ก็ให้พิจารณาว่าแต่ละส่วนมีความต้องการในการใช้ไฟฟ้าเท่าใด การคำนวนเหล่านี้จำเป็นต้องชั่งน้ำหนักค่า Hashes จำนวนมาก ซึ่งโดยทั่วไปจะวัดออกมาได้เป็นหน่วย “ล้าน” (Megahashes) หรือ “พันล้าน” (Gigahashes)

แนวทางนี้ช่วยให้เราสามารถพิจารณาได้ว่า จะต้องใช้พลังงานมากเพียงใดในการทำให้เครือข่ายบล็อกเชนทำงานต่อไปได้ การทำความเข้าใจ Hash Rate (อัตราแฮช) ยังช่วยให้เราเข้าใจในแง่มุมด้านเทคนิคและสิ่งแวดล้อมของการทำธุรกรรมดิจิทัลได้ ด้วยการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการซื้อ Bitcoin หรือ มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเงินแบบกระจายอำนาจ

ข้อครหาของ “การขุดบิทคอยต์”

การขุดบิทคอยต์ มักจะถูกมองว่าเป็นกิจกรรม — ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมการเงินแบบการกระจายอำนาจและภูมิทัศน์ของโลกดิจิทัลที่กว้างขึ้น — ที่ใช้พลังงานเป็นอย่างมาก เพื่อทำให้เครือข่าย Bitcoin สามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างราบรื่น

99% ของพลังงานเหล่านั้นถูกใช้งานไปโดยเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัล ปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อเรื่องนี้ด้วยก็คือ “สภาพแวดล้อมในการขุด” ตัวอย่างเช่น ประเทศที่ใช้งาน “เชื้อเพลิงฟอสซิล” (แหล่งพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ) เป็นหลักจะมีการใช้พลังงานมากกว่าประเทศที่ใช้งาน “พลังงานสีเขียว” (พลังงานสะอาด หรือ พลังงานที่มีแหล่งที่มาจากวัตถุดิบที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ ฯลฯ) ค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยบางส่วนยังแสดงให้เห็นว่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะลดลงเมื่อเครื่องขุดนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือ เมื่อนักขุดย้ายไปยังภูมิภาคที่มีอากาศเย็นกว่า ซึ่งต้องใช้พลังงานน้อยลงในการทำให้คอมพิวเตอร์เย็นลง และเนื่องจากรางวัลจะต้องมีมูลค่ามากกว่าค่าไฟ นักขุดจำนวนมากจึงมักจะมีการสร้างฟาร์มขุดสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาในประเทศที่มีค่าไฟถูกๆ เช่น จีน คูเวต หรือ ไอร์แลนด์ เป็นต้น ดังนั้น หากจะถามว่า ขุดบิทคอยต์ยังคุ้มมั้ย ก็ต้องตอบว่า หากสภาพแวดล้อมในการขุดเป็นใจ การขุดบิทคอยต์อาจจะก็ยังคงมีความคุ้มค่าอยู่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศเอลซัลวาดอร์ ที่ได้ยอมรับ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่สามารถชำระเงินได้อย่างเป็นทางการแล้ว ปัจจุบัน พวกเขากำลังคิดค้นวิธีการบูรณาการสกุลเงินดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจกระแสหลัก ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงบวกในเรื่องการขุดสกุลเงินดิจิทัล

พลังงานที่ใช้ในการขุด Crypto

แผนภูมินี้แสดงให้เห็นถึงข้อมูลของประเทศต่างๆ ที่ใช้พลังงานยั่งยืนในการขุด Bitcoin การใช้พลังงานยั่งยืนในการขุด Bitcoin ทั่วโลกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 48.5% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขของประเทศเยอรมนี, สหภาพยุโรป, และสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่า พวกเขากำลังนำพลังงานสีเขียวมาใช้ในการขุด Bitcoin อย่างเร่งด่วน ด้วยเหตุนี้ แนวทางในการใช้พลังงานยั่งยืนในการขุด Bitcoin จึงอยู่เหนือกว่าเหล่าประเทศเศรษฐกิจหลักๆ ของโลก

ข้อมูลจากงานวิจัยอีกตัวหนึ่งยังเผยให้เห็นว่า ณ เดือนสิงหาคม 2022 Bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้ารวม 60-77% ของพลังงานไฟฟ้าที่ถูกใช้งานไปในการสร้างสินทรัพย์คริปโตทั่วโลก ในขณะที่ Ethereum จะอยู่ที่ราวๆ 20-39% อย่างไรก็ตาม การที่ Ethereum เปลี่ยนกลไกฉันทามติจาก Proof-of-Work ไปเป็น Proof-of-Stake ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงถึงเกือบ 99.99% การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึง ก้าวสำคัญของพัฒนาการทางด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับภาคการเงินบล็อกเชนและการกระจายอำนาจ

ทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในปัจจุบัน การขุดบิทคอยต์ มีแนวโน้มที่จะถูกดำเนินการในพื้นที่ที่มีแหล่งพลังงานหมุนเวียนมากมาย เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือ พลังงานน้ำ เป็นต้น ในรัฐวอชิงตันของประเทศสหรัฐอเมริกา พลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ผลิตได้โดยพลังงานน้ำนั้นได้ถูกนำมาใช้ในการขุด Bitcoin เสียเป็นส่วนใหญ่

การใช้พลังงานทดแทนไม่เพียงแต่ทำให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเท่านั้น แต่มันก็ยังสอดคล้องกับเป้าหมายในเรื่องความยั่งยืนด้านพลังงานในระดับโลกอีกด้วย

คำถามที่พบบ่อย

Ethereum ใช้พลังงานเท่าใด?

สกุลเงินดิจิทัลเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องดีต่อสิ่งแวดล้อมใช่หรือไม่?

การขุด Bitcoin ต้องใช้พลังงานมากใช่หรือไม่?

เราสามารถขุด Bitcoin ที่บ้านได้หรือไม่?

รอยเท้าคาร์บอนของ Bitcoin ที่ขุดได้ต่อเหรียญคือเท่าใด?

ความสัมพันธ์ระหว่างการขุด Bitcoin กับการใช้พลังงานทดแทนคืออะไร?

Ethereum ประหยัดพลังงานมากกว่า Bitcoin หรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน