Trusted

วิธีการซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิต ซื้อยังไง?

18 mins
โดย Max Moeller
แปลแล้ว Akradet Mornthong

อาจจะดูเหมือนว่า Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีโอกาสได้มายากและซับซ้อน แต่อันที่จริงแล้ว วิธีการซื้อ Bitcoin บนโลกออนไลน์นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย อันที่จริงแล้ว หากคุณต้องการ คุณสามารถซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตได้เลยในทันที ในบทความ “วิธีการซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิต” เราจะมาอธิบายวิธีการซื้อสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมนี้ ด้วยบัตรเครดิตกัน รวมไปถึง แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดที่คุณจะสามารถซื้อมันได้เช่นกัน

คุณสามารถซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิตที่ไหนได้บ้าง?

ในปัจจุบัน กระดานเทรดคริปโตส่วนใหญ่จะอนุญาตให้คุณซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตได้ รายชื่อต่อไปนี้คือแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดที่คุณจะสามารถทำเช่นนั้นได้

หากต้องการซื้อบิทคอยน์ด้วยบัตรเครดิตอย่างปลอดภัย สามารถซื้อจากแพลตฟอร์มเหล่านี้

OKX

OKX
เข้าชมเว็บไซต์ OKX
บัตรที่รองรับ VISA, Mastercard
โบนัส สูงสุดถึง $10,000
ขั้นต่ำในการฝาก ไม่มี
จำนวนคริปโต 300+

FXGT.com

FXGT.com
เข้าชมเว็บไซต์ FXGT.com
บัตรที่รองรับ VISA, Mastercard
ค่าธรรมเนียมเทรดคริปโต 0.10%
ค่าธรรมเนียมถอน/ฝาก ฟรี
เลเวอเรจ สูงสุดถึง 1:1000

Kraken

Kraken
เข้าชมเว็บไซต์ Kraken
บัตรที่รองรับ VISA, Mastercard
โบนัส ไม่มี
ขั้นต่ำในการฝาก $10
จำนวนคริปโต 200+

OKX

OKX เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่สามารถซื้อสกุลเงินดิจิตอลผ่านบัตร บัญชีธนาคาร หรือกระเป๋าเงินดิจิตัล และก็รองรับสกุลเงินที่หลากหลายและให้บริการที่หลากหลาย

OKX นำเสนอบริการการซื้อขายคริปโตที่หลากหลาย รวมถึง คู่การซื้อขายที่มีให้บริการหลายร้อยคู่ การซื้อขายแบบเลเวอเรจ และ Perpetual Swaps ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพ

อีกทั้งยังมีมาตรการเพื่อป้องกันการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการฟอกเงิน โดยปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับดูแลระดับโลก ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส แต่ OKX ยังได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น โดยจะสังเกตเห็นได้ว่า พวกเขาจะถือว่าสกุลเงินคริปโตแต่ละรายการเป็น “สินทรัพย์” และไม่เรียกว่า “เงิน” หรือ “สกุลเงิน

OKX เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากคุณต้องการจัดการกิจกรรมการซื้อขายทั้งหมดของคุณด้วยการเข้าสู่ระบบเพียงครั้งเดียว

ขั้นตอนในการซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิต ผ่าน OKX

วิธีที่ดีที่สุดในการซื้อคือผ่านตัวเลือก “ซื้อด่วน” ที่มุมซ้ายบน

ตอนนี้จะเจอหน้าต่างสำหรับการซื้อและแลกเปลี่ยนเงินและต้อง Log in เข้าเพื่อซื้อ Bitcoin และตัดผ่านบัตรเครดิต Visa, Mastercard หรือ Applepay ได้ทันที

แต่ถ้าคุณยังไม่มีรหัส คุณจะถูกขอให้ยืนยันตัวตนของคุณก่อน แต่บนแพลตฟอร์มนี้ กระบวนจะค่อนข้างรวดเร็วและไม่ซับซ้อน สิ่งที่คุณต้องมีคือ ใบขับขี่หรือหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชน และข้อมูลบางอย่าง เช่น ที่อยู่ ฯลฯ

ทำตามขั้นตอน การยืนยันจะเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่นาน จากนั้นคุณสามารถกลับไปที่ฟีเจอร์ ซื้อด่วน และซื้อ Bitcoin ด้วย Mastercard, Visa หรือแม้แต่ ApplePay ได้แล้ว

Kraken

Kraken เป็นตัวเลือกที่ดีที่ตอบโจทย์หลายอย่าง หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นคือความปลอดภัย เป็นแพลตฟอร์มที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2554 โดยไม่มีเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยใด ๆ ถือว่าได้คะแนนความเชื่อมั่นอย่างมาก

Kraken เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขาย crypto ที่นำเสนอคุณสมบัติที่สตอบโจทย์ความต้องการของทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ ซึ่งรวมถึงการซื้อขายด้วย Leverage สูงสุด 5 เท่า

ผู้ใช้สามารถเดิมพันคริปโต ที่แตกต่างกันมากกว่า 15 รายการและรับผลตอบแทนตั้งแต่ 0.25% ถึงมากกว่า 20% ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับการสร้างรายได้แบบ Passive เช่นกัน

Kraken สามารถซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิตได้ รองรับ Visa และ Mastercard

ซื้อ Bitcoin ใน Kraken ด้วยบัตรเครดิต

StormGain

กระดานเทรดคริปโต StormGain เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดที่คุณจะสามารถซื้อ Bitcoin ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ต่อไป เราจะอธิบายให้ฟังว่าคุณจะต้องทำอย่างไรบ้าง

ก่อนอื่น คุณจะต้องสมัครบัญชีใหม่ (ซึ่งสามารถทำได้ภายในไม่กี่นาที) จากนั้น แพลตฟอร์มจะมอบกระเป๋าเงินที่ใช้สำหรับจัดเก็บ Bitcoin แก่คุณ เมื่อคุณลงทะเบียนและยืนยันหมายเลขโทรศัพท์และอีเมลของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเพิ่มรายละเอียดบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตของคุณได้ โดยการคลิกไปที่ส่วนของ “Buy Crypto With a Card” (ซื้อคริปโตด้วยบัตร)

กระดานเทรดคริปโต StormGain เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดที่คุณจะสามารถซื้อเหรียญคริปโตได้อย่างง่ายดาย

StormGain มีบัญชีทดลองให้บริการ เพื่อให้คุณได้ฝึกฝนการซื้อ Bitcoin ขั้นแรก คุณจะต้องยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ จากนั้น เพียงแค่กรอกข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิตของคุณเพื่อซื้อ Bitcoin ได้เลย

การซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรนั้นจะมีค่าธรรมเนียม 5% หรือ 10 ดอลลาร์ แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะสูงกว่า อย่างไรก็ตาม กระดานเทรดจะรับทั้งบัตร Visa และ Mastercard

จากนั้น ใส่จำนวน Bitcoin ที่คุณต้องการจะซื้อ จากนั้น คลิก “Deposit” (ฝากเงิน) หากคุณสนใจ คุณสามารถถือ Bitcoin ไว้ในกระเป๋าเงินของ StormGain เพื่อรับดอกเบี้ย 10% ต่อปี หรือ สามารถทำการซื้อขายได้ด้วยเลเวอเรจสูงสุดถึง 200 เท่า

จากข้อมูลที่หน้าเว็บไซต์ ค่าธรรมเนียมของ StormGain มีดังต่อไปนี้:

  • ค่าคอมมิชชั่น 5% จากการฝากเงินผ่านธนาคาร/บัตร
  • ค่าธรรมเนียมการถอน 0.1%

ข้อกำหนดในการฝากเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ ทั้งในสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินทั่วไป นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังมี “Loyalty Program” ที่จะให้รางวัลแก่ผู้ใช้งานสำหรับการฝากเงินมากขึ้นอีกด้วย

Paybis

Paybis คือ กระดานเทรดคริปโตที่คุณสามารถใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตเพื่อซื้อ Bitcoin ได้ พวกเขาได้รับใบอนุญาตจาก FinCEN Department of the Treasury ในสหรัฐอเมริกา และให้บริการในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก

Paybis คือ กระดานเทรดคริปโตที่คุณสามารถใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตเพื่อซื้อ Bitcoin ได้

หากคุณเลือก Paybis เป็นกระดานเทรดที่คุณจะใช้งาน เพียงแค่สมัครบัญชีแล้วตรงไปที่การซื้อ Bitcoin คุณจะต้องกรอกข้อมูลบัตรเดบิตของคุณ จากนั้น จะมีตัวเลือกให้คุณบันทึกข้อมูลดังกล่าว หากคุณเลือกที่จะบันทึกข้อมูลไว้ คุณจะสามารถใช้บัตรของคุณเพื่อการซื้อในอนาคตได้โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลใหม่

การซื้อครั้งแรกของคุณจะไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ แต่หลังจากนั้น แพลตฟอร์มจะเก็บค่าธรรมเนียม 2.49% สำหรับการซื้อในแต่ละครั้ง จากนั้น จะมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการชำระเงิน ซึ่งจะมีจำนวนขั้นต่ำอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ หาก นอกเหนือจากนี้ Paybis จะเรียกเก็บเงิน 4.5% จากทุกธุรกรรมที่ดำเนินการด้วยสกุลเงิน USD (ดอลลาร์สหรัฐ), EUR (ยูโร) และ GBP (ปอนด์สเตอร์ลิง) และสูงสุดถึง 6.5% สำหรับสกุลเงินเฟียตอื่นๆ

หากคุณพบเจอกับปัญหาใดๆ Paybis มีทีมงานสนับสนุนที่พร้อมจะให้บริการตลอดเวลาและจะทำการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว หากคุณต้องการ คุณสามารถซื้อ Bitcoin ผ่านแพ็คเกจต่างๆ ที่แพลตฟอร์มมีอยู่ ซึ่งจะให้มูลค่าเพิ่มมากกว่าที่คุณจะได้รับจากกระดานเทรดอื่นๆ

มือใหม่ในวงการคริปโตจะได้รับคำแนะนำในการซื้อสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตของคุณ เช่นเดียวกับการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคาร, Skill, และ Neteller ในขณะที่ ผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์จะประทับใจกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ Paybis มีอยู่ ซึ่งจะช่วยทำให้ประสบการณ์การซื้อขายของคุณราบรื่นมากกว่าที่เคย

Coinbase

Coinbase คืออีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้คุณซื้อ Bitcoin ออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าจะไม่รวดเร็วเท่า StormGain ก็ตาม

เพื่อทำการซื้อ Coinbase จะขอให้คุณสร้างบัญชีของคุณ เช่นเดียวกับกระดานเทรดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มนี้มีนโยบาย KYC ดังนั้น คุณจะต้องทำการยืนยันตัวตนโดยการมอบรูปบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายของคุณ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้แล้ว คุณจะสามารถซื้อ Bitcoin โดยใช้บัตรเดบิตได้

เมื่อคุณเข้าสู่ระบบแล้ว ให้คลิกปุ่ม “Trade” (ซื้อขาย) ที่ด้านบนขวาของ UI จากนั้น คุณจะสามารถระบุจำนวน Bitcoin ที่คุณต้องการซื้อได้ หลังจากนั้นให้คลิกตัวเลือก “pay with” (ชำระเงินด้วย) ณ จุดนี้ คุณจะสามารถกรอกข้อมูลบัญชีธนาคารหรือบัตรเดบิตของคุณเพื่อทำการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ได้ และเนื่องจากบทความนี้คือ “วิธีการซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิต” ดังนั้น เราจะเน้นไปที่วิธีการใช้บัตรเพื่อชำระเงิน ที่นี่ คุณจะต้องกรอกที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินก่อนจึงจะสามารถซื้อ Bitcoin ได้

Coinbase คืออีกหนึ่งกระดานเทรดชั้นนำที่จะช่วยให้คุณซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย

คุณสามารถตรวจสอบจำนวนยอดคงเหลือของ Bitcoin ในกระเป๋าเงิน Coinbase ของคุณได้ เพื่อให้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์ ให้คลิกที่ปุ่ม “ซื้อ Bitcoin” แล้วการซื้อของคุณจะได้รับการดำเนินการ

สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ Coinbase กำหนดให้คุณใช้บัญชีธนาคารสำหรับยอดการซื้อขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อเทียบกับการใช้บัตรเดบิตแล้ว คุณจะซื้อได้ในปริมาณที่น้อยกว่า

ค่าธรรมเนียมของ Coinbase

สำหรับเรื่องค่าธรรมเนียม Coinbase จะเรียกเก็บค่าสเปรดประมาณ 0.50% ซึ่งจะคำนวณก่อนที่คุณจะทำการซื้อให้เสร็จสิ้น นอกจากนี้ Coinbase ยังมีค่าธรรมเนียมที่จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ตามที่อธิบายไว้ในหน้า Help:

  • หากมูลค่าของธุรกรรมทั้งหมดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 ดอลลาร์ ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 0.99 ดอลลาร์|ยูโร|ปอนด์
  • หากมูลค่าของธุรกรรมทั้งหมดมากกว่า 10 ดอลลาร์ แต่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25 ดอลลาร์ ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 1.49 ดอลลาร์|ยูโร|ปอนด์
  • หากมูลค่าของธุรกรรมทั้งหมดมากกว่า 25 ดอลลาร์ แต่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 50 ดอลลาร์ ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 1.99 ดอลลาร์|ยูโร|ปอนด์
  • หากมูลค่าของธุรกรรมทั้งหมดมากกว่า 50 ดอลลาร์ แต่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 200 ดอลลาร์ ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 2.99 ดอลลาร์|ยูโร|ปอนด์

นอกจากนี้ คุณอาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม โดยจะขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้ชำระเงิน เช่น 1.49% เมื่อชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารของสหรัฐ, 1.49% เมื่อชำระเงินผ่านกระเป๋าเงิน Coinbase USD, และ 3.99% สำหรับบัตรเดบิต

นอกจากนี้ Coinbase ยังมีบริการ Staking สำหรับผู้ใช้งานอีกด้วย ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มจะคิดค่าคอมมิชชั่น 25% ก็ตาม

Bitstamp

Bitstamp เป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่ได้รับใบอนุญาตเป็นรายแรกๆ เช่นเดียวกับ Coinbase Bitstamp กำหนดให้ผู้ใช้งานปฏิบัติตามนโยบาย KYC ซึ่งจะขอข้อมูลประเทศบ้านเกิด หมายเลขประกันสังคม และเอกสารอื่นๆ บางส่วน

หลังจากสมัครบัญชีเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องเพิ่มบัตรเครดิตของคุณ ไปที่หน้า “Buy/Sell” (ซื้อ/ขาย) แล้วเลือกประเภทคำสั่งซื้อขายของคุณจาก 4 ตัวเลือกที่มีอยู่: “Instant Order” “Limit Order” “Market Order” และ “Stop Order” จากนั้น กรอกวิธีการสั่งซื้อ จำนวนที่คุณต้องการจะซื้อ และรอให้คำสั่งซื้อดำเนินการ

Bitstamp เป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่ได้รับใบอนุญาตกระดานเทรดสินทรัพย์เป็นรายแรก

Bitstamp ก็เหมือนกับกระดานเทรดรายอื่นๆ ที่มีบริการกระเป๋าเงินให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บ Bitcoin ได้ และ Bitstamp ยังมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังต่อไปนี้:

  • ค่าธรรมเนียม 5% สำหรับการซื้อด้วยบัตร
  • ค่าธรรมเนียมตามกำหนดการใช้งานในช่วง 30 วัน โดยอิงจากปริมาณการซื้อขาย เริ่มต้นที่ 0.50% จากปริมาณการซื้อขายที่ต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์ และลดลงไปจนถึง 0% เมื่อมีปริมาณการซื้อขายสูงกว่า 10,000,000,000 ดอลลาร์

Paxful

Paxful คือ กระดานเทรด Bitcoin แบบ P2P ที่เปิดรับชำระเงินด้วยวิธีต่างๆ มากมาย ตั้งแต่บัตร ธนาคาร ไปจนถึง PayPal และอื่นๆ อีกมากมาย

เพื่อที่จะซื้อ คุณจะต้องสมัครบัญชีเหมือนกับที่ทำบนกระดานเทรดอื่นๆ เมื่อผ่านขั้นตอนการยืนยันอีเมลและ ID แล้ว คุณสามารถเลือกตัวเลือก “ซื้อ Bitcoin” ได้ โดยจะมีอยู่ 2 ตัวเลือกให้เลือก: ค้นหาข้อเสนอ หรือ สร้างข้อเสนอของคุณเอง

โดยพื้นฐานแล้ว ด้วยความที่ Paxful เป็นแพลตฟอร์มแบบเพียร์ทูเพียร์ ผู้ใช้งานจะสามารถระบุจำนวนและราคา Bitcoin ที่ต้องการจะขายได้ ผู้ซื้อจะสามารถค้นหาราคา Bitcoin ตามช่วงราคาที่ตนต้องการได้ หรือ เรียกดูราคาที่ตั้งเอาไว้เรียงตาม Location (สถานที่ที่ผู้ขายอยู่อาศัย) ได้ ผู้ขายจะระบุวิธีการชำระเงินที่พวกเขายอมรับด้วย ในขณะที่ผู้ขายบางรายอาจจะยินดีรับบัตรเครดิต ผู้ขายบางรายก็ชอบที่จะไปปะพบด้วยตนเองเพื่อทำการซื้อขายด้วยเงินสด

Paxful คือ กระดานเทรด Bitcoin แบบ P2P ที่เปิดรับชำระเงินด้วยวิธีต่างๆ มากมาย

โชคดีที่ Paxful เก็บ Bitcoin ไว้ในบัญชีเอสโครว์เพื่อป้องกันการถูกโจรกรรม แต่เราก็จะต้องระวังพวกสแกมเมอร์อยู่เสมอ หรือไม่เช่นนั้น คุณสามารถตั้งโพสต์ได้ว่า คุณต้องการที่จะซื้อ Bitcoin ในราคาเท่าใด แล้วให้ผู้ขายมาหาคุณเอง

Paxful จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังต่อไปนี้ต่อธุรกรรม โดยจะเป็นการเรียกเก็บจากผู้ขายเท่านั้น ผู้ซื้อ Bitcoin จะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม:

  • 0.5% สำหรับการชำระเงินด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร
  • 1% สำหรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเดบิต, สกุลเงินดิจิทัล, กระเป๋าเงินออนไลน์, เงินสด หรือด้วยบริการอื่นๆ
  • 3% สำหรับการชำระเงินด้วยบัตรของขวัญ
  • 5% สำหรับการชำระเงินด้วย Google Play หรือ iTunes Gift Cards

นอกจากนี้ Paxful ยังมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการโอน Bitcoin จากกระเป๋าเงินภายในไปยังกระเป๋าเงินภายนอก ค่าธรรมเนียมสำหรับการส่งออกไปกระเป๋าเงินภายนอกคือ 0.0001 BTC สำหรับมูลค่าการส่งตั้งแต่ 0 ถึง 9.99 ดอลลาร์, 0.0002 BTC สำหรับมูลค่าการส่งตั้งแต่ 10 ถึง 19.99 ดอลลาร์ และ 0.0005 BTC สำหรับมูลค่าการส่งที่สูงกว่า 20 ดอลลาร์ขึ้นไป

สุดท้าย คุณสามารถส่ง Bitcoin ระหว่างกระเป๋าเงินภายในได้ฟรีสูงสุด 5 ครั้ง หลังจากนั้นจะมีการเก็บค่าธรรมเนียม 1 ดอลลาร์ หรือ 1% (แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะมากกว่า)

ทำไมเราจึงควรซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิต?

การซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิต ไม่ใช่สิ่งที่เราแนะนำสำหรับทุกคน เนื่องจากผู้ที่ชื่นชอบสกุลเงินดิจิทัลบางคนอาจจะไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของพวกเขา แต่ในทางกลับกัน การซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิต เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้รับ Bitcoin ได้ในทันที

ท้ายที่สุดแล้ว การเชื่อมโยงบัตรนั้นจะสามารถทำได้ในทันที ในขณะที่การเชื่อมต่อบัญชีธนาคารอาจจะใช้เวลาดำเนินการหลายวัน ดังนั้น การซื้อด้วยการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารอาจจะต้องใช้เวลาหลายวัน ซึ่งรวมถึงวันที่ต้องใช้ในการตรวจสอบบัญชีดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่กระดานเทรดทุกแห่งจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับการแบ่งปันข้อมูลของคุณ บางแห่งก็อาจจะเป็นเพียงสแกมเมอร์ที่ต้องการหลอกเอาข้อมูลบัตรเครดิตของคุณ ดังนั้น โปรดระมัดระวังให้ดีเมื่อทำการสมัครบัญชีใดๆ

นอกจากนี้ กระดานเทรดหลายแห่งมีการเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นสำหรับการซื้อ Bitcoin ด้วยบัตร บางแห่งก็จำกัดจำนวน Bitcoin ที่สามารถซื้อได้ด้วยบัตรอีกด้วย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทบัตรเครดิตสามารถยกเลิกการชำระเงินได้ ดังนั้น กระดานเทรดโดยทั่วไปจึงนิยมที่จะใช้การโอนเงินผ่านธนาคารหรือวิธีการซื้ออื่นๆ มากกว่า

หลังจากซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิตแล้ว ต้องทำอะไรต่อ?

โดยปกติแล้ว เราจะไม่แนะนำให้คุณเก็บ Bitcoin ของคุณไว้บนกระดานเทรดหลังจากทำการซื้อแล้ว มันจะปลอดภัยมากกว่าหากคุณโอนมันไปเก็บไว้ในกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์หรือเดสก์ท็อปของคุณ ด้วยวิธีนี้ ถึงแม้ว่ากระดานเทรดจะถูกแฮก แต่ Bitcoin ของคุณก็จะปลอดภัยจากการถูกขโมย

นี่คือกระเป๋าเงินคริปโต 3 ประเภทที่สามารถใช้จัดเก็บ Bitcoin ของคุณได้ปลอดภัยที่สุด:

Hardware Wallet (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์)

Hardware Wallet คือ กระเป๋าเงินภายนอกชนิดหนึ่ง เช่น Ledger หรือ Trezor ที่ใช้จัดเก็บ Bitcoin ของคุณในอุปกรณ์แบบออฟไลน์โดยที่ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ คิดเสียว่ามันคือ External Hard Drive ที่ใช้สำหรับเก็บสินทรัพย์คริปโตที่มีความปลอดภัยเป็นพิเศษ

Hardware Wallet กระเป๋าเงินที่ใช้สำหรับจัดเก็บ Bitcoin แบบออฟไลน์ที่ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้

ตัวอย่างเช่น การที่กระเป๋าเงินมีปุ่มที่ใช้ทำธุรกรรมได้เพียง 2 ปุ่มเท่านั้น ทำให้มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเผลอตอบรับหรือปฏิเสธธุรกรรมใดๆ ได้โดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ Hardware Wallet ส่วนใหญ่ยังมีระบบปฏิบัติการเฉพาะของตัวเองเพื่อป้องกันการแฮ็ก และยังมีเอกสารการกู้คืนที่ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญเหล่านั้นอีกด้วย

Desktop Wallet (กระเป๋าเงินแบบเดสก์ท็อป)

ถึงจะไม่ปลอดภัยเท่า Hardware Wallet แต่ Desktop Wallet ก็มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง เนื่องจากมันไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลาเหมือนกระเป๋าเงินของกระดานเทรด แม้ว่ากระดานเทรดจะมีการเก็บสินทรัพย์มากมายไว้ใน Cold Storage (ที่จัดเก็บสินทรัพย์คริปโตแบบออฟไลน์) พร้อมมีการประกันสำหรับการโจรกรรม แต่มันก็ยังไม่ใช่ที่ที่ดีที่สุดในการจัดเก็บทรัพย์สินของคุณ ในกรณีที่กระดานเทรดถูกแฮก

Desktop Wallet คือกระเป๋าเงินที่คุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ และจะได้รับการป้องกันด้วยรหัสผ่านหรือมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ โดยพื้นฐานแล้ว หลังจากซื้อ Bitcoin จากกระดานเทรด คุณควรส่งมันไปยัง Desktop Wallet ของคุณโดยการใช้ Public Key ของกระเป๋าเงิน ด้วยวิธีนี้ Bitcoin ของคุณจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยใน Desktop Wallet แทนที่จะอยู่บนกระดานเทรดบนโลกออนไลน์

Paper Wallet (กระเป๋าเงินกระดาษ)

Paper Wallet คือ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการจัดเก็บ Bitcoin ของคุณ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงหนึ่งในกระเป๋าเงินทั่วไปก็ตาม Paper Wallet คือ กระดาษที่มี QR Code ติดอยู่ (ซึ่งจะเก็บ Wallet Key ของคุณเอาไว้) หากต้องการใช้กระเป๋าเงิน ก็เพียงแค่สแกนกระเป๋าเงินด้วยเครื่องอ่าน QR ด้วยอุปกรณ์พกพาหรือมือถือเท่านั้น

จากนั้น ผู้ใช้งานจะสามารถทำธุรกรรมกับสินทรัพย์ที่เก็บไว้ได้ Paper Wallet เป็นรูปแบบของการรักษาความปลอดภัยที่มีความปลอดภัยมากที่สุด เนื่องจากมันไม่สามารถถูกแฮกเข้าไปได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม กระดาษเหล่านี้สามารถสูญหายหรือเสียหายได้ ดังนั้น เราจึงควรใช้ Paper Wallet ต่อเมื่อเรามั่นใจว่าจะสามารถเก็บรักษากระดาษเหล่านี้ไว้อย่างปลอดภัยได้

Paper Wallet กระเป๋าเงินที่ใช้จัดเก็บสินทรัพย์คริปโตได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด

เรื่องที่น่าปวดหัวอีกประการหนึ่งก็คือ เราจะไม่ค่อยสะดวกในการใช้งานกระเป๋าเงินประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม กระเป๋าเงินประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ HODL (ถือสินทรัพย์ไว้เป็นระยะเวลานาน) เป็นอย่างมาก

เราจะซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิตอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?

คุณสามารถสมัครกระดานเทรดชั้นนำ อย่างเช่น StormGain แล้วกรอกข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิตของคุณเพื่อซื้อ Bitcoin ได้อย่างรวดเร็ว StormGain มีขั้นตอนการสมัครที่ค่อนข้างรวดเร็วกว่ากระดานเทรดอื่นๆ และยังมีเลเวอเรจสำหรับการเทรดสูงสุดถึง 200 เท่าอีกด้วย

เราสามารถซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิตได้มากแค่ไหน?

คุณสามารถซื้อ Bitcoin ได้มากเท่าที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเศษส่วนเล็กๆ หรือ 15 Bitcoin ก็สามารถเป็นไปได้ หากคุณมีเงินทุนมากเพียงพอ สิ่งที่คุณต้องทำคือสมัครบัญชีกระดานเทรด ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นให้เสร็จสิ้น เลือกจำนวน Bitcoin ที่คุณต้องการซื้อ แล้วชำระเงินด้วยวิธีที่คุณต้องการ

เราสามารถซื้อ Bitcoin ได้เฉพาะแบบออนไลน์หรือไม่?

ไม่ใช่อย่างแน่นอน! มีอยู่หลายวิธีที่เราจะสามารถซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิตหรือไม่มีบัตรเครดิตได้ ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ Paxful ซึ่งคุณสามารถค้นหาผู้ขายเพื่อทำการซื้อ Bitcoin ด้วยเงินสดแบบออฟไลน์ได้ แต่วิธีที่ง่ายที่สุดในการซื้อ Bitcoin แบบออฟไลน์คือผ่านตู้ Bitcoin ATM

ตู้ Bitcoin ATM ที่สามารถซื้อ BTC ด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิตได้

ตู้ Bitcoin ATM มีให้บริการในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อ Bitcoin โดยใช้บัตรเดบิตหรือเงินสดได้ บางครั้ง ผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องมีบัญชีอยู่ก่อนแล้ว แต่ในบางครั้ง ผู้ใช้งานก็สามารถซื้อมันได้โดยไม่ต้องมีบัญชีก็ได้

Bitcoin คือเหรียญคริปโตเดียว ที่สามารถซื้อได้ด้วยบัตรเดบิตใช่หรือไม่?

วิธีการซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรเครดิต นั้นสามารถทำได้บนหลายๆ แพลตฟอร์ม แต่หากคุณต้องการซื้อสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เช่น Litecoin หรือ Ethereum ด้วยการใช้บัตรเครดิต มีเว็บไซต์เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่คุณจะสามารถทำได้ เช่น Coinbase เป็นต้น ในหลายๆ แพลตฟอร์ม คุณจะต้องซื้อ Bitcoin ด้วยบัตรก่อน จากนั้น จึงนำมันไปซื้อเป็นสินทรัพย์ตัวอื่นๆ

คำถามที่พบบ่อย

เราจะซื้อ bitcoin ด้วยบัตรเครดิตได้ที่ไหน?

กระดานเทรดต่างๆ มีการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการซื้อด้วยบัตรเครดิตหรือไม่?

Hardware Wallet คืออะไร?

เราสามารถซื้อ Bitcoin แบบออฟไลน์ได้หรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน