“คนจนก็เล่นหุ้นได้” กล่าวโดย อนุรักษ์ บุญแสวง หรือ โจ ลูกอีสาน หนึ่งในนักลงทุนสาย VI ที่โด่งดังในประเทศไทย เขาคือใคร มีแนวคิดการลงทุนอย่างไร และปัจจุบันพอร์ทปี 2566 เขาถือหุ้นอะไรอยู่บ้าง
ในฐานะ Value Investor (VI) เขาเริ่มต้นจากพอร์ตหลักแสนบาท สู่พอร์ตหุ้นหลักร้อยล้านบาทได้อย่างไร จากประวัติเขาเคยทำกำไรสูงถึง 60% ต่อปี และมีกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 50% ต่อปี โดยใช้เวลาเพียง 12 ปีเท่านั้น ในการทำกำไรกว่า 400 เท่า เขาเป็นตัวอย่างหนึ่งของคำว่า “คนจนก็เล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จได้“
เปิดประวัติ: จากดินสู่ดาว
อนุรักษ์ บุญแสวงหรือ โจ ลูกอีสาน เกิดในจังหวัดพังงา เป็นลูกคนที่ 2 จากพี่น้อง 4 คนในครอบครัวที่ฐานะค่อนข้างยากจน ทำให้เขาต้องเรียนรู้ที่จะทำงานหากรายได้เสริมมาตั้งแต่เด็กๆ เพิ่มแบ่งเบาภาระของคนในครอบครัว โดยเริ่มทำงานขายของชำตั้งแต่อายุ 12 ปี
หากพูดถึงเรื่องการเรียน เขาก็ไม่ทิ้งและเรียนไปพร้อมกับการทำงานจนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลา คณะวิทยาศาสตร์ สาขาอุตสาหกรรมอาหาร และเรียนจบปริญญาโท สาขาการเงินและการธนาคาร จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
จุดเริ่มต้นเส้นทางการลงทุน
สิ่งที่ทำให้เขาสนใจเส้นทางการลงทุน เกิดขึ้นจากประโยคเพียงประโยคเดียวที่พี่ชายของเขาคุยกับปูว่า จะลาออกจากงานประจำมาเทรดหุ้น เพราะ “ไม่ต้องทำอะไรเลยก็มีเงินใช้” หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มสนใจและศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนควบคู่กันไปตั้งแต่อยู่มัธยมปลาย
การลงทุนครั้งแรก
เขาเริ่มลงทุนครั้งแรกหลังจบปริญญาตรีได้ 3 ปี หลังจากวิกฤตต้มยำกุ้ง พร้อมเงินทุนจากคุณแม่ เพื่อนสนิท และเงินเก็บส่วนตัว รวมเป็น 300,000 บาท แต่กลับขาดทุนไม่เป็นท่าเหลือเงินเพียง 120,000 บาท เขาจึงตัดสินใจแบ่งทุนคืนคนละครึ่งกับเพื่อนสนิทและกลับไปเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติม
หลังจากนั้นเขาย้ายไปทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัวที่สหรัฐอเมริกาในร้านอาหารเกาหลีอยู่ราว 3 ปี และศึกษาการวิเคราะห์เชิงเทคนิค และศึกษางานเขียนของ Paul A. Renaud ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงุทุนระหว่างประเทศ ด้วยแนวคิด VI “ซื้อหุ้นขนาดเล็กที่พื้นฐานดี”
นอกจากนี้ยังมีประโยคหนึ่งจากบทความของ Peter Eric Dennis ที่กล่าวว่า “คนไทยมักจะต่อคิวซื้อพันธบัตรที่มีดอกเบี้ยปีละ 6% แต่กลับไม่ซื้อหุ้นดี ๆ ที่จ่ายเงินปันผลให้ถึง 10 % ทุกปี” ทำให้เขากลับมาเริ่มลงทุนอีกครั้ง
สู่พอร์ตโต 400 เท่า
เขาเริ่มฝากเงินเข้าพอร์ตเดือนละ 1,000 ดอลลาร์จากการทำงาน และเริ่มลงทุนหาหุ้นเล็กแต่พื้นฐานดีในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง เขากล่าวว่า หุ้น VGN เป็นหุ้นตัวหนึ่งที่เขาซื้อมาในราคา 15 บาท และขายไปในราคา 30 บาท ซึ่งโตถึง 100% แต่หลังจากนั้นราคากลับเติบโตขึ้นไปอีกกว่า 10 เท่า มันสอนให้เขารู้ว่า “หุ้นที่ดียิ่งถือนานก็ยิ่งโต“
นอกจากนี้ เขาจะนำผลกำไรมาต่อยอดการลุงทุนเสมอ จนทำให้พอร์ตของเขาโตกว่า 400 เท่าจากเงินทุนแรกเริ่มราว 800,000 บาทเท่านั้น และกลายเป็นหนึ่งในนักลงทุน VI ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย
แนวคิดในการลงทุนของ อนุรักษ์ บุญแสวง
โจ ลูกอีสาน เชื่อในการเลือกหุ้นจากพื้นฐานของธุรกิจและหาเขาซื้อในราคาที่ถูก นอกจากนี้ในแง่ของการบริหารเงิน เขายึดแนวคิดเรื่องอัตราดอกเบี้ยทบต้นเป็นหลัก เงินลงทุนและผลกำไรจะถูกนำมาลงทุนต่อเสมอทำให้กำไรเติบโตทวีคูณ นั่นหมายความว่า เขาแทบจะไม่เคยถอนเงินลงทุนออกมาใช้จ่ายเลย
“การเข้าซื้อหุ้นแต่ละครั้งคือการเข้าซื้อธุรกิจไม่ใช่การเข้าซื้อหุ้น”
ระยะเวลาการถือครองหุ้นของเขา จะอยู่ที่ราว 1-3 ปี ก่อนจะขายเพื่อทำกำไรในจุดเหมาะสม ในบางครั้งพอร์ตเขาอาจมีหุ้นอยู่เป็น 10 ตัว แต่หุ้นเหล่านั้นถูกคัดสรรมาแล้ว และจำนวนเป็นการกระจายความเสี่ยงอย่างหนึ่ง หุ้นเหล่านี้เขาจะพิจารณาเป็นตัวไม่ใช่ลักษณะกลุ่มอุตสาหกรรม
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจและแตกต่างออกไปจากนักลงทุน VI คนอื่นๆ ในประเทศไทย คือ เขาไม่ค่อยลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ VI ท่านๆ อื่นๆ มักลงทุนกัน โดยให้เหตุผลว่า “มันมีราคาแพง”
VI 3 ประเภทหลักๆ ในประเทศไทย
เขาให้มุมมองเพิ่มเติมไว้ว่า นักลงทุนสาย VI ในไทยมีอยู่ 3 ประเภทหลักๆ
-ชอบ “หุ้นถูก คุณภาพใช้ได้” เช่นเขา
-ชอบ “หุ้นที่ถูกไว้ก่อน คุณภาพอีกเรื่องหนึ่ง”
-ชอบ “หุ้น Super Stock ถูกหรือแพงไม่เกี่ยวขอคุณภาพดีไว้ก่อน” เช่น ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
วิธีการคัดหุ้นสไตล์ โจ ลูกอีสาน
-กำไรสุทธิ์ควรขยายตัวอย่างน้อย 20-30% ต่อปี
-ดู Margin Safety หรือ ส่วนเผื่อความปลอดภัย และจัดหมวดหมู่หุ้นคุณภาพดี ปานกลาง โดยพิจารณาจาก P/E เช่น หากหุ้นดี เขาจะให้ค่าพรี่เมี่ยมในการโตอีก 1.0 เท่า ส่วนปานกลาง 0.5 เท่า
-ROE หรืออัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ต้องมากกว่า 15%
-D/E หรืออัตราหนี้สินต่อทุน ไม่ควรเกิน 1 เท่ายกเว้นกลุ่มธนาคารและลิสซิ่งซึ่งเป็นข้อยกเว้น
-Cash Flow หรือกระแสเงินสดยิ่งสูงยิ่งดี โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลและค้าปลีก เพราะเวลาขายสินค้าหรือบริการได้จะบันทึกกระแสเงินสดเข้าทันที
เปิดพอร์ต โจ ลูกอีสาน หุ้นที่ถืออยู่ในปัจจุบัน พ.ศ.2566
ขณะนี้หุ้นที่คุณโจถืออ้างอิงตามรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ได้แก่ :
-NETBAY จำนวน 1,810,000 หุ้น
บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน)
บริษัทประกอบธุรกิจหลักเป็นผู้คิดค้น สร้างสรรค์ และพัฒนา Digital Business Technology Platform ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Business Services) และนำเสนอผลิตภัณฑ์นั้นแก่ผู้ใช้ในรูปแบบการให้บริการ (SaaS: Software as a Service) อย่างครบวงจรระหว่างภาคธุรกิจและภาครัฐ (B2G) ระหว่างภาคธุรกิจและภาคธุรกิจ (B2B) และระหว่างภาคเอกชนและประชาชน
-PRAPAT จำนวน 6,800,000 หุ้น
บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
ผลิตและจำหน่ายน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ ภายใต้ตราสินค้าหลัก “PEERAPAT” รวมทั้งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมการให้บริการ (Hospitality Industry) อีกทั้งให้เช่าและให้บริการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท
สรุป
อนุรักษ์ บุญแสวง หรือ โจ ลูกอีสาน เป็นหนึ่งใน Value Investor (VI) ตัวอย่างของ “คนจนก็เล่นหุ้นจนประสบความสำเร็จได้” โดยเน้นหุ้นมีถูกและมีคุณภาพใช้ได้เป็นหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้น และเชื่อในแนวคิดอัตราดอกเบี้ยทบต้น ทำให้พอร์ตของเขาทวีคูณเติบโตกว่า 400 เท่า ในเวลาเพียง 12 ปี หากคุณสนใจพอร์ตของเซียน VI ท่านอื่นๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์