ดูเพิ่มเติม

โปรเจกต์ Osmosis: แพลตฟอร์ม DEX สำหรับระบบนิเวศ Cosmos

2 mins
โดย Xenia Soares
แปลแล้ว Akradet Mornthong

แพลตฟอร์ม DEXs นั้นได้เปิดแนวทางใหม่ๆ และช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ ให้กับผู้ใช้งาน DeFi เช่น การกู้ยืมและการฟาร์มผลตอบแทน (Yield Farming) แต่มันก็ยังคงมีข้อจำกัดมากมายในเรื่องการปรับขนาด DEX อันเนื่องมาจากบล็อกเชนที่แพลตฟอร์มเกี่ยวข้อง แพลตฟอร์ม Osmosis นั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะนำเสนอโซลูชั่นด้วยการผสานรวมความสามารถในการทำงานแบบ Multi-Chain กับสิ่งใหม่ๆ ที่ให้ความรู้สึกของความเป็นยุคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจความสามารถและกลไกต่างๆ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง “โปรเจกต์ Osmosis” ซึ่งอยู่บนระบบนิเวศ Cosmos และรวมไปถึงสกุลเงินดิจิทัลของโปรเจกต์อย่าง OSMO อีกด้วย

BeInCrypto

เข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram

อ่านรีวิวต่างๆ พูดคุยเรื่องโปรเจกต์คริปโต และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่คุณต้องการจากนักเทรดมืออาชีพ!

เข้าร่วมเดี๋ยวนี้เลย!

Atlas VPN

🛡ท่องโลกอินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและเก็บข้อมูลของคุณไว้ให้เป็นส่วนตัว!

ใช้โค้ดโปรโมชั่น ATLASWELCOME เพื่อรับส่วนลด 82% เมื่อสมัครใช้งาน Atlas VPN

สมัคร Atlas VPN

Osmosis Crypto คืออะไร?

Osmosis นั้นเป็น “กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ” (Decentralized Exchange หรือ DEX) และ “ระบบผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติ” (Automated Market Maker หรือ AMM) ที่สร้างขึ้นบน Cosmos SDK ซึ่งเป็นชุดพัฒนาซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการสร้างแอปพลิเคชั่นสำหรับบล็อกเชนโดยเฉพาะ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ Cosmos ช่วยให้เหล่าผู้พัฒนาสามารถสร้างบล็อกเชนที่กำหนดและปรับขนาดเองได้ Osmosis นั้นนำเสนอ AMM ที่ปรับแต่งได้ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของกลุ่มสภาพคล่องสามารถสร้างสภาวะตลาดที่ดียิ่งขึ้นได้ และมันยังสามารถทำงานร่วมกับบล็อกเชนอื่นๆ ได้เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นโดยใช้ Cosmos SDK

ต่างจากวิธีการทำงานของกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchanges หรือ CEX), AMMs นั้นจะใช้งานสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) กำหนดราคาของคู่สกุลเงินดิจิทัล ทำให้การทำธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer เป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม Osmosis นั้นก็ยังมีความแตกต่างจาก DEXs ยอดนิยมอื่นๆ เนื่องจากมันช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งกลุ่มสภาพคล่องและใช้งาน AMMs ที่ปรับแต่งแล้วได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการสภาพคล่องสามารถควบคุมกิจกรรม DeFi ของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้นเนื่องจากพวกเขาจะสามารถตั้งกฏของพวกเขาเองได้

ทีมงาน Osmosis

Osmosis Labs คือบริษัทที่อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์ Osmosis โดยมี Sunny Aggarwal และ Josh Lee เป็นผู้ก่อตั้ง ทั้ง 2 สร้างเทคโนโลยีเอ็นจิ้น BFT Tendermint ที่ช่วยในการควบคุมดูแลแพลตฟอร์ม Osmosis Labs เป็นฝ่ายที่รับผิดชอบในการพัฒนาโค้ดเริ่มต้นของโปรโตคอล แต่เซ็ตของตัวตรวจสอบความถูกต้องแบบกระจายอำนาจนั้นช่วยในการดำเนินงานของ Osmosis แพลตฟอร์มนั้นเปิดตัวในเดือนมิถุนายน ปี 2021 ด้วยลักษณะการกระจายอำนาจของโปรโตคอล มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชุมชนสามารถลงคะแนนเพื่อการอัพเกรดและการปรับปรุงต่อแพลตฟอร์มได้

Osmosis ทำงานอย่างไร?

Osmosis นั้นได้รับการสืบทอดฟังค์ชั่นการทำงานของพวกเขามาจากระบบนิเวศ Cosmos โดย Cosmos นั้นจะเปิดการใช้งานเครือข่ายบล็อกเชนที่มีความครอบคลุมหรือที่เรียกกันว่า “อินเตอร์เน็ตแห่งบล็อกเชน” ผลลัพท์ดังกล่าวก็คือ โทเค็นและข้อมูลต่างๆ จะเคลื่อนย้ายผ่าน Inter-Blockchain Communication (IBC) Protocol ของ Cosmos แพลตฟอร์ม Osmosis จะทำงานด้วยการจัดหากลุ่มสภาพคล่องที่ปกครองตนเอง (Self-Governing Liquidity Pool) ผู้ใช้งานจะสามารถเปลี่ยนแปลงโปรโตคอลต่างๆ ได้ รวมไปถึง ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน, รางวัลที่เป็นแรงจูงใจ, การคำนวน TWAP, หรืออัลกอริธึม Curve ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในฟีเจอร์หลักของแพลตฟอร์มคือ Superfluid Staking ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานจะได้รับรางวัลโดยการ Staking เหรียญ OSMO ของพวกเขาและรับส่วนแบ่งของค่าธรรมเนียมกลุ่มสภาพคล่องไปด้วยพร้อมๆ กัน

เอกสารของ Osmosis: Getting Started

ฟีเจอร์ของ Osmosis

Osmosis

โปรเจกต์ Osmosis นั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างให้ตนเองมีความแตกต่างจากแพลตฟอร์ม DEX อื่นๆ อย่าง Uniswap และ Curve ซึ่งมีการใช้งาน AMMs เช่นกัน โดยทางเทคนิคแล้ว แพลตฟอร์มนี้เป็นบล็อกเชนแบบ Proof-of-Stake ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใคร ยกตัวอย่างเช่น:

  • อำนาจอธิปไตยและแรงจูงใจแบบครบวงจร: Osmosis จัดหาแรงจูงใจที่หลากหลายให้กับผู้ให้บริการสภาพคล่อง, สมาชิก DAO และ Delegator (ผู้มอบหมายงาน) ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการสภาพคล่องที่ทำการ Stake จะมีอำนาจอธิปไตยเหนือกลุ่มของพวกเขา และจะมีอิสระในการปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์ของตลาดเนื่องจากกลุ่มสภาพคล่องของพวกเขาเป็นแบบ Self-Governing
  • เหรียญดั้งเดิมข้ามเชน: Osmosis นั้นยังเป็นเหรียญดั้งเดิมข้ามเชนที่มีความสามารถ IBC (ความสามารถในการสื่อสารข้ามบล็อกเชน) เป็นองค์ประกอบหลักของมัน แพลตฟอร์มนั้นยังวางแผนที่จะแตกออกเป็นเชนอื่นๆ ที่เป็น non-IBC เช่น ERC-20 เป็นต้น
  • Superfluid Staking: เหรียญ OSMO สามารถใช้เป็นสภาพคล่องและ Staking ได้พร้อมๆ กันโดยไม่ต้องมีการแลกเปลี่ยนใดๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับรางวัลเพิ่มมากยิ่งขึ้น
  • Osmosis Thirdening: ทำงานคล้ายกับการ Halving การ Thirdening เป็นรูปแบบที่ทำให้ OSMO เกิดความขาดแคลนและเพิ่มมูลค่าให้กับมัน

เหรียญ OSMO

OSMO เป็นเหรียญดั้งเดิม (Native Coin) ของเครือข่ายที่ใช้ในการดำเนินการต่างๆ ในระบบนิเวศ Osmosis มันช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม รวมไปถึงใช้เป็นรางวัลในการขุดสภาพคล่องและค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนพื้นฐานของเครือข่าย OSMO ยังทำหน้าที่เป็นเหรียญที่ใช้ในการกำกับดูแล (Governance Coin) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ของโปรเจกต์และลงคะแนนเกี่ยวกับการอัพเกรดต่างๆ ได้ ผู้ถือจะเป็นผู้พิจารณาว่ากลุ่มได้ที่จะมีสิทธิ์ในการได้รับรางวัลสภาพคล่อง โดยเป้าหมายคือการทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้ให้บริการสภาพคล่องสอดคล้องไปกับความยั่งยืนของโปรโตคอล

Osmosis
Keplr dashboard: Governance

โทเค็นโนมิคส์

ปัจจุบัน เหรียญนั้นมีราคาอยู่ที่ 1.01 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 543.4 ล้านดอลลาร์ อุปทานหมุนเวียนของ OSMO ในปัจจุบันนั้นอยู่ที่ 492,590,761 เหรียญ โดยมีอุปทานสูงสุดอสู่ที่ 1 พันล้านเหรียญ อุปทานของ OSMO ในช่วงเริ่มแรกจำนวน 100 ล้านเหรียญนั้นถูกแบ่งให้ระหว่างเงินสำรองเชิงกลยุทธ์และผู้รับ Fairdrop

การแจกจ่ายอุปทานมีดังนี้:

  • รางวัลการขุดสภาพคล่อง: 45%
  • รางวัลการ Staking: 25%
  • ทยอยมอบให้กับผู้พัฒนา: 25%
  • กลุ่มชุมชน: 5%

อุปทาน Thirdening

อัตราเงินเฟ้อขึ้นของเหรียญนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการ Thirdening (ลดลง 1 ส่วน 3) ซึ่งทำงานคล้ายๆ กับการ Halving (ลดลงครึ่งนึง) ของสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ เช่น:

  • อุปทานเริ่มต้นที่ OSMO ปล่อยในเดือนมิถุนายน 2021 จำนวน 100 ล้านเหรียญ
  • ปีที่ 1: 300 ล้านเหรียญ OSMO
  • ปีที่ 2: 200 ล้านเหรียญ OSMO
  • ปีที่ 3: 133 ล้านเหรียญ OSMO

กระเป๋าเงินสำหรับ OSMO

Trust Wallet นั้นรองรับ Osmosis (OSMO) และแอปมือถือนี้ยังรองรับ Crypto อีกหลายๆ ตัวอีกด้วย Trust Wallet นั้นเป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ซึ่งหมายความว่าสิทธิ์ในการควบคุม OSMO และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ นั้นอยู่ที่คุณอย่างสมบูรณ์ คุณสามารถดาวน์โหลด Trust Wallet ได้จาก App Store, Google Play Chrome Store

วิธีการใช้งาน Osmosis

วิธีการใช้งานแพลตฟอร์ม Osmosis นั้นมีอยู่หลากหลาย คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเติมเงินลงไปในกระเป๋าเงินคริปโตของคุณด้วย ATOM ก่อนที่จะโอนมันไปยังกระเป๋าเงินเชน Osmosis เพื่อซื้อ OSMO และกลุ่มคู่สกุลเงินนี้สามารถสร้างรายได้ในอัตราสูงสุดที่ 50:50 ผู้ใช้งานจะได้รับรายได้จากการจัดหาสภาพคล่อง และมันยังช่วยให้คุณสามารถล็อกเงินทุนของคุณเพื่อรับผลตอบแทนได้มากเท่ากับช่วงระยะเวลาที่พวกเขาล็อกมันเอาไว้

อีกวิธีหนึ่งในการใช้ประโยชน์จาก Osmosis คือการรับค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม เนื่องจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (Transaction Fees) จะถูกส่งให้ Validators (ผู้ตรวจสอบความถูกต้อง) และผู้ที่ทำการ Stake OSMO ไว้ คุณยังจะได้รับค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยน (Swap Fees) สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์บน DEX หรือรับค่าธรรมเนียมการออก (Exit Fees) สำหรับผู้ที่ถอนเงินของพวกเขาออกจากกลุ่มสภาพคล่อง ส่วนแบ่งจะถูกเผาจากนั้นมูลค่าที่เหลือจะถูกแบ่งให้กับผู้ให้บริการสภาพคล่องที่เหลือ

Osmosis
เอกสารของ Osmosis: Liquidity Pools

แพลตฟอร์ม Osmosis นั้นยังคงมีความเสี่ยง

แพลตฟอร์ม Osmosis นั้นก่อให้เกิดความเป็นไปได้มากมายในพื้นที่ DeFi ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักลงทุนมากมาย และในขณะที่ดูเหมือนว่าเราจะเห็นประโยชน์ของ Osmosis อย่างชัดเจน แต่ผู้ใช้งานก็ควรจะต้องระวังต่ออุปสรรคและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ

ประการแรก กลไกที่เรียกว่า “Slashing” นั้นถูกใช้เพื่อการลดแรงจูงใจในการสร้างพฤติกรรมที่ไม่น่าพึงประสงค์ในโปรโตคอล อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงเช่นการทำธุรกรรมซ้ำซ้อนนั้นยังคงอยู่และอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้สินทรัพย์ 5% จากทั้งหมดที่ Validators ได้ Staked ไว้ถูกเผาทิ้งไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น หาก Validators ไม่เข้าร่วมในฉันทามติมากกว่า 28,500 บล็อกติดต่อกัน พวกเขาจะถูกลงโทษให้หยุดทำงาน และจะถือว่า Validators ถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้มีส่วนร่วมได้ ทั้งหมดนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการปรับขนาดของเครือข่ายได้ แต่หากคุณมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์ม Osmosis อย่างสม่ำเสมอ แพลตฟอร์มนี้จะเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับการทำการลงทุนแบบกระจายอำนาจ

คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ

  • Yield Farming: รูปแบบการทำกำไรอย่างหนึ่งที่คล้ายๆ กับการ Staking เพียงแต่ว่า เงินที่เราฝากเข้าไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในระบบจริงๆ (ไม่ได้ถูกล็อกเอาไว้) และมันจะกลายเป็นสภาพคล่องให้ระบบ และจะให้ผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ
  • Automated Market Maker (AMM): เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการ DeFi ซึ่งเป็นการทำงานของ Smart Contract (สัญญาอัจฉริยะ) ที่จะทำหน้าที่จับคู่สินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ใน Liquidity Pools (กลุ่มสินทรัพย์) โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบรวมศูนย์หรือมนุษย์ในการควบคุมการทำงานของมัน
  • Decentralized Exchange (DEX): คือกระดานเทรดที่ไม่มีคนกลางมาคอยควบคุม แต่จะใช้ระบบ Blockchain มาสร้างตลาดที่ทำให้เราสามารถซื้อขายกันได้โดยไม่ผ่านคนกลาง
  • Software Development Kit (SDK): คือเครื่องมือที่เอาไว้สำหรับพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่น
  • Slashing Mechanism: กลไกที่สร้างขึ้นในโปรโตคอล Blockchain เพื่อกีดกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ตรวจสอบความถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อย

ใครคือผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ Osmosis?

คุณสามารถทำรายได้จากการ Staking Osmosis ได้เท่าไหร่?

คุณจะทำเงินจาก Osmosis ได้อย่างไร?

โปรเจกต์ Osmosis เปิดตัวเมื่อใด?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน