จากการที่การยอมรับในเทคโนโลยีบล็อกเชนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประสิทธิภาพจึงกลายมาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะมีการอัพเกรดในเรื่องที่สำคัญบางประการต่อบล็อกเชนตั้งแต่มี Bitcoin เข้ามา แต่การปรับปรุงประสิทธิภาพมันก็ยังไปไม่ถึงจุดที่มันควรจะเป็น หนึ่งในภัยคุกคามที่เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท (DLT) ต้องเผชิญในปัจจุบันก็คือการขาดความสามารถในการทำงานร่วมกัน — หรือให้ชัดเจนกว่านั้น คือความสามารถที่บล็อกเชนต่างๆ สามารถสื่อสารระหว่างกันได้ และนี่คือจุดที่ Quant Network ก้าวเข้ามา เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการที่ข้อมูล, ทรัพย์สิน, และข้อมูลตลอดทั่วทั้งระบบนิเวศดิจิทัล Quant Network มอบโซลูชั่นที่ราบรื่นให้กับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับบล็อกเชน ในบทความนี้ เราจะมาดูกันเรื่องระบบที่เป็นนวัตกรรมของ Quant , วิธีการทำงานของมัน, รวมไปถึงที่ที่คุณจะสามารถซื้อโทเค็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของ Quant (QNT) ได้
ต้องการทราบเกี่ยวกับราคา CVX ในปัจจุบันหรือไม่? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram พิมพ์ (CVX) ในข้อความแยกต่างหากเพื่อแชทกับเรา แล้วบอทของเราจะตอบกลับคุณพร้อมแจ้งอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันของกระดานเทรด MEXC และลิงก์เพื่อไปซื้อเหรียญ! มาเข้าร่วมกับเราสิ!
ความสามารถในการทำงานร่วมกันคืออะไร?
ก่อนที่เราจะไปลงลึกในรายละเอียดของ Quant Network สิ่งที่ต้องทราบก่อนหน้านั้นก็คือ ความสามารถในการทำงานร่วมกันคืออะไร? เรื่องนี้อธิบายถึงกระบวนการที่ข้อมูลและสารสนเทศสามารถเข้าถึงได้ผ่านบล็อกเชนต่างๆ บล็อกเชนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้สร้างขึ้นมาเหมือนกัน ดังนั้น มันจึงขาดความเข้ากันได้ระหว่างกันและกัน
ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะแชร์และรวมทรัพยากรและข้อมูลจากบล็อกเชนใดบล็อกเชนหนึ่งแล้วทำให้เกิดประโยชน์ต่อบล็อกเชนอื่นได้อย่างราบรื่น ด้วยการใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนหลายๆ ตัวพร้อมกัน เราจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีประสิทธิภาพและหลากหลายได้มากยิ่งขึ้น
Quant Network คืออะไร?
Quant Network เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจที่ให้ความสามารถในการทำงานร่วมกันโดยไม่ลดประสิทธิภาพของระบบ เครือข่าย Overledger ของ Quant ทำให้สามารถเชื่อมต่อบล็อกเชนเข้าด้วยกันได้ ปัจจุบัน Quant Network รองรับ Bitcoin, Ethereum, Stellar, Ripple, EOS, IOTA, Quorum Blockchain ของ JP Morgan และ Hyperledger Fabric
ใครคือผู้ก่อตั้ง Quant Network?
Gilbert Verdian และ Dr. Paolo Tasca ก่อตั้ง Quant Network ขึ้นในปี 2015 และเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2018 Verdian เกิดความคิดที่จะสร้างเครือข่าย Blockchain ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ในขณะที่เขาทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ
ก่อนที่จะเปิดตัว Quant Verdian เคยดำรงตำแหน่งที่โดดเด่นในบริษัทต่างๆ เช่น BP Oil และ Ernst & Young ต่อมา เขาได้ก่อตั้งมาตรฐาน ISO TC307 ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานโดย 57 ประเทศในการพัฒนาการทำงานร่วมกันของบล็อกเชน นอกเหนือจาก Gilbert ผู้ประกอบการและนักเศรษฐศาสตร์ดิจิทัลแล้ว Dr. Paolo Tasca ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านบล็อกเชนสำหรับรัฐสภาสหภาพยุโรป UN และธนาคารกลางอื่นๆ อีกด้วย
Quant Network ทำงานอย่างไร?
Quant Network ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดปัญหาที่พบบ่อยในบล็อกเชนเกี่ยวกับการสื่อสารและความสามารถในการขยายตัว โปรโตคอลใช้ Ethereum เป็นฐาน เนื่องจากมันมีความปลอดภัยและความสามารถในการทำงานร่วมกันที่จำเป็นสำหรับฟังชั่นค์การทำงานของมัน ด้วยสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ที่ทำงานแยกจากบัญชีแยกประเภทอื่นๆ Quant จึงทำงานอยู่เหนือเครือข่าย โปรดทราบไว้ก่อนว่า Quant Network ไม่ใช่บล็อกเชน มันเป็นระบบนิเวศเครือข่ายที่ใช้องค์ประกอบหลักบางอย่างที่จะอธิบายไว้ด้านล่าง
Overledger Network
Overledger — ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมเครือข่ายการสื่อสาร TCP/IP — มาเชื่อมรอยต่อระหว่างบัญชีแยกประเภทภายในและเครือข่ายภายนอก ด้วยการใช้เทคโนโลยีของ Overledger ธุรกิจต่างๆ จะสามารถเข้าถึงคุณสมบัติที่หลากหลายบนบล็อกเชนหลายตัวพร้อมๆ กันซึ่งแพลตฟอร์มนี้เปิดให้เข้าถึงได้ พวกเขาใช้โปรโตคอล Overledger DLT Gateway เพื่อตอบสนองงานระหว่างการแลกเปลี่ยนของบล็อกเชน ระบบปฏิบัติการ Overledger OS เป็นระบบปฏิบัติการบล็อกเชนแบบ “Hyper-Decentralized” ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถเรียกใช้และจัดเก็บข้อมูลบนบล็อกเชนหลายตัวพร้อมกันได้
นอกจากนี้ ความสามารถในการทำงานร่วมกันไม่ได้จำกัดเพียงแค่การถ่ายโอนมูลค่าระหว่างเครือข่ายบล็อกเชนเท่านั้น มันยังคงใช้ถ่ายโอนข้อความหรือธุรกรรมที่จัดเก็บได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้พัฒนาตัดสินใจที่จะจัดระเบียบเครือข่ายเป็นเลเยอร์ที่แตกต่างกัน โดยแต่ละอันจะทำงานแยกกัน
- Transaction Layer: ด้วยการใช้เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท เลเยอร์นี้จะจัดการการจัดเก็บธุรกรรม การดำเนินการที่เกี่ยวข้องจะถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นชั้นๆ และตรวจสอบทั่วทั้งบล็อกเชน และไม่สามารถยกเลิกได้เมื่อตรวจสอบแล้ว
- Messaging Layer: เลเยอร์นี้จะเกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนข้อมูลและสารสนเทศ Messaging Layer ประกอบด้วยข้อมูลสัญญาอัจฉริยะ, ข้อมูลธุรกรรม, และข้อมูลเมตา, สิ่งนี้เหมาะสำหรับการตีความและแปลข้อความเป็นภาษาต่างๆ เพื่อให้บล็อกเชนอื่นๆ เข้าใจ
- Filtering และ Ordering Layer: คล้ายๆ กับการจัดการข้อความ คุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาของเลเยอร์นี้นั้นรวมถึงการกรองการค้นหาออกไปเป็นผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากมันเป็นเลเยอร์เดียวที่มีประวัติของข้อความ มันจึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อความนอกเครือข่ายเมื่อจำเป็น
- Application Layer: ข้อความที่ถูกต้องซึ่งมีรูปแบบและลายเซ็นที่จำเป็นที่สามารถอัพเดตสถานะแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องในเลเยอร์นี้ได้ แอปพลิเคชั่นเหล่านี้สามารถแชร์หรืออ้างอิงข้อความที่เกี่ยวข้องกับแอปอื่นๆ โดยใช้ “hash pointers” ได้
Multi-Chain Apps (mApps)
คล้ายกับแอปพลิเคชั่นแบบกระจายอำนาจ (dApps) ที่ทำงานบนบล็อกเชนของ Ethereum mApps คือแอปพลิเคชั่นที่อนุญาตให้ dApps ทำงานบนบล็อกเชนต่างๆ มากมาย ไม่มีข้อจำกัดในการจัดการเมื่อนักพัฒนาใช้แอปพลิเคชั่นประเภทนี้ เนื่องจากพวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากผลประโยชน์ที่จะสามารถเป็นไปได้เมื่อมีการรวมเครือข่ายที่หลากหลายเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาสามารถรับข้อมูลจากบล็อกเชนหนึ่งและเป็นส่วนหนึ่งของฉันทามติของอีกบล็อกเชนหนึ่ง แอปจะประกอบด้วย Treaty Contracts ซึ่งเป็นเพียงโปรแกรมที่เรียกใช้สัญญาอัจฉริยะหลายรายการบนบล็อกเชนที่แตกต่างกัน
Overledger Network Marketplace
Overledger Network Marketplace อนุญาตให้ผู้ใช้งานซื้อและขาย mApps และข้อมูลของตน ซึ่งดำเนินการผ่านคลัง นี่เป็นอีกชื่อหนึ่งของสัญญาอัจฉริยะที่ทำงานบน Ethereum ค่าธรรมเนียมเล็กน้อยที่นำมาจากคลังจะถูกโอนไปยัง Quant Network ใบอนุญาตจะถูกชำระด้วยสกุลเงิน Fiat ด้วยการใช้คลัง ซึ่งสามารถใช้ซื้อโทเค็น QNT ที่ถูกล็อกไว้ในคลังในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของใบอนุญาต
สิ่งใดที่ทำให้ Quant Network แตกต่าง?
ต่างจากบล็อกเชนอย่าง Bitcoin ซึ่งมุ่งเน้นที่การนำเสนอวิธีการโอนมูลค่า Quant Network นำเสนอบริการที่หลากหลายกว่า มันเป็นเพราะว่ามันถูกสร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain ซึ่งรองรับฟังก์ชั่นมากมาย รวมถึงการผสานรวมสัญญาอัจฉริยะ, การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi), และกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) คุณสมบัติบางอย่างที่ทำให้ Quant Network ได้เปรียบในการแข่งขัน ได้แก่:
- ระบบปฏิบัติการ Overledger
- Overledger Marketplace
- Quant App Store
- การผสานรวม mApps
ประโยชน์ของ Quant Network คืออะไร?
ความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนผ่าน Overledger DLT Gateway ของ Quant ช่วยให้การทำธุรกรรมข้อมูล, สัญญาอัจฉริยะ, และแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ราบรื่นยิ่งขึ้น โซลูชั่น DLT เหล่านี้สามารถรวมเข้ากับระบบที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย และด้วย API มาตรฐานของ Quant นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องเรียกใช้โหนดของตนเอง พวกเขาสามารถโต้ตอบได้โดยตรงกับบล็อกเชนที่ต้องการ
คุณสมบัติหนึ่งที่โดดเด่นของการใช้เกตเวย์คือความสามารถในการเขียนสัญญาอัจฉริยะด้วยภาษาการเขียนโปรแกรมใดๆ ก็ได้ นอกจากนี้ Quant ยังสามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมหรือการเข้ารหัสมาก่อน ซึ่งทำให้มันสามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้เป็นจำนวนมาก ข้อดีอีกอย่างที่ต้องนำมาพิจารณาคือ Quant ไม่สามารถ Fork ได้ ดังนั้น มันจึงไม่มีภัยคุกคามที่จะสูญเสียการสื่อสารระหว่างบัญชีแยกประเภทหลายๆ บัญชี สิ่งนี้ทำให้เครือข่ายมีการป้องกันจากการละเมิดความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง
Quant Cryptocurrency (QNT)
โทเค็น QNT เป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของเครือข่าย Quant และใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหาบล็อกเชนที่ทำงานร่วมกันได้บนแพลตฟอร์ม Overledger
ต้องการทราบเกี่ยวกับราคา CVX ในปัจจุบันหรือไม่? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram พิมพ์ (CVX) ในข้อความแยกต่างหากเพื่อแชทกับเรา แล้วบอทของเราจะตอบกลับคุณพร้อมแจ้งอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันของกระดานเทรด MEXC และลิงก์เพื่อไปซื้อเหรียญ! มาเข้าร่วมกับเราสิ!
เศรษฐศาสตร์โทเค็น
Quant (QNT) มีอุปทานสูงสุดประมาณ 14.6 ล้านโทเค็น โดยมีมูลค่าตลาด 1.9 พันล้านดอลลาร์ อุปทานหมุนเวียนตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 12.07 ล้าน
การแจกจ่าย
มีการแจกจ่ายโทเค็นดังต่อไปนี้:
- 9.9 ล้านเหรียญ ICO สาธารณะ
- 2.6 ล้านเหรียญ ทุนสำรองของบริษัท
- 1.3 ล้านเหรียญ ผู้ก่อตั้งของบริษัท
- 651,000 เหรียญ ที่ปรึกษาของบริษัท
การ Staking QNT
คุณสามารถ Stake QNT เพื่อรับรางวัลและสิทธิพิเศษบน Quant Network ผู้ให้บริการของ Overledger Gateway สามารถ Stake QNT กับคลังของแพลตฟอร์มเพื่อรับลำดับความสำคัญในการทำธุรกรรมที่สูงขึ้นได้ คุณสามารถรับได้สูงสุดถึง 4% APY ขึ้นอยู่กับที่ที่คุณ Stake ปัจจุบัน คุณสามารถ Stake QNT ได้ในกระดานเทรด 3 แห่งต่อไปนี้:
- AAX
- Binance
- Bitrue
QNT Wallet
คุณสามารถเก็บรักษา QNT ของคุณในกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์แบบบัญชีแยกประเภท ซึ่งแตกต่างจากกระเป๋าเงินออนไลน์ตรงที่ข้อมูลของคุณเสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก กระเป๋าเงินประเภทนี้มีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอีกชั้นหนึ่ง กระเป๋าเงินอื่นๆ ที่รองรับ QNT ได้แก่ Guarda และ Atomic Wallet
วิธีการซื้อ QNT
หากต้องการซื้อ QNT คุณต้องลงสมัครบัญชีในกระดานเทรดที่เสนอคู่ซื้อขาย QNT กระดานเทรดที่รู้จักกันดีที่คุณควรจะพิจารณา ได้แก่ :
ในส่วนนี้ เราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับขั้นตอนการซื้อ QNT โดยใช้ eToro เป็นตัวอย่าง
ขั้นตอนที่ 1: สมัครบัญชีฟรีบน eToro
คุณสามารถลงทะเบียนด้วยอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณได้ หากคุณมีบัญชีอยู่แล้ว ให้เข้าสู่ระบบและระบุรหัสยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 2: ซื้อ Crypto โดยการฝากเงิน Fiat
ที่เมนูด้านข้าง คลิกที่ “Deposit Funds” และกรอกรายละเอียดของคุณ หรือคุณสามารถค้นหาเหรียญในส่วน “Watchlist” และซื้อจากที่นั่นได้
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบพอร์ตของคุณเพื่อดูยอดในบัญชี
เมื่อคุณซื้อ QNT เรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่ส่วน “Portfolio” ในเมนู คุณควรจะเห็น QNT จำนวนหนึ่งที่คุณเพิ่งซื้อ
Quant เป็นตัวแทนของอนาคตของเทคโนโลยีบล็อกเชน
ในขณะที่โลกเข้าใกล้สู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง นี่เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลต่างๆ เริ่มออกสกุลเงินดิจิทัลเพื่อแทนที่เศรษฐกิจในยุคปัจจุบันของเรา เมื่อมันเกิดขึ้น จะมีกรณีการใช้งานอีกมากมายของการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ต้องเชื่อมโยงกับบล็อกเชนต่างๆ
ทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง Quant ต้องการพัฒนาอนาคตตามคอนเซปต์ที่เรียกว่า “Internet of Trust” นี่ไม่ใช่คอนเซปต์ใหม่ ปัญหาเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันมีมานานมากแล้วในเกือบทุกๆ อุตสาหกรรม ตอนนี้ ด้วยความสามารถในการควบรวมเครือข่ายและเพิ่มมูลค่าจากระบบนิเวศหลายๆ แห่งโดยใช้เทคโนโลยีอย่างเช่น Quant เราอาจจะเห็นอนาคตของความเปลี่ยนแปลงของบล็อกเชนในไม่ช้าก็เร็ว
คำถามที่พบบ่อย
QNT คืออะไร?
Quant อยู่บน Ethereum Blockchain ได้หรือไม่?
Quant ใช้ทำอะไร?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์
