บล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งสำหรับ DeFi และ NFT นั้นก็คือ Ethereum และ Solana ทั้ง 2 เครือข่ายมีระบบนิเวศที่กว้างขวางและมีลักษณะเฉพาะที่ทำให้มันน่าสนใจ แต่คุณจะเปรียบเทียบ Solana กับ Ethereum ได้อย่างไร? Solana ได้รับการยกยอว่ามันเป็น “Ethereum Killer” จากชุมชน Crypto แต่นั่นเป็นเรื่องจริงหรือไม่? Solana ดีกว่า Ethereum หรือไม่?
บทความนี้จะกล่าวถึงความแตกต่างหลักๆ ระหว่างบล็อกเชนทั้ง 2 แห่ง เราจะมาดูเทคโนโลยีพื้นฐานและคุณสมบัติหลักของบล็อกเชนแต่ละตัว รวมไปถึงระบบนิเวศ DApp ที่กำลังขยายตัวกัน
Ethereum คืออะไร?
Ethereum เป็น Programmable Blockchain (บล็อกเชนแบบตั้งโปรแกรมได้) ตัวแรก ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอพพลิเคชั่นที่กระจายอำนาจโดยใช้คุณสมบัติสัญญาอัจฉริยะทั่วไปได้
Ethereum Blockchain ยังสามารถใช้งานสำหรับ Non-Fungible Tokens (NFTs) และแอพทางการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) Ethereum ถูกสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นทุกอย่างให้กับทุกคนและให้บริการแอพพลิเคชั่นเฉพาะทางที่หลากหลาย และนั่นคือสิ่งที่มันทำได้ มันนำเสนอการรักษาความปลอดภัยและชุดเครื่องมือที่สมบูรณ์ที่สามารถใช้สร้างแอพพลิเคชันที่กระจายอำนาจได้
สินทรัพย์ดั้งเดิมของบล็อกเชนคือ Ether (ETH) และมันยังถูกใช้สำหรับชำระค่าธรรมเนียมแก๊สสำหรับการทำธุรกรรมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม Ethereum กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการแก่เครือข่าย รวมไปถึง ต้นทุนการดำเนินการที่ต่ำลงอีกด้วย
Solana คืออะไร?
Solana ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายในการปรับขนาดที่ต้องเผชิญใน Ethereum Blockchain จากความสนใจที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ Crypto และข้อจำกัดแบนด์วิดท์ที่จำกัดปริมาณการรับส่งข้อมูลของธุรกรรมสำหรับทุกคนที่ต้องการใช้บล็อกเชนเฉพาะทาง Solana ได้ใช้ลูกเล่นทางเทคนิคที่ชาญฉลาดเพื่อแก้ไขปัญหาที่ซึ่งไม่ได้รับการแก้ไขในแพลตฟอร์มบล็อกเชนอื่นๆ
เช่นเดียวกับ Ethereum Solana นั้นมีแพลตฟอร์มสำหรับ Non-Fungible Tokens และแอพพลิเคชั่นที่กระจายอำนาจ (DApps) ของสะสมในรูปแบบดิจิทัลเหล่านี้ เช่น งานศิลปะ ได้สร้างความตื่นเต้นอย่างมากในหมู่ศิลปินดิจิทัล เช่น ผู้สร้างโมเดล 3 มิติและศิลปินวิชวลเอฟเฟกต์ หนึ่งในการลงทุนครั้งแรกของ Solana ในหมวดหมู่นี้คือ Degenerate Apes คอลเล็กชั่นที่มีรูปภาพมากกว่า 10,000 รูปที่หาซื้อได้ด้วย SOL เท่านั้น มันส่งผลกระทบอย่างมากต่อมูลค่าของสกุลเงิน — จากการที่ Degenerate Apes มีปริมาณการซื้อขายจำนวนนับสิบล้านรายการ
Solana กับ Ethereum: อะไรคือความแตกต่าง?
บล็อกเชนทั้ง 2 แห่งมีแฟนๆ ของพวกเขาและแอพที่สามารถใช้งานได้มากมายอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม Ethereum นั้นยังเป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากมันนำเสนอระบบนิเวศที่โปร่งใสและซับซ้อนของ DApps แต่มันก็ยังมีความแตกต่างบางอย่างที่ไม่สามารถมองข้ามได้ระหว่างบล็อกเชนทั้ง 2 แห่ง เราลองมาดูความแตกต่างระหว่างบล็อกเชนเหล่านี้จากมุมมองที่แตกต่างกัน 10 ประการกันดีกว่า
1. กลไกการทำงาน (Mechanism)
Ethereum 1.0 อาศัยกลไกฉันทามติ PoW ซึ่งเป็นกลไกเดียวกับที่ใช้โดยบล็อกเชนของ Bitcoin นั่นหมายความว่า เครือข่ายได้รับการปกป้องโดยเหล่านักขุด ผู้ซึ่งใช้พลังในการประมวลผลเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมบล็อกเชนและสร้างบล็อกใหม่ นี่คือเนื้อแท้ของเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ และมันยังทำหน้าที่ในการเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย อย่างไรก็ตาม กลไก PoW สามารถประมวลผลธุรกรรมได้เพียงไม่กี่รายการต่อวินาที ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อเครือข่ายการกระจายอำนาจที่กำลังเติบโต
Solana นั้นแตกต่างจาก Ethereum ตรงที่มันใช้ Proof-of-History (PoH) โดยพื้นฐานแล้ว มันต้องใช้ขั้นตอนการคำนวณหลายชุดเพื่อกำหนดเวลาการเข้ารหัสระหว่าง 2 เหตุการณ์ คุณสามารถติดตามคำสั่งซื้อของแต่ละธุรกรรมได้โดยเพิ่ม Timestamps และเพิ่มมันลงไปในธุรกรรม การจัดลำดับนี้มีความแตกต่างจาก Bitcoin หรือ Ethereum ที่ซึ่งการทำธุรกรรมไม่ได้มีการดำเนินการอย่างทันท่วงที
ความแตกต่างที่สำคัญอีกประการระหว่าง Ethereum และ Solana คือสถาปัตยกรรม “Stateless” ซึ่งช่วยลดการใช้หน่วยความจำ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องอัพเดตสถานะของเครือข่ายทั้งหมดสำหรับทุกธุรกรรม ธุรกรรมจึงสามารถดำเนินการตามลำดับได้ สิ่งนี้ทำให้ Solana สามารถปรับขนาดได้เป็นอย่างมาก
2. ภาษาโปรแกรม (Programming Language)
นักพัฒนาสามารถสร้างโปรแกรมโดยใช้สัญญาอัจฉริยะที่ทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจได้ แต่ละโหนดบนเครือข่ายโฮสต์อยู่บน Virtual Machine (การจำลองเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือนให้ทำงานได้เหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วไป) ของตัวมันเองที่จะรันคำสั่งเมื่อถูกเพิ่มลงในบัญชีแยกประเภทดิจิทัล
ความปลอดภัยของสัญญาอัจฉริยะได้รับผลกระทบจากภาษาโปรแกรมที่แพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะรองรับและ Virtual Machine ที่มันใช้งาน
แน่นอน ภาษาโปรแกรมที่ใช้นั้นมีความสำคัญเนื่องจากนักพัฒนาที่คุ้นเคยกับมันมากกว่าจะมีโอกาสทำผิดพลาดน้อยลง ซึ่งหมายความว่า Virtual Machine รุ่นที่เก่ากว่าอาจจะมีความเสถียรมากกว่าและมีข้อผิดพลาดน้อยกว่ารุ่นที่ใหม่กว่า
Ethereum นั้นใช้ Ethereum Virtual Machine (EVM) ที่สร้างขึ้นเอง สัญญาอัจฉริยะของมันถูกเขียนขึ้นในภาษาที่กำหนดเองเป็นหลัก เช่น:
- Solidity (ได้แรงบันดาลใจมาจากภาษา C++)
- Viper (ภาษา Python)
- Yul/Yul+ (ภาษากลางของ EVM)
- Fe (อ้างอิงจากภาษา Rust และ Python)
ในทางกลับกัน Solana นั้นใช้ภาษาที่เป็นที่รู้จักมากกว่าเช่น C, C ++ และ Rust
สถาปัตยกรรมของ Solana นั้นซับซ้อนกว่าและรองรับ Multithreading (การประมวลผลหลายๆ รายการพร้อมกัน) นอกจากนี้ มันยังใช้กลไกการส่งต่อธุรกรรมของ Gulf Stream เพื่อเรียกใช้โปรแกรมแทน Mempools (ยอดธุรกรรมคงค้างทั้งหมดอยู่ในเครือข่าย)
รายละเอียดของ Solidity ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมที่ใช้โดย Ethereum สามารถก่อให้เกิดช่องโหว่มากมายในสัญญาอัจฉริยะของ Ethereum เมื่อมันถูกใช้โดยนักพัฒนาที่ไม่มีประสบการณ์ แม้ว่า Solana จะใช้ภาษาโปรแกรมที่เป็นที่คุ้นเคยมากกว่า แต่สถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเมื่อโปรแกรมเมอร์ไม่ได้ทำการตรวจสอบโค้ดอย่างละเอียดถี่ถ้วน
3. การกระจายอำนาจ (Decentralization)
การกระจายอำนาจนั้นเป็นแกนหลักของเทคโนโลยีบล็อกเชน และมันเป็นหนึ่งในความแตกต่างหลักเมื่อเปรียบเทียบ Solana กับ Ethereum เป้าหมายสูงสุดคือการกำจัดระบบที่บุคคลหรือกลุ่มมีอำนาจในการควบคุมเหนือระบบเหล่านั้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการใช้อำนาจในทางที่ผิดและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
อย่างไรก็ตาม การกระจายอำนาจยังก่อให้เกิดความท้าทายในระบบบล็อกเชน เครือข่าย PoW นำไปสู่การสร้างกลุ่มการขุด ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่หลายกลุ่มสามารถควบคุมบล็อกเชนแบบรวมศูนย์ได้
ในทางกลับกัน PoS เป็นระบบที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสูงสุดได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเช่นกัน รูปแบบที่ “รวยขึ้นและรวยขึ้น” เช่นนี้สามารถทำให้เกิดการรวมศูนย์อำนาจได้
Solana มีความรวมศูนย์มากกว่า Ethereum ผู้ตรวจสอบความถูกต้อง 30 อันดับแรกของ Solana ถือสินทัพย์ที่ Stake มากกว่า 35% ผู้ตรวจสอบความถูกต้องระดับสูงจะมี SOL นับพันที่ Stake อยู่และควบคุมเปอร์เซ็นต์ที่มีนัยสำคัญของเครือข่าย
4. เวลาที่หยุดทำงาน (Downtimes)
Ethereum เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแห่งแรกที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ และข้อบกพร่องส่วนใหญ่ของมันก็ได้รับการแก้ไขตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะแออัด แต่มันไม่เคยหยุดการทำงานลงเพราะมันมีการกระจายอำนาจมากกว่าเชนอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ ที่จริงแล้ว มันเป็นส่วนหนึ่งในเหตุผลที่ Ethereum ประสบปัญหาในการปรับขนาด โปรเจกต์ต้องการให้ผู้ใช้งาน Crypto ทุกคนสามารถเรียกใช้โหนด Ethereum บนฮาร์ดแวร์ใดๆ ก็ได้ นับตั้งแต่ก่อตั้งมา Ethereum ไม่หยุดการทำงาน
อย่างไรก็ตาม Solana ยังคงดิ้นรนกับความท้าทายบางอย่างในการสร้างเครือข่ายแบบกระจายอำนาจอย่างแท้จริง พวกเขามีประสบการณ์ในการหยุดทำงานมาหลายครั้งตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
การหยุดทำงานของ Solana ครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2020 โดยหยุดทำงานเป็นเวลา 5 ชั่วโมงและไม่มีเงินสูญหาย การหยุดทำงานของ Solana ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2021 เป็นเวลา 17 ชั่วโมง โดยเกิดจากการโจมตี DDoS (Distributed Denial of Service)
การโจมตี DDoS เกิดขึ้นเมื่อผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามเข้ามาครอบงำเครือข่าย แล้วผลลัพท์เป็นอย่างไร? Solana หยุดทำงานไปเป็นเวลาหลายชั่วโมงและสูญเสียนักลงทุนบางส่วนไป แต่ไม่มีเงินสูญหาย
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายประสบปัญหาการหยุดทำงานเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งไม่ได้เป็นผลมาจากการโจมตี ในเดือนมกราคม 2022 ฝูงบอทได้ถูกใช้งานบนเครือข่ายมากเกินไปในระหว่าง IDO (การระดมทุนบนกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ) จากรายงาน เครือข่ายถึงจุดสูงสุดที่ 400,000 TPS (ธุรกรรมต่อวินาที) การหยุดทำงานก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่ความจริงที่ว่า Solana สามารถรองรับได้ถึง 400,000 TPS นั้นน่าประทับใจอย่างยิ่ง
5. ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม (Transaction Cost)
หัวข้อนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากหลายคนไม่ชอบที่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในราคาแพง Solana เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำ Ethereum มีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่สูงกว่า Solana
ในเดือนกรกฎาคม 2022 ค่าธรรมเนียมแก๊สเฉลี่ยในเครือข่าย Ethereum คือ 3 Gwei (0.09 ดอลลาร์) ค่าธรรมเนียมแก๊สของ Solana อยู่ที่ 0.0000053 SOL (0.0000014 ดอลลาร์) ต่อธุรกรรม
Solana Blockchain มีเวลาสร้างบล็อกเฉลี่ย 0.4 วินาทีและขนาดบล็อก 20,000 ธุรกรรม เทียบกับเวลาสร้างบล็อกเฉลี่ยของ Ethereum ที่ 13 วินาทีและขนาดบล็อกเพียง 70 ธุรกรรม
6. ความเร็วในการทำธุรกรรม (Transaction Speed)
Solana เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่มีการประมวลผลธุรกรรมเร็วที่สุด นี่เป็นเพราะสถาปัตยกรรมเครือข่าย Ethereum ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ ในขณะที่ Solana ให้ความสำคัญกับปริมาณงานมากกว่า
Ethereum 1.0 สามารถรองรับได้ถึง 30 TPS ในทางกลับกัน Solana สามารถประมวลผลมากกว่า 50,000 TPS VISA ระบบประมวลผลการชำระเงินทั่วโลก สามารถรองรับได้ 65,000 TPS
แต่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่า หลังจากการอัพเกรดบางอย่าง เครือข่าย Ethereum ควรจะสามารถประมวลผลได้ 100,000 TPS
7. ขนาดเครือข่าย (Network Size)
Ethereum เป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดที่รองรับการใช้งานสัญญาอัจฉริยะ จากข้อมูลของ DeFi Llama TVL (มูลค่าของสินทรัพย์ที่ล็อกเอาไว้กับระบบนิเวศ) ของ Ethereum นั้นสูงถึง 5.32 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่ TVL ของ Solana อยู่ที่ 2.54 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ความแตกต่างระหว่าง 2 เครือข่ายมากกว่า 95% เมื่อพูดถึง TVL ซึ่งหมายความว่าแอพทางการเงินส่วนใหญ่ชื่นชอบ Ethereum มากกว่า Solana นั้นแทบจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน และอาจจะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อตามให้ทันกับขนาดเครือข่ายมหาศาลของ Ethereum
8. มูลค่าตลาด (Market Cap)
ทั้ง Ethereum และ Solana มีเหรียญของตัวเองที่ใช้เป็นการชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม มันเป็นเหรียญที่สำคัญที่สุด 2 เหรียญในตลาด Crypto ทั้งหมด
ในเดือนกรกฎาคม 2022 1 ETH อยู่ที่ 1,465 ดอลลาร์ และมูลค่าตลาดของ Ethereum อยู่ที่ 1.78 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีการหมุนเวียนเหรียญ ETH มากกว่า 121.7 ล้านเหรียญ Ether อยู่ในอันดับที่ 2 ของสกุลเงินดิจิทัล รองจาก Bitcoin
เครือข่าย Solana ยังไม่มีอุปทานสูงสุดของ SOL ที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม มันมีอัตราเงินเฟ้อคงที่ ซึ่งจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากมันมีแนวโน้มว่าจะสูงถึง 1.5% ในระยะยาว ในเดือนกรกฎาคม 2022 1 SOL มีมูลค่าเท่ากับ 36.33 ดอลลาร์ โดยมีเหรียญ SOL 345.89 ล้านเหรียญหมุนเวียนอยู่ ทำให้มูลค่าตลาดของ Solana อยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์
9. ระบบนิเวศ DeFi (DeFi Ecosystem)
เมื่อพิจารณาจากอายุของ Ethereum มันมีระบบนิเวศ DeFi ที่ใหญ่กว่าและมีความหลากหลายมากกว่า Solana อย่างไรก็ตาม Solana พยายามอย่างหนักที่จะดึงดูดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ให้เข้าสู่เครือข่ายมากขึ้นด้วยการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลาย เช่น Hackathons และ Bug-Bounty Programs ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง วิธีการเหล่านี้ได้ช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานและนักพัฒนาให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก
Ethereum เป็นเครือข่ายหลักสำหรับแอพ DeFi ที่มีการใช้งานบ่อยที่สุด เช่น MakerDAO, Lido, Uniswap และ Aave ยิ่งไปกว่านั้น ปี 2021 ได้นำเทรนด์ใหม่มาสู่โลกบล็อกเชน ซึ่งก็คือความนิยมของ NFT ตลาด NFT ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้นสร้างขึ้นบน Ethereum
สิ่งสำคัญคือต้องชี้ให้เห็นว่าระบบนิเวศ DeFi บน Solana ยังคงอยู่ในช่วงตั้งต้น อย่างไรก็ตาม มี Solana DApps หลายตัวที่กำลังเริ่มดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ๆ นี่เป็นเพราะ Hackathons ที่ได้รับความนิยม แอพ DeFi ส่วนใหญ่บน Solana ได้แก่ Solend และ Raydium
เนื่องจากบล็อกเชนยังคงเป็นเทคโนโลยีใหม่ ระบบนิเวศจึงยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา มันมีความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นระหว่าง Solana และ Ethereum เมื่อใดก็ตามที่ค่าธรรมเนียมแก๊สของ Ethereum เพิ่มขึ้น ผู้ใช้งานของ Solana ก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น
ในเมื่อยังไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้ เราก็สามารถพูดได้ว่าระบบนิเวศ DeFi ปัจจุบันของ Ethereum นั้นกว้างขวางกว่าและมีแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายกว่า
10. NFTs
แม้ว่า Ethereum จะไม่ใช่รายแรกที่ใช้งาน Non-Fungible Tokens เพื่อสร้าง NFTs แต่มันก็เป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่สำคัญที่สุดที่มีการโปรโมตพวกมัน แม้ว่าการซื้อขาย NFT จะเริ่มได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2021 แต่มีการใช้งาน NFT มานานก่อนหน้านั้นมาก
CryptoKitties เป็นหนึ่งในแอพบล็อกเชนแรกที่มี NFT มันกลายเป็นสื่อที่มีมูลค่าเมื่อแอพทำให้เกิดความแออัดอย่างมากบน Ethereum ในปี 2017
แม้ว่า Solana จะยังใหม่ต่อพื้นที่ NFT แต่มันก็กำลังไล่ตามมาทันอย่างรวดเร็ว Solana อนุญาตให้ผู้ซื้อสามารถซื้อ NFT ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและมีปัญหาความแออัดเพียงเล็กน้อย หมายความว่า Solana และ SOL NFT สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าบน Ethereum
ราคาของ NFT ของ Solana เริ่มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 ในเดือนกันยายน 2021 Degenerate Ape NFT ถูกขายไปในราคา 1.1 ล้านดอลลาร์ การขายครั้งนี้ถือเป็นธุรกรรม NFT มูลค่าล้านดอลลาร์แรกบนเครือข่าย Solana Monkey ถูกขายไปในราคา 2 ล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม 2021
Solana กับ Ethereum: บล็อกเชนไหนดีกว่ากัน?
เมื่อเปรียบเทียบ Solana กับ Ethereum สิ่งสำคัญคือต้องระบุคุณสมบัติหรือความต้องการที่คุณต้องการจะทำต่อบล็อกเชนนั้นๆ
หากคุณเป็นนักพัฒนา คุณจะต้องสนใจเทคโนโลยีพื้นฐานเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นหัวข้อหลักเมื่อเปรียบเทียบ Ethereum กับ Solana นอกจากนี้ บล็อกเชนแต่ละตัวยังมีกลไกฉันทามติและมีวิธีการปรับขนาดที่แตกต่างกัน Solana เป็นบล็อกเชนที่เร็วที่สุด แต่ Ethereum มีปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่ามาก และถูกใช้ในตลาด Crypto มากกว่า
นักลงทุนอาจจะให้ความสนใจในแนวโน้มการเติบโตของทั้ง 2 เครือข่ายมากขึ้น ในขณะที่โลกที่กระจายอำนาจขยายตัวออกไป เราอาจจะสันนิษฐานได้ว่าเครือข่ายทั้ง 2 แห่งนี้จะเติบโตขึ้นในอนาคต แต่การเติบโตจะเป็นไปอย่างไรและชะตากรรมของเหรียญของพวกเขาจะเป็นอย่างไร? นี่คือสิ่งที่พวกเราควรจะจับตามอง
Ethereum และ Solana นั้นยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ล้ำหน้า หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบล็อกเชน Ethereum และ Solana จากผู้ที่มีประสบการณ์ มาเข้าร่วมกับเราที่ BeInCrypto Telegram Group สิ! สมาชิกทุกคนต่างยินดีที่จะตอบทุกคำถามของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
Solana ปลอดภัยกว่า Ethereum หรือไม่?
Solana เป็น Ethereum Killer หรือไม่?
Solana จะยิ่งใหญ่เท่า Ethereum หรือไม่?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์