9 เหรียญ AI Coin ที่น่าจับตามอง น่าลงทุน ในปี 2023

เหรียญ AI Coin คือ เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ เพื่อช่วยสร้างประสิทธิภาพด้านต่างๆ เช่น ด้านความปลอดภัย ด้านประสบการณ์ผู้ใช้งาน เป็นต้น

ในปัจจุบัน ไม่ว่าใครก็ตามต่างก็พูดถึงเกี่ยวกับ 2 นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา ซึ่งได้แก่เรื่อง สกุลเงินดิจิทัล (บล็อกเชน) และ AI ซึ่งในขณะที่ทั้งคู่ถูกกล่าวถึงว่า มันต่างก็เป็นแกนหลักของธุรกิจต่างๆ ด้วยตัวมันเอง คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่ามันทำงานด้วยกันได้ดีขนาดไหน? บทความนี้ เราจะมาอธิบายทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ AI Cryptocurrency เหล่านี้กัน

พูดกันตามตรงว่าในปัจจุบัน ตลาดคริปโตนั้นเต็มไปด้วยโปรเจกต์คริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกโปรเจกต์นั้นจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ไปเสียทั้งหมด แต่บทความเจาะลึกของเราจะไปดูกันถึงโปรเจกต์คริปโตที่บัเคลื่อนด้วย AI ที่แข็งแกร่งในตลาด โดยจะพิจารณาถึงการใช้งาน, ปัจจัยพื้นฐาน, กระแสของเงินอัจฉริยะ, และความเคลื่อนไหวของราคาของสกุลเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้

หากต้องการลงทุนเหรียญ AI สามารถซื้อจากแพลตฟอร์มเหล่านี้

Kraken

เข้าชมเว็บไซต์ Kraken

จำนวนคริปโต 200+

ค่าธรรมเนียม 0.26%

โบนัส ฟรี

OKX

เข้าชมเว็บไซต์ OKX

จำนวนคริปโต 300+

ค่าธรรมเนียม Maker 0.075-0.080% และ Taker 0.100%

โบนัส การันตี airdrop สูงสุด $100

ByBit

เข้าชมเว็บไซต์ ByBit

จำนวนคริปโต 200+

ค่าธรรมเนียม 0.075%

โบนัส สูงสุด $30,000

เหรียญ Ai Coin หรือ AI Cryptocurrency คืออะไร?

เหรียญ Ai Coin คือ เหรียญหรือโทเค็นดิจิทัลที่มีความเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์กระจายอำนาจที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ถ้าจะให้อธิบายแบบยาวขึ้น ก็คือว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั้นปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยให้ในบางแง่มุมของชึวิตเรานั้นสามารถดำเนินไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการตอบสนองที่รวดเร็วและมีความสามารถในการขยายตัวที่ดียิ่งขึ้นในเชิงกระบวนการ AI นั้นเป็นอะไรที่มากกว่าเพียงแค่ปัญญาประดิษฐ์ของ ChatGPT จาก OpenAI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นไปในด้านการสนทนา และก็ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เรามักจะเห็นกันในภาพยนต์ SciFi แต่ AI นั้นครอบคลุมทั้งในเรื่องเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ งานศิลปะ, การสร้างเนื้อหา, การตรวจสอบยืนยันรูปแบบ, การตรวจจับการฉ้อโกง และอื่นๆ อีกมากมาย

และด้วยกรณีการใช้งานที่หลากหลายเหล่านี้ทำให้ AI เป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน คุณลองนึกดูสิว่า บล็อกเชน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจที่เน้นในเรื่องความโปร่งใส เมื่อผสานรวมเข้ากับ AI ความโปร่งใสของบล็อกเชนก็จะเกิดความเป็นอัตโนมัติ, ความปลอดภัย, และความสบายใจ ซึ่งแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้ยังทำให้สัญญาอัจฉริยะทรงพลังและสัมพันธ์กันมากขึ้นอีกด้วย

โปรเจกต์กระจายอำนาจอย่างเช่น Fetch.ai, The Graph, Numeraire, Oasis Network และอื่นๆ อีกมากมายนั้นนำเสนอบริการ AI เฉพาะทางหรือไม่ก็มีการผสานรวม AI ไว้ในตัว เป็นเหตุให้โทเค็นหรือเหรียญที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์เหล่านี้ถูกเรียกว่า AI Cryptocurrency

ปัญญาประดิษฐ์, สกุลเงินดิจิทัล, และนวัตกรรม: ทำไมพวกมันถึงเข้ากันได้เป็นอย่างดี?

เทคโนโลยี AI นั้นสามารถพลิกโฉมหน้าสิ่งต่างๆ ในพื้นที่สกุลเงินดิจิทัลได้ ตั้งแต่การซื้อขาย, การศึกษาข้อมูล หรือแม้แต่การเลือกใช้งาน เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบัน โปรเจกต์คริปโตมากมายต่างก็โฟกัสในเรื่องการนำเสนอบริการ AI หรือ มี AI เป็นแกนหลักในการดำเนินงานของพวกเขา

ลองดู Fetch.ai เป็นตัวอย่าง โปรเจกต์นี้โฟกัสในเรื่องการทำให้เทคโนโลยี AI สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยมีเหรียญ FET เป็นแรงจูงใจ และเมื่อทั้ง 2 อย่างจับคู่เข้าด้วยกัน สกุลเงินดิจิทัลนี้ก็จะสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้งานรวมเอาการใช้งาน AI เข้าสู่วิถีชีวิตของพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการมีสกุลเงินดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง องค์กรต่างๆ ที่นำเสนอการใช้งานบริการ, เครื่องมือ และเทคโนโลยี AI จะสามารถทำงานได้อย่างโปร่งใสและกระจายอำนาจมากยิ่งขึ้น

ยังต้องการตัวอย่างเพิ่มเติมงั้นหรือ? นี่คือสิ่งที่ AI นำมาสู่พื้นที่คริปโต:

1. ความช่วยเหลือในการประมาณการด้วยการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์
2. เป็น DEXs ที่ดียิ่งขึ้นด้วยการสนับสนุนจากบอท AI ที่ถูกฝึกฝนมาสำหรับการวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาด
3. ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานด้วย UI/UX ส่วนบุคคล
4. ปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยสำหรับโซลูชั่นที่มีพื้นฐานระดับองค์กร ซึ่งจะช่วยป้องกันการแฮ็กและกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์ได้

ในพื้นที่คริปโต AI สามารถทำให้พื้นที่การทำงานโดยอัตโนมัติทั้งหมดกระจายอำนาจได้ ซึ่งจะเป็นการผลักดันไปสู่โลกที่เชื่อมต่อกันและรับรู้กันได้มากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติที่แตกต่างของ AI Cryptocurrency

สกุลเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้ แตกต่างจาก Altcoins ตัวอื่นๆ ตรงที่มันมีคุณสมบัติเหล่านี้:

1. โทเค็นมีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง
2. การใช้งาน AI Crypto เหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงบริการในโลกแห่งความเป็นจริงได้
3. เนื่องจาก AI ช่วยในการตรวจจับการฉ้อโกง สัญญาอัจฉริยะเฉพาะทางของโปรเจกต์ที่มีข้อบกพร่องซึ่งถูกผูกไว้กับโทเค็นใช้จ่ายจะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า
4. ระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องมักจะไม่เปราะบางต่อการแฮ็ก เนื่องจากความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามของ AI
5. อุปสงค์-อุปทานที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้มักจะถูกกำหนดโดยบริการที่ใช้สร้างรายได้ เหมือนกับกรณีการใช้งานของโปรเจกต์อย่าง SingularityNET
6. ในกรณีส่วนใหญ่แล้ว โทเค็นที่มอบให้กับผู้ก่อตั้งและโปรเจกต์นั้นจะถูกใช้ในการพัฒนาระบบนิเวศด้วยข้อมูลการฝึกฝนที่ดียิ่งขึ้น
7. พวกมันมักจะไม่เปราะบางต่อสภาวะตลาดในวงกว้างเนื่องจากความนิยมของ AI อาจจะช่วยผลักดันให้มันเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดได้

ถึงแม้ว่าคุณสมบัติเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคุณสมบัติที่มีมีความเกี่ยวข้องกันเองมากกว่า แต่คุณสมบัติอื่นๆ บางอย่างนั้นก็จะมีความเฉพาะเจาะจงต่อเครือข่ายหรือมีความพิเศษเฉพาะตัวมากกว่า

ตัวอย่างระบบนิเวศและสกุลเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI

โปรเจกต์ AI Crypto ต่างๆ นั้นมีกรณีการใช้งานที่แตกต่างกันไป ก่อนที่เราจะไปสำรวจสกุลเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ชั้นนำกัน นี่คือกรณีการใช้งานทั่วไปที่คุณควรทราบ:

1. เป็นแพลตฟอร์ม P2E ที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมด้วยสัญญาอัจฉริยะอันทรงพลังเพื่อช่วยระบุความคืบหน้าของเกมเมอร์, สิทธิ์ในการ Airdrop, และปัจจัยอื่นๆ
2. การตั้งค่าการซื้อขายโดยใช้ AI ซึ่งทำงานเหมือนกับบอทที่ได้รับการฝึกฝนบน DEX
3. แบบจำลองการประมวลผลข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อทำการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดิจิทัลที่เฉพาะเจาะจง
4. การผสานรวม AI และสัญญาอัจฉริยะเพื่อทำให้โปรเจกต์มีความชาญฉลาดและมุมมองที่กว้างไกลมากยิ่งขึ้น
5. เป็นกลไกฉันทามติบล็อกเชนที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง AIDPoS ของ Velas เป็นหนึ่งในตัวอย่างหลัก
6. การพัฒนาและจัดเตรียมข้อมูลด้วย AI ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การผสานรวมเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง

ดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ สกุลเงินดิจิทัลที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้งาน AI นั้นมักจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้จากบริการและข้อเสนอต่างๆ และโปรเจกต์คริปโตที่มีการใช้งาน AI นั้นยังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในโลกแห่ง Web3 อีกด้วย

9 โปรเจกต์เหรียญ Ai Coinที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำและสกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง

เราได้กล่าวถึงกรณีการใช้งานทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่คริปโตไปแล้วในช่วงต้นของบทความนี้ ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปอย่างที่คุณคิด ต่อไปนี้คือโปรเจกต์คริปโตที่มีกรณีการใช้งานและสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมที่โดดเด่น

1. Fetch.ai
2. Ocean Protocol
3. SingularityNET
4. Numeraire
5. The Graph
6. Hera Finance
7. dKargo
8. Cortex
9. DeepBrain Chain

คุณสามารถอ่านรายละเอียดของแต่ละโปรเจกต์เพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง

1. Fetch.ai (FET) โครงสร้างพื้นฐานที่เป็น AI

Fetch.ai เป็นระบบนิเวศ Machine-Learning ที่มุ่งเน้นในเรื่องการไม่กำหนดสิทธิ์การใช้งานและการกระจายอำนาจ พวกเขายังมุ่งมั่นที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้วย AI อัจฉริยะโดยมีโทเค็น FET เป็นแรงจูงใจในการใช้งานและเสนอบริการต่างๆ

Fetch.ai เป็นเหมือนแล็บ AI เฉพาะทางของบล็อกเชน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือ AI ได้ นอกจากนี้ ตลาดซื้อขาย DeFi, โครงข่ายพลังงาน, ระบบการเดินทาง และอุตสาหกรรมอื่นๆ สามารถใช้งาน Fetch.ai เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของพวกเขาเองได้

Fetch.ai มุ่งมั่นที่จะมอบสิทธิประโยชน์เหล่านี้ให้กับทุกคน:

1. นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถปรับขนาดได้และมีความปลอดภัย
2. นำเสนอแบบจำลองแมชชีนเลิร์นนิ่งและสัญญาอัจฉริยะที่ชาญฉลาด
3. รองรับการทำธุรกรรมที่มี Latency ต่ำ
4. การนำไปใช้ในธุรกิจเฉพาะด้านโลจิสติกส์, พลังงาน, และการเงิน

Fetch.ai นั้นเป็นเหมือนสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างอยู่บนบล็อกเชน โดยโฟกัสในเรื่องความปลอดภัยและการไม่เปลี่ยนรูป หุ่นยนต์ขนาดเล็ก (ตัวแทนอัตโนมัติ) ภายในสนามเด็กเล่นนี้จะช่วยคุณในการจัดการอุปกรณ์ประกอบฉากและสำรวจอาณาจักร ใครก็ตามที่สนใจจะสำรวจสนามเด็กเล่นนี้สามารถขอใช้งานหุ่นยนต์ได้

Fetch.ai มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการที่พวกเขามุ่งมั่นที่จะสร้างตลาดของเครื่องมือแมชชีนเลิร์นนิงระดับโลก

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 FET ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของระบบนิเวศ Fetch.ai มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 98% เมื่อเทียบแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ แล้วความเคลื่อนไหวของราคาเป็นอย่างไรในระยะสั้น?

กราฟรายวันเผยให้เห็นว่า FET ได้ทะลุขึ้นจากรูปแบบราคารูปลิ่มขาลงอย่างชัดเจน โดยขึ้นไปถึงที่ราคา 0.5344 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เราอาจจะคาดหวังได้ถึงการปรับฐานของราคาได้ในไม่ช้า เนื่องจาก RSI แสดงให้เห็นถึงสัญญาณ Bearish Divergence (สัญญาณของราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ ในขณะที่ตัวชี้วัดทางเทคนิคได้ปรับตัวลดลงขัดแย้งกับราคา) ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าแรงซื้อนั้นจะลดลงจากการที่ RSI ทำจุดสูงที่ต่ำลง

แต่ถ้าจำนวนเสาปริมาณการซื้อขายสีเขียวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันอาจจะทำให้แนวโน้มขาลงเป็นโมฆะ ซึ่งในกรณีดังกล่าว ระดับราคาที่ 0.706 ดอลลาร์จะเป็นระดับต่อไปที่ FET จะต้องทะลวงขึ้นไป

2. Ocean Protocol (OCEAN) การแชร์ข้อมูลด้วย AI

พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ Ocean Protocol เป็นโปรเจกต์การแชร์ข้อมูลโดยการใช้ AI เป็นหลัก ถึงแม้ว่า Big Data จะรับผิดชอบในการขับเคลื่อนโปรเจกต์ AI ในโลกแหง่วคามเป็นจริง แต่พวกเขาก็ยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยและการขาดความเป็นนิรนาม Ocean Protocol ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าวด้วยการนำการกระจายอำนาจมาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ

Ocean Protocol เป็นที่มีพื้นฐานอยู่บน Ethereum นอกจากนี้ OCEAN ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิม ยังช่วยสร้างรายได้ในแง่มุมของการควบคุมดูแล, ความปลอดภัย, และความเป็นส่วนตัว

Ocean Protocol ทำงานดังต่อไปนี้:

1. ระบบนิเวศการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ช่วยให้ผู้ใช้งาน AI ทำงานร่วมกับแบบจำลอง AI ที่พร้อมใช้งานแล้วได้
2. เป็นแพลตฟอร์มการเข้าถึงข้อมูลที่ช่วยจัดการและสนับสนุนการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์, การจดจำรูปภาพ, และ NLP (การประมวลผลภาษาธรรมชาติ)
3. เป็นแพลตฟอร์มการกำกับดูแลข้อมูลเพื่อติดตามการใช้งานและเปรียบเทียบมันกับแนวทางของ HIPAA และ GDPR
4. ระบบนิเวศการพัฒนา AI ที่มุ่งเน้นในเรื่องการกระจายอำนาจซึ่งขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน

Ocean Protocol อาจจะช่วยให้สามารถปรับปรุงคุณภาพข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนและการแชร์แบบจำลองข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

OCEAN ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 ดั้งเดิมของระบบนิเวศที่มีพื้นฐานเป็น AI ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 0.5177 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 50% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น กราฟรายวันของมันยังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่าสนใจ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ราคาของ OCEAN ได้ทะลุขึ้นจากรูปแบบราคารูปลิ่มขาลงและอาจจะมุ่งหน้าไปที่ 0.6132 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านถัดไป

แม้ว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นมากเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ RSI ก็ยังคงทำจุดสูงที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลในเชิงบวกสำหรับช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ นอกจากนี้ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (สีเขียว) ยังตัดผ่านขึ้นไปเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันและ 200 วันอีกด้วย ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าราคาของมันยังคงแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตาม หาก OCEAN ลดลงไปต่ำกว่า 0.38 ดอลลาร์ จะทำให้แนวโน้มดังกล่าวเป็นโมฆะ

3. SingularityNET (AGIX) ตลาดซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วย AI

หากคุณเป็นผู้พัฒนา AI ที่สามารถสร้างอัลกอริทึม AI และแบบจำลอง AI ได้ SingularityNET อาจจะเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับคุณ บุคคลหรือบริษัทใดๆ ก็ตามที่พยายามสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้วย AI สามารถค้นหาแอปและระบบที่เหมาะสมผ่านระบบนิเวศนี้ได้ AGIX ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิม เป็นเหมือนแรงจูงใจให้กับผู้สร้างแบบจำลอง AI

ระบบนิเวศ SingularityNET นำเสนอคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

1. ตลาดซื้อขายพร้อมบริการ AI
2. รองรับการพัฒนาแบบกระจายอำนาจที่มีพื้นฐานจาก AI
3. ปรับปรุงการเข้าถึงการใช้งาน AI
4. ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
5. การสร้างรายได้จากแบบจำลอง AI

SignularityNET (AGIX) สนับสนุนการสร้างแอปพลิเคชั่นแบบกระจายศูนย์โดยมี AI เป็นแกนหลัก ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะสร้าง DApp ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่น AI แล้วละก็ SingularityNET อาจจะเหมาะสมเป็นอย่างมาก

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

AGIX เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอันดับต้นๆ ในแง่ของการเพิ่มขึ้นของราคา โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 199% เมื่อเทียบแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 ปัจจุบัน มันซื้อขายอยู่ที่ 0.514 ดอลลาร์ และอาจจะกำลังเข้าสู่การชะลอตัว

โปรดสังเกตว่า RSI กำลังทำจุดสูงที่ต่ำลง ในขณะที่ความคลื่อนไหวของราคากำลังทำจุดสูงที่สูงขึ้น สัญญาณของ Bearish Divergence นี้อาจจะทำให้ราคาลดลงเล็กน้อย โดยมีแนวรับที่แข็งแกร่งที่ 0.408 ดอลลาร์

4. Numeraire (NMR) ระบบทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI

อีกหนึ่งโปรเจกต์ AI Crypto ที่มีพื้นฐานอยู่บน Ethereum ซึ่งทำงานเป็นตัวแทนแบบกระจายอำนาจของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และแทนที่จะนำเสนอบริการ AI โดยตรง โปรเจกต์นี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อทำให้การคาดการณ์ทางการเงินแม่นยำมากยิ่งขึ้น และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่ทำงานที่ Numeraire นั้นจะได้รับแรงจูงใจในการใช้งานโทเค็น NMR

Numeraire เป็นที่รู้จักสำหรับการสร้างแบบจำลองทางการเงินโดยมีพื้นฐานจาก AI และใช้บล็อกเชนเพื่อทำให้ระบบนิเวศทั้งหมดปลอดภัยและป้องกันการปลอมแปลงได้มากยิ่งขึ้น

ระบบนิเวศที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้เป็นที่รู้จักจากกรณีการใช้งานดังต่อไปนี้

1. ตั้งเป้าที่จะนำการกระจายอำนาจมาสู่การสร้างแบบจำลอง AI และ Data Science (การนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ด้วยกระบวนการต่างๆ)
2. หนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายแรกที่พึ่งพา AI สำหรับการวางแผนการลงทุน
3. เป็นแรงจูงใจให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลผ่านการแข่งขันต่างๆ
4. ส่งเสริมแนวคิดของการซื้อขายที่ปลอดภัยและมีข้อมูลสนับสนุน

Numerai พร้อมด้วยโทเค็น Numeraire NMR ทำหน้าที่ 2 ประการ: ประการแรกคือช่วยปรับปรุงผลลัพท์ของการซื้อขายทางจากเงิน ประการที่ 2 คือช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนา AI แบบกระจายอำนาจโดยเน้นไปที่อัลกอริธึมแมชชีนเลิร์นนิ่งและแบบจำลอง AI

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาของ NMR นั้นก็เพิ่มขึ้นเหมือนกับสกุลเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตัวอื่นๆ โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กราฟทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าราคากำลังเคลื่อนเข้าสู่โมเมนตัมขาขึ้น ซึ่งดูแข็งแกร่งถึงแม้ว่าตลาดจะมีการปรับฐานเป็นวงกว้าง

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (สีเขียว) กำลังจะทะลุเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (สีแดง) ซึ่งหากเกิดการ Golden Cross (การที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นวิ่งตัดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มของราคาที่วิ่งเข้าสู่ขาขึ้น) เราคาดว่าราคาของ NMR จะพุ่งสูงขึ้นไปอย่างมากที่ระดับราคา 25.65 ดอลลาร์ หรือมันอาจจะขึ้นไปได้สูงถึง 29.55 ดอลลาร์ หากแนวโน้มขาขึ้นแข็งแกร่งมากพอและความเชื่อมั่นของตลาดเอื้ออำนวย

5. The Graph: การสืบค้นข้อมูลด้วย DApps ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ในแง่ของมูลค่าตลาด The Graph เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอันดับต้นๆ มันเป็นโปรเจกต์ Web3 พร้อมใช้สำหรับการสืบค้นข้อมูลจากบล็อกเชนอย่าง Ethereum และถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับ AI โดยตรงในแง่ของการนำเสนอบริการและการใช้งาน แต่มันก็เป็นโซลูชั่นที่เชื่อถือได้สำหรับนักพัมนา AI ที่วางแผนจะพัฒนาแบบจำลองโดยการขอข้อมูลจากบริการที่เกี่ยวข้องกับ The Graph

The Graph อยู่ในอันดับ 40 ของคริปโตระดับโลก และมีการร่วมมือกับบริษัทชื่อดังมากมาย เช่น Big Data, AI, DeFi, Enterprise Solutions และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้าย The Graph นั้นมีพื้นฐานอยู่บน Ethereum และโทเค็น GRT ของพวกเขาเข้ากันได้กับ ERC-20

ถึงแม้ว่า The Graph จะไม่ได้เชื่อมโยงกับ AI โดยตรง แต่มันก็ยังมีกรณีการใช้งานดังต่อไปนี้:

1. การเข้าถึงข้อมูลแบบกระจายอำนาจและปลอดภัย
2. การจัดการข้อมูลอย่างราบรื่นด้วยแบบจำลอง AI, แมชชีนเลิร์นนิ่ง, และอัลกอริทึม AI
3. เป็นตัวเปิดใช้งาน DApps ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

The Graph ช่วยคุณได้ในกรณีที่คุณวางแผนที่จะเพิ่มพลังให้กับแอปพลิเคชั่น AI บนบล็อกเชนของคุณด้วยข้อมูลจากบล็อกเชนตัวอื่นๆ ดังนั้น มันจึงช่วยให้ทุกคนสามารถใช้งาน DApps ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ร่วมกันได้มากยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาของ GRT ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของ The Graph เพิ่มขึ้น 113.64% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และอาจจะขยับสูงขึ้นไปอีก คุณจะสามารถเห็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (สีเขียว) ข้ามผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (สีฟ้า) ซึ่งจะทำให้เกิดแนวโน้มขาขึ้นต่อราคาของ GRT ยิ่งไปกว่านั้น การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ใดๆ อาจจะช่วยผลักดันให้ราคาถึงไปสูงได้ถึง 0.215 ดอลลาร์

ตัวชี้วัดโมเมนตัมยังคงสร้างจุดสูงที่สูงขึ้น ซึ่งอาจจะช่วยให้เกิดความเคลื่อนไหวของราคาที่สูงขึ้นไปอีก ในปัจจุบัน GRT ซื้อขายอยู่ที่บริเวณ 0.186 ดอลลาร์

6. Hera Finance: ตัวรวบรวม DEX ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Hera Finance เป็นโปรเจกต์ DeFi ที่เป็นตัวรวบรวม DEX และโทเค็นดั้งเดิมของพวกเขา HERA จะช่วยให้ผู้ถือสามารถทำการสวอปโทเค็นและใช้งานบริการ DeFi เฉพาะทางอื่นๆ ได้

Hera Finance มีกรณีการใช้งานดังต่อไปนี้:

1. มันจะเชื่อมต่อกลุ่มผู้ดูแลสภาพคล่องกับแบบจำลอง AI ซึ่งจะช่วยค้นหาทุกความเป็นไปได้ในการสวอปโทเค็น
2. โปรโตคอลที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถแบ่งการซื้อขายจำนวนมหาศาลของคุณออกเป็นเศษส่วนย่อยๆ ได้ซึ่งจะช่วยให้คุณค้นหาสภาพคล่องในเครือข่ายต่างๆ ได้ง่ายและดีมากยิ่งขึ้น

ในฐานะผู้รวบรวม DEX ที่ขับเคลื่อนด้วย AI Hera Finance เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสวอปโทเค็นโดยมีค่าความคลาดเคลื่อนเป็นศูนย์ และยังสามารถทำงานร่วมกันได้ด้วยความช่วยเหลือจาก AI ที่ช่วยบุกเบิกเส้นทางนั้น

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

หากดูที่กราฟราคา 7 วันในปัจจุบันของ HERA คุณอาจจะเห็นได้ว่ามันสร้างจุดสูงที่ต่ำลงอยู่ 2-3 จุด ดังนั้น เราคงจะไม่แปลกใจหากมีการปรับฐานราคาของ HERA เกิดขึ้น ราคาของมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 65% เมื่อเทียบแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งซื้อขายอยู่ที่ 2.97 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวขาขึ้นและแท่งเทียนรายวันปิดอยู่เหนือระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 3.40 ดอลลาร์ ซึ่งอาจจะทำให้แนวโน้มขาลงกลายเป็นโมฆะ

7. dKargo: โซลูชั่นโลจิสติกส์ที่มีพื้นฐานจาก AI

โปรเจกต์คริปโต dKargo มีเป้าหมายที่จะปฏิวัติวงการโลจิสติกส์ทั่วโลกด้วยการเสนอการเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI ในฐานะโปรโตคอล พวกเขามีเป้าหมายที่จะนำเสนอข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งก็คือโซลูชั่นโลจิสติกส์แบบ Full-Stack (ความชำนาญทั้งในส่วนของเบื้องหน้าและเบื้องหลัง) ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง

นี่คือกรณีการใช้งานที่ dKargo สัญญาว่าจะช่วยผลักดัน:

1. ให้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าเชื่อถือได้ซึ่งมาจากความช่วยเหลือของความโปร่งใสของบล็อกเชน
2. นอกจากนี้ มันยังช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางด้วย AI

มันเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ Web3 ไม่กี่โปรเจกต์ที่ให้ผลประโยชน์ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซัพพลายเชน แนวคิดที่พวกเขาต้องการจะทำให้เกิดขึ้นคือการสร้างระบบนิเวศโลจิสติกส์แบบเปิด

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

DKA ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของ dKargo มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 16% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กราฟราคารายวันได้บ่งชี้ว่า ตอนนี้ ราคาของ DKA นั้นอยู่ในจุดเฝ้าระวังแล้ว จากการที่เส้นค่าเฉลี่ยวิ่งเข้าหากันอย่างใกล้ชิด และราคานั้นเคลื่อนที่อยู่ใกล้ๆ กับเส้นแนวโน้มขาลงของรูปแบบสามเหลี่ยม

ปัจจุบัน DKA ซื้อขายอยู่ที่ 0.04115 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวใดๆ ที่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั่วไป 200 วัน (สีแดง) จะทำให้การเคลื่อนไหวขาขึ้นกลายเป็นโมฆะ

8. Cortex: ตลาดซื้อขายที่มีพื้นฐานจาก AI

Cortex เป็นโปรเจกต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอัพโหลดแบบจำลอง AI ของตนไปยังเครือข่ายแบบกระจายได้ และในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มแบบโอเพ่นซอร์ส พวกเขาทำให้ AI สามารถเข้าถึงได้ง่าย และยังช่วยให้แบบจำลองและตรรกะสามารถผสานรวมกับสัญญาอัจฉริยะและ DApps ได้อย่างราบรื่น

ระบบนิเวศ Cortex มีกรณีการใช้งานดังต่อไปนี้:

1. สร้างพื้นฐานสำหรับ DApps ที่ปลอดภัยและขับเคลื่อนด้วย AI
2. รองรับการซื้อและขายแบบจำลอง AI
3. นอกจากนี้ มันยังทำงานเป็นตลาดซื้อขายสำหรับข้อมูล AI

Cortex เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ AI ที่โดดเด่นด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ ด้วยการนำ AI เข้าสู่โลกแบบกระจายอำนาจและทำหน้าที่เป็นตลาดซื้อขายสำหรับความต้องการเฉพาะด้าน AI ที่หลากหลายของคุณ นอกจากนี้ โทเค็นดั้งเดิมอย่าง CTXC ยังทำหน้าที่สร้างแรงจูงใจในพื้นที่นี้

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาของ CTXC นั้นเพิ่มขึ้น 41.11% เมื่อเทียบแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 นอกจากนี้ กราฟรายวันยังแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีการชะลอตัวเล็กน้อย สุดท้าย โปรดสังเกตสัญญาณ Bearish Divergence ของตัวชี้วัด RSU ที่กำลังสร้างจุดสูงที่ต่ำลง ซึ่งตรงกันข้ามกับกราฟราคาที่ทำลังทำจุดสูงที่สูงขึ้น

ขณะนี้ CTXC ซื้อขายอยู่ที่ 0.3051 ดอลลาร์ และเราคาดว่า หากราคาลดลง มันจะลงไปยังแนวรับที่แข็งแกร่งที่ 0.2521 ดอลลาร์

9. DeepBrain Chain: แพลตฟอร์มการพัฒนาและการปรับใช้งาน AI

เราได้เก็บโปรเจกต์ AI ที่สร้างผลกระทบได้มากที่สุดไว้เป็นโปรเจกต์สุดท้าย DeepBrain Chain เป็นระบบนิเวศเฉพาะทางของบล็อกเชนสำหรับการฝึกฝน, พัฒนา, และปรับใช้แบบจำลอง AI สำหรับบริการและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

นี่คือคุณสมบัติที่ทำให้ DeepBrain Chain เป็นที่รู้จัก:

1. นำเสนอข้อมูลการฝึกฝนที่คุ้มค่าอย่างมาก
2. ช่วยในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ AI และยังนำเอาระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจเข้ามาผสานรวมไว้ด้วย

ความพร้อมใช้งานของระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจสำหรับการพัฒนาแบบจำลอง AI คือเอกลักษณ์ที่ทำให้ DeepBrain Chain ไม่เหมือนใคร การช่วยให้บริษัทและบุคคลต่างๆ เข้าถึงพลังความสามารถของ AI ได้ พร้อมกับช่วยให้ผู้ให้บริการยังคงอยู่ในระดับแถวหน้าเป็นสิ่งที่ DeepBrain Chain ตั้งเป้าเอาไว้

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ดูเหมือนว่า DeepBrain Chain จะเป็นหนึ่งในคู่ผสมผสานที่ทรงพลังของ AI และเทคโนโลยีบล็อกเชน และนั่นคือสาเหตุที่ราคาของ DBC ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของโปรเจกต์นี้ เพิ่มขึ้นถึง 111.62% เมื่อเทียบแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์

DBC ซื้อขายอยู่ที่ 0.0076 ดอลลาร์ ซึ่งกำลังกลับสู่รูปแบบราคารูปลิ่มขาขึ้น โปรดสังเกตว่า กราฟราย 4 ชั่วโมงแสดงให้เห็นถึงการทะลุขึ้นที่ล้มเหลวจากรูปลิ่มขาขึ้น นอกเสียจากว่า DBC จะทะลุขึ้นไปเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้นได้อีกครั้ง เราคาดว่าราคาจะมีการปรับฐานเล็กน้อยจากระดับราคาในปัจจุบัน

บล็อกเชนที่ชาญฉลาดอยู่ตรงหน้าเราแล้ว

ข้อมูลทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปคือรายชื่อของ AI Cryptocurrency ชั้นนำที่เราต้องการจะนำเสนอให้กับทุกคนได้ทราบ สิ่งหนึ่งที่คุณควรทราบเลยก็คือ การใช้ AI ในโปรเจกต์คริปโตไม่ใช่แค่เพียงการให้ผลประโยชน์กับผู้ใช้งานปลายทางเท่านั้น แต่ยังเป็นอุตสาหกรรมโดยรวมอีกด้วย เช่น การทำให้บล็อกเชนมีความฉลาดมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้งาน AI ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีบล็อกเชน

ดังนั้น เมื่อคุณได้ยินเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โปรดพิจารณาถึงวิธีการนำ AI ไปใช้งานในแต่ละกรณี ซึ่งเฉพาะในกรณีที่บทบาทของ AI ช่วยเพิ่มคุณค่าที่แท้จริงให้กับผู้ใช้งานในเครือข่ายเท่าที่คุณควรจะยกนิ้วให้

คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ

• Bearish Divergences: สัญญาณของราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ ในขณะที่ตัวชี้วัดทางเทคนิคได้ปรับตัวลดลงขัดแย้งกับราคา
• AI หรือ Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์): ระบบประมวลผลของคอมพิวเตอร์, หุ่นยนต์, เครื่องจักร หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่มีการวิเคราะห์เชิงลึกคล้ายกับความคิดของมนุษย์ และจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ต่างๆ ตามรูปแบบการทำงานของมันได้อย่างอัตโนมัติ

คำถามที่พบบ่อย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

YouHodler สำรวจเลย →

BYDFi สำรวจเลย →

CoinEx สำรวจเลย →

BingX สำรวจเลย →

Coinrule สำรวจเลย →

Bybit สำรวจเลย →

ดูเพิ่มเติม