เนื่องจากสกุลเงินคริปโตได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมหลายๆ แห่งจึงได้หันมาจับตามองและให้การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากยิ่งขึ้น การผสมผสานระหว่างการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) กับโลกแห่งการกระจายอำนาจของสกุลเงินคริปโตส่งผลให้ Crypto Hedge Funds ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่ Crypto Hedge Fund คืออะไร? แล้วมันมีความแตกต่างจากแบบดั้งเดิมอย่างไร?
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับแง่มุมของ “Crypto Hedge Fund” หรือ “กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต” รวมไปถึง วิธีการดำเนินงาน แนวทางในการจัดการกองทุน การจัดการเงินทุน กลยุทธ์ในการลงทุน และภาพรวมด้านกฏระเบียบต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้คือทุกสิ่งที่คุณต้องรู้!
- Hedge Fund (กองทุนเฮดจ์ฟันด์) คืออะไร?
- มีกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสกุลเงินคริปโตอยู่หรือไม่?
- Crypto Hedge Funds ทำงานอย่างไร?
- การจัดสรรเงินทุนใน Crypto Hedge Funds: สามารถทำได้อย่างไรบ้าง?
- แนวทางที่ Crypto Hedge Funds ใช้งานเป็นอย่างไร?
- ประเภทของ Crypto Hedge Funds
- กองทุนประเภทอื่นๆ ที่เน้นไปที่สกุลเงินคริปโต
- กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตมีพัฒนาการอย่างไรบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา?
- Crypto Hedge Funds ได้รับการกำกับดูแลอย่างไรบ้าง?
- ข้อดีและข้อเสียของกองทุนเฮดจ์ฟันด์
- หนทางข้างหน้าสำหรับ Crypto Hedge Fund
- คำถามที่พบบ่อย
Hedge Fund (กองทุนเฮดจ์ฟันด์) คืออะไร?
ให้คิดซะว่า “Hedge Fund” หรือ “กองทุนเฮดจ์ฟันด์” เป็น สโมสรส่วนบุคคลที่เหล่านักลงทุนรวบรวมเงินทุนเอาไว้ด้วยกันเพื่อใช้ในการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และเพิ่มผลตอบแทนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กลุ่มการลงทุนที่ดำเนินการในรูปแบบนี้จะมีกฎเกณฑ์ที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับกองทุนแบบดั้งเดิม เช่น ETF, กองทุนรวม, หรือกองทุนอื่นๆ
ด้วยกฎระเบียบที่น้อยลง กองทุนเฮดจ์ฟันด์จึงอยู่ในสถานะที่ดีกว่าสำหรับการทำ Alpha Generation หรือ การสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ใน TradFi (การเงินแบบดั้งเดิม) กองทุนเฮดจ์ฟันด์มีเป้าหมายในการช่วยให้เหล่านักลงทุนได้รับผลตอบแทนสูงสุดด้วยการใช้วิธีการในการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และนั่นก็หมายถึงกลยุทธ์ Hedge the Risks (การป้องกันความเสี่ยง)
แต่กองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิมนั้นมีความสำคัญเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่? Marcel Kalinovic ซีอีโอของ Lit XChange ไม่คิดเช่นนั้น
“ผลตอบแทนของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในปี 2023 กำลังย่ำแย่เนื่องจากการลงทุนในหุ้นมีมและตลาดการเงินที่ไม่ดี”
Marcel Kalinovic, ซีอีโอของ Lit Xchange: Twitter
มีกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสกุลเงินคริปโตอยู่หรือไม่?
แน่นอน! ด้วยโลกการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปและนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ มากยิ่งขึ้น Crypto Hedge Funds หรือ กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีอยู่ มันก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรมากมายนักจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิม
กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตใช้ประโยชน์จากโอกาสในการลงทุนสกุลเงินคริปโตที่ไม่เหมือนใคร โดยจะเป็นการนำเสนอแนวทางการจัดการความเสี่ยงในพอร์ตลงทุนสกุลเงินคริปโต และกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ
ไอเดียของการจัดตั้ง “กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต” นั้นเรียบง่ายมาก จากการที่อุตสาหกรรม Crypto เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้จัดการกองทุนและบุคคลที่ร่ำรวยมากมายต่างก็เพิ่ม Crypto ลงไปในพอร์ตการลงทุนของพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไป กองทุนเหล่านี้ก็กลายเป็นกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบดั้งเดิมเพื่อรุกเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของนักลงทุนสถาบัน เช่น Grayscale, MicroStrategy และ Tesla ฯลฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาคส่วนกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
นี่คือรายชื่อของ “กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต” ชั้นนำ เรียงตามอันดับสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการของกองทุน (Asset under Management หรือ AUM):
Crypto Hedge Funds ทำงานอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนสถาบันจะไม่เข้าซื้อสินทรัพย์คริปโตผ่านทางกระดานเทรดแบบรวมศูนย์หรือกระจายอำนาจ (CEX และ DEX) แต่จะใช้วิธีการเช่นเดียวกับเหล่า HNWI (High Net-Worth Investors หรือ นักลงทุนรายใหญ่) ด้วยการลงทุนผ่านกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงบริษัทต่างๆ และบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้ากับโลกของคริปโต
รู้หรือไม่ว่า? กองทุนบำเหน็จบำนาญ Virginia’s Police Officer’s Retirement System มีกองทุนที่เน้นในเรื่องการลงทุนในคริปโตอยู่ ซึ่งก็คือ Morgan Vreek Blockchain Opportunities Fund นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของการลงทุนสถาบันที่มีต่อคริปโต
สิ่งหนึ่งที่ควรทราบก็คือ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ส่วนใหญ่มักจะทำการคาดการณ์ได้ค่อนข้างดี และนี่คือตัวอย่าง:
การบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน
การบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมสำหรับกองทุนของคุณ คิดซะว่ากระบวนการนี้ก็คือการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสมให้กับอาหารจานหนึ่ง — ซึ่งก็คือกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยมีเชฟเป็นผู้ที่จัดการกับอาหารจานดังกล่าว — ซึ่งก็คือผู้จัดการกองทุนนั่นเอง
กองทุนเฮดจ์ฟันด์เป็นการลงทุนที่รวบรวมเอาสินทรัพย์ของนักลงทุนมาไว้ด้วยกันเพื่อสร้างรายได้ที่สูงขึ้น การบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนก็คือกระบวนการที่จะกำหนดว่าสินทรัพย์ของนักลงทุนจะถูกนำไปลงทุนที่ใด
บางทีกองทุนอาจจะมีเพียง BTC และ ETH ในพอร์ตการลงทุนของพวกเขา หรืออาจจะมีส่วนผสมของ Altcoins ต่างๆ อย่างเหมาะสมก็ได้ ตัวอย่างเช่น DCG หรือ Digital Currency Group บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง Grayscale Investments ซึ่งได้ถือครอง BTC, Decentraland (MANA), ETC, และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ ไว้เป็นจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น DCG ยังได้มีการลงทุนในบริษัทคริปโตชั้นนำต่างๆ เช่น Brave (เว็บเบราว์เซอร์), Chainalysis บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน และบริษัทต่างๆ อีกมากมายที่เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนของพวกเขา
Pantera Capital คือกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตที่ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลประเภทต่างๆ รวมถึง โทเค็นคริปโตในระยะเริ่มแรก โทเค็นสภาพคล่อง กองทุน Bitcoin และอื่นๆ อีกมากมาย
การจัดสรรเงินทุน
ในส่วนนี้จะเป็นการตัดสินใจว่าเงินลงทุนจะถูกนำไปลงทุนในสินทรัพย์แต่ละรายการเป็นจำนวนเท่าใด เปรียบได้กับการที่เชฟตัดสินใจว่าจะใช้ส่วนผสมแต่ละอย่างในปริมาณเท่าใดในสูตรอาหารของเขา ผู้จัดการกองทุนจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ให้มาก การจัดสรรเงินทุนให้กับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนสูงมากจนเกินไป อาจจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและความมั่นคงของกองทุนได้
การจัดสรรเงินทุนถือว่าเป็นศาสตร์ประเภทหนึ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์เป็นอย่างมาก เราจะมาพูดถึงประเด็นสำคัญของการจัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์โดยละเอียดเพิ่มเติมในภายหลังของบทความนี้
Alpha Generation
เมื่อพูดถึงเรื่องการลงทุน Alpha จะหมายถึงเรื่องประสิทธิภาพ กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตนั้นมีเป้าหมายที่จะทำประสิทธิภาพให้ได้เหนือกว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิมบางกองทุนที่ทำกำไรได้มากที่สุด
คอนเซปต์ของ Alpha Generation ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์นั้นก็คือ การทำผลงานให้ได้ดีกว่าประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยของดัชนี สินทรัพย์ หรือกองทุนที่ใช้เป็นการเปรียบเทียบด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณวางแผนที่จะลงทุนในกองทุน Bitcoin ผลตอบแทน 15% ต่อปีจะถือเป็น Positive Alpha (อัลฟ่าในเชิงบวก) หาก BTC เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนระหว่าง 10% ถึง 14.9% หรือถ้าจะให้พูดง่ายๆ Positive Alpha ก็คือการทำผลกำไรให้เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของสินทรัพย์หรือดัชนีอ้างอิงนั่นเอง
การบริหารความเสี่ยง
การทำ Alpha ได้นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งเหล่านี้ก็มักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์จะต้องจัดการ การบริหารความเสี่ยงก็เปรียบเสมือนจุดยึดโยงที่ผู้จัดการกองทุนสามารถทำได้เมื่อเกิดเหตุผิดปกติขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวทางการบริหารความเสี่ยงนั้นอาจจะแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับแนวทางของ Alpha Generation ที่กองทุนใช้งาน
ตัวอย่างเช่น หากกองทุนเฮดจ์ฟันด์เน้นเรื่องการเก็งกำไร ผู้จัดการกองทุนจะต้องคำนึงถึงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมไปถึงข้อกังวลอื่นๆ เช่น เวลาหยุดทำงาน (Downtime) เป็นต้น การบริหารความเสี่ยงที่ดี อาจจะเป็นการกระจายเงินทุนไปยังกระดานเทรดต่างๆ เพื่อลดการพึ่งพาเพียงแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง
การวิเคราะห์ตลาด
การวิเคราะห์ตลาดมีวัตถุประสงค์ก็เพื่อศึกษาแนวโน้มที่เกิดขึ้นในตลาดสกุลเงินดิจิทัล ตั้งแต่ โอกาสในการเก็งกำไร ไปจนถึง การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแบบง่ายๆ ผู้จัดการกองทุนควรที่จะประเมินถึงความเป็นไปได้ และดำเนินการไปตามนั้น
นี่อาจจะรวมไปถึงการวิเคราะห์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่สำคัญ การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาดโดยรวม และการประเมินการลงทุน รวมถึงการไหลเข้าออกของเงินทุน อีกด้วย
การจัดสรรเงินทุนใน Crypto Hedge Funds: สามารถทำได้อย่างไรบ้าง?
ผู้จัดการกองทุนมักจะมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดสรรเงินทุน เพื่อเตรียมการในการสร้างกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุด และดังที่ได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ การจัดสรรเงินทุนเป็นศาสตร์ประเภทหนึ่งที่จะต้องใช้การคิดคำนึงตามตรรกะเป็นอย่างยิ่ง
และนี่คือปัจจัยที่พวกเขาควรจะให้ความสำคัญ:
- เป้าหมายคือการสร้าง Positive Alpha พร้อมกับรักษาระดับความเสี่ยงในอยู่ในจุดที่ยอมรับได้
- กองทุนส่วนใหญ่จะใช้การกระจายความเสี่ยงสินทรัพย์ ดังนั้น การทำ Due-Diligence (การสอบทานธุรกิจ) จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก ผู้จัดสรรควรที่จะมีความรู้ความเข้าใจต่อสกุลเงินดิจิทัลนั้นๆ อย่างชัดเจนก่อนที่จะทำการลงทุน รวมไปถึงการตรวจสอบตลาดอนุพันธ์เพื่อทำความเข้าใจลักษณะของกองทุนด้วย
- การจัดการพอร์ตการลงทุนของกองทุนเฮดจ์ฟันด์จะไม่ใช่การสุ่มและไม่ใช่แค่เพียงการลงทุนในโทเค็นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น DGB ที่แสดงให้เราเห็นว่าแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล, เบราว์เซอร์ Web3, หรือธุรกิจอื่นๆ ก็คุ้มค่าที่จะลงทุนเช่นกัน
- สินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนควรมีความลึกของตลาดและสภาพคล่องที่ดี เนื่องจากเพื่อทำกำไรแล้ว อาจจะต้องมีการขายสินทรัพย์ออกไป ดังนั้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงเงินทุนได้ง่าย สินทรัพย์ควรจะต้องมีสภาพคล่องที่ดี การตรวจสอบภูมิทัศน์ของกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) และ กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) ก็สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้
- อัตราส่วนที่สำคัญ เช่น Sharpe Ratio สามารถใช้เพื่อเปรียบเทียบ Alpha ที่ปรับความเสี่ยงของการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) และสกุลเงินดิจิทัลได้ ช่วยให้นักลงทุนสามารถทราบได้ว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นๆ มีกำไรตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
นอกเหนือจากประเด็นต่างๆ ที่กล่าวมา ผู้จัดสรรควรที่จะตรวจสอบผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่คล้ายๆ กัน, กองทุนประเภทต่างๆ ตามสินทรัพย์ที่พวกเขามีอยู่ในการครอบครอง และดัชนีกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่แตกต่างกันออกไป
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการจัดสรรเงินทุน ก็คือ แนวทางของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และแนวทางที่เราหมายถึงก็คือ วิธีการที่มันจะมุ่งไปสู่การสร้าง Positive Alpha
ทำความเข้าใจกับกระบวนการ
“กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต” เป็นกองทุนรวมที่จะใช้เพื่อลงทุนในองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่คริปโต ไม่ว่าจะเป็น โทเค็น, ETF, บริษัทคริปโต, หรือเกือบทุกๆ อย่างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ โดยทั่วไปแล้ว กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตจะมีเกณฑ์การลงทุนขั้นต่ำอยู่
และถึงแม้ว่านี่อาจจะดูเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป แต่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ก็จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมการดำเนินงานและการบริหาร ค่าธรรมเนียมการดำเนินงานจะถูกเรียกเก็บตามประสิทธิภาพของกองทุนที่ทำได้เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าธรรมเนียมการบริหารจะเป็นค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษากองทุนเป็นหลัก
กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตทั้งหมดจะมีสิ่งที่เรียกว่า “Hurdle Rate” หรือ “อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่ยอมรับได้” อยู่ และนี่คือระดับของผลการดำเนินงานขั้นต่ำที่กองทุนจะต้องบรรลุให้ได้เสียก่อน จึงจะสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการดำเนินงานได้ โดยปกติแล้ว ค่าธรรมเนียมการดำเนินงานจะอยู่ที่ 10% ถึง 20% ในขณะที่ ค่าธรรมเนียมการบริหารมักจะถูกกำหนดไว้ที่ 2% หรือต่ำกว่า
แนวทางที่ Crypto Hedge Funds ใช้งานเป็นอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว Active Funds (กองทุนที่มีแนวทางในการบริหารแบบเชิงรุก) หรือ Hedge Funds มักจะใช้การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล การจัดหาสภาพคล่องที่เน้นไปที่ปัจจัยพื้นฐาน และกลยุทธ์การเก็งกำไรเพื่อสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวก
คุณสามารถใช้กลยุทธ์อื่นๆ ร่วมด้วยได้ หากคุณวางแผนที่ใช้พื้นที่นี้เพื่อสร้างความสำเร็จ กลยุทธ์ต่างๆ นั้นอาจจะรวมไปถึง:
- การซื้อขายเชิงปริมาณโดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์
- การวางกลยุทธ์โดยอิงจากเหตุการณ์ต่างๆ โดยให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์อารมณ์ของตลาด
- การ Yield Farming, Staking, และกิจกรรมอื่นๆ ที่สร้างรายได้บนแพลตฟอร์ม DeFi
- การซื้อขายโดยใช้เลเวอเรจ
- แนวทางระดับมหภาคที่ใช้ตัวชี้วัดทางภูมิรัฐศาสตร์
- กลยุทธ์การขายชอร์ตเพื่อใช้ประโยชน์จากตลาดขาลง
ผู้จัดการกองทุนจะสั่งการไปยังผู้เล่นในพอร์ตการลงทุนเพื่อทำการลงทุนตามแนวทางที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์มุ่งหวังที่จะปฏิบัติตาม
เธรดนี้คือตัวอย่างของการซื้อขายโดยอิงจากเหตุการณ์สำคัญต่างๆ:
ประเภทของ Crypto Hedge Funds
แม้ว่าแนวทางที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตใช้จะดูสมเหตุสมผล แต่ก็คงจะดีกว่าหากเราคิดซะว่ามันเป็นหนึ่งในตัวแปรสำหรับการตัดสินใจ และมุ่งเน้นไปที่การให้ความสนใจเกี่ยวกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตในประเภทต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว การกระจายความเสี่ยงจะแบ่งรูปแบบของกองทุนออกเป็น 2 ประเภท ซึ่งก็ได้แก่ Active Funds (กองทุนที่บริหารในเชิงรุก) และ Passive Funds (กองทุนที่บริหารในเชิงรับ)
ในตลาดสกุลเงินดิจิทัล Active Funds จะพึ่งพาการวิเคราะห์ตลาดเป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการกองทุนโฟกัสไปที่กลยุทธ์ในการการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเป็นหลัก กลยุทธ์อื่นๆ ที่สำคัญต่อ Active Funds ได้แก่ การเก็งกำไร หรือการสร้างผลกำไรโดยอิงจากเหตุการณ์สำคัญ เป็นต้น Active Funds มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เนื่องจากพวกเขาจะให้ความสำคัญกับผลตอบแทนที่สูงกว่าเสมอ
Passive Hedge Funds มักจะขับเคลื่อนด้วยดัชนี (Index) ตัวอย่างเช่น กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในดัชนี Metaverse และ DeFi เท่านั้น แนวทางการจัดการพอร์ตการลงทุนของกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตแบบ Passive มักจะสะท้อนประสิทธิภาพของดัชนีเหล่านี้มากกว่าที่จะเป็นตัวสกุลเงินดิจิทัลแต่ละรายการ Passive Funds มักจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า และมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Active Funds
กองทุนประเภทอื่นๆ ที่เน้นไปที่สกุลเงินคริปโต
นอกเหนือจาก Active และ Passive Funds แล้ว มันยังมีกองทุนเฮดจ์ฟันด์ประเภทอื่นๆ อยู่ด้วย เช่น:
- Quantitative Funds: เป็นกองทุนที่จะใช้กลยุทธ์ในการลงทุนเชิงระบบ, อัลกอริธึม, และคณิตศาสตร์
- Long-Only: กองทุนขาขึ้นที่มองหาโอกาสในการเข้าซื้อเท่านั้น โดยไม่มีการขายชอร์ต
- Long/Short Funds: กองทุนประเภทนี้จะสลับระหว่างการถือครองในระยะยาวและารขายชอร์ตได้อย่างรวดเร็ว โดยจะขึ้นอยู่กับเทรนด์ของตลาด โดยจะโฟกัสอยู่กับการสร้าง Alpha
- VC Style Funds: กองทุนประเภทนี้จะเน้นไปที่การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง ซื้อขายได้ง่าย กองทุนเหล่านี้มักจะลงทุนในบริษัทคริปโตสตาร์ทอัพ เช่นเดียวกับบริษัทผู้ร่วมลงทุน
- Multi-Strategy: เช่นเดียวกับชื่อของมัน กองทุนประเภทนี้จะใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายในการสร้าง Alpha สำหรับกลุ่ม HNWI และนักลงทุนรายอื่นๆ
- Fund of Funds: นี่คือกองทุนที่จะทำการลงทุนในกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตอื่นๆ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
- Yield-focused Funds: เป็นกองทุนที่โฟกัสในการจัดการกองทุนในกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) และการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) เท่านั้น จุดมุ่งหมายหลักคือการใช้เงินทุนเพื่อสร้างผลกำไรผ่านการให้บริการสภาพคล่อง, การ Staking, หรือวิธีการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- Global Macro: หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Managed Futures หรือ Systematic Funds คอนเซปต์คือการเทรดสัญญา Future และ Forward — เฉพาะที่มีสภาพคล่องเท่านั้น — ตามเทรนด์
- Market-neutral Funds: เป็นกองทุนลดความเสี่ยงซึ่งโฟกัสที่การทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่สัมพันธ์กัน
นอกเหนือจากกองทุนประเภทต่างๆ ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว เราอาจจะเห็นผู้จัดการกองทุนโฟกัสไปที่กองทุนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักดังต่อไปนี้:
- Crypto Mining Funds
- Convertible Arbitrage Funds
กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตมีพัฒนาการอย่างไรบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา?
อุตสาหกรรม Crypto Hedge Fund นั้นยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ แต่ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับกองทุนแบบดั้งเดิมในช่วงปลายทศวรรษที่ 90 ก่อนที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เราเชื่อว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตจะมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม การเติบโตนับตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งเป็นปีที่ Pantera ถือกำเนิดขึ้น ถือเป็นตัวอย่างที่ดี เรามาดูข้อมูลเชิงลึกบางประการที่จะช่วยให้เราเข้าใจการเติบโตของกองทุนเหล่านี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากันดีกว่า
การเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการ (AUM)
ข้อมูลตั้งแต่ปี 2018 ถึงปี 2022 นั้นพร้อมสำหรับใช้ในการวิเคราะห์แล้ว เราจะเห็นได้ถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของมูลค่า AUM ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต มูลค่าที่เพิ่มขึ้นเป็นการแสดงให้เห็นว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในกระเป๋าเงินของพวกเขาภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตในปัจจุบัน: สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์การล่มสลายของ FTX เป็นอย่างไรบ้าง?
ข้อมูลตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2023 แสดงให้เห็นถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของมูลค่า AUM คุณจะเห็นได้ว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2022 หลังการล่มสลายของ FTX ระดับ AUM ลดลงไปจนเกือบเท่าระดับในปี 2020-2021 ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดในปี 2021-2022
หลังวิกฤต FTX ผลการดำเนินงานของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ลดลงอย่างมาก โดยไม่คำนึงถึงกลยุทธ์ของกองทุนหรือประเภทของกองทุนแต่อย่างใด
วิวัฒนาการของแนวทางและประเภทของกองทุน
กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตถือกำเนิดขึ้นในช่วงราวๆ ปี 2013 อย่างไรก็ตาม ผู้คนเริ่มเข้าใจในกลยุทธ์และประเภทของกองทุนเหล่านี้มากขึ้นในปี 2015 ตัวอย่างด้านล่างคือพัฒนาการของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา โดยโฟกัสในเรื่องการเปลี่ยนจากการให้บริการสภาพคล่องไปสู่การซื้อขาย
การกระจายตัวไปยังภูมิภาคต่างๆ ของ Crypto Hedge Funds
สิ่งแปลกใหม่อีกประการหนึ่งเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต ก็คือ ความนิยมของกองทุนที่กระจายตัวออกไปในภูมิภาคต่างๆ ตัวอย่างเช่น ตามรายงานล่าสุด สหรัฐอเมริกามีจำนวนการจัดตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์มากที่สุด นอกจากนี้ ในขณะที่ผู้จัดตั้งและผู้จัดการกองทุนในเอเชียและยุโรปชอบกลยุทธ์ในเชิงรุก เช่นการซื้อขาย หรือการเก็งกำไร แต่ในสหรัฐอเมริกากลับมีแนวโน้มที่จะใช้กลยุทธ์พื้นฐาน, Fund of Funds, หรือตัวเลือกในเชิงรับอื่นๆ มากกว่า
ผู้มีความสามารถเริ่มเข้าร่วมอุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟัน
เนื่องจากอุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ผู้เล่นมากมาย ทั้งหน้าใหม่ และมือเก๋าประสบการณ์ ก็เริ่มที่จะออกจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม และมุ่งหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่สร้างผลตอบแทนได้สูงนี้
ระหว่างปี 2015 ถึงปี 2017 เมื่ออุตสาหกรรมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น พื้นที่นี้ก็เต็มไปด้วยเหล่าผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนัก แต่ปัจจุบัน หลายๆ สิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา เราได้เห็นบุคคลที่มีประสบการณ์มากมายเข้ามารับตำแหน่งสำคัญๆ ในกองทุน
การแบ่งประเภทของสินทรัพย์และข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ
สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับ Crypto Hedge Fund ก็คือ ประเภทของแผนการลงทุนทั่วไป ในปี 2023 เป้าหมายหลักยังคงอยู่ที่การคงเงินลงทุนจำนวนเท่าเดิมไว้ แต่หากดูในช่วงปี 2021 ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างก็กระตือรือร้นที่จะเพิ่มเงินทุนมากขึ้นในทุกๆ รอบ ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากตลาดกระทิงที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ขณะนั้น
และนี่คือลักษณะของการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์โทเค็นและสกุลเงินดิจิทัลในปี 2023
ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนักที่ Bitcoin (BTC) เป็นสินทรัพย์หลักที่ผู้คนให้ความสนใจเมื่อพวกเขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตหรือสินทรัพย์คริปโตอื่นๆ
อีกหัวข้อที่น่าสนใจที่เราอาจจะต้องพิจารณาก็คือตลาด ETF จากการที่ BTC ETF ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก ในปี 2023 ตลาด ETF ก็มีความพร้อมใช้งานมากยิ่งขึ้นสำหรับสกุลเงินคริปโต อย่างไรก็ตาม ตลาดอนุพันธ์นั้นมีมูลค่าที่ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากความผันผวนของตลาดสกุลเงินคริปโตที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง
นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนในปี 2023 ยังได้เริ่มให้ความสำคัญกับกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) ในการสร้างผลตอบแทน โดยมี Uniswap และ dYdX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
สุดท้าย กระบวนการแปลงสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงให้เป็นโทเค็น (Tokenization) ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในอุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์เช่นเดียวกัน
Crypto Hedge Funds ได้รับการกำกับดูแลอย่างไรบ้าง?
ปี 2023 ไม่ใช่ปีที่ดีที่สุดสำหรับกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต เราทุกคนจำได้ว่าวิกฤตการธนาคารในสหรัฐฯ นั้นรุนแรงเพียงใด และทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ 13% ปิดตัวลงไป สิ่งที่ยังคงดำเนินการอยู่ในปัจจุบันกำลังรอความชัดเจนในด้านกฎระเบียบเพื่อให้มันกลายมาเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรมคริปโต
สำหรับภาพรวมด้านกฎระเบียบในปัจจุบัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตในสหรัฐอเมริกาได้รับการตรวจสอบ 2 ระดับ — ในฐานะผู้ออก (Issuer) และที่ปรึกษา (Adviser) ในระดับผู้ออก รัฐและ SEC (ก.ล.ต. ของสหรัฐ) จะกำกับดูแลเรื่องการลงทุน ในขณะที่ในระดับที่ปรึกษา ความรับผิดชอบจะอยู่ที่ CFTC, SEC หรือทั้งสองอย่าง ขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุน ถึงแม้ว่า SEC จะมีบทบาทอย่างแข็งขันในการควบคุมดูแลกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต แต่มาตรฐานก็ไม่เข้มงวดเท่ากองทุนอื่นๆ เช่น ETF เป็นต้น
จากข้อมูลของ PWC เกี่ยวกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตในปี 2023 มีเพียง 4% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่รู้สึกว่ากฎระเบียบใหม่ที่กำลังจะมาถึง จะต้องให้พวกเขาเปลี่ยนผู้กำกับดูแลเดิมที่มีอยู่ ที่ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกันการสูญเสีย
แม้แต่ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ก็ยังขอให้มีกฎระเบียบเพื่อทำให้กระบวนการนี้โปร่งใสยิ่งขึ้น ผู้จัดการเหล่านี้ส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการแยกสินทรัพย์ ตามมาด้วย การตรวจสอบทางการเงินและงบสำรอง
ข้อดีและข้อเสียของกองทุนเฮดจ์ฟันด์
“กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต” กลายเป็นตัวเลือกของการลงทุนเมื่อการพังทลายของเงินทุนในการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) เกิดขึ้น ผู้คนเริ่มที่จะตระหนักได้แล้วว่าการดึงผลตอบแทนจากตลาดการเงินแบบเดิมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และถึงแม้ว่ามันจะมีข้อดีอยู่หลายประการ แต่ต่อไปนี้คือเหตุผลหลักที่ควรจะพิจารณามันเพื่อเป็นตัวเลือกการลงทุน:
- กองทุนเหล่านี้เป็นกองทุนที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก
- ได้รับแรงหนุนจากปริมาณการซื้อขายจำนวนมากของนักลงทุนรายย่อย
- มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว แม้จะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นก็ตาม
- เสนอการเข้าถึงที่หลากหลายต่อโลกสกุลเงินคริปโต
- ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเต็มไปด้วยผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์สูง
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้มีเพียงแต่ข้อดี แต่ก็ประกอบไปด้วยข้อเสียต่างๆ เช่น:
- ความผันผวนของตลาดสกุลเงินดิจิทัล
- ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง
- ค่าธรรมเนียมสูง
- ระดับการเรียนรู้ที่ซับซ้อน
- อุปสรรคในการเข้าถึงที่ต่ำทำให้มีความพิเศษน้อยลง
- ความไม่แน่นอนเรื่องกฎระเบียบ
- ความเสี่ยงจากคู่สัญญา
- ปัญหาในการดำเนินงาน
- ข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ
หมายเหตุ: วิกฤตการณ์ต่างๆ เช่น การล่มสลายของ FTX หรือ Terra-Luna ได้ทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์จำนวนมากหมดความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลในปี 2022 อย่างที่คุณเห็น ผลกระทบที่เกิดขึ้นในเชิงลบนั้นรุนแรงกว่าอารมณ์อื่นๆ
ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคต่างๆ มากมาย แต่กองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิมในปี 2023 ก็ยังคงมีความคาดหวังและยังคงสนใจที่จะสำรวจพื้นที่นี้ หากความท้าทายต่างๆ ที่เป็นภัยคุกคามเริ่มลดน้อยลง
หนทางข้างหน้าสำหรับ Crypto Hedge Fund
ในช่วงที่ผ่านมา มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต และถึงแม้ว่าเปอร์เซ็นต์ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิมที่ย้ายไปยังอุตสาหกรรมคริปโตจะลดลง แต่มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ก็เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2022 การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็นยังได้รับความนิยมในหมู่ผู้จัดการกองทุนอีกด้วย แต่ถึงกระนั้น พัฒนาการเหล่านี้ก็ยังคงดูจืดจางเมื่อเทียบกับศักยภาพมหาศาลที่อุตสาหกรรมนี้อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่รายถัดไปใน Web3 หากเรามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับกฏระเบียบที่มีต่อกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต
คำถามที่พบบ่อย
กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตที่ใหญ่ที่สุดคือกองทุนใด?
กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตแห่งแรกคือกองทุนใด?
มีกองทุนที่ลงทุนในคริปโตหรือไม่?
Warren Buffett เป็นเจ้าของกองทุนเฮดจ์ฟันด์หรือไม่?
กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโตจัดการความผันผวนของตลาดได้อย่างไร?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์