Trusted

Scalper คืออะไร? กลยุทธ์ Scalping คริปโต Forex หุ้น ในปี 2023

7 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

Scalper คือ การเทรดที่มีลักษณะสั้นที่สุดเมื่อเทียบกับกลยุทธ์อื่นๆ ในบางครั้งการเปิดสถานะและปิดสถานะการเทรดอาจใช้เวลาไม่ถึงนาที และในหนึ่งวันอาจมีการเข้าเทรดหลายๆ ครั้งโดยเฉพาะกับตลาดคริปโตที่ผันผวนสูง

กลยุทธ์การเทรดนี้ จำเป็นต้องมีทักษะที่สูงอย่างรอบด้าน ทั้งในการวิเคราะห์ราคาเชิงเทคนิค การตัดสินใจ การคุมความเสี่ยง และการพิจารณาเลือกสินทรัพย์และแพลตฟอร์มที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว กลยุทธ์นี้จะถูกใช้ในการเทรด Future บนตลาดคริปโตเคอเรนซี่และ Forex

Scalper คืออะไร ทำความรู้จักกับการเทรดแบบ Scalping

การเทรดแบบ Scalper คือ การเทรดระยะสั้น เน้นการมองหาโอกาสในการทำกำไรผ่านการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย และความผันผวนในตลาด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง สามารถใช้ได้ทั้งหุ้น Forex หรือตลาดคริปโต

ลักษณะในการทำกำไรของ Scalping คือ การเก็บเล็กผสมน้อยหลายๆ ครั้ง จนเป็นกำไรก้อนใหญ่ แต่กลยุทธ์นี้ไม่เหมาะสำหรับนักเทรดระดับเริ่มต้น เพราะต้องอาศัยประสบการณ์รอบด้านเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้ที่ชำนาญการเทรดในลักษณะอื่นอย่าง swing trading, day trading และ value investor ก็อาจจะล้มเหลวในการเทรดลักษณะนี้

เริ่มเทรด Scalping อย่างไร และมันเหมาะกับใคร

หลายคนอาจะเริ่มมีความสนใจในการเป็นนัก เทรดระยะสั้น หรือ เป็น Scalper แล้ว

มาดูกันว่า บุคคลที่เหมาะกับกลยุทธ์นี้ ต้องมีคุณสมบัติและทักษะต่างๆ ดังต่อไปนี้

เวลา

นักเทรดต้องมีเวลาในการเฝ้าหน้าจอ เพื่อมองหาเสี้ยววินาทีที่โอกาสในการทำกำไรจะเกิดขึ้น โดยมีความเสี่ยงต่ำที่สุด นั่นหมายความว่า นักเทรดต้องมีการจัดการเวลาที่ดีในชีวิต หรือหากลยุทธ์เช่นการตั้ง Alert ต่างๆ เพื่อทุ่นเวลาที่จะต้องเฝ้าจอลง

หากคุณไม่สามารถบริหารจัดการ เวลาชีวิตกับเวลาเฝ้าหน้าจอได้ มันอาจทำให้คุณภาพชีวิตคุณต่ำลง เสียสุขภาพ และมีความเครียดสูงตลอดเวลา

อีกทางเลือกหนึ่งที่จะกำจัดปัญหาด้านเวลาไปคือ Algorithmic Trading หรือ การออกแบบระบบเทรดด้วยบอท หากคุณมีความชำนาญด้าน Programing และการเทรดขั้นสูง ศัพท์เทคนิคเรียกการเทรดที่ไม่ต้องอาศัยการตัดสินใจของมนุษย์นี้ว่า Non-discretionary trading

การใช้คอมพิวเตอร์ในการเทรดลักษณะนี้จะเหมาะกับคุณมากที่สุด เพราะนอกจากจะคุณจะไม่ต้องเฝ้าจอแล้ว คุณก็ไม่ต้องเครียดจากความกดดันที่จะต้องตัดสินใจในการทำอะไรต่างๆ ในเวลาไม่กี่วินาทีอีกด้วย -การวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง

การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis) เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เพราะคุณต้องออกแบบกลยุทธ์ในการเข้าซื้อหรือขาย ที่เหมาะสมในกราฟการเคลื่อนไหวของราคาที่ระดับนาที นักเทรดต้องกำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit ล่วงหน้า

สิ่งที่นักเทรดระยะสั้นมองหา คือ กลยุทธ์ที่มีอัตราการชนะที่สูง แม้จะต้องแลกด้วยกำไรที่น้อยลง แตกต่างจาก Trend Following ของนักเทรดแบบ Swing Trade ที่อาจมีอัตราการชนะที่ต่ำราว 30-40% แต่เวลาได้กำไร จะสามารถทำกำไรได้ก้อนโต

การตัดสินใจที่ฉับไว และ มีวินัยสูง

นักเทรดต้องตัดสินใจภายในชั่ววินาที เพราะในกราฟระดับนาที มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แต่นอกจากการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและแม่นยำแล้ว วินัยคือสิ่งสำคัญทีสุด ที่จะทำให้คุณไม่ล้มหายตายจากจากตลาดไปเสียก่อนจะทำกำไรได้

การ Cut loss คือหัวใจ เพราะเมื่อคุณซื้อขายเพื่อทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นบนตลาด Future คุณอาจใช้อัตราทด (leverage) มาเป็นตัวช่วย ในการทำกำไร ซึ่งโดยทั่วไปจะมีอัตราทดที่สูงกว่าการเทรดลักษณะอื่น

หากคุณวางแผนการคุมความเสี่ยงไว้แล้วและไม่ทำตาม อัตราทดนี้จะหันมาทำร้ายคุณและเสียหายมากกว่าที่วางแผนไว้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที เช่น หากคุณเลือก X10 นั่นหมายความว่าคุณกำลังรับความเสี่ยงมากขึ้นถึง 10 เท่า

ข้อควรระวังและความเสี่ยง

ความเสี่ยงในการเทรด Scalping นั้นสูงมากที่สุดในบรรดากลยุทธ์ทั้งหมด แน่นอนว่าข้อดีของมันคือ คุณสามารถเห็นผลกำไรอย่างต่อเนื่องในทุกๆ สภาพตลาดไม่ว่าจะตลาดกระทิงหรือหมี และมีความเสี่ยงด้านเวลาที่ต่ำ (time-exposure) เพราะการถือครองสถานะมีเวลาไม่นานนัก แต่ความเสี่ยงที่สูง พร้อมข้อความระวังก็ตามมาเช่นกัน

สภาพคล่องในตลาด

การเทรดระยะสั้นมากๆ นี้ จำเป็นต้องเลือกแพลตฟอร์มและคู่สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงมากๆ หากสภาพคล่องต่ำหมายความว่าส่วนต่างของราคา bid และ offer จะสูง หรือแม้แต่กำแพงราคาที่บางเกินไป

บางครั้งสภาพคล่องที่ต่ำจะทำให้เกิด slippage ได้ ทำให้ความเสี่ยงของคุณเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะบ่อยครั้งจะเป็นความเสี่ยงที่คุณไม่ได้คำนวณไว้ และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Algorithmic Trading ที่แสดงผลกำไรดีในช่วงการทดสอบ กลับล้มเหลวและขาดทุนในการซื้อขายจริง

ในขณะเดียวกัน คุณกลับต้องการคู่สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง เพื่อหาโอกาสในการทำกำไร นั่นหมายความว่า คุณจะต้องพิจารณาชั่งน้ำหนักให้ดี ว่า ความผันผวนกับสภาพคล่องอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ในการเข้าเทรด

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียม เป็นอีกหนึ่งศัตรูที่บางคนอาจมองข้ามไป เพราะมันคือต้นทุนประเภทหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้แม้แต่ตลาด spot ซื้อขายคริปโต ไม่เหมาะกับการเทรดประเภทนี้ เช่น บน Binance ค่าธรรมเนียมจะคิดเป็น 0.1% ขาซื้อและขาย นั่นหมายความว่า ตลาดจะต้องเคลื่อนไหวมากกว่า 0.1% เป็นอย่างน้อย เพื่อครอบคลุมเพียงค่าธรรมเนียมขาซื้อเพียงเท่านั้น

ตัวเลือกที่เหมาะสมจึงกลายเป็นตลาด Future ที่ค่าธรรมเนียมจะคิดเป็น 0.02 – 0.04% เพียงเท่านั้น ดังนั้นต้นทุนในการซื้อขายระยะสั้นจึงต่ำกว่าการเทรดในตลาด Spot เป็นอย่างมาก เพราะมีอัตราทดและการ Short สำหรับการทำกำไรเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียมที่ต่ำจึงสามารถทำให้คุณทำกำไรได้ แม้สินทรัพย์จะเคลื่อนไหวเพียง 0.1% ก็ตาม

ความแตกต่างระหว่าง Scalping และ Day Trading

ความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง Day Trading กับ Scalping คือ ช่วง Time Frame หรือกราฟที่ใช้ Day Trading แม้จะจบในวันแต่มันมีการถือครองสถานะที่นานกว่า อาจใช้กราฟ 5 นาที – 1 ชั่วโมงในการตัดสินใจ เพื่อหาจุดเข้าซื้อขายคริปโตและบางครั้งคุณอาจจะต้องถือสถานะข้ามวันก็เป็นได้

ส่วน Scalper จะเลือกใช้กราฟตั้งแต่ 1 นาที ในการตัดสินใจ หรือบางรายอาจเลือกใช้กราฟระดับวินาทีก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับ charting platform ที่พวกเขาเลือกใช้ ระยะเวลาการถือครองสถานะจึงสั้นมากๆ และส่วนมากแทบจะไม่มีการถือครองข้ามคืนเลยด้วยซ้ำ แม้จะสามารถตั้ง SL และ TP ทิ้งไว้ได้ก็ตาม บางครั้งสถานะอาจเปิดและปิดในเวลาไม่ถึง 5 นาที

นักเทรดมืออาชีพอาจมีการเปิดและปิด Postion หลายสิบหรือหลายร้อย Position ในแต่ละวัน หากคุณคิดว่าตนเองไม่เหมาะกับการต้องตัดสินใจและความคุมความกดดันที่ถาโถมอย่างต่อเนื่องไม่ได้ การเทรดแบบ Day Trading อาจจะจะเหมาะกับคุณมากกว่า

กราฟเปรียบเทียบความแตกต่างในการเทรดระหว่าง Day Trader กับ Scalper

จากการศึกษาวิจัยของ The Financial Conduct Authority (FCA) ที่ศึกษานักลงทุน 517 ราย ซึ่งผู้เข้าร่วม 38% ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เข้าเทรดของพวกเขาไม่ได้มาจากความเป็นเหตุเป็นผล แต่เกิดจากความตื่นเต้นทางอารมณ์ในการซื้อขาย การศึกษานี้ชี้ให้เห็นได้ชัดเจนว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับนักเทรด คือความมั่นใจที่มากเกินไป การขาดทักษะต่างๆ และการขาดวินัยในการควบคุมความเสี่ยงที่ดี

สรุปเรื่องราวการเทรดแบบ Scalper

เนื่องจากการเทรดแบบ Scalping เป็นการ เทรดระยะสั้น ประเภทหนึ่ง จึงต้องอาศัยการตัดสินใจที่แม่นยำในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที พร้อมระเบียบวินัยที่สูงเพื่อควบคุมความเสี่ยง ตลาด Future เป็นผลิตภัณฑท์ที่เหมาะสมที่สุด เพราะสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและลง แม้การเทรดแต่ละครั้งจะต้องการกำไรอาจไม่ถึง 1% แต่ด้วยอัตราทด Leverage และจำนวนครั้งในการซื้อขาย ทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรสะสมได้ สุดท้ายนักลงทุนควรระวังเรื่องค่าธรรมเนียมหรือต้นทุนแฝงซึ่งเป็นศัตรูที่มองไม่เห็นด้วยเช่นกัน

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

IMG_4466-1.png
Nonthachai Sukkankosol
นนทชัย สักการโกศล จบการศึกษาปริญญาโท ด้านการวิจัยผลงานศิลปะร่วมสมัย จาก SOAS University of London แต่ผันตัวมาเป็นผู้แนะนำการลงทุนที่บริษัทหลักทรัพย์ Finansia Syrus Securities PLC. เขาถือใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนตราสารทุน ตราสารหนี้และกองทุนรวม และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า รวมถึงใบรับรองด้านการวิเคราะห์เชิงเทคนิค CMT ระดับ 2 จาก CMT Association ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีประสบการณ์เกี่ยวกับการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และเริ่มลงทุนคริปโตเคอเรนซี่มาตั้งแต่ปี 2016
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน