“Web3 Marketing” หรือ “การตลาด Web3” คือ วิธีการหรือแนวทางในการส่งเสริมและสร้างแบรนด์ของสกุลเงินคริปโตในเชิงกลยุทธ์ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้เข้ามาใช้งานและมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของ Decentralized Web
“Web3 Marketing” เป็นคำศัพท์เฉพาะทางในอุตสาหกรรมที่คุณอาจจะเคยได้ยินมาก่อน แต่ก็ไม่รู้ถึงคำจำกัดความที่ชัดเจนของมัน มันคืออะไร และมันทำงานอย่างไร? ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเรื่องของ “Web3 Marketing ซึ่งรวมไปถึงความหมาย และประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากมัน
ทำความเข้าใจเรื่อง Web3 Marketing
“Web3 Marketing” หรือ “การตลาด Web3” คือ วิธีการหรือแนวทางในการส่งเสริมและสร้างแบรนด์ของสกุลเงินคริปโตในเชิงกลยุทธ์ โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการกระจายอำนาจและแพลตฟอร์มบล็อกเชน เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้เข้ามาใช้งานและมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของ Decentralized Web (เว็บแบบกระจายอำนาจ หรือ เว็บที่ไม่มีศูนย์กลางของอำนาจ การเก็บข้อมูลจะไม่ได้เก็บไว้ที่ศูนย์กลาง แต่จะเป็นการกระจายเครื่องเซิรฟ์เวอร์ออกไปหลายๆ เครื่อง) ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่นี้
หากคุณอยู่ในพื้นที่คริปโตมาระยะหนึ่งแล้ว คุณคงจะเคยได้ยินถึงเรื่องแนวคิดในการย้ายทุกอย่างจาก Web2 ไปยัง Web3 และ Web3 Marketing ก็คือสิ่งที่จะมาช่วยเติมเต็มในแนวคิดนี้ และเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะเสริมความมั่นคงให้กับสกุลเงินคริปโตและบล็อกเชน เพื่อให้เทคโนโลยีเหล่านี้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมหลักอย่างถาวร
คำนิยามของ Web3 และหลักการของมัน
ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้เรื่อง Web3 Marketing กัน สิ่งสำคัญคือเราจะต้องมาทำความเข้าใจแนวคิดของ Web3 เสียก่อน หลักการของ Web3 มีต้นกำเนิดมาจากความเคลื่อนไหวของกลุ่ม Cypherpunk ซึ่งเป็นเน้นย้ำถึงความสำคัญของสิทธิดิจิทัล และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมืองผ่านเทคโนโลยีการเข้ารหัสและเสริมสร้างความเป็นส่วนตัว
ในทำนองเดียวกัน Web3 จะโฟกัสในเรื่องข้อมูลของผู้ใช้งาน ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และการกำจัดตัวกลางออกไป Web3 เป็นแนวคิดของอินเทอร์เน็ตแบบกระจายอำนาจที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Open Protocol (โปรโตคอลที่ใครๆ ก็สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย) และ Distributed (ระบบการทำงานแบบกระจายตัว เช่น การเก็บข้อมูลไว้ในเซิร์ฟเวอร์ย่อยๆ แยกกัน) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานมีความเป็นส่วนตัว รวมถึง สามารถควบคุมและมีความเป็นเจ้าของข้อมูลและสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองได้มากยิ่งขึ้น คุณสมบัติหลักๆ บางส่วนของ Web3 ได้แก่:
- Decentralization (การกระจายอำนาจ)
- Censorship Resistance (ต่อต้านการตรวจสอบข้อมูล)
- Privacy (ความเป็นส่วนตัว)
- Immutability (ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้)
- Tokenization (การแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบของโทเค็นหรือดิจิทัล)
- User-Control (ความสามารถในการควบคุมข้อมูลหรือสินทรัพย์ของตนเองอย่างสมบูรณ์)
มาดูกันว่า BeInCrypto จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโปรเจกต์คริปโตของคุณได้อย่างไร – ติดต่อเราได้เลย
วิวัฒนาการจาก Web1 สู่ Web3
Web1 หมายถึง “ยุคแรกเริ่มของอินเทอร์เน็ต” หรือที่เรียกกันว่า เว็บแบบที่อ่านได้อย่างเดียว (Read-only Web) โดยส่วนใหญ่จะเป็นเว็บที่มีการนำเสนอข้อมูลแบบตายตัวและเป็นการสื่อสารทางเดียว ซึ่งผู้ใช้งานจะทำได้เพียงอ่านข้อมูลเท่านั้น จะไม่สามารถโต้ตอบหรือมีส่วนร่วมใดๆ กับเว็บไซต์ได้
Web1 จะเป็นเว็บไซต์แบบ Static ที่สร้างขึ้นด้วยภาษา HTML โดยที่ผู้ใช้งานจะไม่สามารถสร้างคอนเทนต์ใดๆ ได้ และมีการโต้ตอบได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยทั่วไปแล้ว เว็บไซต์เหล่านี้มักจะถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มคนหรือหน่วยงานเล็กๆ ซึ่งจะจำกัดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานไว้ที่การดูและอ่านข้อมูลได้เท่านั้น
ข้อจำกัดของ Web1 นำไปสู่การพัฒนา Web2 ขึ้นมา ซึ่งมักจะถูกเรียกว่า เว็บแบบที่อ่าน-เขียนได้ (Read-Write Web) หรือ เว็บโซเชียล (Social Web) Web2 นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยการนำเสนอคุณลักษณะที่สามารถปรับเปลี่ยนและมีส่วนร่วมต่อเว็บไซต์ได้ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างคอนเทนต์ของพวกเขาเองได้ และช่วยให้ผู้คนสามรถมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันและกันได้มากยิ่งขึ้น
แพลตฟอร์ม Web2 เช่น โซเชียลมีเดีย บล็อก หรือ คอมมูนิตี้ออนไลน์ จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและแบ่งปันเนื้อหา เข้าร่วมการสนทนา และเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้แบบเรียลไทม์ บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ เช่น Google, Facebook และ Twitter (ซึ่งปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น X) ได้กลายมาเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของ Web2
Web2 ปฏิวัติวิธีที่ผู้คนสื่อสาร ทำงานร่วมกัน และแบ่งปันข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม มันก็ยังได้นำมาซึ่งปัญหาใหม่ๆ เช่น ปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัว ความเป็นเจ้าของข้อมูล การควบคุมดูแลที่มาจากศูนย์กลาง และการกระทำสิ่งต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาตัวกลาง ปัญหาเหล่านี้นำมาสู่การสร้าง Web3 ที่จะโฟกัสในเรื่องเว็บที่มีความกระจายอำนาจและการทำให้ผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง
Web3 คือก้าวต่อไปสำหรับโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะตัวในเรื่องการใช้เทคโนโลยีการกระจายอำนาจ บล็อกเชน และสกุลเงินคริปโต เป็นเว็บในเวอร์ชั่นที่ผู้ใช้งานจะสามารถเป็นเจ้าของและควบคุมข้อมูล ตัวตนดิจิทัล และการมีปฏิสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ของตนเองได้อย่างสมบูรณ์
Web3 มีจุดมุ่งหมายในการสร้างระบบนิเวศของโลกอินเทอร์เน็ตที่เปิดกว้าง โปร่งใส และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ใช้งานและส่งเสริมแนวคิดใหม่ๆ พร้อมไปกับการลดการพึ่งพาตัวกลางหรือองค์กรส่วนกลางลง
ผลกระทบของเทคโนโลยีบล็อกเชน
เทคโนโลยีบล็อกเชนคือหัวใจสำคัญของ Web3 เดิมที มันถูกสร้างมาเพื่อแก้ไขปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นบน Web2 ซึ่งก็คือ ปัญหาของการออกสกุลเงินแบบรวมศูนย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ประโยชน์การใช้งานของเทคโนโลยีนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความพิเศษของเทคโนโลยีบล็อกเชน คือ การใช้งานวิทยาการต่างๆ เช่น การเข้ารหัส (Cryptography), ทฤษฎีเกม (Game Theory), และ ฐานข้อมูลแบบกระจาย (Distributed Database) ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เกิดการนำไปใช้งานในรูปแบบที่เราไม่อาจคาดคิดได้ ซึ่งในปัจจุบัน ภาคการธนาคาร ภาคธุรกิจ และประเทศต่างๆ ต่างก็ต้องการผสานรวมประโยชน์การใช้งานเหล่านี้เข้ากับการใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
ประโยชน์การใช้งานเหล่านี้ได้เพิ่มคุณค่าให้กับมูลค่าตลาดของสกุลเงินคริปโตอย่างมหาศาล ในช่วงปลายปี 2021 มูลค่าตลาดโดยรวมของสกุลเงินคริปโตนั้นสูงถึงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ และสิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้สถานะของเทคโนโลยีบล็อกเชนมีความแข็งแกร่งขึ้นมาเป็นอย่างมาก
หัวใจสำคัญของ Web3 Marketing
กระจายอำนาจและไร้ตัวกลาง
เทคโนโลยี เช่น DApps หรือ บล็อกเชน จะช่วยให้การทำการตลาดเปิดกว้างมาก Smart Contracts (สัญญาอัจฉริยะ) จะทำให้ข้อตกลงทางการตลาดดำเนินการอย่างอัตโนมัติและสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและลดการพึ่งพาตัวกลาง DApps ช่วยให้นักการตลาดและผู้บริโภคสามารถโต้ตอบกันโดยตรงแบบ P2P (Peer-to-Peer) ได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดความไว้วางใจ และลดความจำเป็นในการมีหน่วยงานควบคุมจากส่วนกลาง
ตัวอย่างเช่น บริษัทอย่าง Google ครองตำแหน่งผู้นำในโลกของการโฆษณาออนไลน์ ซึ่งก็เป็นเพราะพวกเขาควบคุมตลาดโฆษณาดิจิทัลส่วนใหญ่เอาไว้
Brave Browser พยายามที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยการเสนอทางเลือกที่จะช่วยให้อำนาจกลับไปอยู่กับผู้ใช้งาน ด้วยการบล็อกโฆษณาและเครื่องมือติดตามของ 3rd Party (บุคคลที่สาม หมายถึง สิ่งต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์, โปรแกรม, หรือบริการ ฯลฯ ที่มาจากผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตซึ่งเป็น 1st Party และผู้บริโภคซึ่งเป็น 2nd Party) Brave Browser จึงสามารถลดการพึ่งพาเครือข่ายโฆษณาขนาดใหญ่(แบบรวมศูนย์)อย่าง Google ได้
ส่งเสริมความเป็นเจ้าของและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
เทคโนโลยี Web3 โฟกัสในเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมข้อมูลของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนและการเข้ารหัส นักการตลาดสามารถสร้างโซลูชั่นที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวและให้ผู้ใช้งานควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
Zero-Knowledge Proofs (ความสามารถในการพิสูจน์ความถูกต้องของข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล) และ Decentralized Identity Systems (ระบบการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแบบกระจายอำนาจ) จะสามารถนำมาใช้งานในแคมเปญการตลาดที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่กระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
สัญญาอัจฉริยะและการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็น
Smart Contracts ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของ Web3 คือสิ่งที่จะมาปฏิวัติการทำข้อตกลงทางการตลาดและธุรกรรมได้ นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จาก Smart Contracts เพื่อสร้างกลไกการชำระเงินอัตโนมัติ สร้างและมอบรางวัลจูงใจให้ตามประสิทธิภาพของแคมเปญ และทำให้แคมเปญโฆษณามีความโปร่งใสมากขึ้นได้
ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดได้อย่างง่ายดาย และยังช่วยให้สามารถทำการตัดสินใจได้โดยอาศัยข้อมูลประกอบที่มีมากขึ้นจากความช่วยเหลือของเทคโนโลยีบล็อกเชนได้ Smart Contracts สามารถช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้อย่างอัตโนมัติ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะทำให้การปรับเปลี่ยนแคมเปญการตลาดเป็นไปอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
การมีส่วนร่วมของคอมมูนิตี้
Web3 ยังช่วยส่งเสริมการจัดการและการมีส่วนร่วมของคอมมูนิตี้ได้ บริษัทการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนโดยคอมมูนิตี้และเครือข่ายโซเชียลแบบกระจายอำนาจเพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้งาน รวบรวมข้อเสนอแนะ ส่งเสริมความภักดีต่อแบรนด์ และสนับสนุนการเติบโตของคอมมูนิตี้คริปโตได้โดยตรง
เราสามารถใช้โทเค็นเป็นรางวัลจูงใจเพื่อให้รางวัลแก่สมาชิกในคอมมูนิตี้สำหรับการมีส่วนร่วมได้ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้พวกเขามีความกระตือรือร้นมากขึ้น และช่วยกระจายข่าวออกไปแบบปากต่อปากได้
ประโยชน์การใช้งานของ “การตลาด Web3”
กระจายอำนาจในการทำโฆษณาและแคมเปญดิจิทัล
ในการทำโฆษณาดิจิทัลแบบดั้งเดิม มันจะมี Ad Exchange (ระบบตัวกลางในการจัดการโฆษณา) รายใหญ่จำนวนไม่มากที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ลงโฆษณา (Advertiser) และผู้เผยแพร่โฆษณา (Publisher) ตัวอย่างเช่น ในกรณีของการตลาดบน YouTube ผู้สร้างเนื้อหา (Content Creator) จะเป็นผู้เผยแพร่ โดยมีผู้ลงโฆษณาเป็นบริษัทที่ทำการโฆษณาบน YouTube และมี YouTube เป็นตัวกลาง
Ad Exchange เหล่านี้ควบคุมการไหลของข้อมูลและใช้อัลกอริทึมเพื่อจับคู่ผู้ลงโฆษณากับพื้นที่โฆษณาที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม การทำงานภายในของ Ad Exchange เหล่านี้ เช่น อัลกอริธึม หรือ กระบวนการตัดสินใจ มักจะมีความไม่ชัดเจน อีกทั้ง ผู้ลงโฆษณาก็เข้าถึงได้ยากอีกด้วย
ในทางตรงกันข้าม ในการโฆษณาแบบกระจายอำนาจ (ในบริบทของ Web3) คอนเซปต์ก็คือการมีเครือข่าย Ad Exchange ขนาดเล็กที่สื่อสารระหว่างกันและกัน แทนที่จะขึ้นอยู่กับหน่วยงานกลางหรือ Ad Exchange ขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง ผู้ลงโฆษณาจะมี Ad Exchange หรือแพลตฟอร์มขนาดเล็กเป็นของตนเอง
Ad Exchange เล็กๆ เหล่านี้จะโต้ตอบและสื่อสารกันภายในเครือข่าย ซึ่งเครือข่ายและผู้ที่เข้าร่วมจะประสานงานกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อและขายพื้นที่โฆษณา
ใช้โทเค็นเป็นรางวัลหรือแรงจูงใจ
การแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นโทเค็น เช่น แต้มสะสม หรือ โทเค็นในการเข้าถึงข้อมูล จะช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนมูลค่าในรูปแบบใหม่ภายในระบบนิเวศทางการตลาดได้
เราสามารถใช้มันในการทำการตลาดบล็อกเชนหรือ NFT เพื่อสร้างโปรสะสมแต้มและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณารายย่อยสามารถมีส่วนร่วมโดยการใช้สื่อของตนเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาได้
บริษัทต่างๆ สามารถใช้โทเค็นเป็นรางวัลสำหรับภารกิจบางอย่าง เช่น การแชร์เนื้อหา การให้ข้อเสนอแนะ หรือการเชิญชวนคนมาสมัครใช้งาน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้คอมมูนิตี้มีส่วนร่วมและมีความภักดีต่อแบรนด์มากยิ่งขึ้น และยังสามารถแลกเปลี่ยนมันเป็นสินค้า บริการ หรือประสบการณ์พิเศษต่างๆ ได้
กลยุทธ์การตลาดที่เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง
การตลาด Web3 จะให้ความสำคัญกับการช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมข้อมูลของตนเอง และส่งเสริมความเป็นเจ้าของข้อมูล ดังนั้น นักการตลาดสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นได้ เช่น การใช้จดหมายข่าวการตลาด Web3 เพื่อรับข้อมูลผู้ใช้งาน
ลองจินตนาการถึงโลกที่แคมเปญการตลาดได้รับการออกแบบตาม DApps และโปรโตคอลที่คุณโต้ตอบด้วย โดยไม่ต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ดูสิ!
เพื่อแลกกับรางวัล ผู้ใช้งานอาจเลือกที่จะแบ่งปันข้อมูลบางอย่าง หรือเข้าร่วมในแคมเปญที่พวกเขาเป็นกลุ่มเป้าหมายได้ นักการตลาดสามารถให้เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน พร้อมกับส่งข้อความทางการตลาดที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นอย่างดีด้วยเทคโนโลยี Web3 ได้
ใช้ NFTs และ ของสะสมดิจิทัล ในการทำการตลาด
ในการสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีไม่ซ้ำใครและมีคุณค่า บริษัทต่างๆ สามารถใช้ NFT ในแคมเปญการตลาดของตนได้ แบรนด์ต่างๆ สามารถออก NFT รุ่นจำกัดจำนวนเพื่อเป็นของสะสม รางวัลสำหรับการส่งเสริมการขาย หรือให้โทเค็นเพื่อการเข้าถึงกิจกรรมหรือคอนเทนต์สุดพิเศษได้
NFT Marketing (การทำการตลาดด้วยการใช้งาน NFT) สามารถช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์ เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน และมอบวิธีใหม่ๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับแบรนด์ไปพร้อมๆ กับการแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของพวกเขาได้
ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Web3 และ DApps
แพลตฟอร์ม DApps และ Web3 ช่วยมอบโอกาสใหม่ๆ ในการมีส่วนร่วมทางการตลาด นักการตลาดสามารถทำงานร่วมกับนักพัฒนา DApp เพื่อสร้างแคมเปญ เกม หรือประสบการณ์เชิงโต้ตอบที่น่าสนใจได้
แพลตฟอร์ม Web3 จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถมีส่วนร่วม ให้ข้อเสนอแนะ และจูงใจให้มีส่วนร่วมได้โดยตรงโดยการใช้โทเค็น และยังส่งเสริมการจัดการและการสร้างคอมมูนิตี้คริปโต และการสนับสนุนแบรนด์อีกด้วย
สิ่งนี้คือประโยชน์การใช้งานที่ชัดเจนที่สุดสำหรับ “การตลาด Web3” บน Metaverse (เช่น Augmented หรือ Virtual Reality) ตัวอย่างเช่น โลกเสมือนจริงอย่าง The Sandbox ที่ได้มีการลงโฆษณาจากบริษัทที่มี IP ชั้นนำมากมายไว้เรียบร้อยแล้ว
ความท้าทายและโอกาสใน “การตลาด Web3”
ข้อกังวลด้านกฎระเบียบและกรอบทางกฎหมาย
ในสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การตลาด Web3 อาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายบางอย่างก่อนที่จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เช่น:
- ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
- การปกป้องผู้บริโภค
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีอยู่แล้ว
- การพัฒนากรอบการทำงานสำหรับตลาดและเทคโนโลยีใหม่ๆ
การมีกรอบทางกฎหมายและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับการตลาด Web3 ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย และหน่วยงานกำกับดูแล
ความสามารถในการปรับขนาดและการยอมรับของผู้ใช้งาน
โซลูชั่นสำหรับการตลาด Web3 มักจะเป็นการอาศัยเทคโนโลยีแบบกระจายอำนาจ ซึ่งอาจจะมีปัญหาในเรื่องความสามารถในการปรับขนาดตามมาทีหลังได้ การปรับขนาดเครือข่ายบล็อกเชนและ DApps ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้แน่ใจได้ว่า ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพเมื่อผู้ใช้งานเริ่มเพิ่มมากขึ้น
กุญแจสำคัญคือการมองหาโซลูชั่นที่ปรับขนาดได้ที่ยังคงรักษาความสามารถในเรื่องความปลอดภัยและการกระจายอำนาจเอาไว้ได้ เพื่อให้การตลาด Web3 ประสบความสำเร็จ การส่งเสริมให้ผู้คนหันมาใช้งานเทคโนโลยี Web3 เพิ่มมากขึ้น และการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อดีข้อเสียต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน
ในปัจจุบัน มันอาจจะยังเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ใช้งานหน้าใหม่ที่จะทำความเข้าใจต่อเทคโนโลยี Web3 และ Blockchain ดังนั้น เพื่อที่นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ได้ พวกเขาอาจจะต้องให้ความรู้หรือมอบประสบการณ์ที่เป็นมิตรให้แก่ผู้ใช้งานเสียก่อน
การให้ความรู้แก่นักการตลาดและภาคธุรกิจ
เมื่อพูดถึงเรื่องการศึกษา แนวคิดใหม่ๆ เทคโนโลยี และแนวทางปฏิบัติที่ถูกนำเสนอจากการตลาด Web3 นักการตลาดและภาคธุรกิจต่างๆ อาจจะต้องมีการเรียนรู้และทำความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
เพื่อให้นักการตลาดใช้ประโยชน์จาก Web3 ได้อย่างเต็มที่ พวกเขาจะต้องทำความเข้าใจในเรื่องของศักยภาพของบล็อกเชน, Smart Contracts, ข้อมูลตัวตนแบบกระจายอำนาจ และการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็นให้ถ่องแท้
เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและใช้งานกลยุทธ์ เครื่องมือ และแนวทางปฏิบัติทางการตลาด Web3 ได้มากขึ้น เราจำเป็นต้องให้ความรู้และฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญขึ้นมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับบริษัทต่างๆ เช่น เอเจนซี่ด้านการทำ SEO คริปโตได้เป็นอย่างดี
การใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบในการตลาด Web3
การตลาด Web3 ช่วยให้ผู้คนสามารถควบคุมข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของตนได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม มันยังนำมาซึ่งความท้าทายในการจัดการและการใช้ข้อมูลผู้ใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ นักการตลาดจะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังในการสร้างความสมดุลระหว่าง Personalization (การนำเอาข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า) และ Privacy (ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล) เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ข้อมูลจะถูกรวบรวมและนำไปใช้อย่างโปร่งใสโดยที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งาน
การปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยในการรักษาความเป็นส่วนตัว เช่น Zero-Knowledge Proofs หรือ Decentralized Identity Systems จะช่วยสร้างความไว้วางใจ และทำให้เกิดแนวทางปฏิบัติด้านข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบได้
นำ Web3 Marketing มาใช้งานก่อนใคร
“การตลาด Web3” มอบโอกาสพิเศษที่ไม่เหมือนใครให้กับภาคธุรกิจและนักการตลาด ในการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศของเว็บแบบกระจายอำนาจที่กำลังเติบโตนี้ ด้วยการนำเอาการตลาด Web3 มาใช้งาน ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่โปร่งใส เป็นส่วนตัว และน่าสนใจมากยิ่งขึ้นได้
การตลาด Web3 นั้นมีศักยภาพมากมาย และผู้ที่ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ มีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์จากภูมิทัศน์ทางการตลาดที่มีการกระจายอำนาจและเน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางมากกว่าผู้อื่นๆ ที่มาทีหลังอย่างแน่นอน
มาดูกันว่า BeInCrypto จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโปรเจกต์คริปโตของคุณได้อย่างไร – ติดต่อเราได้เลย
คำถามที่พบบ่อย
Web3 สามารถใช้ในการทำการตลาดได้อย่างไร?
คำว่า Web3 หมายความว่าอย่างไร?
Web3 มีความหมายต่อแบรนด์ต่างๆ อย่างไร?
ความแตกต่างระหว่าง Web2 และ Web3 Marketing คืออะไร?
กลยุทธ์การตลาด Web3 คืออะไร?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์