เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยคือหลักในการกระจายอำนาจ ไม่ขึ้นอยู่กับองค์กรหรือหน่วยงานใดๆ แต่ XRP เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่แตกต่างออกไป เนื่องจากมันเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกควบคุมโดย Ripple Labs ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันที่พัฒนา RippleNet โปรโตคอลและเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศที่เปรียบเสมือนเวอร์ชั่นอัพเกรดของระบบ SWIFT โดยมีเหรียญ XRP เป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรม บทความนี้ เราจะไปดูกันว่า XRP คืออะไร? และสิ่งใดที่ทำให้ XRP เป็น 1 ใน 10 สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุด
Ripple Coin (XRP) คืออะไร?
XRP คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ทำงานอยู่บน XRP Ledger (XRPL) Blockchain และเป็นโทเค็นที่ Ripple Labs ใช้เป็นสื่อกลางเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย XRP แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ตรงที่มันถูกควบคุมโดยบริษัทเดียวและไม่ได้มีการกระจายอำนาจ XRP ไม่ได้ต้องการที่จะเป็นตัวเลือกที่สามารถใช้งานแทนสกุลเงินแบบดั้งเดิม แต่พวกเขาต้องการที่จะเป็นสกุลเงินกลางที่สามารถใช้ทำการซื้อขายทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ
เป้าหมายหลักของ Ripple คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถทำธุรกรรมได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และสามารถดำเนินการพร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว (ธุรกรรม 1,500 รายการต่อวินาที) Ripple มีเป้าหมายในการดึงดูดบริษัทต่างๆ เช่น ธนาคารขนาดใหญ่ บริการโอนเงิน และผู้ให้บริการชำระเงิน ที่ให้ความสนใจในเทคโนโลยีนี้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ Ripple วางสถานะของตนเองในการเป็นคู่แข่งกับเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศ เช่น SWIFT มากกว่าที่จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ
ประวัติความเป็นมาของ Ripple และ XRP
Ripple เป็น บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินแบบรวมศูนย์ (ฟินเทค) ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2004 ในชื่อ RipplePay โดย Ryan Fugger ในปี 2012 Fugger ขายบริษัทให้กับ Jed McCaleb, Arthur Britto และ David Schwartz ซึ่งเปลี่ยนบริษัทให้เป็นเครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลและได้เปลี่ยนชื่อเป็น OpenCoin ในปีเดียวกัน จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น Ripple Labs ในปี 2013 และได้ย่อให้เหลือเพียง “Ripple” แบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบันในปี 2015
ถึงแม้ว่า XRP จะถูกเรียกแทนด้วยชื่อ Ripple อยู่บ่อยครั้ง แต่อันที่จริงแล้ว Ripple ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็นเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศที่สามารถใช้งานทดแทน SWIFT (เครือข่ายการโอนเงินชั้นนำ) ได้ โดยมีเหรียญ XRP ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่เชื่อถือได้ และช่วยให้การทำธุรกรรม (การโอนเงิน) ระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
เอกลักษณ์ของ XRP และ Ripple
อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่ามีบางสิ่งที่ทำให้ XRP มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ เรามาดูกันดีกว่าว่า XRP แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ อย่างไรบ้าง
ไม่มีการจ่ายรางวัลให้กับ Validators
สำหรับสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ นั้น การได้มาซึ่งเหรียญ/โทเค็นคริปโตจะมาจากการขุดหรือยืนยันการทำธุรกรรมและเพิ่มบล็อกใหม่ลงบนเครือข่ายเพื่อรับรางวัลเป็นสกุลเงินดิจิทัลนั้นๆ อย่างไรก็ตาม เครือข่ายของ Ripple ไม่มีการมอบรางวัลให้กับการเพิ่มบล็อกใหม่ให้กับบล็อกเชนแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เครือข่ายของ Ripple (หรือที่เรียกว่า RippleNet) นั้นเป็นเครือข่ายแบบปิด ซึ่งจะให้บริการเฉพาะสถาบันการเงินเท่านั้น ลูกค้าของ RippleNet จะประกอบไปด้วยธนาคารต่างๆ หลายร้อยแห่ง สถาบันการเงินขนาดเล็ก ไปจนถึง องค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่ เช่น Bank of America และ Santander เป็นต้น ดังนั้น หมายความว่า นอกเหนือจากการซื้อเหรียญ XRP จากกระดานเทรดแล้ว บุคคลธรรมดาทั่วไปจะไม่สามารถขุดหรือหาเหรียญ XRP ได้
อุปทานของเหรียญ XRP มีจำนวนจำกัด
เหรียญ XRP นั้นไม่ได้เปิดให้มีการขุดหรือมิ้นต์ แต่จะเป็นการขุดไว้ล่วงหน้าในช่วงเปิดตัวเป็นจำนวน 1 แสนล้านโทเค็น เหรียญ XRP จำนวน 8 หมื่นล้านโทเค็นถูกส่งมอบให้กับ Ripple Labs Foundation ซึ่งจะทำการดูแลเครือข่าย Ripple และปล่อยขาย XRP เป็นระยะๆ ในราคาตลาดเพื่อเป็นเงินทุนให้กับระบบนิเวศ และเพื่อสร้างสมดุลทางราคาให้กับเหรียญ (ปัจจุบัน ในบัญชี Ripple Escrow เหลือเหรียญ XRP ที่ล็อกอยู่เป็นจำนวน 4.19 หมื่นล้านโทเค็น) ส่วนที่เหลืออีก 2 หมื่นล้านโทเค็นจะถูกมอบให้กับผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple ทั้ง 3 คน
ความรวดเร็วและค่าธรรมเนียมในการธุรกรรมที่ต่ำ
เนื่องจากเครือข่าย Ripple ไม่ได้มีการเปิดให้ขุด เครือข่ายจึงได้รับผลกระทบน้อยกว่าเครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น ต้นทุนในการทำธุรกรรมของ XRP ยังต่ำมาก ปัจจุบัน ต้นทุนธุรกรรมขั้นต่ำสำหรับธุรกรรมมาตรฐานคือ 0.00001 XRP (หรือ 10 drop ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของ XRP)
และเมื่อเทียบกับเครือข่าย Bitcoin ที่ใช้เวลาประมาณ 10 ถึง 60 นาทีในการประมวลผลบล็อก Ripple ใช้เวลาเพียง 3 ถึง 6 วินาทีในการประมวลผล, อนุมัติ, และเพิ่มธุรกรรมลงในบล็อกเชน นอกจากนี้ เครือข่ายยังได้รับการออกแบบมาให้สามารถปรับขนาดได้มากยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการประมวลผลธุรกรรม 1,500 รายการต่อวินาที (เทียบกับ Bitcoin ที่ประมวลผลได้ 7-10 รายการต่อวินาที)
เครือข่ายบล็อกเชนที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมทางการเงิน
ต่างจากโปรโตคอลสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ XRP Ledger อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินใดๆ ก็ได้ที่พวกเขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็น สกุลเงินเฟียต, สกุลเงินดิจิทัล, หรือ สิ่งที่มีมูลค่าอื่นๆ นอกเหนือไปจาก XRP ซึ่งทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบุคคลที่ต้องการส่งเงินไปทั่วโลกจะไม่ต้องทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน แต่จะสามารถส่งและรับเงินในสกุลเงินท้องถิ่นในทั้ง 2 ด้านของธุรกรรมแทน
นอกจากนี้ Ripple ยังมีบริการเชื่อมต่ออัตโนมัติ (Autobridging) ซึ่งจะช่วยค้นหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด หากทั้ง 2 ฝ่ายต้องการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
XRP ทำงานอย่างไร และ มีข้อดีอย่างไร?
XRP เป็น สกุลเงินดิจิทัลที่มีไว้สำหรับใช้งานบนเครือข่ายบล็อกเชนของ Ripple ซึ่งจะเก็บบันทึกธุรกรรมที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยใช้ XRP Ledger (XRPL) โดยจะบันทึกข้อมูลธุรกรรมต่างๆ เช่น ยอดคงเหลือ, บัญชี, การโอน ฯลฯ และจะได้รับการรักษาความปลอดภัยโดยคู่คีย์เข้ารหัส (Private และ Public Keys) ซึ่งจะมีเพียงผู้ถือ Private Key เท่านั้นที่จะสามารถอนุมัติการทำธุรกรรมได้
XRP จะถูกใช้สำหรับการเป็นสื่อกลางของการโอนเงินระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่น การโอนเงินจากธนาคารในประเทศ A ไปยังธนาคารในประเทศ B ข้อมูลธุรกรรมจะถูกส่งไปยัง XRP Ledger (เพื่อใช้เป็นตัวกลางแทนระบบ SWIFT) จำนวนเงินที่โอนจากต้นทาง (ธนาคารในประเทศ A) จะถูกแปลงเป็นเหรียญ XRP ตามมูลค่าที่ต้องการจะโอนโดยอัตโนมัติ จากนั้น เหรียญ XRP จะถูกโอนไปยังปลายทาง (ธนาคารในประเทศ B) และจะถูกแปลงกลับเป็นสกุลเงินปลายทางตามมูลค่าที่ได้รับโอนโดยอัตโนมัติ
ข้อดีของเครือข่าย Ripple
- ทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว — เมื่อเทียบกับการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านธนาคารที่อาจจะไช้เวลาในการยืนยันเป็นเวลานานแล้ว การใช้เครือข่าย Ripple จะใช้เวลาเพียงแค่ 4-5 วินาทีเท่านั้น
- ค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก — เมื่อเทียบกับการโอนเงินระหว่างประเทศอื่นๆ ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ต้นทุนในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ripple นั้นอยู่ที่เพียง 0.00001 XRP หรือ เมื่อเทียบเป็นเงินไทยก็อยู่ราวๆ 0.0021 บาท เท่านั้น
- เครือข่ายรองรับสกุลเงินที่หลากหลาย — เครือข่าย Ripple ไม่เพียงแต่ประมวลผลธุรกรรมโดยใช้ XRP เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้กับสกุลเงินเฟียตและสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ได้อีกด้วย
- ได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินรายใหญ่ — RippleNet ได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินรายใหญ่ทั่วโลก เช่น Santander หรือ Bank of America หรือแม้กระทั่งในประเทศไทยเอง บริการการโอนเงินของ SCB EASY App ก็ใช้งานเครือข่าย RippleNet เช่นเดียวกัน
สถานการณ์ของ XRP ในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง?
หลังจากที่ Ripple ได้รับชัยชนะในคดีฟ้องร้องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐอเมริกา ในข้อหาขายหลักทรัพย์ (XRP) ที่ไม่ได้ผ่านการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อช่วงเดือนกรกฏาคม 2023 ที่ผ่านมา ราคาของเหรียญ XRP ก็เริ่มที่จะปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิม จากราวๆ 0.47 ดอลลาร์ ขึ้นมาเป็นราวๆ 0.62 ดอลลาร์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า นักลงทุนรายใหญ่ (วาฬ) ได้ช้อนซื้อ XRP เป็นจำนวนมากเข้ากระเป๋า ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้ถึงสัญญาณที่ดีต่อราคาของเหรียญ XRP ที่อาจจะปรับตัวสูงขึ้นอีก ทำให้เหรียญนี้สมควรค่าแก่การจับตามองในอนาคตอย่างแน่นอน
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์