กรมบริการทางการเงินแห่งรัฐนิวยอร์ก (NYDFS) กล่าวว่าจะเริ่มเรียกเก็บเงิน ธุรกิจ Crypto ที่ลงทะเบียนในรัฐเพื่อแลกกับการตรวจสอบและกำกับดูแลประจำปี และเก็บค่าธรรมเนียม 5 ครั้งต่อปีบัญชี
ผู้กำกับ Adrienne Harris อธิบายว่าค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันสำหรับแต่ละองค์กร ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อน ที่พวกเขาจะต้องให้คำปรึกษา
ธุรกิจ Crypto กำลังถูกจัดระเบียบใต้กฎการธนาคาร
NYDFS ระบุว่ากฎใหม่จะใช้กับหน่วยงานที่ได้รับ Bitlicense แล้ว ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2015 โดยกำหนดให้ธุรกิจคริปโตต้องเป็นไปตามมาตรฐานต่าง ๆ สำหรับการระดมทุน การต่อต้านการฟอกเงิน และความปลอดภัยในโลกไซเบอร์
แต่ละบริษัทจะต้องชำระค่าธรรมเนียม 5 ครั้งต่อปีบัญชี ประกอบด้วย การชำระบัญชีรายไตรมาสโดยประมาณ 4 ครั้งและ 1ครั้งตามค่าใช้จ่าย กฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการเริ่มต้นปีงบประมาณของนิวยอร์กในวันที่ 1 เมษายน และสิ้นสุด 31 มีนาคม
การเก็บค่าธรรมเนียม มีจุดประสงค์เพื่อจัดการธุรกิจ Crypto ที่อยู่ภายใต้กฎหมายที่ใกล้เคียงกับกรอบการดูแลของสถาบันการธนาคารและบริษัทประกันมากขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วธุรกิจธนาคารและประกันจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเหล่านี้กับ NYDFS อยู่แล้ว ผู้กำกับดูแล Harris เชื่อว่าภาคส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลในท้องถิ่นจะได้รับประโยชน์มากมายจากการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานเฝ้าระวัง
“เมื่อคุณสามารถทำงานร่วมกันกับผู้ควบคุมและผู้ตรวจสอบของคุณ เราสามารถช่วยระบุปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่มันจะแพร่กระจายไป มันเป็นบริการจริง ๆ ที่เราสามารถมอบให้กับอุตสาหกรรมได้ และช่วยให้เราในฐานะผู้ควบคุมดูแลตลาดและคุ้มครองผู้บริโภคได้ดีขึ้น”
Eric Soufer ผู้บริหารของบริษัทที่ปรึกษา Tusk Strategies กล่าวชื่นชม NYDFS สำหรับแนวทางของตนต่อวงการคริปโต โดยอ้างว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ตระหนักถึงความจำเป็นของกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้
“ฉันคิดว่าอุตสาหกรรมตระหนักดีว่านิวยอร์กเป็นรัฐเดียวที่ควบคุม crypto ในเชิงรุกและครอบคลุม”
คำแนะนำก่อนหน้านี้ของ NYDFS
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานกำกับดูแลได้เรียกร้องให้บริษัทที่ดำเนินงานในรัฐแยกการถือครองสกุลเงินดิจิตอลของลูกค้าออกจากบัญชีทรัพย์สินของตนเอง
การผสมรวมกันอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางการเงินอย่างรุนแรง พวกเขาควรเผยแพร่บันทึกและเก็บ “เส้นทางการตรวจสอบภายในที่ชัดเจน” เพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับการทำธุรกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินของพวกเขา
NYDFS เผยว่า นักลงทุนมีความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าตลาดจำเป็นต้องทำงานภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่ครอบคลุม:
“ในฐานะผู้ดูแลทรัพย์สินของผู้อื่น เหล่าธุรกิจที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลมีบทบาทสำคัญในระบบการเงิน ดังนั้นกรอบการกำกับดูแลที่ครอบคลุมและปลอดภัยจึงมีความสำคัญต่อการปกป้องลูกค้าและรักษาความไว้วางใจ”
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ