พื้นที่ดิจิทัลได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในช่วงที่ผ่านมา การเปิดตัวเทคโนโลยี metaverse ทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นเชื่อในความเป็นไปได้ที่โลกเสมือนออนไลน์จะกลายเป็นอีกด้านของชีวิตจริง ล่าสุดกรัฐมนตรี Singapore เสนอให้มีการจัดตั้งบริการรัฐ เช่น ศาล ในโลกเสมือนนี้
เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียวที่คุณจะมีโลกจริงบนโลกออนไลน์ คุณสามารถเป็นเจ้าของ สิ่งของและวัตถุต่างๆ หรือแม้กระทั่งที่จะที่ดิน บ้าน เสื้อผ้า และทรัพย์สินอื่นๆ ตามความเป็นไปได้ไม่รู้จบขอพัฒนาการทางเทคโนโลยีนี้ บน Metaverse คุณยังสามารถจัดกิจกรรมบนแพลตฟอร์มเสมือนได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมผู้ใช้งานทั่วโลก และมีค่าใช้จ่ายที่ลดลงสำหรับผู้ประกอบการ
Singapore บริการภาครัฐบน Metaverse
บนโลกเสมือนที่ได้รับความสนใจนี้ รัฐมนตรีของสิงคโปร์ เสนอให้จัดตั้งบริการภาครัฐ เช่น การไกล่เกลี่ย ขึ้นบนโลกออนไลน์ เช่น การจัดตั้งศาล หรือ บริการจดทะเบียนสมรส ในโลกเสมือน รวมถึงบริการอื่นๆ กล่าวโดย รองรัฐมนตรีด้านกฎหมาย Edwin Tong
ในงาน TechLaw Fest 2022 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา Tong กล่าวว่า บนแพลตฟอร์ม Metaverse การจัดงานแต่งงาน และ กิจกรรมส่วนบุคคลต่างๆ ถือว่าถูกกฎหมายและสามารถทำได้ ทั้งนี้หน่วยงานรัฐอาจใช้ประโยชน์ดังกล่าว เพื่อให้บริการประชาชนได้มากขึ้น และเป็นทางเลือกในการเข้าถึงบริการของรัฐในรูปแบบหนึ่ง
นอกจากนี้ การให้บริการทางกฎหมายก็สามารถทำได้บน Metaverse รวมถึง คดีความหรือการไกล่เกลี่ยที่ต้องให้คู่กรณี แสดงตัวตนเชิงกายภาพ ก็สามารถทำได้แล้วบนโลกออนไลน์ในเชิงกฎหมาย
การใช้ Augmented Reality (AR) ใน Metaverse
Tong ให้ตัวอย่างการไกล่เกลี่ยออนไลน์ มาหนึ่งกรณี เช่น คดีความที่เกิดขึ้นบนไซต์ก่อสร้าง เทคโนโลยี AR สามารถทำให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด สามารถตรวจสอบสถานที่จริงได้ในรูปแบบ 3 มิติ เขามองว่า ไม่ว่าใครก็ตามก็สามารถตรวจสอบสถานที่จริงนั้นๆ ได้ ไม่ว่าจะเข้าไปในอุโมงค์ หรือตามซอกมุมต่างๆ
ในแถลงการณ์ของเขา รัฐมนตรีเสริมกล่าวว่า การใช้งาน metaverse จะไม่ได้มาแทนหรือขัดขวาง การดำเนินการแบบดั้งเดิม สำหรับเขา การมีตัวเลือกออนไลน์จะสร้างองค์ประกอบไฮบริด เพราะมันเสนอแนวทางที่สะดวกกว่าในการระงับข้อพิพาท ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าในบางกรณี นอกจากนี้ยังเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่จะตอบสนองกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
นอกจากสิงคโปร์แล้ว รัฐบาลเกาหลีใต้ ก็มีแผนในการพัฒนาภาครัฐบน Metaverse เช่นกัน ซึ่งได้รับงบประมาณไปกว่า 177 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบนเทคโนโลยีนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐให้หลากหลายรูปแบบขึ้น
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ