วิธีเอาตัวรอดจาก Recession EP.4
คุณมีทางหนีไฟหรือยัง?
ความเสี่ยงมีอยู่มากมายที่คุณจะเงินหายไปถึง 50% หากคุณไม่ได้กระจายความเสี่ยงเลยในตลาดขาลง
คำถามสำคัญคือ หากเป็นเช่นนั้นคุณสามารถขายได้ทันทีเร็วที่สุดในตอนนั้นเลยหรือไม่?
ถ้าคุณมีทรัพย์สินที่ถืออยู่หลายอย่าง คำถามคือคุณสามารถขายมันได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่? ใช้เวลากี่วันในการที่จะมีคนมาซื้อ? หรือภายในกี่วินาที? เมื่อเทียบกับคนอื่นที่เขาต้องการจะขายเช่นกัน?
หากคุณถือหุ้นอยู่ คุณมีโบรกเกอร์ที่สามารถสั่งขายได้ในตอนนั้นเลยใช่ไหม? คุณมีโบรกเกอร์หรือคุณเทรดเอง? มีนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่รู้จักหรือไม่? ถ้าเป็นคริปโตคุณใช้มือถือขายเป็นรึยังหากมันลงไป 50% ภายในวันเดียว?
ยิ่งคุณมี Asset ที่สามารถ Liqidate ได้เร็วมากเท่าไหร่ คุณยิ่งจะ Cutloss ได้เร็วขึ้นเท่านั้น การเตรียมพร้อมการขายในสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดอาจจะทำให้คุณเหลืออะไรอยู่บ้างดีกว่าที่จะเสียมันไปทั้งหมด
ความเสี่ยงมันคืออะไรที่คุณนึกไม่ออก – Morgan Housel
คนธรรมดาที่เพิ่งเข้ามาในตลาดอาจจะไม่เข้าใจ Financial Product หลายๆอย่าง วิธีทำงานแบบ Smart Money ในแบบหลายๆท่า ในปี 2008 คนธรรมดานั้นโดนสัญญา CDOs ที่เป็นการปั๊มเงินเพื่อค้ำประกันกันไปเรื่อยๆ ซึ่งกว่าคนจะเข้าใจก็หลังจากวิกฤตซับไพร์มได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว ธนาคารหลายแห่งขาดทุนอย่างหนักไล่พนักงานออก ขนาดแบงค์ใหญ่ๆก็ยังรับมือไม่ทัน จะนับประสาอะไรกับคนธรรมดาที่จะไม่เข้าใจในกระแส
ลองคิดดูว่าหากคุณขาดทุน 50% เมื่อเทียบกับเอาเงินฝากธนาคารเฉยๆ? อะไรจะคุ้มค่ากว่ากัน? คิดว่ากระแสคริปโตมารอบเดียวแล้วจะหมดหรือไม่? หากคุณคิดว่าไม่ มันก็คงไม่ใช่งวดสุดท้ายที่คุณจะมีโอกาสรวย ยังเหลือโอกาสอื่นให้คุณรวยได้อีก
หลังจากทุกอย่างพังลง มันต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นกลับ จงรับความเสี่ยงเท่าที่คุณเสียได้ จำไว้ว่าการลงทุนมีเหตุการณ์อะไรที่คนคิดไม่ถึงได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ