เกาหลีใต้ ชะลอการใช้งานระบอบภาษีสกุลเงินดิจิทัลอีกครั้ง ภาษีเงินได้จากการขาย 20% จะมีผลบังคับใช้ในปี 2025
ทางการ เกาหลีใต้ ได้ตัดสินใจที่จะเลื่อนการเก็บภาษีของประเภทสินทรัพย์ดังกล่าวไปจนถึงปี 2025 ตามประกาศอย่างเป็นทางการ คาดว่าภาษีเงินได้จากการขาย 20% สำหรับ Cryptocurrency นั้นจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 2023 และอธิบายถึงเหตุผลบางประการสำหรับความล่าช้าดังกล่าว ก่อนหน้านี้ แผนการเก็บภาษีเคยมีการล่าช้ามาแล้ว
ภาษี 20% จะใช้กับยอดกำไรของ Crypto ที่เกิน 1,900 ดอลลาร์ในระยะเวลาหนึ่งปี ผู้ใช้งานบางคนนั้นรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับกฎระเบียบนี้ เนื่องจากพวกเขารู้สึกว่า การเก็บภาษีที่มากกว่า 1,900 ดอลลาร์นั้นเข้มงวดเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่ว่านักลงทุนรายย่อยจะได้รับผลกระทบจากเกณฑ์นี้
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการชะลอการเก็บภาษีคือสภาวะตลาดที่ซบเซาและต้องใช้เวลาในการดำเนินการตามมาตรการคุ้มครองผู้ลงทุน ประธานคณะอนุกรรมการภาษี Kim Young-jin กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้ว จำเป็นจะต้องมีกฎระเบียบด้าน Crypto ที่ครอบคลุมมากขึ้นก่อนที่จะดำเนินการเก็บภาษี
การให้ความสำคัญกับภาษี Crypto ของ เกาหลีใต้ นั้นเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาตั้งแต่ปี 2021 เมื่อพวกเขาได้เลื่อนการเก็บภาษี Crypto ออกไปเป็นปี 2023 การตัดสินใจเก็บภาษีในหมวดสินทรัพย์ดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์หนาหู แม้ว่าจะมีการผ่อนปรนในเรื่องที่ NFTs จะไม่ถูกเก็บภาษีก็ตาม
สำหรับกฎระเบียบด้าน Crypto นั้น หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้นั้นมีความพยายามในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก หน่วยงานเพิ่งเริ่มตรวจสอบธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารพาณิชย์สำหรับการใช้ Cryptocurrency ที่ผิดกฎหมาย การสืบสวนเรื่อง Terra ก็กลายเป็นพาดหัวข่าวอยู่บ่อยครั้ง
Cryptocurrency นั้นเข้ามาอยู่ในใจของหลายๆ ประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ตลาด Crypto เติบโตอย่างรวดเร็วและมีนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา หลังจากที่พวกเขาอนุญาตให้กลุ่มสินทรัพย์ดังกล่าวดำเนินการตามการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ประเทศเหล่านี้ก็ได้หันไปใช้การเก็บภาษีเพื่อกำหนดในเรื่องการควบคุมบางอย่างในตลาด
อินเดียเป็นอีกหนึ่งในหลายๆ ประเทศที่มีข่าวเรื่องความพยายามเก็บภาษีของพวกเขา พวกเขาได้กำหนดกฎระเบียบภาษีจำนวนมาก 30% สำหรับ Crypto เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนปีนี้ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ทำให้ปริมาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นลดลงเป็นอย่างมาก
United States Internal Revenue Service (IRS) ก็ได้ก้าวเข้ามาเริ่มทำการตรวจสอบมากขึ้นแล้ว โดยได้ทำงานร่วมกับกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาเพื่อให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์และกระดานเทรดสกุลเงินดิจิทัลจะต้องรายงานข้อมูลการซื้อขายของลูกค้า
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ