a16z จัดอบรมเพื่อสตาร์ตอัพคริปโตและ Web3

VC ที่โดดเด่นที่สุดรายหนึ่งของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังเคลื่อนทัพเข้าสู่วงการการศึกษาโดยจัดตั้งสถานศึกษาสำหรับ Web3 และสตาร์ตอัพคริปโต

Andreessen Horowitz หรือที่รู้จักในชื่อ a16z ได้ประกาศจัดตั้งโรงเรียนสำหรับสตาร์ตอัพคริปโต โดยมีมีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งการเติบโตของ Web3

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. VC ยักษ์ใหญ่รายนี้ได้โพสต์ข้อความบน Twitter รายละเอียดของการร่วมทุนซึ่งรวมถึงการลงทุนมูลค่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐจากบริษัท ได้เปิดรับสมัครสำหรับรุ่น 2023 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมในลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย

A16z ดำเนินการบางอย่างที่คล้ายคลึงกันในปี 2020 กับสตาร์ทอัพรวมถึง Solana Wallet Phantom, Notional Finance, Teller และ Goldfinch Finance อย่างไรก็ตาม ทาง a16z ขยายโรงเรียนเริ่มสตาร์ตอัพให้กลายเป็นเครื่องเร่งความเร็วศักยภาพเต็มเปี่ยมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทระบุว่าผู้เข้าร่วมจากปี 2020 ได้รับเงินระดมทุนไปแล้วกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Today we’re thrilled to announce the launch of our new accelerator, Crypto Startup School.

The program will include:

Investment from @a16zcrypto ($500k)
Mentorship from leading founders
Advice from domain experts
Network of fellow builders

Apply: https://t.co/SN0hkHDBvZ pic.twitter.com/xdhlDH4qpI

— a16z crypto (@a16zcrypto) October 18, 2022

การอบรมสำหรับสตาร์ตอัพคริปโตและ Web3

นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ฉลาดของบริษัทแห่งนี้ที่จะให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่สตาร์ตอัพเหล่านี้ เพื่อแลกกับส่วนแบ่งผลกำไรหากพวกเขาประสบความสำเร็จ

“a16z crypto จะลงทุน $500,000 ในทุกบริษัทที่เข้าร่วม เพื่อแลกกับส่วนแบ่ง  7% และสิทธิมาตรฐานอื่นๆ บางประการ”

หลักสูตรอบรมระยะเวลาสิบสองสัปดาห์ครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ความต้องการเฉพาะของสตาร์ตอัพ Web3 ซึ่งรวมถึงการให้คำปรึกษาจากผู้ก่อตั้งอุตสาหกรรม การบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ และโอกาสในการสร้างแพลตฟอร์มร่วมกับผู้ก่อตั้งโปรโตคอลคนอื่น ๆ

บริษัทจำนวนประมาณ 30 แห่งจะได้รับการตอบรับให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว และจะปิดรับสมัครในวันที่ 30 พ.ย. 2022

การลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในพอร์ตโฟลิโอของ Andreessen Horowitz ประกอบด้วยบริษัทคริปโตและ Web3 เกือบ 50 แห่ง  เช่น Alchemy, Celo, Chia, Compound, Dapper Labs, Dfinity, Diem, dYdX, Maker, NEAR, OpenSeaและ Solana

VCs จะเป็นเจ้าของอุตสาหกรรม Web3

นโยบายนี้นั้นค่อนข้างจะย้อนแย้งกัน เป็นเพราะแนวคิดพื้นฐานทั้งหมดของ Web3 ข้องเกี่ยวกับกับอินเทอร์เน็ตเวอร์ชันกระจายอำนาจที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน

วิสัยทัศน์ข้างต้นค่อยๆ เสื่อมสลายลงอย่างช้าๆ เนื่องจากบริษัทร่วมทุนยักษ์ใหญ่อย่าง a16z ได้เข้ามามีบทบาทในแวดวงดิจิทัลทั้งหมด

ซึ่งหมายความว่าเมื่อมีการก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพในวันนี้และ Web3 ได้เข้ายึดครอง web2 ในอีกไม่กี่ปี VCs และนักลงทุนรายแรก ๆ จะควบคุมระบบนิเวศอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ ทำให้เกิดการสร้างศูนย์กลางเช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันโดยยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเช่น Google และ Meta ในฐานะผู้ควบคุม

อีกประเด็นหนึ่งคือ VCs มักจะเข้าถึงโทเค็นในราคาที่ต่ำกว่าผู้ค้าปลีกและชุมชนทั่วไป เมื่อพวกเขาต้องการสภาพคล่อง พวกเขาขายโทเค็นเหล่านี้ทิ้งในตลาดเพื่อให้ได้ผลกำไรมหาศาล ทำให้เกิดการสูญเสียมูลค่าขนานใหญ่สำหรับการค้าปลีก

สิ่งนี้เพิ่งได้รับการเปิดเผยดังปรกาฎในบล็อกเชน Aptos ที่ได้รับการสนับสนุนจาก VC และโทเค็น APT ซึ่งราคา APT พุ่ง ขึ้น 50% ในช่วงวันนี้เป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงหลังจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ หันมาจัดจำหน่ายโทเค็นดังกล่าว