Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase มั่นใจว่าการมุ่งเน้นไปที่ ‘นวัตกรรม’ แทนการเอาตัวรอดในสภาวะตลาดระยะสั้นจะทําให้บริษัทดำเนินธุรกิจไปได้ต่ออีกห้าถึงสิบปีข้างหน้า
Armstrong กล่าวว่าด้วยรายได้ในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 808 ล้านดอลลาร์สหรัฐของ Coinbase ซึ่งลดลงจากประมาณการ 874 ล้านดอลลาร์สหรัฐของนักวิเคราะห์และหน่วยงานกํากับดูแลที่คอยติดตามรายได้ของบริษัทอย่างใกล้ชิด Coinbase จึงให้ความสําคัญกับแนวโน้มในวงกว้างของตลาดอีคอมเมิร์ซและการนําอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน เพื่อช่วยให้บริษัทรักษามุมมองในช่วงตลาดหมีที่ยืดเยื้อ ซึ่งอ้างว่าเกิดจากผู้ให้กู้คริปโตอย่าง Celsius และ Voyager Digital
Armstrong และ COO Emilie Choi ยกย่องทีมบริหารความเสี่ยงของบริษัทเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อที่เกิดจากการล่มสลายของ TerraUSD Stablecoin และผลิตภัณฑ์การให้กู้ยืมที่มีเลเวอเรจสูงซึ่งทําให้ทั้ง Celsius และ Voyager Digital ต้องฟ้องล้มละลายเมื่อเดือนที่แล้ว
การคาดการณ์ปัญหาของบริษัทเป็นสิ่งที่ดี แม้จะมีความเสี่ยงนานัปการ
แม้ว่าผู้ค้ารายย่อยจํานวนมากเลือกที่จะ ‘hodl’ และมีรายได้จากการซื้อขายที่ลดน้อยลง แต่บริษัทได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุลผ่านรายได้จากการสมัครสมาชิกและค่าบริการที่คิดเป็น 18% ของรายได้ในไตรมาสล่าสุด
ตัวเลขที่ Armstrong หวังว่าจะเติบโตอีก 50% Armstrong ยังเสริมว่าบริการลงทุนด้วยการเดิมพันทําได้ดี แม้จะไม่เปิดเผยตัวเลข ตอนนี้ แพลตฟอร์มบริษัทยังคงมีกำไรเล็กน้อยเมื่อพิจารณาจากงบดุล โดยคาดว่าจะมีการควบรวมกิจการในระหว่างนี้
ทางบริษัทยังอ้างว่าตนมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนทางการตลาด จำนวนผู้ที่ขายสินทรัพย์จากภายนอก และผู้ให้บริการคลาวด์ โดยอาจจะเห็นว่ามีการประชาสัมพันธ์สินค้าในช่วงพักครึ่งของ Super bowl น้อยลงเมื่อฤดูกาลแห่ง NFL เริ่มต้นขึ้นหลังจากโฆษณารหัส QR ที่มีชื่อเสียงในงานปีที่แล้ว ทั้งนี้ Armstrong กล่าวโฆษณาของ Coinbase จะยังคงแพร่หลายผ่านช่องทางอื่น ๆ
ทางแพลตฟอร์มยังมีความหวังเชิงบวกเกี่ยวกับโครงการ NFT ที่เพิ่งเปิดตัว แม้จะถือว่าค่อนข้างช้าจากบล็อกเริ่มต้น และเขามองว่าโครงการนี้ พร้อมกับ Coinbase Wallet ที่ผู้ใช้งานสามารถบริหารบัญชีตนเองได้ กลายเป็นองค์ประกอบสําคัญสําหรับการผลักดันของบริษัทของเขาเข้าสู่เว็บ 3 นอกจากนี้ Coinbase Cloud ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่กําหนดเป้าหมายไปที่นักพัฒนา ก็กําลังได้รับแรงฉุดเช่นกัน
Coinbase เผชิญกับการดำเนินคดีจำนวนมาก
ในแง่ของความร่วมมือกับหน่วยงานกํากับดูแลของสหรัฐฯ Armstrong กล่าวว่าพนักงานของ Coinbase พบปะกับผู้กําหนดนโยบายต่างๆ เป็นประจํา และบริษัทยินดีที่จะร่วมมือกับหน่วยงานกํากับดูแลใด ๆ ก็ตาม เขาเสริมว่าโทเค็นใด ๆ ที่ถูกระบุว่าเป็นหลักทรัพย์จะถูกเพิกถอนทันที โดยอ้างถึงการสอบสวนที่ดําเนินการโดยสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อตรวจสอบรายชื่อหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน
แผนการณ์ใหญ่กว่าของบริษัทคือการกลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกผ่านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่แพลตฟอร์มเองยังต้องเผชิญกับการดําเนินคดีจำนวนมากอยู่เสมอ
โจทก์กลุ่มหนึ่งยื่นฟ้องดําเนินคดีแบบกลุ่มกับแพลตฟอร์ม โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มได้ล็อคพวกเขาออกจากบัญชีและโอนทรัพย์สินโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา
อีกคดีหนึ่งที่ยื่นฟ้องโดย Bragar Eagell & Squire PC ซึ่งเป็นสํานักงานกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านสิทธิของผู้ถือหุ้นกล่าวหาว่าตลาดหลักทรัพย์ได้แถลงการณ์ที่สร้างเข้าใจผิดเกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยไม่สามารถเปิดเผยได้ทันเวลาว่าเงินทุนของนักลงทุนอาจตกอยู่ในอันตรายหากบริษัทล้มละลาย
Coinbase ได้ลดจํานวนพนักงานลงเกือบหนึ่งในห้าเมื่อต้นปีนี้ เนื่องจากแรงกดดันเบื้องต้นต่ออุตสาหกรรมคริปโตหลังจากการล่มสลายของ TerraUSD ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทําให้เกิดการลดต้นทุนฉุกเฉินที่ Coinbase และบริษัทอื่นๆ รวมถึง BlockFi และ Blockchain.com นอกจากนี้ Coinbase ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการยกเลิกประกาศรับสมัครงาน และ Armstrong ก็ยังไม่ได้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดทอนเหล่านี้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
