ดูเพิ่มเติม

“13 ตัวเลือก” ที่สามารถใช้งานแทน MetaMask ได้ดีที่สุดในปี 2022

23 mins
โดย Rahul Nambiampurath
แปลแล้ว Akradet Mornthong

MetaMask — กระเป๋าเงินคริปโต (Crypto Wallet) พร้อมใช้งานสำหรับ NFTs, DeFi และ DApps — ได้ตกเป็นข่าวว่า พวกเขาจะเริ่มเก็บรวบรวม IP Address ของผู้ใช้งาน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นไม่ใช่ข่าวดีเลย! พวกเขาทำเพื่ออะไร? สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ Consensys บริษัทบล็อกเชนที่อยู่เบื้องหลัง MetaMask ได้ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวของพวกเขา ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ส่งผลกระทบต่อ MetaMask เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่การประกาศในเรื่องดังกล่าวจะทำให้สมาชิกในชุมชนคริปโตเกิดความไม่พอใจ ถ้าอย่างนั้น เรามี “ตัวเลือก” ใดที่จะสามารถใช้งานแทน MetaMask ได้บ้าง? ในบทความนี้ เราจะนำเสนอ “ตัวเลือก” ใหม่ๆ ของกระเป๋าเงินแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Wallet) ชั้นนำให้คุณได้รับทราบกัน

ต้องการเป็นคนแรกที่ได้รับข่าวสารใหม่ๆ เกี่ยวกับแวดวงคริปโตหรือไม่?

อ่านรีวิวใหม่ๆ พูดคุยกันเรื่องข่าวสารคริปโตล่าสุด และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่คุณต้องการจากนักเทรดมืออาชีพ! มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram กันเลย!

MetaMask: Crypto Wallet ยอดนิยม!

ถ้าจะให้พูดกันตามตรง: MetaMask นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในปัจจุบัน กระเป๋าเงินเบราว์เซอร์/มือถือรายนี้มีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลถึง 21 ล้านคน และที่สำคัญ MetaMask ไม่ได้เป็นเพียงกระเป๋าเงิน แต่มันยังเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสำรวจโลก Web3 ได้ ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับ DApps มากกว่า 3,700 แอป ซึ่งทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึง Ethereum ได้มากขึ้น

ในเดือนกรกฎาคม 2022 ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงตลาดขาลง แต่จากข้อมูลของ Statista MetaMask ก็ถูกดาวน์โหลดไปถึง 130,699 ครั้งในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวเท่านั้น พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อพูดถึงกระเป๋าเงินเบราว์เซอร์/มือถือ MetaMask นั้นยังคงเป็นเจ้าตลาดอยู่

ความต้องการของ “ตัวเลือก” อื่นๆ มาแทนที่ MetaMask

ไม่ใช่ว่าการกระจายอำนาจและความเป็นอิสระนั้นเป็นเสาหลักของ Web3 งั้นหรือ? แต่ MetaMask กลับมองข้ามเรื่องนี้และกำลังวางแผนที่จะกลับไปสู่ขอบเขตของการรวมศูนย์

จากการที่ ConsenSys — ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เฉพาะทางของ Ethereum ยอดนิยม — ทำการผูก Infura RPC ของ MetaMask เข้ากับการรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งาน ทำให้ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่เราจะมองหา “ตัวเลือก” อื่นๆ ที่จะมาใช้งานแทน MetaMask กันซักที

สิ่งหนึ่งที่ต้องทราบไว้คือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ MetaMask ต้องพบกับปัญหาหลังจากเมินเฉยต่อหลักการกระจายอำนาจ นี่คือตัวอย่างบางส่วน:

การระงับการใช้งานที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น

ในเดือนมีนาคม 2022 ผู้ใช้งาน MetaMask ชาวเวเนซุเอลาแจ้งเรื่องว่า MetaMask ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาของเรื่องเซิร์ฟเวอร์ แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประเทศในขณะนั้น

การพึ่งพา Infura มากเกินไปของ MetaMask เป็นสาเหตุที่ทำให้มันไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ ConsenSys ต้องเผชิญหน้ากับการตรวจสอบหลังจากที่มีการโอนย้ายการควบคุมระหว่าง Infura และ MetaMask

MetaMask บล็อกการเข้าถึงของผู้ใช้งานข้ามเขตอำนาจรัฐ โดยอ้างถึงปัญหาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด และนั่นอาจจะเป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าจรรยาบรรณของพวกเขากำลังสั่นคลอน

นี่คือ Larry Cermak – รองประธานของ The Block – ที่เชื่อมโยงเหตุการณ์นี้ถึงความเป็นไปในได้ในการบล็อก IP Address ต่างๆ ในวงกว้างมากขึ้น

การรวบรวมข้อมูลที่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

หาก MetaMask มีการใช้งานผ่าน Infura — ซึ่งเป็น API Tool พิเศษ — จะรวบรวมและจัดเก็บ Wallet และ IP Address ของคุณ ลองมาพิจารณาเรื่องนี้ดูกันดีกว่า

MetaMask, RPC และ Blockchain: พวกมันทำงานอย่างไร

MetaMask ก็เหมือนกับเครื่องมืออื่นๆ ที่ต้องการ RPC Node เพื่อโต้ตอบกับบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อที่จะอ่านข้อมูล (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ RPC หรือ Remote Procedure Call) พูดง่ายๆ ก็คือ RPC จะช่วยให้สร้าง DApps — แอปและการเชื่อมต่อกับบล็อกเชน — ได้ดียิ่งขึ้น

MetaMask มี UI ซึ่งเป็นส่วนที่เราจะสามารถเห็นได้เมื่อโหลดแอปมาใช้งาน อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมที่เราทำบน MetaMask จะต้องข้องแวะกับ Blockchain เพราะว่าคุณไม่สามารถย้าย ETH หรือ NFT ออกไปได้เฉยๆ RPC ต่างๆ จะช่วยให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อ MetaMask กับ Blockchain ได้ ดังนั้น เมื่อมี RPC Node เข้ามาช่วย คุณก็ไม่จำเป็นต้องเป็น Full Node เพื่อที่จะโต้ตอบกับ Blockchain

Infura เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม/เครื่องมือที่ทำงานเป็นโหนดหรือผู้ให้บริการ RPC เมื่อคุณใช้งาน MetaMask ConsenSys ย้ำว่าหากคุณต้องการใช้ Infura คุณจะต้องยอมรับข้อตกลงในการรวบรวมข้อมูลประจำตัวต่างๆ ดังนั้น คุณเหลือตัวเลือกอยู่ 2 ทาง:

วิธีที่ 1: คุณสามารถเชื่อมต่อ RPC กับ Ethereum ด้วยตนเองได้ โดยเพิ่มเครือข่ายแบบกำหนดเองที่ไม่ใช่ของ Infura

วิธีที่ 2: ใช้ตัวเลือกอื่นๆ แทน MetaMask!

“ตัวเลือก” ที่ดีที่สุดที่จะมาแทนที่ MetaMask

ปัจจุบัน Infura ก็แค่เพียงเปิดดูธุรกรรมใน MetaMask ของคุณเพื่อตรวจสอบข้อมูล อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครรู้ว่าส่วนอื่นๆ ของ MetaMask จะได้รับผลกระทบในอนาคตหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คุณสามารถใช้ RPC ที่เกี่ยวข้องกับ Ethereum Devs อื่นๆ เช่น Tatum, Moralis และ Alchemy ได้ แต่พวกเขาต่างก็มีนโยบายการเก็บรวบรวมข้อมูลของพวกเขาเองเช่นกัน

ดังนั้น มันคงจะดีกว่าหากคุณมองหาตัวเลือกใหม่ๆ แทนที่ MetaMask เพื่อใช้ในการใช้ดูแลสินทรัพย์ของคุณ:

1. Coinbase Wallet

Coinbase Wallet: Coinbase.com

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

Coinbase Wallet เป็นกระเป๋าเงินคริปโตเรือธงของกระดานเทรดยอดนิยมอย่าง Coinbase สิ่งที่แตกต่างจากกระเป๋าเงินยอดนิยมของแอป Coinbase; Coinbase Wallet นั้นเป็นแบบ Self-Custody ซึ่งหมายความว่าคุณเป็นผู้ที่จัดการและดูแล Private Keys ของคุณด้วยตัวคุณเอง

ฟีเจอร์เด่น

กระเป๋าเงินนี้ยังสามารถทำงานเป็นส่วนขยายเว็บเบราเซอร์ได้ ซึ่งช่วยให้มันสามารถเชื่อต่อกับ DApps และ DEX จำนวนมากได้ การเปลี่ยนจากการใช้งาน MetaMask มาเป็น Coinbase Wallet นั้นราบรื่นมาก มันช่วยให้ผู้ใช้งานจำนวนมากได้รับประสบการณ์ Web3 ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวสูง

ข้อดี

  • ผู้ใช้งานของ Coinbase จะได้รับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นเมื่อใช้งาน Coinbase Wallet
  • รองรับผู้ให้บริการชำระเงินแบบ 3rd-Party
  • Coinbase Wallet ช่วยให้คุณสร้างกระเป๋าเงินย่อยได้สูงสุด 15 ใบ โดยเชื่อมโยงกับ Recovery Phrase หนึ่งชุดในกระเป๋าเงิน Ethereum และ Solana ของคุณ
  • รองรับ Ethereum และเครือข่ายที่รองรับ EVM ทั้งหมด

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับ BCH, ETC, XLM หรือ XRP อีกต่อไป
  • รองรับ Hardware Wallet เฉพาะ Ledger เท่านั้น

2. OKX Wallet

OKX Wallet: Okx.com

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

เหมือนกับชื่อของมัน OKX กระดานเทรดคริปโตชื่อดังคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง OKX Wallet

ฟีเจอร์เด่น

คุณสามารถใช้ OKX Wallet เพื่อซื้อและขาย NFT ในตลาดซื้อขายใดๆ ก็ได้ ไม่ใช่แค่ OKX เท่านั้น และคุณยังสามารถโต้ตอบกับ DApps ของโลกคริปโต (หรือที่เรียกกันว่า Web3) ได้อีกด้วย มันทำงานผ่านส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome

ข้อดี

  • รองรับ Multi-Sig (กำหนดให้มีการใช้คีย์อย่างน้อย 2 คีย์ขึ้นไปจึงจะสามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้)
  • รองรับ Cold Storage (การจัดเก็บสินทรัพย์แบบออฟไลน์
  • รองรับมากกว่า 40+ เครือข่าย

ข้อเสีย

  • ยังถือว่าใหม่ในตลาดเมื่อเทียบกับกระเป๋าเงินอื่นๆ
  • ไม่ใช่โอเพ่นซอร์ส (อาจจะมีความโปร่งใสและความปลอดภัยไม่เทียบเท่ากระเป๋าเงินที่เป็นโอเพ่นซอร์สแบบเต็มรูปแบบ)

3. Rabby

หากพูดถึง Browser-based Wallets (กระเป๋าเงินเว็บเบราว์เซอร์) สำหรับ Ethereum เราต้องพูดถึง Rabby — DeFi Wallet ที่เป็นที่ต้องการและทำงานในฐานะส่วนขยายของเว็บเบราเซอร์

ข้อดีที่สุดของกระเป๋าเงิน Rabby ก็คือมันรองรับเชน EVM — ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่ทำงานได้กับ Ethereum Virtual Machine และ DApps ที่เกี่ยวข้อง — ทั้งหมด และนี้คือรายชื่อของบล็อกเชนที่ Rabby ผสานรวมด้วย:

ที่มา: Rabby.io

ด้วยเชน EVM ที่รองรับมากมาย Rabby ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล DeFi ส่วนใหญ่ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ มันยังเป็นกระเป๋าเงินเว็บเบราว์เซอร์แบบโอเพ่นซอร์สที่อนุญาตให้ปรับแต่งโค้ดได้เมื่อจำเป็น ด้วยเหตุนี้ คุณสามารถเล่นกับโค้ดของ Rabby เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยได้ตามความต้องการ อีกทั้ง มันยังรองรับเชนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ EVM บางตัวอีกด้วย

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

Rabby Wallet เป็นผลงานของทีมงาน DeBank ซึ่ง DeBank คือแดชบอร์ดการติดตาม DeFi ที่ช่วยในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง

ฟีเจอร์เด่น

  1. ส่งมอบประสบการณ์ Multi-Chain ที่ราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  2. มาพร้อมกับคุณสมบัติการสแกนความเสี่ยงก่อนการทำธุรกรรม
  3. แสดงการเปลี่ยนแปลงของยอดเงินที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนที่คุณจะลงนามในการทำธุรกรรมใหม่ๆ
  4. มีความยืดหยุ่นต่อข้อบกพร่องต่างๆ ในการเชื่อมต่อและรองรับการเชื่อมต่อใหม่
  5. อนุญาตให้คุณเพิ่ม Wallet Address เป็นผู้ติดต่อซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ Whitelist ได้
  6. รองรับการเซ็นชื่อผ่านกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์, มือถือ, และสถาบัน

ข้อดี

  • มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
  • รองรับมากสุดถึง 39 เชน
  • มีคุณสมบัติการจัดการ Private Key ของคุณเหมือนกับ MetaMask
  • ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยไม่ขึ้นอยู่กับ Backend APIs
  • ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่ยึดมั่นในเรื่องการกระจายอำนาจ
  • ไม่มีพารามิเตอร์การติดตามใด
  • การอัปโหลดเนื้อหาและข้อมูลขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน
  • เป็นโอเพ่นซอร์ส
  • รองรับวิดเจ็ตในกระเป๋าเงิน
  • การตั้งค่า Seed Phrase มีความละเอียด

ข้อเสีย

  • ไม่มีตัวเลือกในการกู้คืนบัญชีที่สูญหาย
  • มี UI ที่ชวนให้สับสน

4. XDEFI

MetaMask

XDEFI เป็น Browser-based Wallet แบบ Cross-Chain ซึ่งมาพร้อมกับระบบ Native Support สำหรับเครือข่าย EVM เช่น Polygon และ BSC, THORChain, Solana, Ethereum และอื่นๆ อีกมากมาย กระเป๋าเงิน Multi-Chain นี้ช่วยให้คุณสามารถส่ง, สวอป, หรือแม้แต่จัดเก็บสินทรัพย์ Crypto และ NFT จากทั้ง 16 เชนได้

XDEFI ยังเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงิน NFT ชั้นนำสำหรับจัดเก็บงานศิลปะดิจิทัลและของสะสมได้ XDEFI รองรับการสวอปสินทรัพย์ Crypto มากกว่า 10,500 รายการ ซึ่งมากกว่า Binance อย่างน้อย 25 เท่า

และหากคุณกำลังมองหาตัวเลือกอื่นๆ เพื่อใช้งานแทน MetaMask XDEFI จะเป็นคู่แข่งคนสำคัญที่สามารถทำงานร่วมกับ DApps ทั้งหมดที่ MetaMask รองรับได้

นี่คือ Erik Voorhes ผู้ก่อตั้ง ShapeShift ที่แสดงความรักที่เขามีต่อกระเป๋าเงิน XDEFI:

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

ตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า MetaMask นี้มีฐานอยู่ในลอนดอนและเป็นผลงานของ Emile Dubie และ David Phan

นี่คือโปรไฟล์ Twitter ของกระเป๋าเงิน XDEFI ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลและการอัพเกรดใหม่ๆ ที่อาจจะมีขึ้นได้:

ฟีเจอร์เด่น

  1. มีความสามารถในการส่ง NFT ผ่านทั้ง 7 เชนและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  2. มีแดชบอร์ด DApp ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย
  3. มาพร้อมกับตัวเลือกฟิลเตอร์กรองข้อมูลที่หลากหลาย
  4. แสดงยอดเงินรวม
  5. มีเป้าหมายที่จะขยายขอบเขตเชนที่รองรับเพิ่มขึ้นเป็น 20+เชนในเร็วๆ นี้

ข้อดี

  • UI/UX แบบโต้ตอบได้
  • มีเชนที่สามารถทำงานร่วมกันได้มากมาย
  • มีการลงทุนอย่างมากในฐานะ NFT Gallery
  • ทีมงานบนดิสคอร์ดมีการตอบสนองอย่างต่อเนื่อง
  • สามารถสวอป Crypto ในกระเป๋าเงินได้

ข้อเสีย

  • ยังไม่ใช่โอเพ่นซอร์สในขณะนี้
  • หากมีการสนับสนุนเชนมากยิ่งขึ้นจะดีกว่านี้

5. Rainbow Wallet

MetaMask

หากคุณกำลังมองหา Crypto Wallet ที่ใช้งานเฉพาะกับ Ethereum ที่มีความเรียบง่ายและสวยงาม Rainbow เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ ส่วนที่ดีที่สุดงั้นหรือ? Rainbow นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ เนื่องจากมันมี UI ที่ราบรื่นสำหรับการสวอป Crypto ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นตัวเลือกในการใช้งานแทน MetaMask สำหรับมือถือในระบบ Android และ iOS เนื่องจากมีแอปที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้อย่างง่ายดาย

สุดท้ายนี้ มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้งานแทน MetaMask สำหรับมือใหม่จากการที่มันรองรับ DApp และ NFT เช่นกัน

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

Christian Baroni, Mike Demarais และ Jin Chung ก่อตั้ง Rainbow Wallet ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีในนิวยอร์กในปี 2019

นี่คือบัญชี Twitter ของพวกเขาที่คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ และพวกเขายังมีการประกาศเรื่องการเป็นส่วนขยายบนเว็บเบราว์เซอร์อีกด้วย:

ฟีเจอร์เด่น

  1. รองรับโทเค็น ERC-20 และ ERC-721 ทั้งหมด
  2. รองรับการค้นหาผู้ใช้งานผ่านโดเมน ENS
  3. มาพร้อมกับการผสานรวม UniSwap เพื่อการสวอปที่เรียบง่ายและช่วยให้กลายเป็นสภาพคล่อง

ข้อดี

  • เป็นตัวเลือกในการใช้งานแทน MetaMask ที่เชื่อถือได้สำหรับ iOS และ Android
  • คะแนนความน่าเชื่อถือสูง
  • มาพร้อมการรองรับ DeFi และ DApp

ข้อเสีย

  • ฟังก์ชั่นส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์ยังไม่สามารถใช้งานได้
  • รองรับเชน Ethereum เท่านั้น

6. Brave

หากคุณต้องการเว็บเบราว์เซอร์รุ่นใหม่ที่มีการลงทุนเป็นอย่างมากในเรื่อง Crypto Wallet คุณก็ต้องเลือกใช้งาน Brave! ในขณะที่กระเป๋าเงิน MetaMask ทำงานเป็นส่วนขยาย แต่ Brave นั้นเป็นกระเป๋าเงินแบบ Built-in ในเบราว์เซอร์เลย

Brave ทำงานร่วมกับเชน EVM ได้ทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึง Ethereum และโทเค็น ERC-20 และยังรองรับเชน Solana อีกด้วย เมื่อใช้งาน Brave คุณจะสามารถโต้ตอบโดยตรงกับระบบนิเวศของ Web3 ได้ และสุดท้าย มันยังใช้งานได้กับ MPL (Mozilla Public License) ได้อีกด้วย

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

Brendan Eich ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ BAT (Basic Attention Token) คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังซอฟต์แวร์ Brave: ทั้งเว็บเบราว์เซอร์และกระเป๋าเงิน ในขณะที่ Eich เป็น CEO ปัจจุบัน Brian Bondy ผู้ร่วมก่อตั้งนั้นเป็น CTO ของซอฟต์แวร์ Brave

นี่คือบัญชี Twitter ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 230,000 คน:

ฟีเจอร์เด่น

  1. มีความสามารถในการเปลี่ยนค่าตั้งต้นผู้ให้บริการ RPC ภายในเบราว์เซอร์
  2. โฟกัสไปที่การป้องกันการรวบรวมข้อมูล
  3. เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial
  4. รองรับการสวอป Crypto ในกระเป๋าเงิน
  5. รองรับการอิมพอร์ตข้อมูลจาก MetaMask

ข้อดี

  • เป็นกระเป๋าเงินที่รองรับ EVM
  • สนับสนุนการป้องกันการโจรกรรมและการป้องกันฟิชชิ่งแบบ Built-in
  • สามารถจัดเก็บ NFT ที่ทำงานร่วมกับ ERC ได้
  • รองรับการอิมพอร์ตข้อมูลไปยัง Hardware Wallets เช่น Ledger และ Trezor

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถเก็บ BTC ได้
  • ไม่ใช่กระเป๋าเงินที่รองรับ DApp ที่ดีที่สุด
  • ไม่รองรับการกู้คืนบัญชีที่สูญหาย

7. Frame

นี่คือกระเป๋าเงิน Ethereum ที่ค่อนข้างเรียบง่ายและกะทัดรัดซึ่งมีให้ใช้งานในรูปแบบของแอปพลิเคชั่นเดสก์ท็อป ข้อดีของมันคือ มันสามารถเชื่อมต่อกับ DApps ส่วนใหญ่ได้อย่างราบรื่น — พร้อมทั้งรองรับโทเค็น, บัญชี, และการสวอปทั้งหมด

Frame Wallet นั้นทำงานร่วมกับเชน EVM ได้ และขยายขอบเขตการรองรับไปยังเกือบทุกเชนที่ส่วนขยายของ MetaMask ทำงานร่วมได้ มันไม่ใช่ส่วนเสริมแต่เป็นกระเป๋าเงินเดสก์ท็อปแบบมาตรฐานที่มีแอปพลิเคชั่นที่หลากหลายสำหรับ Windows, Linux และ macOS

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

Frame มีบริษัทที่ตั้งอยู่ในอเมริกาเหนือ และหากคุณดูที่หน้า Gitcoin คุณจะสังเกตเห็นว่า Jordan Muir เป็นผู้สร้างมันขึ้นมา พวกเขามีชาแนลดิสคอร์ดที่ตอบกลับอยู่เสมอ เพื่อช่วยเหลือคุณจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะที่ใช้งานกระเป๋าเงิน

นี่คือโปรไฟล์ Twitter ของ frame.eth:

ฟีเจอร์เด่น

  1. รองรับการเซ็นชื่อด้วย Hardware Wallets
  2. ทำงานได้ดีกับ DApp ส่วนใหญ่
  3. ทำงานร่วมกันแบบข้ามเชนได้อย่างราบรื่น

ข้อดี

  • สามารถทำงานเป็นแอปที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์หรือเป็นส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์สำหรับ Firefox และ Chrome ได้
  • รองรับ NFT
  • เป็นโอเพ่นซอร์สพร้อมบัญชี GitHub ที่แอคทีฟอยู่เสมอ

ข้อเสีย

  • ผู้ใช้งานน่าจะต้องการเห็นการสนับสนุนที่ขยายขอบเขตไปยังเชนอื่นๆ เพิ่มเติม
  • แสดงข้อความ Error บ่อยครั้งในระหว่างการตั้งค่า

8. MathWallet

สำหรับตัวเลือกการใช้งานแทน MetaMask ที่ดีที่สุดสำหรับการจัดเก็บสินทรัพย์ Crypto อย่างปลอดภัย เราขอแนะนำ MathWallet มันน่าจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า MetaMask เนื่องจากมีระบบ 2FA (การยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย) ที่สามารถตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ Math ยังทำงานร่วมกับเว็บเบราว์เซอร์ชั้นนำอย่าง Edge, Chrome หรือแม้แต่ Brave ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่มีกระเป๋าเงิน Built-in ได้ MathWallet ขยายการรองรับเชน EVM ยอดนิยม เช่น MoonBeam, Optimism และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ยังเข้ากันได้กับเลเยอร์อื่นๆ เช่น Kusama, Polkadot และอื่นๆ อีกมากมายเช่นกัน

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

MathWallet เปิดตัวในปี 2017 บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง Math มีฐานอยู่ในสิงคโปร์และก่อตั้งโดย Eric Yu ลองเข้าไปดูหน้าบัญชี Twitter ที่เป็นที่นิยมอย่างมากของ MathWallet ได้เลย:

ฟีเจอร์เด่น

  1. ปัจจุบันรองรับมากกว่า 142 เชน
  2. ปัจจุบัน มีให้ดาวน์โหลดเป็นแอปของ Android และ iOS อีกด้วย
  3. ทำงานร่วมกับ Hardware Wallets อย่าง Ledger และ WOOKONG ได้
  4. มี DApp Store ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ข้อดี

  • ใช้งานได้ง่าย
  • มอบผลประโยชน์ทบต้นให้สำหรับการจัดเก็บและการ Staking Crypto
  • มาพร้อมโทเค็นสำหรับการแลกรางวัลแบบข้ามแพลตฟอร์ม

ข้อเสีย

  • การรองรับ DApp สามารถปรับปรุงเพิ่มได้
  • ไม่รองรับการกู้คืนบัญชีที่สูญหาย

9. GameStop Wallet

MetaMask

นี่คือตัวเลือกที่สามารถใช้งานแทน MetaMask ในระบบมือถือที่น่าเชื่อถือ หากคุณกำลังมองหาแอป iPhone ที่สามารถทำงานเป็นส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์ได้ด้วย GameStop เป็นร้านค้าปลีกวิดีโอเกมรายใหญ่ระดับโลก ไม่แปลกใจเลยที่กระเป๋าเงินของพวกเขาจะช่วยให้คุณเก็บ Crypto และ NFT ได้อย่างง่ายดาย

GameStop รองรับ Ethereum หรือแม้แต่ Loopring ทำให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ขยายขอบเขตการรองรับไปยังเชนที่ขับเคลื่อนด้วย ZK-Rollup

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

กระเป๋าเงินนี้ส่งตรงมาจากสำนักงานใหญ่ของ GameStop ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยมี Leonard Riggio, Richard Fontaine และ Daniel Dematteo เป็นผู้ก่อตั้ง

ฟีเจอร์เด่น

  1. สามารถสวอป Crypto ในกระเป๋าเงินได้
  2. รองรับการเซ็นชื่อผ่าน Hardware Wallets
  3. ให้การควบคุมสินทรัพย์ Crypto อย่างเต็มรูปแบบ

ข้อดี

  • เป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวเลือกที่ให้การสนับสนุนเลเยอร์ 2 ผ่าน Loopring
  • คำอธิบาย Recovery Phrase มีความชัดเจนและมีรายละเอียดอย่างดีเยี่ยม

ข้อเสีย

  • รองรับเฉพาะเบราว์เซอร์ Chrome เท่านั้น
  • รองรับเพียง 2 บล็อกเชนในขณะนี้

10. NekoMask

ต่างจากกระเป๋าเงินแบบมาตรฐานทั่วไปที่จัดเก็บและอนุญาตให้คุณสวอปได้เท่านั้น ตัวเลือกที่สามารถใช้งานแทน MetaMask ได้ตัวนี้จะช่วยให้คุณได้รับรางวัลเป็น ETH

ข้อดีที่สุดก็คือค่าธรรมเนียมสวอป Crypto ของกระเป๋าเงินนี้จะถูกส่งกลับในรูปแบบของรางวัล ETH แต่ก็เฉพาะกับผู้ที่ทำการ Stake โทเค็น NEKO เท่านั้น นอกจากนี้ NekoMask ยังรองรับการแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินมากมายหากคุณต้องการแลกมันด้วยสกุลเงิน Fiat ต่างๆ อีกทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 2FA อีกด้วย

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

NekoMask เป็นผลงานของ The Neko LCC ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ บัญชี Twitter อย่างเป็นทางการของพวกเขา – The Neko – กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

ฟีเจอร์เด่น

  1. มีคุณสมบัติการใช้งานที่หลากหลายรวมถึงการซ่อนกระเป๋าเงิน
  2. มีเรียลไทม์ชาร์ตสำหรับการติดตามราคาสินทรัพย์
  3. มาพร้อมกับธีมสีต่างๆ

ข้อดี

  • มาพร้อมกับการรองรับ Fiat On-Ramp (แปลงสกุลเงิน Fiat เป็น Crypto)
  • ควบคุมค่าแก๊สได้
  • มี UI ที่ดูสร้างสรรค์

ข้อเสีย

  • ยังคงเป็น Hot Wallet
  • ใช้งานได้กับ Chrome เท่านั้น

11. Enkrypt จาก MyEtherWallet

MetaMask

กระเป๋าเงินจาก MyEtherWallet — Ethereum Wallet นี้เป็นทั้งโอเพ่นซอร์สและใช้งานได้ฟรี หากคุณเคยใช้ MEW (MyEtherWallet) คุณจะหลงรัก Enkrypt มันเป็นเวอร์ชั่น Multi-Chain ของ MEW ซึ่งรองรับเชนที่หลากหลาย เช่น Ethereum, Polkadot และอื่นๆ อีกมากมาย

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

Kosala Hemachandra คือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง MEW และ Enkrypt เขาเป็นแกนนำในการวิพากษ์วิจารณ์ความล้มเหลวของ MetaMask และกล่าวย้ำเป็นการส่วนตัวว่าผลิตภัณฑ์ของ MEW จะไม่รวบรวมหรือขายข้อมูลของผู้ใช้งานเด็ดขาด

ฟีเจอร์เด่น

  1. ทำงานเป็นส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ใช้งานได้ง่าย
  2. อนุญาตให้เข้าถึง Private Key ที่สำคัญและ Hardware Wallets ได้
  3. มาพร้อมกับการสนับสนุนมากมายสำหรับ NFTs และ DApps

ข้อดี

  • ให้คุณซื้อ/รับ/ส่ง Crypto ได้ด้วยคลิกเดียว
  • รองรับการสวอป Crypto ในกระเป๋าเงิน
  • รองรับแพลตฟอร์มเลเยอร์ 2 ที่เข้ากันได้กับ EVM เช่น Polygon และ BSC
  • สามารถทำงานร่วมกับ Hardware Wallet อย่าง Ledger และ Trezor ได้

ข้อเสีย

  • ยังไม่พร้อมใช้งานในรูปแบบแอปมือถือ

12. Phantom

อย่าพึ่งโมโหที่เห็นกระเป๋าเงิน Solana ในลิสต์นี้ Phantom — หนึ่งในกระเป๋าเงิน Solana ที่ได้รับความนิยมมาก พึ่งจะประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่าจะขยายขอบเขตของบริการไปยังระบบนิเวศ Polygon และ Ethereum

นี่คือทวีตอย่างเป็นทางการ:

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

Chris Kalani, Francesco Agosti และ Brandon Millman คือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง Phantom Wallet มันถูกสร้างขึ้นในปี 2021 โดยโฟกัสไปที่ NFT และระบบนิเวศ DeFi — ซึ่งเริ่มต้นด้วยระบบนิเวศของ Solana

และตอนนี้ ด้วยการรุกเข้าสู่ระบบนิเวศของ Polygon และ Ethereum Phantom มีเป้าหมายที่จะเป็นตัวเลือกที่สามารถใช้งานแทน MetaMask ได้อย่างคู่ควร

ฟีเจอร์เด่น

  1. รองรับการสวอป NFT และโทเค็นระหว่างระบบนิเวศต่างๆ
  2. มาพร้อมกับความสามารถในการช่วยให้ผู้ใช้งานดูการถือครอง/โทเค็นทั้งหมดได้ในหน้าต่างเดียว

ข้อดี

  • วิสัยทัศน์แบบ Multi-Chain
  • เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
  • ฐานผู้ใช้งานจำนวนมากเกือบ 3 ล้านคน
  • รุ่นเบต้าของกระเป๋าเงินนี้เปิดตัวแล้ว

ข้อเสีย

  • ค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาด

13. Zerion

MetaMask

นี่คือกระเป๋าเงินอีกใบที่วางแผนจะล้มแชมป์อย่าง MetaMask โดยการเป็นส่วนขยายเว็บ ณ ตอนนี้ ส่วนขยายดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่เวอร์ชั่นเบต้านั้นเปิดให้ใช้งานแล้ว — เหมือนกับ Phantom

ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?

กระเป๋าเงินเฉพาะ Web 3.0 นี้ย้อนกลับไปในปี 2016 มันเป็นผลผลิตของ Vadim Koleoshkin, Evgeny Yurtaev และ Alexey Bashlykov ณ ตอนนี้ Zerion มีเงิน 20 ล้านดอลลาร์เป็นเงินทุน

ฟีเจอร์เด่น

  1. อินเทอร์เฟซแบบ Single View
  2. รองรับ NFT
  3. การสลับ Blockchain โดยอัตโนมัติระหว่างการทำธุรกรรม
  4. มาพร้อมกับแอปมือถือ

ข้อดี

  • เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial
  • ใช้งานได้กับ Hardware Wallets มากมาย
  • รองรับกว่า 60+ โปรโตคอล

ข้อเสีย

  • อาจจะดูซับซ้อนเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้งานใหม่

รายชื่อกิตติมศักดิ์

ถึงแม้ว่าคุณสามารถเลือกใช้งานตัวเลือกแทนที่ MetaMask เหล่านี้ได้ แต่มันก็ยังมีตัวเลือกเพิ่มเติมอีกสองสามตัวที่คุณอาจจะต้องการนำไปพิจารณา หากคุณเต็มใจที่จะเพิกเฉยต่อการไม่มีโค้ดโอเพ่นซอร์สหรือการมีอยู่ของกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ที่เข้ามาจัดการกระเป๋าเงิน:

  • Trust Wallet: กระเป๋าเงินที่สนับสนุนโดย Binance พร้อมรองรับ 33+ Blockchains
  • Binance Wallet: นี่คือกระเป๋าเงินที่ขับเคลื่อนโดย Binance ซึ่งนำเสนอ Multi-Signage, วิธีการกู้คืนที่เชื่อถือได้ และ PIN ที่สามารถกำหนดเองได้
  • Spot: กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial สำหรับ Solana, Tezos, Ethereum, Bitcoin และ NFT
  • Liquality Wallet: ส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่รองรับการสวอปด้วยสัมผัสเพียงครั้งเดียว

ตารางเปรียบเทียบ

หากคุณมีเวลาไม่มาก นี่คือตารางเปรียบเทียบ “ตัวเลือก” ต่างๆ ที่คุณสามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว:

กระเป๋าเงิน

มาตรฐานการเก็บข้อมูล

เชนที่รองรับ

การตรวจสอบความเสี่ยง

โอเพ่นซอร์ส

รองรับ NFT

ประเภท

MetaMask

บางส่วน

10+

ไม่

ใช่

ใช่

เว็บเบราเซอร์/แอป

Coinbase Wallet

เก็บข้อมูล

ทำงานได้กับเชน EVM

ไม่

ไม่

ใช่

ส่วนขยายเว็บเบราเซอร์

OKX Wallet

N/A

40+

ใช่

ไม่

ใช่

ส่วนขยายเว็บเบราเซอร์

Rabby

ไม่เก็บข้อมูล

39+

ใช่

ใช่

ใช่

ส่วนขยายเว็บเบราเซอร์

XDEFI

ไม่เก็บข้อมูล

16+

ไม่

ไม่

ใช่

แอปมือถือ

Rainbow Wallet

ไม่เก็บข้อมูล

1

ไม่

ใช่

ใช่

แอปมือถือ

Brave

ไม่เก็บข้อมูล

7+

ไม่

ใช่

เฉพาะที่ทำงานได้กับ ERC เท่านั้น

เว็บเบราเซอร์

Frame

ไม่เก็บข้อมูล

9+

ไม่

ใช่

ใช่

แอป/ส่วนขยายเว็บเบราเซอร์

MathWallet

ไม่เก็บข้อมูล

142+

ไม่

ใช่

ใช่

แอปมือถือ

GameStop Wallet

ไม่เก็บข้อมูล

2+

ไม่

ไม่

ใช่

เฉพาะ Chrome เท่านั้น

NekoMask

ไม่เก็บข้อมูล

5+

ไม่

ไม่

ใช่

เฉพาะ Chrome เท่านั้น

Enkrypt

ไม่เก็บข้อมูล

10+

ไม่

ใช่

ใช่

ส่วนขยายเว็บเบราเซอร์

“ตัวเลือก” ที่ใช้งานแทน MetaMask นำเสนอทางเลือกที่ยอดเยี่ยม

แม้ว่าตัวเลือกบางส่วนในบทความนี้จะเป็นเพียงแอปมาตรฐานเหมือนกับ MetaMask แต่บางตัวก็เป็นแอปพลิเคชั่นเดสก์ท็อปที่มี UI ที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลใดๆ ที่ได้กล่าวถึงในบทความ เราก็หวังว่ามันจะช่วยให้คุณจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณได้อย่างปลอดภัย

หากคุณยังคงชื่นชอบ MetaMask จากความนิยมและความสามารถในการใช้งาน เราขอแนะนำให้คุณลองใช้งานหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถใช้งานแทน MetaMask ได้เหล่านี้ มันเป็นวิธีที่ดีที่จะทำความเข้าใจกับการที่แต่ละตัวเลือกจัดการกับสินทรัพย์ Crypto ของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

MetaMask ใช้งานได้ฟรีหรือไม่?

คุณสามารถทำการสวอปบน MetaMask ได้หรือไม่?

ใครเป็นเจ้าของ MetaMask?

มีกระเป๋าเงินอื่นๆ นอกเหนือจาก MetaMask หรือไม่?

MetaMask เป็นกระเป๋าเงินที่ดีที่สุดหรือไม่?

Binance หรือ MetaMask ดีกว่ากัน?

MetaMask หรือ Trust Wallet อะไรดีกว่ากัน?

ใครคือคู่แข่งของ MetaMask?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน