ดูเพิ่มเติม

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ “การเทรด Crypto Options”

18 mins
โดย Ryan Glenn
แปลแล้ว Akradet Mornthong

หากคุณเป็นมือใหม่ในโลกทางการเงินแล้วล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกสับสนหรือหวาดกลัวเมื่อพูดถึงเรื่อง “การเทรด Crypto Options” แต่ข่าวดีก็คือการเทรด Crypto Options เข้าใจได้ง่ายกว่าที่คุณคิดแน่นอน!

สิ่งแรกที่ต้องคุณต้องรู้ก็คือกิจกรรมหลายๆ อย่างในโลก DeFi เป็นดั่งกระจกสะท้อนของวิธีการทางการเงินแบบดั้งเดิม ดังนั้น หากคุณเข้าใจในเรื่องการเทรดออปชั่น (Options) คุณก็จะเข้าใจในเรื่องการเทรดคริปโตออปชั่น (Crypto Options) เช่นกัน ในบทความนี้ เราจะมานำเสนอความรู้เบื้องต้นทั้งหมดเกี่ยวกับ “การเทรด Crypto Options”

BeInCrypto Trading Community บน Telegram: พูดคุยกันเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด รับชมคอร์สพื้นฐานการซื้อขายฟรี และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่คุณต้องการจากนักเทรดมืออาชีพ!

มาเข้าร่วมกันเลย!

การเทรด Options คืออะไร?

ก่อนอื่น เรามาเริ่มต้นกันที่เรื่องหลักทรัพย์กันก่อน ถึงแม้ว่าคำจำกัดความของ “หลักทรัพย์” มักจะถูกตีความอย่างกว้างๆ แต่โดยทั่วไปแล้ว “หลักทรัพย์” จะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่สามารถซื้อขายได้ ตัวอย่างของหลักทรัพย์ ได้แก่ หุ้น พันธบัตร หรือ กองทุนรวมดัชนี (ETF)

ต่อไปก็คือ “ตราสารอนุพันธ์” ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่มีราคา “ที่อ้างอิง” มาจากสินทรัพย์อ้างอิง โดยสินทรัพย์อ้างอิงนั้นอาจจะเป็นสินทรัพย์ตัวอื่นๆ เช่น หุ้น พันธบัตร หรือ สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น

หากคุณเคยดูภาพยนตร์เรื่อง “Inception” คุณอาจจะคุ้นเคยกับคอนเซปต์ของเรื่องความฝันในความฝัน ถ้าจะให้พูดก็คือ “ตราสารอนุพันธ์” นั้นก็เป็นเหมือนกับ “สินทรัพย์ของสินทรัพย์” ตัวอย่างของตราสารอนุพันธ์บางส่วนได้แก่ สวอป (Swaps), ฟิวเจอร์ส (Futures), และสิ่งที่เราจะมาเรียนรู้กันในวันนี้ ออปชั่น (Options)

ออปชั่น (Options) คือผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่ให้สิทธิ์แก่นักลงทุนในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ (เช่น หุ้น) ในราคาและวันที่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หากผู้ถือตัดสินใจที่จะไม่ซื้อหรือขายสินทรัพย์ ก็สามารถทำได้ (ไม่มีภาระผูกพัน) และสัญญาออปชั่นแต่ละสัญญาจะมีวันหมดอายุซึ่งผู้ถือจะต้องจัดการกับ “ตัวเลือก” (Options) ที่พวกเขาต้องการ

ในการซื้อสัญญาออปชั่น นักลงทุนจะต้องจ่าย “ค่าพรีเมี่ยม” โดยจะเป็นค่าสัญญาเพื่อที่จะสามารถเข้าทำการซื้อขายออปชั่นได้ เมื่อคุณจ่ายค่าพรีเมี่ยมแล้ว คุณจะได้รับสิทธิ์ในการซื้อหรือขายหุ้นตามจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ราคาใช้สิทธิ์ (Strike Price) คือราคาที่คุณสามารถใช้เพื่อซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงได้ สินทรัพย์อ้างอิงก็คือ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่ “ออปชั่น” อ้างอิงถึง

Call และ Put Options

ออปชั่น จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ คอล (Calls) และ พุต (Puts) เมื่อคุณซื้อ “คอล” ออปชั่น คุณมีสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ราคาใช้สิทธิ์) ภายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด (วันหมดอายุ) โดยไม่มีภาระผูกพันธ์ใดๆ ผู้ซื้อจะมีตัวเลือกที่จะสามารถซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวได้จนถึงวันหมดอายุ โดยคุณอาจจะอ้างอิงถึงผู้ขาย “คอล” ได้ว่าเป็นผู้ร่างสัญญา ซึ่งผู้ร่างสัญญาจะต้องขายหลักทรัพย์ในราคาใช้สิทธิ์จนกว่าจะถึงวันหมดอายุ

เมื่อคุณซื้อ “พุต” ออปชั่น คุณจะมีสิทธิ์ในการขายหลักทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ให้กับผู้ร่างสัญญา) จนกว่าออปชั่นจะหมดอายุ ผู้ซื้อพุตออปชั่นมีสิทธิ์ที่จะขายหลักทรัพย์ในราคาที่ตกลงกันจนกว่าช่วงเวลาของสัญญาจะหมดอายุ แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ภาระผูกพันที่จะต้องทำตาม (เลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ)

ตัวอย่าง

เราลองมาดูตัวอย่างกัน หากหุ้นมีการซื้อขายอยู่ที่ 40 ดอลลาร์ และคุณเชื่อว่าราคาจะขึ้นไปถึง 50 ดอลลาร์ คุณอาจจะซื้อ “คอลออปชั่น” 45 ดอลลาร์ (ราคาใช้สิทธิ์) ในราคา 0.20 ดอลลาร์ (ค่าพรีเมี่ยม) หากหุ้นดังกล่าวขึ้นไปถึง 50 ดอลลาร์ คุณจะซื้อมันได้ในราคา 45 ดอลลาร์ ถึงแม้ว่าหุ้นนั้นจะมีมูลค่า 50 ดอลลาร์ก็ตาม ซึ่งหมายความว่าคุณจะทำกำไรได้ 4.80 ดอลลาร์

ในทางกลับกัน ผู้ร่างสัญญาออปชั่นมีหน้าที่ที่จะต้องขายหุ้นให้กับคุณในราคา 45 ดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้เขาขาดทุนรวม 4.80 ดอลลาร์ หากราคาของหุ้นดังกล่าวขึ้นไปไม่ถึง 50 ดอลลาร์ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด (ก่อนสัญญาจะหมดอายุ) คอลออปชั่นดังกล่าวก็จะไร้ค่า ผู้ซื้อคอลออปชั่นก็จะเสียค่าพรีเมี่ยม 0.20 ดอลลาร์ และผู้ขาย (ผู้ร่างสัญญาขายคอลออปชั่น) ก็จะได้รับ 0.20 ดอลลาร์

อีกตัวอย่างหนึ่ง หุ้นซื้อขายอยู่ที่ราคา 60 ดอลลาร์ และคุณเชื่อว่าราคาของมันจะลดลงไปที่ 50 ดอลลาร์ คุณอาจจะเลือกซื้อ “พุตออปชั่น” 55 ดอลลาร์ได้ในราคา 0.20 ดอลลาร์ หากราคาลดลงมาถึง 50 ดอลลาร์ คุณสามารถขายหุ้นดังกล่าวในกับผู้ร่างสัญญาได้ในราคา 55 ดอลลาร์ ถึงแม้ว่ามันจะมีมูลค่าเพียง 50 ดอลลาร์ก็ตาม ซึ่งจะทำให้คุณได้กำไรสุทธิที่ 4.80 ดอลลาร์

ผู้เขียนสัญญามีหน้าที่ที่จะต้องซื้อหุ้นดังกล่าวจากคุณและจะขาดทุน 4.80 ดอลลาร์ พุตออปชั่นจะไม่มีค่าใดๆ หากราคาของหุ้นลดลงไปไม่ถึง 50 ดอลลาร์ก่อนจะถึงวันหมดอายุของสัญญา ผู้ซื้อพุตออปชั่นก็จะเสีย 0.20 ดอลลาร์ และผู้ขาย (ผู้ร่างสัญญาซื้อพุตออปชั่น) ก็จะได้รับ 0.20 ดอลลาร์

Call vs. Put Options

นักลงทุนที่ซื้อ “คอล” นั้นหวังว่าจะทำกำไรได้เมื่อราคาของหุ้นเพิ่มขึ้น พวกเขาคาดว่าราคาของหลักทรัพย์นั้นๆ จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถซื้อหุ้นดังกล่าวได้ในราคาที่ต่ำลง ในทางกลับกัน ผู้ร่างสัญญาหวังว่าราคาของหุ้นจะลดลงหรือคงที่ เพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องใช้สิทธิ์ในออปชั่นดังกล่าว

พุตออปชั่นจะช่วยให้นักลงทุนทำกำไรได้เมื่อราคาหุ้นตกลง ในกรณีนี้ พุตออปชั่นจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อราคาหุ้นตกลง ดังนั้น ในขณะที่นักลงทุนหวังว่าราคาของหุ้นจะลดลง ผู้ร่างสัญญาก็หวังว่าราคาของคุณจะเพิ่มขึ้นหรือคงที่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้สิทธิ์ในการซื้อขาย

เมื่อราคาใช้สิทธิ์ของ “คอลออปชั่น” น้อยกว่าราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง ออปชั่นจะอยู่ในสถานะ “อินเดอะมันนี่” (ITM) สำหรับ “พุตออปชั่น” ออปชั่นจะอยู่ในสถานะ ITM เมื่อราคาใช้สิทธิ์นั้นสูงกว่าราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง

“เอ้าท์ออฟเดอะมันนี่” หรือ OTM จะหมายถึงเมื่อราคาใช้สิทธิ์ของ “คอลออปชั่น” มากกว่ามูลค่าในปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง ในทางกลับกัน เมื่อราคาใช้สิทธิ์ของ “พุตออปชั่น” น้อยกว่ามูลค่าในปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง มันก็จะอยู่ในสถานะ OTM เช่นกัน และเมื่อราคาใช้สิทธิ์นั้นเท่ากับราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง มันจะถูกเรียกว่า “แอทเดอะมันนี่” (ATM)

Vanilla, Exotic, และ Binary Options

เดโม่ของการเทรด Bitcoin Binary Options: pocketoption.com

Vanilla Options (ออปชั่นพื้นฐาน) คือสัญญาที่จะนุญาตให้ผู้ถือซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาและช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ด้วยออปชั่นเหล่านี้ นักเทรดไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลาครบกำหนดเพื่อที่จะปิดสถานะ

Vanilla Options คือ คอล หรือ พุตออปชั่น ที่ไม่มีลักษณะพิเศษใดๆ มันเป็นสัญญาออปชั่นแบบมาตรฐานที่มีการซื้อขายอยู่บนกระดานเทรด ตัวอย่างเช่น Chicago Board Options Exchange

Vanilla Options เป็นสัญญาออปชั่นประเภททั่วไปที่ผู้เข้าร่วมตลาดรู้จักกันดี โดยจะมีอยู่ 2 สไตล์: สไตล์ยุโรปและอเมริกัน สำหรับสไตล์ยุโรป คุณสามารถใช้ออปชั่นได้เมื่อสัญญาหมดอายุ ในขณะที่สไตล์ของอเมริกัน คุณจะสามารถใช้ออปชั่นเมื่อไหร่ก็ได้ก่อนที่มันจะหมดอายุ

Exotic Options จะเป็นออปชั่นที่มีเงื่อนไขพิเศษ ตัวอย่างเช่น Barrier Options คือเมื่อถึงสินทรัพย์อยู่ในระดับราคาที่กำหนดจะทำให้ออปชั่นเริ่มขึ้นหรือปิดตัวลง Digital Options คือเมื่อสินทรัพย์อยู่เหนือหรือต่ำกว่าระดับราคาที่กำหนดจะต้องจ่ายให้กับผู้เป็นเจ้าของ ในขณะที่กำไรของ Asian Options จะถูกกำหนดโดยราคาซื้อขายโดยเฉลี่ยของตราสารอ้างอิงตลอดอายุของสัญญาออปชั่น

Binary Options เป็นสัญญาทางการเงินที่ขึ้นอยู่กับว่าออปชั่นจะหมดอายุด้วยสถานะ ITM หรือไม่ (ได้หรือไม่ได้อะไรเลย) หาก Binary Options หมดอายุด้วยสถานะ ITM นักเทรดก็จะได้กำไร หากไม่ พวกเขาก็จะขาดทุน ใน Binary Options จำนวนเงินที่เป็นกำไรและขาดทุนจะคงที่ และนักเทรดจะไม่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิงได้

คำเตือน

Binary Options นั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นการฉ้อโกง เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียใดๆ มันเป็นการดีที่จะจำกัดการเทรด Binary Options ของคุณไว้ที่ Designated Contract Markets (DCM)

การเทรด Crypto Options

การเทรดคริปโตออปชั่น (Crypto Options) คล้ายกับการเทรดออปชั่น (Options) แบบดั้งเดิมมาก “คริปโตออปชั่น” จะให้สิทธิ์แก่นักลงทุนในการซื้อหรือขายคริปโต (Cryptocurrency) ในราคาและวันที่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ถึงแม้ว่ามันจะทำงานคล้าย Options แบบดั้งเดิม แต่มันก็มีข้อได้เปรียบกว่าเป็นอย่างมาก

สินทรัพย์คริปโตนั้นมีความผันผวน ซึ่งทำให้ ณ จุดนี้ มันเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย ความผันผวนสูงนั้นหมายความว่ามันอาจจะนำไปสู่ผลตอบแทนที่มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การเทรดออปชั่นส่วนใหญ่ยังเป็นการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงจากคู่สัญญาและมักจะใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายที่สูง

แพลตฟอร์ม Crypto Options DeFi จะใช้สัญญาอัจฉริยะใน Decentralized Options Vaults (DOV) เพื่อขจัดความเสี่ยงของคู่สัญญา และยังช่วยให้สามารถเทรด Crypto Options ได้ทุกวันและตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

ฟังก์ชั่นหลักของ DOVs คือการใช้เงินทุนของนักลงทุนและดำเนินกลยุทธ์การซื้อขายออปชั่นแบบอัตโนมัติและกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์ ก่อนหน้าที่จะมี DOV นักลงทุนที่ได้รับการรับรองแล้วเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงการซื้อขาย Exotic Options ได้ผ่านการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ (OTC) หรือการดำเนินการด้วยตนเองบนกระดานเทรดออปชั่นอย่างเช่น Deribit

กลยุทธ์ “การเทรด Crypto Options”

คงไม่มีใครที่จะทำการลงทุนโดยที่ไม่วางแผนไว้ก่อน หากคุณต้องการเป็นนักเทรดออปชั่นที่ประสบความสำเร็จ คุณจะต้องมีกลยุทธ์ที่ช่วยในการเอาชนะตลาดซัก 2-3 กลยุทธ์เสียก่อน

Covered Call และ Covered Put (Married Put)

วิธีการเทรดออปชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดวิธีหนึ่งก็คือ Covered Call ซึ่งหมายถึงการที่คุณซื้อหรือถือสินทรัพย์อ้างอิง (คริปโต) ในขณะที่ร่างสัญญา “คอลออปชั่น” ของสินทรัพย์นั้นๆ หากคุณตั้งใจที่จะเก็บหรือถือคริปโตของคุณไว้เป็นระยะเวลานาน แต่ไม่คาดว่ามันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคตอันใกล้ ตัวเลือกนี้สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี

Covered Calls นั้นจะทำงานคล้ายๆ กับกลยุทธ์ในการ Yield Farming ตัวอย่างเช่น หากคุณมี XRP มูลค่า 1000 ดอลลาร์ และไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของราคาครั้งใหญ่ คุณอาจจะขายสัญญาคอลออปชั่นราคา 20 ดอลลาร์ โดยมีราคาใช้สิทธิ์ที่ 1100 ดอลลาร์ ในช่วงเวลา 3 เดือน

คอลออปชั่นของคุณจะไม่มีค่าใดๆ ต่อผู้ซื้อหากราคาของ XRP ขึ้นไปไม่ถึง 1099 ดอลลาร์ (เพราะเขาอาจจะซื้อ XRP ในจำนวนที่เท่ากันในตลาดเปิดด้วยราคาที่ต่ำกว่า) แต่หมายความว่าคุณจะได้กำไร 20 ดอลลาร์ ซึ่งเท่ากัยกว่าคุณได้ผลตอบแทน 8% ต่อปี ซึ่งหากคุณถือมันไว้เฉยๆ ก็ไม่มีผลตอบแทนใดๆ งอกเงยขึ้นมา

เมื่อคุณขาย Covered Calls Options ความตั้งใจของคุณคือปล่อยให้ออปชั่นนั้นหมดอายุแบบไร้ค่า ซึ่งจะช่วยให้คุณได้กำไรจากค่าพรีเมี่ยมของออปชั่นในขณะที่ยังคงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงดังกล่าวไว้ได้

Married Put (Covered Put)

Married Put คือสถานการณ์ตรงกันข้ามของ Covered Call แทนที่จะขาย “คอลออปชั่น” เพื่อทำกำไร คุณจะขาย “พุตออปชั่น” เพื่อทำกำไรแทน หากคุณขาย “พุตออปชั่น” คุณจะต้องซื้อสินทรัพย์จากผู้ซื้อออปชั่นที่ราคาใช้สิทธิ์ หากพวกเขาใช้สิทธิ์ออปชั่น

เมื่อนักเทรดคาดการณ์ว่ามูลค่าของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ์ก่อนที่คริปโตออปชั่นจะหมดอายุลง พวกเขาจะได้รับผลตอบแทนจากการขายพุตออปชั่นดังกล่าว โปรดจำไว้ว่า หากมูลค่าของสินทรัพย์อ้างอิงต่ำกว่าราคาใช้สิทธิเมื่อออปชั่นหมดอายุ ผู้ร่างสัญญาของ “พุตออปชั่น” จะขาดทุนจากการเทรดเป็นอย่างมาก

เช่นเดียวกับ Covered Call Option เมื่อคุณขาย Covered Put Option ความตั้งใจของคุณคือปล่อยให้ออปชั่นนั้นหมดอายุแบบไร้ค่า เพื่อให้นักเทรดได้กำไรจากค่าพรีเมี่ยมของออปชั่นในขณะที่ยังรักษาสินทรัพย์นั้นไว้

Bull Call Spread

เมื่อนักเทรดมีมุมมองในเชิงบวกต่อสินทรัพย์คริปโตอ้างอิง พวกเขาสามารถใช้กลยุทธ์ Bull Call Spread ได้ กลยุทธ์นี้คือการซื้อคอลออปชั่นที่ราคาใช้สิทธิ์ที่เฉพาะเจาะจง จากนั้น ขายคอลออปชั่นจำนวนเท่าเดิมในราคาใช้สิทธิ์ที่สูงขึ้น ในกลยุทธ์นี้ นักเทรดจะซื้อ 2 คอลออปชั่น สัญญาหนึ่งจะมีราคาใช้สิทธิ์ที่สูงกว่า และอีกสัญญาหนึ่งที่มีราคาใช้สิทธิ์ที่ต่ำกว่า การดำเนินจากจะเป็นไปดังต่อไปนี้:

  1. เลือกสินทรัพย์
  2. ซื้อ ”คอลออปชั่น” ด้วยราคาใช้สิทธิ์ที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน กำหนดวันหมดอายุ และจ่ายค่าพรีเมี่ยม
  3. ขาย “คอลออปชั่น” ด้วยราคาใช้สิทธิ์ที่สูงขึ้น และกำหนดวันหมดอายุเช่นเดียวกับสัญญา “คอลออปชั่น” แรก เก็บค่าพรีเมี่ยมในเวลาเดียวกัน

ด้วยการใช้กลยุทธ์นี้ นักเทรดจะได้รับผลกำไรที่จำกัดหากการคาดการณ์ของพวกเขาถูกต้อง อย่างไรก็ตาม พวกเขายังสามารถจำกัดค่าพรีเมี่ยมที่ต้องจ่ายได้ เนื่องจากการซื้อคอลเปล่านั้นมีราคาแพง

Bear Put Spread

Bear Put Spread เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการเทรดออปชั่น ในสถานการณ์นี้ นักเทรดคาดการณ์ว่าราคาของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ดิจิทัลจะลดลงและต้องการลดค่าใช้จ่ายในการถือครองสัญญาเทรด Bear Put Spread จะถูกสร้างขึ้นโดยการซื้อ “พุตออปชั่น” ในขณะเดียวกัน นักเทรดก็จะขายพุตออปชั่นในจำนวนที่เท่ากัน ช่วงระยะเวลาที่เท่ากัน ด้วยราคาใช้สิทธิ์ที่ต่ำลง กำไรสูงสุดจากกลยุทธ์นี้จะเท่ากับส่วนต่างของราคาใช้สิทธิ์ลบด้วยใช้จ่ายสุทธิของออปชั่น

กระดานเทรดที่คุณสามารถเทรดคริปโตออปชั่นได้

ตอนนี้ คุณน่าจะเข้าใจถึง “การเทรด Crypto Options” แล้ว แต่คุณจะทำการเทรดมันได้ที่ไหนล่ะ? Crypto Options นั้นได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ในปัจจุบัน มันจึงมีหลายแพลตฟอร์มที่คุณสามารถทำการเทรด Crypto Options ได้ รายชื่อที่เรานำเสนอด้านล่างคือกระดานเทรดที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ที่สามารถทำการเทรดคริปโตออปชั่นได้

Bybit

Bybit: Bybit.com

กระดานเทรด Bybit มี USDC Options ที่มีมาร์จิ้นและชำระด้วย USDC ได้ Options บน Bybit นั้นจะชำระด้วยเงินสดในสไตล์ยุโรป ซึ่งคุณจะสามารถใช้ออปชั่นได้เมื่อสัญญาหมดอายุเท่านั้น คุณสามารถใช้ Bitcoin Options บน Bybit เพื่อเก็งกำไรในราคาของ Bitcoin ได้โดยไม่ต้องซื้อหรือเป็นเจ้าของสินทรัพย์คริปโตอีกด้วย

การเทรดคริปโตออปชั่นบน Bybit จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ การซื้อขาย การส่งมอบ และการชำระบัญชี ค่าธรรมเนียมการซื้อขายคือ 0.03% สำหรับ Maker (ผู้ที่สร้างคำสั่งซื้อหรือขายบน Orderbook) และ 0.03% สำหรับ Taker (ผู้ที่ซื้อหรือขายคำสั่งบน Orderbook) ค่าธรรมเนียมการส่งมอบคือ 0.01% และค่าธรรมเนียมการชำระบัญชีคือ 0.2%

ts < 500 OKB และปริมาณ < 100,000 ดอลลาร์ ค่าธรรมเนียมของ Maker คือ 0.02%-0.015% สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และค่าธรรมเนียมของ Taker คือ 0.03% สำหรับผู้ใช้งานระดับ VIP ค่าธรรมเนียมของ Maker คือ 0.02%-0.013% และของ Taker คือ 0.01%- (-)0.01%

StormGain

Options
StormGain: Stormgain.com

StormGain เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตที่เหมาะสำหรับทุกคน ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากการเติบโตหรือลดลงของตลาดคริปโตและจากการลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์คริปโต

StormGain ช่วยให้คุณสามารถซื้อขายเหรียญยอดนิยมและมูลค่าสูงได้ด้วยตัวคูณสูงถึง 500 เท่าบนอุปกรณ์ต่างๆ ได้ หรือคุณเพียงแค่ซื้อคริปโตแล้วถือมันไว้ก็ได้เช่นกัน

Binance

Options
Binance: Binance.com

Binance กระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ร่วมมือกับผู้ดูแลสภาพคล่องที่มีความเชี่ยวชาญ ช่วยให้นักเทรดออปชั่นมีค่าธรรมเนียมต่ำที่สุดในตลาด (ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม 0.02% และค่าธรรมเนียมการใช้สิทธิ์ 0.015%) Options บน Binance กำหนดให้นักเทรดจ่ายเฉพาะค่าพรีเมียมของออปชั่นเท่านั้น เพื่อให้ได้รับการจัดการเช่นเดียวกับการถือสถานะฟิวเจอร์สหรือสปอตที่เทียบเท่ากัน

ด้วยราคาบน Binance และสามารถชำระเงินออปชั่นด้วย Stablecoins ได้ ทำให้มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักลงทุนที่จะคำนวณต้นทุนและกำไร Stablecoin Options ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าและออกสถานะได้อย่างปลอดภัยถึงแม้จะอยู่ในช่วงที่มีความผันผวนสูงก็ตาม พวกเขาสามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่ามูลค่าที่ระบุไว้ของหลักประกันจะลดลงเป็นอย่างมาก

OKX

Options
OKX: Okx.com

กระดานเทรด OKX นั้นเสนอสัญญาออปชั่นสไตล์ยุโรปซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกวันที่ครบกำหนดที่หลากหลาย ผู้ใช้งานสามารถชำระค่าสัญญาออปชั่นของพวกเขาได้ด้วย BTC, ETH, SOL หรือคริปโตสกุลต่างๆ มากมาย

ค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มการเทรดออปชั่นของ OKX นั้นจะแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปสำหรับผู้ใช้งาน VIP — สินทรัพย์ (USD) ≥ 100,000 และปริมาณการซื้อขาย 30 วัน ≥ 5,000,000 และสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป กำหนดโดยการถือครอง OKB, สินทรัพย์ < 100,000 หรือปริมาณการซื้อขาย < 5,000,000

สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ค่าธรรมเนียมสำหรับ Maker อยู่ที่ 0.02%-0.015% และสำหรับ Taker อยู่ที่ 0.03% ค่าธรรมเนียมสำหรับ Maker ที่เป็นผู้ใช้งาน VIP อยู่ที่ 0.01%- (-)0.01% และสำหรับ Taker อยู่ที่ 0.02%-0.013%

Lyra

Options
Lyra: lyra.finance

Lyra เป็นแพลตฟอร์มสำหรับ Crypto Options AMM ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถซื้อและขายคริปโตออปชั่นกับกลุ่มสภาพคล่องได้ เนื่องจากโปรโตคอลของพวกเขาอยู่บน Ethereum เลเยอร์ 2 (Optimism และ Arbitrum) ผู้ใช้งานจะได้รับประโยชน์จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำ

ที่มันสามารถทำเช่นนี้ได้ก็เพราะผู้ให้บริการสภาพคล่อง (LPs) ฝาก Stablecoin ไว้ใน Lyra Market Maker Vaults (MMVs) ของสินทรัพย์ที่เฉพาะเจาะจง สภาพคล่องนี้จะถูกใช้เพื่อสร้างตลาดออปชั่นแบบสองด้าน (ซื้อและขาย) สำหรับสินทรัพย์ที่ Vault ได้เฉพาะเจาะจงไว้ LPs จะให้สภาพคล่องแก่ Vault เพื่อรับค่าธรรเนียมที่มีการจ่ายเมื่อมีการเทรดออปชั่นเกิดขึ้น

Dopex

Options
Dopex: dopex.io

Dopex เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับการเทรดออปชั่น มันเป็นโปรโตคอลแบบกระจายอำนาจเพื่อสภาพคล่องสูงสุดและทำให้เกิดความเสี่ยงน้อย การใช้ส่วนลดและรางวัลที่ได้รับการควบคุมเพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่ผู้ให้บริการสภาพคล่องคือการที่ Dopex พยายามที่จะเพิ่มสภาพคล่องของออปชั่นในขณะที่หลีกเลี่ยงการสูญเสียไปด้วย

Option Pools (หรือที่รู้กันว่าเป็นฟาร์มบน Dopex) โดยพื้นฐานแล้ว มันเป็นกลุ่มสภาพคล่องที่ผู้ใช้งานให้สภาพคล่องสินทรัพย์และสินทรัพย์อ้างอิงสำหรับผู้ซื้อออปชั่น มันจะช่วยให้คุณได้รับรายได้แบบพาสซีฟโดยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ซื้อออปชั่นที่ใช้สภาพคล่องของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังจะได้รับ rDPX หากนักเทรดทำกำไรสุทธิเพื่อชดเชยการขาดทุนของคุณ

Option Pools สามารถทำงานเป็นรายสัปดาห์หรือเดือนก็ได้ ขึ้นอยู่กับช่วงระยะเวลาของออปชั่น ยิ่งคุณล็อกเงินทุนไว้นานเพียงใด รางวัลก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

การเทรดออปชั่นทำกำไรได้หรือไม่?

การเทรดออปชั่นนั้นสามารถทำกำไรได้สำหรับบางคน แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ได้ยินเกี่ยวกับ Options Greeks (มาตรวัดที่ใช้ในการวัดความไวในการเปลี่ยนแปลงราคา Options เมื่อตัวแปรต่างๆ คงที่ เช่น Theta, Vega, Delta, และ Gamma) พวกเขาก็วิ่งหนีไปทันที ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีเหตุผล แต่พวกเขาไม่ทราบว่านักเทรดมากมายทำกำไรจากการเทรดออปชั่นได้มากมายเพียงใด แต่โดยทั่วไปแล้ว มันเป็นที่ยอมรับกันว่าการขายออปชั่นนั้นทำกำไรได้มากกว่าการเทรดออปชั่น

อย่างไรก็ตาม เมื่อการเทรดออปชั่นเริ่มผลิดอกออกผล ผลตอบแทนของมันจะมากกว่าค่าใช้จ่ายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนยังใช้ออปชั่นเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ในบางสถานการณ์ นักเทรดอาจจะมองว่าการเทรดออปชั่นนั้นมีความเสี่ยงน้อยกว่าการเทรดในรูปแบบอื่นๆ

Crypto Options เป็นเรื่องง่าย การเทรดต่างหากที่เป็นเรื่องซับซ้อน

โดยพื้นฐานแล้ว คอนเซปต์ของผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนใหญ่นั้นจะเข้าใจได้ง่าย อย่างไรก็ตาม เหมือนที่กิจกรรมของมนุษย์นั้นมีความซับซ้อน ตลาดการเงินของเราก็เช่นกัน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทำให้การเทรดคริปโตออปชั่นซับซ้อน แต่หากคุณต้องการที่จะลองกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการเก็งกำไรหรือจัดการความเสี่ยงของคุณด้วยออปชั่น คุณอาจจะลองสมัครบัญชีทดลองก่อนเพื่อดูว่ามันเป็นอย่างไร ด้วยวิธีนี้ คุณจะไม่ต้องเสี่ยงใช้เงินลงทุนจริงๆ ของคุณ และจะได้เห็นและสัมผัสถึงประสบการณ์ของภาคส่วนตลาดการเงินที่กำลังเติบโตนี้

คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ

  • Yield Farming: รูปแบบการทำกำไรอย่างหนึ่งที่คล้ายกับการ Staking ต่างตรงที่เงินที่เราเอาไปฝากนั้นถูกนำไปใช้ในระบบจริงๆ เพราะมันจะกลายเป็น “สภาพคล่อง” ให้ระบบนั้นๆ และเราจะได้ผลตอบแทนจากระบบในรูปแบบต่างๆ

คำถามที่พบบ่อย

การเทรด Crypto Options มีความเสี่ยงหรือไม่?

เราสามารถทำเงินจากการเทรดออปชั่นได้มากเพียงใด?

กระดานเทรดที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดออปชั่นคือที่ใด?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | มีนาคม 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน