รีวิว Kraken ปี 2023: ข้อมูลต่างๆ ของกระดานเทรดชื่อดังที่คุณควรรู้!

Kraken คือ กระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) ที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้ฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงตลาดหมีคริปโตมาหลายต่อหลายครั้ง ในบทความ “รีวิว Kraken ปี 2023” นี้ เราจะมาประเมินความสามารถของ CEX ชั้นนำรายนี้กัน เราจะมาสำรวจกันว่าทำไม Kraken ถึงยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ล้มหายตายจากไป เราจะมาทำการวิเคราะห์โดยละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ ข้อดี และข้อเสียต่างๆ ของแพลตฟอร์มนี้กัน

รีวิว Kraken: คะแนนโดยรวมจากเรา

Kraken คือ กระดานเทรดในสหรัฐฯ ที่เปิดให้บริการทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ทรัพย์สินของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้อมูลของลูกค้าด้วย

นอกจากนี้ พวกเขายังให้บริการสินทรัพย์และผลิตภัณฑ์มากมาย เมื่อคำนึงถึงเรื่องกฎระเบียบของตลาดคริปโตในปัจจุบัน ถือว่าค่อนข้างน่าประทับใจเลยทีเดียว โดยรวมแล้ว Kraken นับว่าเป็นกระดานเทรดที่โดดเด่น ถึงแม้ว่ากระดานเทรดอย่าง Binance จะมีคุณสมบัติต่างๆ มากกว่า แต่เราชื่นชอบ Kraken เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้มีความปลอดภัยและใช้งานได้ง่ายกว่า

รีวิว Kraken นี้เหมาะสำหรับกับใครบ้าง?

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้งาน CEX อยู่แล้ว หรือ เป็นมือใหม่ที่สนใจในกระดานเทรดนี้ รีวิวนี้จะให้ข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการเกี่ยวกับ Kraken นอกจากนี้ ใครก็ตามที่สนใจในการเทรดก็สามารถใช้ประโยชน์จากรีวิวนี้ได้ ซึ่งรวมไปถึง นักเทรดรายย่อยหรือสถาบันที่มีการซื้อขายในปริมาณมากในแต่ละวัน

มาถึงตรงนี้ เราขอให้อ่านต่อไป ถ้าคุณ:

• เป็นสาวกของสกุลเงินคริปโต (จะหน้าใหม่หรือเก่าก็ตาม)
• นักเทรด (รายย่อยหรือสถาบัน)
• บุคคลที่สนใจในฟินเทค

จุดประสงค์ของการรีวิวในครั้งนี้

รีวิว Kraken นี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจได้ว่า Kraken จะเหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางการเงินและความชื่นชอบของผู้ใช้งานหรือไม่

นอกจากนี้ เราจะชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนที่อาจจะมีอยู่บนแพลตฟอร์มจากมุมมองของผู้ใช้งานจริง โดยพื้นฐานแล้ว รีวิวนี้มีไว้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับทุกคนที่ต้องการทำความเข้าใจภาพรวมของแพลตฟอร์ม

เกณฑ์ที่จะใช้ในการประเมิน Kraken

เกณฑ์ที่เราจะใช้ในการประเมิน Kraken จะเน้นหนักไปที่ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เราจะทำการพิจารณาเรื่ององค์ประกอบอื่นๆ ด้วย ซึ่งรวมไปถึง ความพร้อมใช้งาน และ ภาพรวมด้านกฎระเบียบ

การตระหนักรู้ด้านความปลอดภัย (Security Awareness) คืออีกแง่มุมหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นว่า Kraken ปฏิบัติตามมาตรการและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดแค่ไหน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สินของตนเอง

นอกจากนี้ เราจะตรวจสอบประสบการณ์การใช้งานจริงอย่างละเอียด ซึ่งรวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความยากง่ายในการใช้งาน การสนับสนุนลูกค้า และแอปมือถือของพวกเขาทำงานได้ดีเพียงใด และสุดท้าย บทวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบของเรา จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปรียบเทียบ Kraken กับกระดานเทรดชั้นนำรายอื่นๆ ได้

Kraken คืออะไร?

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: www.kraken.com

Kraken คือ แพลตฟอร์มกระดานเทรดชั้นนำที่คุณสามารถซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ได้ แพลตฟอร์มนี้ก่อตั้งขึ้นโดย Jesse Powell และ Thanh Luu ในปี 2011 และกลายมาเป็นหนึ่งในกระดานเทรด Bitcoin รายแรกๆ ที่จดทะเบียนใน Bloomberg Terminal

Kraken มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมสกุลเงินคริปโตของสหรัฐอเมริกา ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Kraken ได้ขยายขอบเขตบริการต่างๆ ของพวกเขาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยการนำเสนอสกุลเงินคริปโตหลากหลายสกุลที่สามารถทำการซื้อขายได้ พร้อมด้วยฟีเจอร์และเครื่องมือสำหรับอำนวยความสะดวกในการเทรดขั้นสูงมากมาย

Kraken ซึ่งเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่เก่าแก่และได้รับการยอมรับมากที่สุดรายหนึ่ง มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในด้านการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

วิธีการสมัครบัญชี Kraken

1. ไปที่เว็บไซต์ของ Kraken จากนั้น คลิกที่ปุ่ม “Sign up” (สมัคร)

2. เมื่อเข้าสู่หน้าถัดไปแล้ว ให้เลือกบัญชีแบบ “Personal” (ส่วนบุคคล) หรือ “Business” (ธุรกิจ) จากนั้น กรอกข้อมูลทั้งหมดแล้วคลิกที่ปุ่ม “Create Account” (สร้างบัญชี)

3. สุดท้าย กรอกรหัสเปิดใช้งาน (Activation Code) ที่จะถูกส่งไปยังอีเมลของคุณ

ยินดีด้วย! คุณได้เป็นยูสเซอร์ของ Kraken อย่างเป็นทางการแล้ว

ระบบแนะนำเพื่อน

เมื่อคุณดาวน์โหลดแอป Kraken และแนะนำเพื่อนให้มาใช้งานแอปนี้ คุณจะมีโอกาสได้รับ BTC หากต้องการเข้าร่วมโปรแกรมแนะนำเพื่อนของ Kraken เพียงแค่เข้าไปที่แอป แล้วรับลิงก์อ้างอิงของคุณมาได้เลย

หลังจากนั้น มอบลิงก์ดังกล่าวให้กับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้ติดตามของคุณ เมื่อพวกเขาสมัครบัญชีโดยใช้ลิงก์ของคุณ และทำการซื้อหรือขายคริปโตเป็นมูลค่าอย่างน้อย 100 ดอลลาร์ภายใน 30 วันหลังจากสมัคร คุณและพวกเขาจะได้รับ Bitcoin เป็นมูลค่า 10 ดอลลาร์

มูลค่า Bitcoin สูงสุดที่จะสามารถรับจากโปรแกรมแนะนำเพื่อนได้ก็คือ 100 ดอลลาร์ แต่โบนัสแนะนำเพื่อนจะไม่มีให้บริการสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในในรัฐวอชิงตันและนิวยอร์ก

ความเป็นมาของ Kraken

Kraken สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกลายเป็นกระดานเทรดคริปโตรายแรกที่ได้รับหนังสือรับรอง Special Purpose Depository Institution (SPDI) ในรัฐไวโอมิง

หนังสือรับรองนี้ช่วยให้ Kraken สามารถเชื่อมต่อกับระบบของธนาคาร ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาจากธนาคารอื่นๆ ในการประมวลผลการชำระเงินได้ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ควรทราบก็คือ Kraken ไม่มีประกัน FDIC เหมือนธนาคารทั่วไป

ความสำเร็จดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้ Kraken รอดพ้นจากการตรวจสอบของ SEC (ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ) ไปได้ ในช่วงต้นปี 2022 SEC ได้เริ่มทบทวนกฎระเบียบของสกุลเงินคริปโตอีกครั้ง ซึ่งได้ก่อให้เกิดความท้าทายในการปฏิบัติงานสำหรับกระดานเทรด Kraken มากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นบริการรับฝากเหรียญแบบให้ผลตอบแทน การให้กู้ยืม หรือบริการใดๆ ก็ตาม แพลตฟอร์มคริปโตจะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลและมีการป้องกันอย่างเหมาะสมตามกฏระเบียบของเรา

Gary Gensler, ประธาน SEC

การกำกับดูแลด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ Kraken บรรลุข้อตกลงกับ SEC เกี่ยวกับบริการ Staking ในสหรัฐฯ ของบริษัทได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023

ผลจากการบังคับใช้กฏหมายของ SEC ที่กล่าวอ้างว่า Kraken ไม่สามารถลงทะเบียนแพลตฟอร์มบริการรับฝากเหรียญแบบให้ผลตอบแทน (Staking-as-a-Service) ได้อย่างเหมาะสม Kraken จึงต้องยุติการให้บริการ Staking ในสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023

จำนวนผู้ใช้งานและปริมาณการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม

Kraken รายงานว่าแพลตฟอร์มมีผู้ใช้งานราวๆ 4 ล้านคนในเดือนกุมภาพันธ์ 2019, 6 ล้านคนในเดือนมิถุนายน 2021 และประมาณ 9 ล้านคนในเดือนพฤษภาคม 2022 อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ตัวเลขเหล่านี้ที่รายงานโดย Kraken เป็นการนับเฉพาะ Active User หรือ รวมบัญชีที่มีการสมัครทั้งหมดลงไปด้วย

นอกจากนี้ ในแง่ของปริมาณการซื้อขายต่อปี Kraken มีมูลค่าการซื้อขายรวมถึง 397.76 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2022, 802.82 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021 และ 24.78 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2020 จากข้อมูลของ Nomics

บริษัทมีนักลงทุนอยู่อย่างน้อย 45 รายจากรอบการระดมทุนที่แตกต่างกัน จากข้อมูลของ Crunchbase นักลงทุนเหล่านี้ (บางส่วน) ได้แก่ SBI Investment, Digital Currency Group และ Blockchain Capital เป็นต้น

สถานะการกำกับดูแล

เพื่อให้บริการลูกค้าในสหรัฐอเมริกา Kraken ได้จดทะเบียนเป็น Money Services Business (ธุรกิจบริการด้านการเงิน) กับ FinCEN ผ่านหน่วยงาน ‘Payward Ventures, Inc.’

Kraken Bank ยังดำเนินงานภายใต้การดูแลของ Wyoming Division of Banking ซึ่งดำเนินงานภายใต้ระเบียบงาน Special Purpose Depository Institution (SPDI)

สำหรับลูกค้าในประเทศแคนาดา Kraken ยังคงสถานะเป็น Money Services Business ซึ่งได้รับการควบคุมดูแลโดย FINTRAC ผ่าน Payward Canada, Inc. นอกจากนี้ Kraken ยังได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการในสหราชอาณาจักร อิตาลี เอเชีย-แปซิฟิก และตะวันออกกลาง อีกด้วย

ฟีเจอร์ต่างๆ

• Spot Trading: ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อและขายสกุลเงินคริปโตต่างๆ ได้ในราคาตลาดที่เป็นปัจจุบัน

• Margin Trading: ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถยืมเงินเพื่อทำการซื้อ/ขายสถานะที่ใหญ่กว่าเงินที่พวกเขามีในบัญชีได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทั้งผลกำไรที่อาจจะได้รับ หรือ ความเสี่ยงในการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

• Futures Trading: ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อและเทรดฟิวเจอร์สคริปโตต่างๆ ได้

• NFT Marketplace: Kraken ให้บริการตลาดซื้อขาย NFT (Non-Fungible Token) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยน ซื้อ หรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใครได้

• ฟีเจอร์ Earn: มักจะถูกเรียกว่า Staking-as-a-Service ผู้ใช้งานสามารถ Stake เหรียญคริปโตของพวกเขาเพื่อรับผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยได้

• อินเทอร์เฟซการซื้อขายขั้นสูง: Kraken นำเสนออินเทอร์เฟซการซื้อขายขั้นสูง ที่มาพร้อมกับเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย เช่น การวิเคราะห์กราฟ ประเภทคำสั่งที่หลากหลาย และรูปแบบการซื้อขายที่ปรับแต่งได้ด้วยตนเอง ฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้สามารถตอบสนองความต้องการของเหล่านักเทรดที่มีประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี

ความปลอดภัย

Kraken ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก โดยมีการป้องกันหลายชั้น ซึ่งรวมไปถึง ตัวเลือกสำหรับการสร้างรหัสผ่านที่รัดกุม และ การใช้ระบบการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย ผู้ใช้งานยังสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของตนได้โดยการใช้อุปกรณ์ FIDO2 ซึ่งจะเพิ่มขั้นตอนในการอนุมัติในการเข้าถึงบัญชีของตนจากอุปกรณ์ใหม่

ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าจะถูกเก็บไว้แบบออฟไลน์ มีการเข้ารหัส และควบคุมอย่างเข้มงวด การที่จะเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ จำเป็นจะต้องผ่านระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงไปให้ได้เสียก่อน ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้เป็นความลับอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ สินทรัพย์ของ Kraken ยังถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยใน Cold Storage ขั้นสูง และโซลูชั่น Hot Wallet ด้วยเหตุนี้ โครงสร้างพื้นฐานของคริปโตจึงได้รับการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาจากทั้งการตรวจสอบและการจัดเก็บ จนถึงเดือนกันยายน 2023 แพลตฟอร์มนี้ไม่เคยถูกแฮกแม้แต่ครั้งเดียว

ในปี 2014 Kraken กลายเป็นกระดานเทรดรายแรกของโลกที่ผ่านการตรวจสอบ Proof of Reserves (PoR) และในปี 2022 พวกเขาได้ตอกย้ำถึงความโปร่งใสอีกครั้ง โดยการประกาศ “นำมาตรฐานการตรวจสอบที่ได้รับการออกแบบมา เพื่อให้ลูกค้าสามารถพิสูจน์ได้ว่า ยอดคงเหลือ Bitcoin และ Ethereum ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์จริงที่อยู่ในความดูแลของ Kraken มาใช้งาน”

ค่าธรรมเนียม

Kraken เรียกเก็บค่าธรรมเนียมโดยอิงจากปริมาณการซื้อขายของผู้ใช้งานตลาดช่วงระยะเวลา 30 วัน สำหรับ Spot Trading ที่ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายสกุลเงินคริปโตได้ในทันที ค่าธรรมเนียมจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท: Maker (ผู้ที่สร้างคำสั่งซื้อหรือขาย) และ Taker (ผู้ที่ทำการซื้อหรือขาย)

Maker เพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดด้วยการวางคำสั่งที่ไม่ได้มีการดำเนินการในทันที จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 0.16% สำหรับปริมาณการซื้อขายสูงสุดถึง 50,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ Taker ลดสภาพคล่องโดยการจับคู่คำสั่งซื้อที่มีอยู่ ซึ่งจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 0.26% อย่างไรก็ตาม เมื่อปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น ค่าธรรมเนียมจะลดลงเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานที่มีการซื้อขายมากกว่า 500,000,000 ดอลลาร์ จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหากเป็น Maker และจะถูกเรียกเก็บ 0.04% สำหรับ Taker ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้เหล่านักเทรดขาใหญ่ใช้งานแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น

Kraken ยังให้บริการการซื้อขายฟิวเจอร์ส โดยมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่คล้ายคลึงกัน สำหรับปริมาณการซื้อขายสูงสุดถึง 100,000 ดอลลาร์ ผู้ใช้งานจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม Maker ที่ 0.02% และ Taker ที่ 0.05% หากปริมาณการซื้อขายเกิน 100,000,001 ดอลลาร์ ค่าธรรมเนียม Maker จะกลายเป็น 0% (ไม่เก็บ) ในขณะที่ Taker จะเหลือ 0.01% ระบบค่าธรรมเนียมเช่นนี้คือสิ่งที่เป็นแรงจูงใจให้ทั้งนักเทรดรายย่อยและรายใหญ่เข้าร่วมในตลาดฟิวเจอร์สนี้

ค่าธรรมเนียมสำหรับ Margin Trading บน Kraken จะแตกต่างกันไปตามสกุลเงินคริปโตที่ซื้อขาย ผู้ใช้งานจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 0.015% ไปจนถึง 0.02% นอกจากนี้ ยังมีค่าธรรมเนียม Rollover (การเปิดสถานะข้ามคืน) ซึ่งโดยปกติจะอยู่ระหว่าง 0.01% ถึง 0.02% ซึ่งจะเรียกเก็บภายในระยะเวลา 4 ชั่วโมง

สำหรับ Stablecoins, โทเค็นที่ตรึงมูลค่าไว้ และคู่ FX ค่าธรรมเนียมจะอิงตามปริมาณการซื้อขาย หากปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ระหว่าง 0 ถึง 50,000 ดอลลาร์ Maker และ Taker จะต้องชำระค่าธรรมเนียม 0.20% แต่หากปริมาณการซื้อขายมากกว่า 100,000,000 ดอลลาร์ Maker จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ในขณะที่ Taker จะต้องชำระค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่ 0.001%

การสนับสนุนลูกค้า

จากรีวิวแบบสาธารณะที่เราสามารถตรวจสอบได้ ดูเหมือนว่าฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Kraken จะได้รับผลตอบรับในทางลบเสียเป็นส่วนใหญ่ ผู้ใช้จำนวนมากแสดงให้เห็นถึงความหัวเสียและไม่พอใจต่อประสบการณ์การใช้งาน โดยกล่าวถึงปัญหาต่างๆ เช่น การถอนเงินใช้เวลานานเกินไป ความต้องการในการยืนยัน KYC เพิ่มเติม หรือ การถูกปิดบัญชีอย่างกระทันหัน

อย่างไรก็ตาม มันยังมีความคิดเห็นในเชิงบวกให้เห็นอยู่บ้าง โดยผู้ใช้งานเห็นถึงพัฒนาการใน UI ของแพลตฟอร์มที่มาพร้อมกับการเปิดตัว Kraken Pro

โดยรวมแล้ว ดูเหมือนว่าในขณะที่ผู้ใช้งานบางส่วนจะมีความพึงพอใจในการสนับสนุนลูกค้าของ Kraken และการใช้งานแพลตฟอร์มโดยทั่วไป แต่ก็ยังมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ต้องพบกับปัญหาและความลำบากมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการถอนเงิน

ข้อดีและข้อเสีย

Kraken นำเสนอฟีเจอร์และบริการที่หลากหลายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินคริปโต อย่างไรก็ตาม ก็เหมือนกับแพลตฟอร์มอื่นๆ แพลตฟอร์มของพวกเขาก็มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนเช่นกัน ต่อไป เราจะมาดูข้อดีและข้อเสียในการใช้งานกระดานเทรดคริปโต Kraken กัน

ข้อดี

• การปฏิบัติตามกฎระเบียบ: ความพยายามของ Kraken ที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบและความโปร่งใสของพวกเขามีส่วนที่ทำให้ผู้คนเกิดความไว้วางใจ

• ตัวเลือกในการเทรดที่หลากหลาย: มีตัวเลือกการเทรดที่หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึงการเทรดแบบ Spot, Margin, และ Futures ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกระจายกลยุทธ์ในการเทรดได้

• เครื่องมือเทรดขั้นสูง: แพลตฟอร์มนี้มีทั้งเครื่องมือและฟีเจอร์ขั้นสูง ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเทรดให้กับผู้ใช้งาน สิ่งเหล่านี้รวมไปถึง อินเทอร์เฟสที่สามารถปรับแต่งได้ และการวิเคราะห์กราฟ ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดที่มากด้วยประสบการณ์

• เน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัย: Kraken นั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องการโฟกัสเรื่องความปลอดภัย ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย การจัดเก็บสินทรัพย์ไว้แบบออฟไลน์ และการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Kraken จึงไม่เป็นสองรองใคร

• ไม่เสียค่าแก๊สสำหรับ NFTs: ตลาดซื้อขาย NFT ของ Kraken ไม่มีค่าแก๊ส ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถทำการซื้อขายหรือทำธุรกรรม NFT ได้โดยไม่ต้องเสียค่าแก๊สให้กับบล็อกเชนเพิ่มเติม

ข้อเสีย

• ข้อจำกัดทางด้านภูมิศาสตร์: บริการหลายๆ อย่างของ Kraken ไม่มีให้บริการสำหรับผู้ใช้งานในรัฐวอชิงตันหรือนิวยอร์ก บริการ Earn (Staking-as-a-Service) ก็ไม่เปิดให้บริการให้กับลูกค้าในสหรัฐฯ แต่อย่างใด

• ข้อกังวลเรื่องการสนับสนุนลูกค้า: ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าได้รับฟีดแบ็กทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ผู้ใช้บางคนแสดงความไม่พอใจกับปัญหาต่างๆ เช่น การถอนเงินที่ล่าช้า หรือ การถูกปิดบัญชีกระทันหัน เป็นต้น

• ข้อกังวลเรื่องการกำกับดูแล: หน่วยงานกำกับดูแล เช่น SEC และ CFTC ได้มีการดำเนินการทางกฏหมายกับกระดานเทรดคริปโตอย่างต่อเนื่อง สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ตรึงเครียดมากยิ่งขึ้น อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่อผู้ใช้งานของแพลตฟอร์ม Kraken ได้

ทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก Kraken

ในแง่ของคุณสมบัติ เราได้กล่าวถึงไปแล้วบ้างว่า กระดานเทรดนี้นำเสนอบริการการเทรดที่หลากหลาย เช่น การเทรดแบบ Spot, Margin และ Futures

Coinbase นั้นโฟกัสในเรื่องการเทรดแบบ Spot เป็นหลัก และไม่มีบริการการเทรดฟิวเจอร์สโดยตรง ในขณะที่ Binance มีตัวเลือกอยู่มากมาย ทั้งการเทรดสกุลเงินคริปโตแบบ Spot, Futures หรือ Margin เป็นต้น และ Robinhood ให้ความสำคัญกับการเทรดสกุลเงินคริปโตและหุ้นทั้งในแบบ Spot และ Margin

Kraken มีฟีเจอร์ “Earn” ให้บริการ ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรับผลตอบแทนจากการ Staking สกุลเงินคริปโตที่พวกเขาถือครองอยู่ได้ ส่วน Binance ก็มีบริการ “Earn” ที่คล้ายคลึงกันอยู่ ทำให้พวกเขาเป็นคู่แข่งของ Kraken ในหมวดหมู่นี้ ในทางกลับกัน Coinbase ไม่มีฟีเจอร์ “Earn” โดยตรง เช่นเดียวกับ Robinhood ที่ไม่มีบริการการ Staking หรือเสนอรายได้จากสกุลเงินคริปโตแต่อย่างใด เมื่อพูดถึงคุณสมบัติเหล่านี้แล้ว Binance มีข้อได้เปรียบเหนือ Kraken เล็กน้อย

Kraken มีสกุลเงินคริปโตมากมายให้เลือกเทรด โดยมีเหรียญคริปโตและคู่ซื้อขายมากกว่า 230 คู่ให้บริการ Coinbase รองรับสกุลเงินคริปโตมากกว่า 250 สกุลเงิน ในขณะที่ Binace ขึ้นมาเป็นผู้นำอีกครั้ง ด้วยสกุลเงินคริปโตและคู่การซื้อขายที่รองรับมากกว่า 500 สกุลเงิน

ในทางกลับกัน Robinhood มีสกุลเงินคริปโตที่รองรับค่อนข้างจำกัด โดยมีอยู่เพียงประมาณ 15 สกุลเงินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงตัวเลือกของหุ้น Robinhood มีให้บริการหลากหลายมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ

ลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้เสมอว่าการซื้อขายและการลงทุนมีความเสี่ยง ซึ่งอาจจะทำให้คุณสูญเสียเงินลงทุนได้ ดังนั้น คุณจึงไม่ควรที่จะลงทุนมากเกินไปกว่าที่คุณจะสามารถสูญเสียไปได้

นอกจากนี้ รีวิว Kraken นี้ไม่ได้เป็นการให้การรับรองต่อ Kraken อย่างเป็นทางการ แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลและความบันเทิงเท่านั้น ผู้อ่านควรที่จะทำการวิเคราะห์ด้วยตนเองอย่างละเอียด และตัดสินใจในการลงทุนโดยคำนึงถึงเป้าหมายและความรับผิดชอบทางการเงินของตัวผู้อ่านเอง

รีวิว Kraken: ผู้อยู่รอดที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

โดยรวมแล้ว รีวิว Kraken นี้สรุปได้ว่า Kraken ยังคงเป็นกระดานเทรดที่ได้รับความนิยมที่ได้รับการพิสูจน์ตัวเองมาเป็นเวลาช้านาน แน่นอนว่า ยังมีบางสิ่งที่ Kraken จะต้องปรับปรุง เช่น การสนับสนุนลูกค้า หรือ ประสบการณ์ในการใช้งานบางประการ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงมีชื่อเสียงที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมนี้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา

บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อความโปร่งใส การปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้ Kraken สามารถเอาชนะความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงยืนหยัดได้อย่างมั่นคงในปี 2023 นี้

คำถามที่พบบ่อย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

YouHodler สำรวจเลย →

BYDFi สำรวจเลย →

CoinEx สำรวจเลย →

BingX สำรวจเลย →

Coinrule สำรวจเลย →

Bybit สำรวจเลย →

ดูเพิ่มเติม