ดูเพิ่มเติม

Vampire Attack ในโลก Crypto หมายความว่าอย่างไร?

11 mins
โดย Ananda Banerjee
แปลแล้ว Akradet Mornthong

ถึงแม้ว่าพื้นที่ Crypto จะพึ่งถือกำเนิดขึ้นมาได้ไม่นาน และเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่พื้นที่นี้ก็กลับเต็มไปด้วยการแฮ็ก, การหลอกลวง, และการโจมตีด้วยการใช้ช่องโหว่ต่างๆ ในขณะที่ปัญหาอย่าง Sybil Attack, Double Spending หรือ 51% Attack มีเจตนาที่มุ่งร้ายอย่างชัดเจน แต่ Vampire Attack นั้นมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า และไม่ได้เป็นความพยายามที่จะก่อให้เกิดความเสียหายในทันที Vampire Attack ในโลก Crypto นั้นหมายถึงการโจมตีที่เฉพาะเจาะจงต่อ DeFi ที่ซึ่งโปรเจกต์หนึ่ง — ซึ่งมันจะเป็นฟอร์คที่แยกออกมาจากโปรเจกต์ที่มีชื่อเสียงมากกว่า — วางแผนที่จะแย่งชิงฐานลูกค้าจากอีกโปรเจกต์หนึ่ง

Vampire Attack หมายถึงการดูดสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายออกจากโปรเจกต์ที่มีอยู่แล้ว ไปจนถึง การล่อลวงผู้ใช้งานด้วยรางวัลต่างๆ ที่น่าดึงดูดใจ ซึ่งเป็นการรุกรานอย่างชัดเจน และอาจจะทำให้ผู้ดูแลสภาพคล่องแบบอัตโนมัติ (AMMs) และ กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEXs) เกิดความเสี่ยงขึ้นได้ ในบทความนี้ เราจะอธิบายถึงทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Vampire Attack รวมถึง วิธีการทำงาน, ตัวอย่าง, และวิธีการลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

Vampire Attack ในโลก Crypto หมายความว่าอย่างไร?

Vampire Attack คือสิ่งที่มุ่งเป้าที่พื้นที่ DeFi เป็นหลัก โดยเป็นการที่โปรเจกต์ใหม่มีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักลงทุนจากโปรเจกต์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับมากกว่า เมื่อพูดถึงกระบวนการแล้ว Vampire Attack ในแต่ละครั้งจะประกอบไปด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้:

การกำหนดเป้าหมาย

Vampire Attack จะเริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมาย ซึ่งอาจจะเป็นระบบนิเวศที่มีชื่อเสียงและมีสภาพคล่องสูง ข้อกำหนดเบื้องต้นในการเลือกเป้าหมาย ได้แก่ DEX หรือ AMM ที่มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมาก

เสนอรางวัลจูงใจ

ผู้โจมตี หรือ แพลตฟอร์มใหม่จะเสนอรางวัลจูงใจที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่าแพลตฟอร์มยอดนิยม ตัวอย่างเช่น ผู้โจมตีอาจจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าสำหรับผู้ให้บริการสภาพคล่อง หรือ รางวัลในการ Staking ที่ดีกว่าสำหรับบริการ Staking

เริ่มการโจมตี

เมื่อเริ่มการโจมตี ผู้โจมตีจะเริ่มป่าวประกาศเรื่องรางวัลจูงใจต่างๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยการใช้แคมเปญการตลาดหรือการให้รางวัลจูงใจโดยตรง เช่น Airdrops, การแจกจ่ายรางวัลสู่คอมมูนิตี้ และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อผู้ใช้งานเริ่มแห่กันไปที่แพลตฟอร์มใหม่ (ผู้โจมตี) ผลที่ตามมาก็คือ สภาพคล่องจะเกิดการถ่ายโอนอย่างรวดเร็วจากเป้าหมายไปสู่ผู้โจมตี การโจมตีในขั้นตอนนี้จะมีจุดประสงค์เพื่อทำให้เป้าหมายหรือแพลตฟอร์มดังกล่าวมีความเสถียรภาพลดน้อยลง

ในช่วงสุดท้ายของการโจมตี ผู้โจมตีจะพยายามรักษาผู้ใช้งานใหม่เอาไว้ โดยการมอบรางวัลจูงใจที่ดียิ่งขึ้น และทำให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานเหล่านั้นจะมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มใหม่อย่างต่อเนื่อง

รู้หรือไม่ว่า? การโจมตีของ 1inch ที่มีต่อโปรโตคอลบล็อกเชน Bancor คือหนึ่งใน Vampire Attack ที่ไม่ค่อยมีใครจะรู้กันมากนักในโลก Crypto 1inch หรือ Mooniswap เดิม มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ประสิทธิภาพทางด้านราคา (โดยเฉพาะ Conversion Rate) ที่ดีกว่า Bancor โดยทำการดูดกลืนสภาพคล่องบางส่วนของ Bancor มา

สิ่งสำคัญที่เราต้องพูดถึงก็คือ Vampire Attack ไม่ได้เป็นเรื่องที่เลวร้ายสำหรับผู้ใช้งานไปเสียทั้งหมด Vampire Attack จะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานใหม่โดยการให้ผลตอบแทนหรือรางวัลที่ดีกว่า ทำให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ Vampire Attack ที่ดีควรจะก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประโยชน์นั่นเอง

Vampire Attack ที่เป็นที่รู้จักกันในโลก Crypto

ถ้ายังไม่แน่ใจหรือเข้าใจว่า Vampire Attack ในโลก Crypto คืออะไร ต่อไปนี้คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้เข้าใจมันได้ดีมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างที่ 1 ของ Vampire Attack: LooksRare โจมตี OpenSea

ในปี 2022 LooksRare ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย NFT ได้เปิดตัวและมุ่งเป้าไปยังฐานผู้ใช้งานของ Opensea อย่างชัดเจน พวกเขาเสนอให้มีการ Airdrop โทเค็น LOOKS (โทเค็นของเครือข่าย) จำนวน 120 ล้านโทเค็นให้กับผู้ใช้งาน เพื่อเข้าร่วม ผู้ใช้งานจะต้องทำการขึ้นทะเบียน NFT บนตลาดซื้อขาย NFT ของ LooksRare เพื่อที่จะได้รับสิทธิ์ในการรับ Airdrops ได้

Vampire attacks และการเพิ่มขึ้นของอันดับของ LooksRare: DeFillama

นั่นส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายและกิจกรรมบนเครือข่ายของ LooksRare เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าของ OpenSea ในช่วงเวลาดังกล่าว ปัจจุบัน OpenSea กำลังต้องต่อสู้อยู่กับ Vampire Attack ที่ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างประสบความสำเร็จจาก Blur.io ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย NFT อีกราย

Vampire Attack ของ Blur ที่พุ่งเป้าไปยัง OpenSea: Dune

ตัวอย่างที่ 2 ของ Vampire Attack: SushiSwap โจมตี Uniswap

SushiSwap — ซึ่งเป็นฟอร์คของโปรโตคอล DeFi รุ่นเก่าอย่าง Uniswap — ได้ทำการโจมตี Uniswap การเปิดตัวโทเค็นของเครือข่ายอย่าง SUSHI พวกเขารับประกันว่าจะมี ROI ที่สูงขึ้น โดยมีข้อเสนอในการให้โทเค็น SUSHI 1,000 เหรียญต่อบล็อก Ethereum SushiSwap กำหนดเป้าหมายในการโจมตีไปที่ Uniswap โดยเฉพาะ เช่น YFI-ETH และ LINK-ETH ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้ใช้งานที่ต้องการ APY สูงกว่า

TVL ของ Sushiswap หลังจากที่ทำการใช้ Vampire Attack: DeFillama

การโจมตีดังกล่าวส่งผลลัพธ์ที่ชัดเจน SushiSwap มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่า Uniswap จะกลับมาเป็นผู้นำตลาดอีกครั้งก็ตาม แต่เงินทุนมากมายก็เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่กลุ่มสภาพคล่องของ SushiSwap ด้วยรางวัลจูงใจที่น่าดึงดูด การปรากฏตัวของ SushiSwap จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานในลักษณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์

“Uniswap เป็นบริษัทที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก DeFi:

1. มันมีการกระจายอำนาจจริงๆ

2. พวกเขารอดจาก “Vampire Attack” ของ SushiSwap พร้อมทั้งแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

Aakash Gupta, VP ฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่ Apollo.io: LinkedIn

ตัวอย่างที่ 3 ของ Vampire Attack: Pools.fyi และ Balancer

สำหรับผู้ที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับวงการนี้ Balancer เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในวงกว้างมากกว่า โดยการนำเสนอบริการการจัดการพอร์ตการลงทุนแบบอัตโนมัติและการให้บริการสภาพคล่อง Pools.fyi — ซึ่งเป็นผู้รวบรวมกลุ่มสภาพคล่อง — ได้ทำการโจมตี Balancer โดยช่วยให้ผู้ใช้ค้นหากลุ่มที่สามารถทำกำไรได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าการโจมตีดังกล่าวไม่ได้เป็นการท้าทายสถานะในตลาดของ Balancer โดยตรง แต่ก็นับว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของ Vampire Attack เช่นกัน

ตัวอย่างอื่นๆ ได้แก่ 1inch โจมตี Uniswap, Pancakeswap โจมตี Uniswap และแม้กระทั่ง Swerve โจมตี Curve Finance ซึ่งเป็นเครือข่ายหลักของพวกเขาเอง ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ว่า DeFi จะเป็นพื้นที่ที่มักจะพบเห็น Vampire Attack มากมาย แต่พื้นที่อื่นๆ ก็ไม่ได้รับการยกเว้นจากการโจมตีประเภทนี้เช่นกัน

AMMs และ DEXs ช่วยส่งเสริม Vampire Attack ได้อย่างไร?

วิธีการทำงานของผู้ดูแลสภาพคล่องแบบอัตโนมัติ (AMMs) และ กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEXs) มีบทบาทสำคัญในการทำให้ Vampire Attack ในอุตสาหกรรม Crypto สามารถทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น

เรามาเริ่มกันที่ AMMs ผู้ดูแลสภาพคล่องเหล่านี้จะแทนที่รูปแบบคำสั่งซื้อแบบดั้งเดิม (Order Book) ด้วยการนำกลุ่มสภาพคล่องเข้ามา อย่างไรก็ตาม กลุ่มเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ให้บริการสภาพคล่องเพื่อให้เพิ่มทุนให้กับกลุ่มเพื่อการดำเนินงานที่ราบรื่น

หากกลุ่มได้รับความสนใจน้อยลง เงินทุนในกลุ่มก็จะน้อยลง ผลที่ได้ก็คือ ดอกเบี้ยจาก Passive Income ((รายได้ที่ได้มาอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจากการทำงานหลังขดหลังแข็ง เช่น การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในทรัพย์สินทางการเงิน เช่น หุ้น กองทุน พันธบัตร ฯลฯ)) และนักเทรดจะน้อยลง นอกจากนี้ เมื่อมีสภาพคล่องต่ำลง ค่าธรรมเนียมการซื้อขายก็จะได้น้อยลง ซึ่งเป็นผลเสียต่อผู้ที่ให้บริการสภาพคล่องด้วย

แม้แต่กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEXs) ก็ยังได้รับการขับเคลื่อนด้วยสภาพคล่องเช่นกัน หาก DEX มีสภาพคล่องสูง คุณในฐานะนักเทรดจะได้พบกับค่า Slippage (ค่าความคลาดเคลื่อน) และ Spread (ค่าสเปรด) ที่ต่ำกว่า ดังนั้น ด้วยความสำคัญของสภาพคล่องจึงทำให้ Vampire Attack มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

มีแนวโน้มว่าโปรเจ็กต์ AMM หรือ DEX ใหม่ๆ นั้นจะเสนอ APY ที่สูงกว่าและสเปรดที่ต่ำกว่าให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถดึงสภาพคล่องออกจากแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วได้ และเนื่องจากพื้นที่ DeFi เป็นพื้นที่ที่ยังค่อนข้างใหม่ ลูกเล่นของการตลาดและการประชาสัมพันธ์บางอย่างก็อาจจะทำให้ผู้โจมตีดูดีขึ้นได้ สรุปแล้วก็คือ ถึงแม้ว่า Vampire Attack จะมีจุดประสงค์ในการทำให้โปรโตคอลหรือแพลตฟอร์มใหม่ๆ ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น แต่เป้าหมายหลักก็คือ การทำให้แพลตฟอร์มยอดนิยมที่มีอยู่แล้วอ่อนแอลงหรือเกิดความไม่มั่นคง

โดยรวมแล้ว Vampire Attack ในพื้นที่ DeFi เป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลมากกว่า เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังมองหาวิธีสร้างรายได้แบบพาสซีฟ ซึ่งสภาพคล่องเป็นสิ่งสำคัญในบริบทนี้

จะป้องกัน Vampire Attack ได้อย่างไร?

Vampire Attacks อาจจะเป็นอันตรายต่อกลุ่มสภาพคล่องและระบบนิเวศได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีการที่จะป้องกันไม่ให้ Vampire Attack ก่อให้เกิดความเสียหายได้ ต่อไปนี้คือวิธีการบางส่วนที่จะช่วยลดภัยคุกคามได้

มีช่วงเวลาในการล็อกเหรียญ

นี่เป็นวิธีการที่ดีมากที่จะช่วยให้สภาพคล่องของกลุ่มอยู่ในสภาวะที่ดีเยี่ยมอยู่เสมอ วิธีการนี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการสภาพคล่องนำเงินทุนออกจากกลุ่มและนำไปลงทุนที่อื่นได้ โปรโตคอล DeFi ที่มี APY ที่สูงกว่าสามารถใช้กลยุทธ์นี้เพื่อป้องกัน Vampire Attack ได้

ข้อจำกัดในการถอนโทเค็น

ในกรณีที่คุณไม่ต้องการมีข้อจำกัดเรื่องการล็อกเหรียญ คุณสามารถใช้ข้อจำกัดในการถอนโทเค็นได้ การถอนเหรียญออกอาจจะถูกจำกัดด้วยปริมาณหรือช่วงระยะเวลา ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียสภาพคล่องจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้นได้

รางวัลที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ถึงแม้ว่าการใช้ข้อจำกัดต่างๆ อาจจะมีประสิทธิภาพที่ดี แต่ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าแนวคิดในการส่งเสริมสภาพคล่อง ตัวอย่างเช่น โปรโตคอลสามารถใช้การให้รางวัลที่แตกต่างกันไปตามระยะเวลาที่ผู้ใช้งานให้บริการสภาพคล่อง, จำนวนเงินที่พวกเขาบริจาค, หรือพารามิเตอร์อื่นๆ ด้วยวิธีนี้ โปรโตคอลเหล่านี้จะสามารถสร้างฐานผู้ใช้งานที่มีความจงรักภักดีได้ และทำให้มั่นใจได้ว่า ผู้ใช้งานจะสามารถสร้างผลกำไรได้จากการมีส่วนร่วมเป็นระยะเวลาที่นานยิ่งขึ้น

กลไกการลงคะแนนและการกำกับดูแล

การให้ผู้ใช้งานโปรโตคอลมีส่วนร่วมกับการกำกับดูแลจะทำให้พวกเขามีเหตุผลเพิ่มเติมที่จะอยู่กับโปรโตคอลต่อไป แนวทางนี้จะสนับสนุนให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่อสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะช่วยลดความต้องการที่จะเปลี่ยนไปใช้งานตัวเลือกอื่นๆ ได้

การทยอยให้สิทธิ์โทเค็น

โปรโตคอลสามารถเสนอรางวัลให้แก่ผู้ใช้งานด้วยการทยอยให้สิทธิ์ได้ ด้วยวิธีการนี้ รางวัลจะค่อยๆ ถูกมอบให้เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ใช้งานอยู่กับโปรโตคอลเป็นเวลานาน การทยอยให้สิทธิ์โทเค็นเป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ผู้ใช้งานมีความมุ่งมั่นต่อระบบนิเวศได้

โปรโตคอลและโปรเจกต์ต่างๆ จะป้องกันตัวเองจาก “แวมไพร์” ได้หรือไม่?

Vampire Attack ในโลก Crypto นั้นจะแตกต่างจากการหลอกลวงเอาข้อมูล (Phishing) หรือการแฮ็กแบบดั้งเดิม ตรงที่มันไม่สามารถหยุดยั้งได้ แต่อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ที่กล่าวถึงในบทความนี้จะสามารถช่วยป้องกันความพยายามที่จะสร้างความเสียหายให้กับแพลตฟอร์มยอดนิยมได้

นอกเหนือจากแนวทางที่กล่าวมาแล้ว โปรโตคอลควรที่จะให้ความสำคัญกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เกิดความจงรักภักดีแทนที่จะหันไปหาผู้โจมตี

คำถามที่พบบ่อย

Vampire Mining คืออะไร?

SushiSwap เป็นฟอร์คของ Uniswap ใช่หรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน