ตลาดสกุลเงินคริปโตนั้นให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแต่ก็คาดเดาไม่ค่อยได้ หากคุณยังเป็นเพียงแค่มือใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะรู้สึกสับสน เวลาที่เห็นราคาของเหรียญหรือโทเค็นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น มันก็อาจจะนำไปสู่อาการ FOMO ได้ ทำให้คุณหวังว่าจะรู้วิธีการเทรดในตลาด แต่การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อช่วยให้การเทรดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อินดิเคเตอร์บางตัวก็อาจจะมีความซับซ้อนเกินไป และอาจจะใช้เวลาฝึกฝนเป็นเวลานานกว่าจะนำไปใช้ได้จริง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการเรียนรู้การทำงานของ “Moving Averages”
“Moving Averages” เป็นตัวชี้วัดที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ซับซ้อนได้ อีกทั้ง พวกมันยังทำงานร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจถึงรายละเอียดต่างๆ ของ “Moving Averages” เช่น วิธีการทำงาน, ประเภทของ MA, และการนำไปใช้งานในการเทรดคริปโต เป็นต้น นอกจากนี้ เรายังจะไปดูวิธีการใช้งาน MA ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
กระดานเทรดคริปโตชั้นนำ
ดีที่สุดเรื่องอัตราดอกเบี้ย
![ดีที่สุดเรื่องอัตราดอกเบี้ย ดีที่สุดเรื่องอัตราดอกเบี้ย](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/07/YouHodler-Long.png)
ดีที่สุดเรื่องการเทรดแบบ Spot
![ดีที่สุดเรื่องการเทรดแบบ Spot ดีที่สุดเรื่องการเทรดแบบ Spot](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/05/Bybit-1.png)
ดีที่สุดเรื่องการเทรด Altcoins
![ดีที่สุดเรื่องการเทรด Altcoins ดีที่สุดเรื่องการเทรด Altcoins](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/05/Binance.png)
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “Moving Averages”
- Moving Averages ประเภทต่างๆ
- Moving Averages แบบไหนที่เหมาะกับ Cryptocurrency มากที่สุด
- การใช้ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” ในเชิงลึก: Golden Cross และกลยุทธ์อื่นๆ
- วิธีการใช้ 5-8-13 EMA: เครื่องมือเทรดที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
- ช่วงระยะเวลากับ Moving Average
- อินดิเคเตอร์ตัวไหนที่ใช้คู่กับ “Moving Averages” ได้ดีที่สุด
- Moving Averages: เครื่องมือพร้อมใช้งานสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- คำถามที่พบบ่อย
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “Moving Averages”
Moving Averages (MA) หรือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ จะช่วยให้เรามีข้อมูลและทำความเข้าใจในการเทรดสกุลเงินคริปโตได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตลาดคริปโตที่มีความผันผวน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตรวจสอบข้อมูลราคาในระยะยาว หรือแม้แต่ในระยะสั้นก็ตาม การใช้ Moving Average Indicator จะช่วยให้เราตรวจสอบค่าเฉลี่ยของราคาได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก
Moving Average Indicator คืออะไร?
Moving Average (MA) คือ Lagging Indicator (ตัวชี้วัดที่จะเกิดผลหลังจากมีข้อมูล) และ เครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่จะทำให้ข้อมูลราคาเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยการใช้ข้อมูลราคาในอดีต MA สามารถใช้งานได้ในหลายกรอบเวลา ขึ้นอยู่กับความต้องการในการเทรดของคุณ และ MA จะช่วยให้คุณเห็นภาพความเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ในช่วงระยะเวลาหนึ่งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Moving Averages ไม่ได้จำกัดการใช้งานอยู่แค่เพียงกับสกุลเงินคริปโตเท่านั้น:
ค่า MA จะแสดงผลออกมาเป็นเส้นค่าเฉลี่ยหนึ่งเส้น และสามารถใช้เพื่อคาดการณ์ถึงเทรนด์ของราคาในอนาคตได้ แต่ก็จะเป็นหลังจากที่เทรนด์ได้เริ่มต้นขึ้นไปแล้วเท่านั้น
วิธีง่ายๆ ในการทำความเข้าใจค่า MA ก็คือ การบวกราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ จากนั้น หารผลรวมดังกล่าวด้วยช่วงเวลานั้นๆ (จำนวนวันหรือชั่วโมงที่คุณต้องการจะดูค่าเฉลี่ย) ตัวอย่างเช่น Simple Moving Average (SMA) 5 วัน คือการบวกราคาปิดของ 5 วันที่ผ่านมา แล้วหาผลรวมนั้นด้วย 5
![](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-2.png)
ข้อมูลจะถูกแสดงผลออกมาเป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่เรียบง่ายเส้นหนึ่ง ที่สามารถใช้เพื่อระบุทิศทางการซื้อขายสินทรัพย์ได้
รู้หรือไม่ว่า? ในโลกของคริปโตจะไม่มีคอนเซปต์ของ “ราคาปิด” เนื่องจากตลาดคริปโตนั้นไม่เคยหลับใหล แต่จะเป็นการเลือกเวลาที่เฉพาะเจาะจงในช่วง 24 ชั่วโมงมา เพื่อใช้เป็นราคาปิดในรอบ 24 ชั่วโมงนั้นๆ เวลานี้อาจจะแตกต่างกันไปตามแพลตฟอร์มต่างๆ ขึ้นอยู่กับมาตรฐานเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC) ซึ่งจะคล้ายกับ GMT หรือเวลามาตรฐานกรีนิช
ในการคำนวณ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” ของสกุลเงินคริปโตในกรอบเวลาสั้นๆ เช่น รายชั่วโมง หรือ นาที ราคาซื้อขายล่าสุดในช่วงเวลาที่กำหนดจะถูกนำมาพิจารณาด้วย
ตัวอย่างอื่นๆ ของการทำงานของ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่”
วิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” คือ การดูว่าค่าเฉลี่ยเหล่านี้นำไปใช้ในการซื้อขาย Bitcoin อย่างไร หลังจากที่มีการปรับฐานจากระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021 ราคาของ BTC ก็ยังคงผันผวนอยู่ ในระหว่างเดือนมิถุนายน 2022 ถึงกรกฎาคม 2023 และต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2023 ราคามีการขยับขึ้นเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่มีเทรนด์ที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม หากเราดูที่ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” ในช่วง 200 วันที่ผ่านมา (SMA 200-day) ดูเหมือนว่าเทรนด์ขาลงนั้นได้ดำเนินมาจนถึงเดือนมีนาคม 2023 และเริ่มดีขึ้นหลังจากนั้น เราใช้ SMA 200 วัน เนื่องจากมันเป็นผลดีต่อการตัดสินใจในระยะยาว นอกจากนี้ คุณสามารถใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงเวลาที่สั้นลงได้
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมระดับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จึงควรค่าแก่การตรวจสอบ:
ราคาของ Bitcoin ได้ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันไปแล้ว! นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ในปี 2017 มันเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่เกิดขึ้น มันก็เป็นโอกาสในการซื้อที่ดีเป็นอย่างมาก
Lark Davis นักเทรดคริปโต: Twitter
สูตรของ Moving Average
ในการเทรด ปกติแล้ว เราจะใช้ Moving Averages อยู่ 2 ประเภท: Simple Moving Average (SMA) และ Exponential Moving Average (EMA)
สูตรคำนวนของแต่ละตัวมีดังนี้:
- SMA = (A1 + A2 + A3 + … + An) / n
โดยที่ A1, A2, …An แทนราคาปิดของทุกๆ ช่วงเวลาจนถึง n ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการคำนวณ SMA 7 วัน n ก็จะเท่ากับ 7 ในกรณีของ SMA นั้น ราคาทั้งหมดภายในช่วงเวลาจะมีการถ่วงน้ำหนักเท่ากัน
- EMA = (ราคาปิด – EMA ของวันก่อนหน้า) * (2/(ช่วงเวลาที่เลือก + 1)) + EMA ของวันก่อนหน้า
EMA จะไม่ได้ถ่วงน้ำหนักราคาเท่าๆ กัน แต่จะถ่วงน้ำหนักที่ราคาล่าสุดมากกว่า
ทำไมเราถึงต้องใช้ Moving Averages
นอกจากเรื่องที่ว่า MA เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้งานได้ง่ายแล้ว ต่อไปนี้คือเหตุผลอื่นๆ ที่เราควรใช้งาน MA:
- ใช้ทำหน้าที่เป็นระดับแนวรับและแนวต้านไปพร้อมๆ กับเส้นแนวโน้มและเส้นแนวนอนตามปกติ ซึ่งจะช่วยให้ทำการเทรดแบบกริด (Grid Trading) และตั้งจุด Stop Loss ได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยในการระบุเทรนด์ ราคาซื้อขายที่อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในระยะยาวจะถืออยู่ในเทรนด์ขาขึ้น หรือ เกือบจะเข้าสู่เทรนด์ขาขึ้น
- เป็นสัญญาณในการเทรดให้กับนักเทรด เมื่อใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตั้งแต่ 2 เส้นขึ้นไป สัญญาณเหล่านี้อาจจะเป็นได้ทั้ง Golden Cross หรือ Death Cross
นี่คือทวีตจากเดือนพฤษภาคมที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ Bitcoin:
Moving Averages ประเภทต่างๆ
“ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” นั้นมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละตัวก็มีประโยชน์ในสถานการณ์การเทรดที่แตกต่างกัน
Simple Moving Average (SMA)
อย่างที่อธิบายไปแล้วในส่วนของสูตรการคำนวน SMA จะให้น้ำหนักกับข้อมูลราคาทั้งหมดในทุกช่วงเวลาเท่าๆ กัน หากคุณต้องการตรวจสอบเทรนด์ของสินทรัพย์ในระยะยาว การใช้ SMA จะเหมาะสมมากกว่า เนื่องจากเป็นการเรียกใช้ข้อมูลแบบไม่ได้เน้นที่ส่วนใดเป็นพิเศษ SMA จะไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะสั้น และใช้งานได้ง่าย
Exponential Moving Average (EMA)
SMA อาจจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาล่าสุดได้ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากมันให้น้ำหนักกับทุกจุดราคาเท่าๆ กัน ในทางตรงกันข้าม EMA จะให้ความสำคัญกับข้อมูลล่าสุด ทำให้มันเหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้น เช่น Day Trading, Scalping, และ Swing Trading
Weighted Moving Average (WMA)
EMA จะให้น้ำหนักข้อมูลล่าสุดแบบเอกซ์โปเนนเชียล ในขณะที่ Weighted Moving Average (WMA) จะให้น้ำหนักข้อมูลใหม่มากกว่าข้อมูลเก่า และนี่คือลักษณะของสูตรคำนวนของ WMA:
WMA = (P15 + P24 + P33 + P42 + P5*1) / (5+4+3+2+1)
โดยที่
- P1 = ราคาวันล่าสุด
- P2 = ราคาของวันก่อน P1
- P3, P4, P5 = ราคาของวันที่ 3, 4 และ 5
จะเห็นได้ว่า P1 มีน้ำหนักมากที่สุด นั่นก็คือ 5 ในขณะที่ P5 มีน้ำหนักน้อยที่สุด ซึ่งก็คือ 1
WMA เป็นวิธีการที่จัดลำดับความสำคัญของราคาล่าสุด แต่มีความไวน้อยกว่า EMA ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการรับสัญญาณการซื้อขายที่ผิดพลาดได้
โดยสรุปแล้ว SMA คือเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้วิเคราะห์ตลาดในระยะยาว ในขณะที่ EMA และ WMA มีไว้ใช้สำหรับสถานการณ์การเทรดที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
![ตัวอย่างของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในประเภทต่างๆ](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-3.png)
Moving Averages แบบไหนที่เหมาะกับ Cryptocurrency มากที่สุด
การเทรดในตลาดคริปโตนั้นจะเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่แตกต่างกันมากมาย แต่ไม่ต้องกังวลไป คุณสามารถใช้เส้น MA ที่แตกต่างกันเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของคุณได้
การใช้ “Moving Averages” สำหรับ Scalping
การซื้อขายในระยะสั้น หรือ Scalping คือ การเทรดระยะสั้น โดยจะเน้นการมองหาโอกาสในการทำกำไรผ่านการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย และความผันผวนในตลาด ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง และเพื่อให้เทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ MA ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็จะเหมาะสมที่สุด 5-8-13 Period EMA จะดีที่สุดเนื่องจากมันจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เล็กน้อยที่สุดได้
![ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สำหรับการเทรดแบบ Scalping โดยการใช้ 5-8-13 Period EMA](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-4.png)
นี่คือกลยุทธ์บางส่วนที่เหล่า Scalper ใช้เพื่อช่วยให้ทำการเทรดได้ดียิ่งขึ้น:
- ใช้การตัดกันของราคา — แท่งเทียนระยะสั้นที่ตัดขึ้นไปเหนือเส้น MA ระยะสั้น อาจจะเป็นสัญญานของขาขึ้น
- ใช้การตัดกันของเส้น MA — เมื่อเส้น MA ระยะสั้น เช่น 5-Period EMA ตัดขึ้นไปหรือเส้น EMA ที่นานกว่า เช่น 8-Period EMA ก็อาจจะถือได้ว่าเป็นสัญญาขาขึ้น
การใช้ “Moving Averages” สำหรับ Day Trading
กลยุทธ์การเทรดรายวัน (Day Trading) จะแตกต่างจากการเทรดแบบ Scalping เนื่องจากนักเทรดต้องมองหาสัญญาณการเทรดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เป้าหมายคือการใช้ค่า EMA ระยะสั้น เช่น 10 หรือ 20-Period เพื่อระบุเทรนด์ล่าสุดหรือโอกาสในการกลับตัว เส้น MA ระยะสั้นนี้สามารถใช้ร่วมกับ EMA หรือ SMA ระยะยาว เช่น 50 หรือ 200-Period เพื่อช่วยให้เข้าใจสภาวะของตลาดโดยรวมได้ดียิ่งขึ้น
หมายเหตุ: คำว่า “Period” จะหมายถึงไทม์ไลน์ของกราฟนั้นๆ เช่น 200-Period MA ในกรอบเวลารายวัน ก็จะหมายความว่าจะเป็นการใช้ช่วงระยะเวลา 200 วันมาประกอบการพิจารณา
![กลยุทธ์การเทรดรายวัน (Day Trading) โดยการใช้ประโยชน์จากเส้น Moving Averages](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-5.png)
โปรดจำไว้เสมอว่า คุณสามารถใช้เส้น MA ต่างๆ ร่วมกันได้ในเกือบทุกกรอบเวลา
ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ Day Trading ด้วยการใช้ค่า MA ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด:
- ใช้เส้น MA เป็นระดับแนวระดับและแนวต้านแบบไดนามิค (ระดับที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา)
- ใช้การตัดกันของเส้น MA เพื่อกำหนดสภาวะกระทิง (ขาขึ้น) หรือหมี (ขาลง)
นี่คือตัวอย่างของวิธีการใช้เส้น MA 50-วัน เป็นเหมือนแนวรับ:
การใช้ “Moving Averages” สำหรับ Swing Trading
สำหรับ Swing Trading จะหมายถึงการถือครองสินทรัพย์ไว้เป็นเวลาหลายวันหรือสัปดาห์ เพื่อจับการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เหมาะสม 50 หรือ 200-Period MA จะมีประโยชน์มากที่สุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็นว่าเส้น MA ทั้ง 2 เส้นพุ่งสูงขึ้น นั้นอาจจะหมายถึงเทรนด์ขาขึ้นกำลังจะเริ่มขึ้น และเนื่องจากการ Swing Trading จะเป็นการเทรดในช่วงเวลาหลายวัน คุณควรจะใช้ SMA แทน EMA เพื่อให้ได้สัญญาณการเทรดที่เหมาะสมที่สุด
![แนวทางการใช้งาน Moving Averages สำหรับการเทรดแบบ Swing](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-6.png)
สำหรับแนวทางในการเทรด ให้ทำตามแนวทางเดียวกับ Day Trading โดยการใช้เส้น MA เป็นระดับแนวรับและแนวต้าน หรือการใช้เส้น MA หลายเส้นเพื่อหาจุดตัดกัน
การใช้ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” ในเชิงลึก: Golden Cross และกลยุทธ์อื่นๆ
คุณอาจจะเห็นว่าเรามีการพูดถึงการตัดกันของเส้น MA ไปบ้างแล้ว มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใด และต่อไป เราจะไปลงลึกกันว่า มันมีความหมายต่อการเทรดคริปโตของคุณอย่างไร
Golden Cross และ Death Cross
Golden Cross ก็คือการที่เส้น MA ระยะสั้นเคลื่อนผ่านเส้น MA ระยะยาวไปอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากสภาวะตลาดหมีไปสู่ตลาดกระทิง เป็นข้อมูลที่บ่งบอกว่าผู้ซื้อเริ่มเข้ามามีอำนาจมากขึ้น หากคุณต้องการที่จะลงทุน ที่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะซื้อสินทรัพย์แล้วถือมันเอาไว้
![Golden Cross สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากสภาวะตลาดหมีไปสู่ตลาดกระทิง](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-7.png)
สิ่งที่ตรงกันข้ามกับเหตุการณ์ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ จะถูกเรียกว่า Death Cross ซึ่งจะเป็นการที่เส้น MA ในระยะยาววิ่งตัดผ่านเส้น MA ในระยะสั้นลงมา แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของขาลง ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการขายสินทรัพย์ออกไป
![Death Cross สัญญาณขาลงที่จะเป็นการที่เส้น MA ในระยะยาววิ่งตัดผ่านเส้น MA ในระยะสั้นลงมา](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-8.png)
วิธีการใช้ 5-8-13 EMA: เครื่องมือเทรดที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
หากคุณเป็นนักเทรดในระยะสั้นที่ต้องการทำการเทรดอย่างรวดเร็ว หรือมองหาสัญญาณการซื้อขายในเชิงรุก และโอกาสในการเก็งกำไร การใช้งาน 5-8-13 EMA ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้ถูกเลือกขึ้นมาแบบสุ่มๆ แต่เป็นตัวเลขฟีโบนัชชีที่สามารถทำงานเสริมกันได้อย่างดี โดยเฉพาะเมื่อมันต้องทำหน้าที่เป็นแนวรับหรือแนวต้านในระยะสั้น
หากต้องการใช้งานมันอย่างมีประสิทธิภาพ ให้มองหาการวิ่งตัดกันของเส้น MA เหล่านี้ เมื่อเส้น 5-Period EMA — ซึ่งเป็นเส้นที่ให้ความสำคัญกับราคาล่าสุด — วิ่งผ่านขึ้นไปเหนือเส้น 8-Period EMA และ 13-Period EMA ก็จะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสภาวะกระทิง ในทางกลับกัน หากเส้น 5-Period EMA ตกลงไปอยู่ต่ำกว่าเส้น EMA ทั้ง 2 เส้น นั่นอาจจะหมายถึงการเทขายทั่วทั้งตลาดก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม แนวทางการใช้ 5-8-13 EMA จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาดที่มีเทรนด์ที่ชัดเจน มันอาจจะไม่ได้ให้สัญญาณที่แม่นยำมากนักในตลาดที่กำลังชะลอตัว
ช่วงระยะเวลากับ Moving Average
คุณเคยเปรียบเทียบเส้น MA ที่ระยะสั้น เช่น เส้น 10-Period หรือ 20-Period MA กับเส้น MA เส้นระยะยาว เช่น เส้น 100-Period หรือ 200-Period MA หรือไม่? คุณจะเห็นได้ว่า เส้น MA ระยะสั้นจะมีการขยับขึ้นและลงมากกว่าเส้น MA ระยะยาว เนื่องจากเส้น MA ในระยะสั้นนั้นมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคามากกว่า
และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมช่วงระยะเวลาจึงมีความสำคัญ หากคุณต้องการซื้อขายและได้รับสัญญาณอย่างรวดเร็ว การใช้ 50-Period MA หรือต่ำกว่า ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และคุณอาจจะเลือกใช้ EMA แทนที่จะเป็น SMA เนื่องจากความอ่อนไหวต่อราคาที่มากกว่า แต่หากคุณต้องการที่จะดูตลาดในระยะยาว คุณควรจะเลือกช่วงเวลาที่ยาวนานกว่า
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ ช่วงระยะเวลาของ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” นั้นจะไม่เหมือนกับกรอบเวลาของกราฟที่คุณใช้ คุณสามารถใช้เส้น MA ใดๆ ก็ได้เพื่อประเมินสภาวะของตลาด โดยไม่ต้องคำนึงถึงกรอบเวลาของกราฟ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปิดกราฟ 4 ชั่วโมง และยังคงใช้เส้น 50-Period และ 200-Period MA เพื่อมองหาจุดตัดที่อาจจะเกิดขึ้น (ในกรณีนี้ Period จะเท่ากับ 4 ชั่วโมง)
อินดิเคเตอร์ตัวไหนที่ใช้คู่กับ “Moving Averages” ได้ดีที่สุด
ถึงแม้ว่าเส้น MA นั้นค่อนข้างที่จะน่าเชื่อถืออยู่แล้ว แต่การใช้มันร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ ก็จะช่วยให้ได้สัญญาณที่แม่นยำยิ่งขึ้นไปอีก นี่คืออินดิเคเตอร์บางส่วนที่ทำงานร่วมกับเส้น MA ได้เป็นอย่างดี:
Relative Strength Index (RSI)
ในฐานะที่เป็น Momentum Oscillator (กราฟเส้นที่ใช้วัดโมเมนตัมของราคาสินทรัพย์) RSI สามารถทำงานร่วมกับ MA ได้ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก และนี่คือกลยุทธ์การเทรดที่คุณอาจจะนำไปประยุกต์ใช้ได้:
หากต้องการตรวจสอบว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ ให้ลองดูว่าราคาอยู่สูงกว่าเส้น MA ที่กำหนดไว้ (เช่น เส้น MA 50 วัน) หรือไม่ ถ้าใช่ นั่นหมายความว่าตลาดอาจจะอยู่ในสภาวะขาขึ้น และเพื่อยืนยันสิ่งนี้ ให้ดูว่า RSI อยู่ในช่วง Oversold หรือต่ำกว่า 40 หรือไม่?
![การใช้งานอินดิเคเตอร์ Relative Strength Index ร่วมกับเส้น Moving Averages](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-9.png)
คุณยังสามารถใช้สัญญาณ RSI Divergence เพื่อยืนยันสัญญาณขาขึ้น (Bullish) และ ขาลง (Bearish) ที่แม่นนำยิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้ RSI ยังสามารถใช้ยืนยันการเกิด Death Cross หรือ Golden Cross ซึ่งจะช่วยให้ยืนยันการกลับตัวของเทรนด์ได้อีกด้วย
ต่อไปนี้คือไอเดียการนำ RSI ไปใช้งานที่น่าสนใจ (โปรดใช้ดุลยพินิจก่อนตัดสินใจ):
Volume-Weighted Average Price
นี่คืออินดิเคเตอร์ที่จะโฟกัสในการเทรดแบบ Scalping ซึ่งทำงานได้ดีเมื่อใช้ร่วมกับแนวทางการเทรดโดยใช้ 5-8-13 EMA หากต้องการใช้งาน คุณเพียงแค่ต้องตรวจสอบว่า 5-Period EMA วิ่งตัดผ่านเส้นอื่นๆ ขึ้นไปหรือไม่ ซึ่งจะเป็นว่าเป็น Bullish Crossover (การวิ่งตัดกันเป็นขาขึ้น)
![วิธีการใช้งานเส้น Moving Averages ร่วมกับ Volume-Weighted Average Price](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-10.png)
หากมันเกิดขึ้น การเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้น VWAP จะเป็นการยืนยันถึงสัญญาการเทรดที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตรงกันข้ามกันจะเกิดขึ้นเมื่อเส้น 5-Period EMA วิ่งตัดลงต่ำกว่าเส้นอื่นๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อราคาอยู่ต่ำกว่าเส้น VWAP เท่านั้น
Bollinger Bands
Bollinger Bands คือตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าราคาของสกุลเงินคริปโตมีการเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด โดยจะใช้ 20-Period SMA เป็นจุดอ้างอิง ซึ่งจุดอ้างอิงเหล่านี้สามารถใช้เพื่อคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในอนาคตได้ เช่น หากราคาขยับเข้าไปใกล้แถบด้านบน ราคาก็อาจจะตกลง เพราะมันอยู่ในโซน Overbought หรือเช่นเดียวกัน หากมันขยับลงไปในโซนด้านล่าง ซึ่งเป็นโซน Oversold นั่นอาจจะบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของราคา
![ตัวอย่างการใช้งาน Moving Averages ร่วมกับอินดิเคเตอร์ Bollinger Bands](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-11.png)
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่เน้นการใช้ Bollinger Bands นี่คือเธรดที่คุณสามารถลองศึกษาดูได้:
Moving Average Convergence-Divergence (MACD)
MACD เป็น เครื่องมือที่ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อตรวจสอบหาเทรนด์ MACD จะถูกคำนวนจากส่วนต่างของเส้น 26-Period EMA และเส้น 12-Period EMA เมื่อคำนวนออกมาแล้วก็จะได้เป็นเส้น MACD จากนั้น เส้นสัญญาณ (Signal Line) ก็จะถูกสร้างขึ้นโดยการคำนวนจากเส้น 9-Period EMA ของ เส้น MACD
![](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2023/09/Moving-Averages-12.png)
การรวมตัวกันอย่างซับซ้อนนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกต่อไปนี้แก่เรา:
- เมื่อเส้น MACD ข้ามขึ้นไปเหนือเส้น Signal นั่นอาจจะเป็นสัญญาณการเทรดขาขึ้น
- เมื่อเส้น MACD ตกลงมาใต้เส้น Signal นั่นอาจจะเป็นสัญญาณการเทรดขาลง
- เพื่อการตรวจสอบยืนยันเพิ่มเติม คุณสามารถเพิ่มเส้น 200-Period และ 50-Period EMA ลงไปบนกราฟได้
Moving Averages: เครื่องมือพร้อมใช้งานสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
จากข้อมูลต่างๆ ที่เราได้อธิบายไป คุณจะเห็นได้ว่าเส้น “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” เป็นตัวชี้วัดที่ใช้งานในการเทรดคริปโตได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือ นักเทรดที่มีประสบการณ์สูงก็ตาม เครื่องมือเหล่านี้มีประโยชน์ทั้งการใช้มองภาพรวมในระยะยาว หรือการเทรดในระยะสั้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การใช้งานเส้น MA เพื่อการเทรดคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้งานร่วมกับอินดิเคเตอร์ตัวอื่นๆ นั้นจำเป็นจะต้องมีการฝึกฝนด้วยเช่นกัน และมันก็ไม่สามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น มันจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแนวทางในการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมด้วย ไม่ว่าคุณจะทำการเทรดในรูปแบบใดก็ตาม
คำถามที่พบบ่อย
SMA หรือ EMA แบบไหนที่ดีกว่ากัน?
Moving Averages แบบไหนที่ไหนที่ใช้งานได้ดีกว่ากัน?
“ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” มีกี่ประเภท? อะไรบ้าง?
สูตรของการคำนวน “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” เป็นอย่างไร?
Moving Average Indicator คืออะไร?
ทำไมเราจึงต้องใช้ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่”?
Moving Average เป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีหรือไม่?
Trusted
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์
![Akhradet-Mornthong-Morn.jpg](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2024/05/Akhradet-Mornthong-Morn.jpg)