สํานักพิมพ์ตํารา Pearson Plc. หวังที่จะใช้โทเค็น NFT และเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อทํากําไรจากตลาดมือสอง
ตำราเรียนของ Pearson มักจะถูกขายต่อหลายครั้งให้กับนักเรียนคนอื่น ๆ โดย Pearson คาดการณ์ว่าจะมีผลกําไร ณ Point of Sale จากการใช้ NFT และบล็อกเชน Andy Bird ซีอีโอหวังว่าบริษัทจะสามารถตัดยอดขายมือสองเหล่านี้ได้เนื่องจากหนังสือเรียนจํานวนมากไปอยู่ในรูปแบบดิจิทัลและย้ายไปสู่เวอร์ชันออนไลน์
“ในโลกอะนาล็อก หนังสือเรียนของ Pearson ถูกขายต่อได้ถึงเจ็ดครั้งและเราจะมีส่วนร่วมในการขายครั้งแรกเท่านั้น” Bird กล่าว “การเปลี่ยนไปใช้สื่อรูปแบบดิจิทัลช่วยการซื้อขายมือสอง และเทคโนโลยีอย่างบล็อกเชนและ NFT ช่วยให้เราสามารถมีส่วนร่วมในการขายไอเท็มนั้น ๆ ในทุกมือที่ส่งต่อไป” อดีตผู้บริหารของดิสนีย์รายนี้กล่าว
เมื่อปีที่แล้วกลุ่มแบรนด์แฟชั่นได้ร่วมมือกันเพื่อนําเสนอโซลูชันบล็อกเชนสําหรับลูกค้าที่กําลังมองหาสินค้าของแท้คุณภาพดี แม้ว่าโซลูชันบล็อกเชนจะมีจุดประสงค์หลักเพื่อต่อสู้กับการปลอมแปลงสินค้า แต่ก็อํานวยความสะดวกในการขายต่อสินค้าฟุ่มเฟือยที่น่าเชื่อถือเช่นกัน
การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล
แม้ว่ามูลค่าของตลาด NFT จะดิ่งลงมาตั้งแต่การเก็งกําไรที่เฟื่องฟูในช่วงที่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ แต่ Pearson และคู่แข่งก็กําลังหาวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ตลาดหนังสือเป็นเล่ม ซึ่งชื่อของหนังสือแต่ละเล่มอาจมีราคาสูงกว่า 100 ปอนด์นั้นกําลังเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดดิจิทัล ซึ่งมีการเช่าหนังสือเรียนออนไลน์ผ่านการสมัครสมาชิกแทน
นอกจาก NFT และบล็อกเชนแล้ว Bird ยังกล่าวว่าบริษัทกําลังใช้แนวทางแบบองค์รวมในเทคโนโลยีใหม่นี้ “เรามีทั้งทีมที่ทํางานเกี่ยวกับผลกระทบของ Metaverse และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง” Bird กล่าว
นอกเหนือจากการแสดงผลลัพธ์ล่วงหน้าการประมาณการของนักวิเคราะห์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Pearson ประกาศว่าจะประหยัดต้นทุนได้ 100 ล้านปอนด์ ทั้งยังเปิดตัวการทบทวนธุรกิจการเรียนรู้เสมือนจริงที่เรียกว่า OPM ในเชิงกลยุทธ์
Trusted
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ
