ดูเพิ่มเติม

Whale Terra เท UST ทันทีที่เหรียญร่วง

1 min
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

สรุปย่อ

  • รายงานใหม่ของ Jump Crypto เปิดเผยบทบาทของ Whale ที่ทำให้ UST สูญเสียหมุด
  • รายงานกล่าวว่า นักลงทุนรายย่อยซึ่งถือครอง UST ต่ำกว่า 10,000 เหรียญหันมาเพิ่มฐานะสินทรัพย์ แม้จะเกิดการสูญเสียหมุด
  • และยังกล่าวว่ากระเป๋าเงิน 7 ใบที่ Nansen กล่าวถึงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่ขยายขึ้น
  • Kyber Network: Swap, Earn, and Build in DeFi Without Limits Read now!
  • Promo

Jump Crypto ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการล่มของ TerraUSD (UST) โดยเปิดเผยว่า แม้ Whale จะออกจากตำแหน่งในอัลกอริธึม Stablecoin แล้ว แต่นักลงทุนรายย่อยก็ยังคงซื้อเหรียญกันอยู่

Jump Crypto ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสกุลเงินดิจิทัลของ Jump Capital เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหญ่ของ Terra ที่ล่มไปแล้ว รายงานนี้เป็นคำแถลงต่อสาธารณะฉบับแรกนับตั้งแต่การล่มของบล็อกเชนนี้

ทางบริษัทออกมาเปิดเผยว่า รายงานดังกล่าวอิงตามธุรกรรมบล็อกเชนที่มีอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายใหญ่หลายรายที่มีเงินมากกว่า 1 ล้าน UST ดอลลาร์ ได้ล้างบัญชีของตนตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งทำให้เหลือแต่โทเค็นไร้ค่าไว้ให้กับนักลงทุนรายย่อย

เป็นเรื่องน่าสนใจที่นักลงทุนรายย่อยซึ่งถือครอง UST ต่ำกว่า 10,000 เหรียญหันมาเพิ่มฐานะในช่วงวันที่ 6 พฤษภาคม ถึง 9 พฤษภาคม แต่ผู้ฝากเงินรายใหญ่กลับหันมาลดฐานะ UST ในโปรโตคอล Terra’s Anchor ลงเกือบ 15% เมื่อ UST สูญเสียหมุดเป็นครั้งแรกในวันที่ 6 พฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า การที่นักลงทุนรายย่อยเพิ่มฐานะขึ้นมาก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับการไหลออก เนื่องจาก “ขนาดฐานะโดยรวมของพวกเขายังมีขนาดที่เล็กกว่าเมื่อเทียบกับขนาดฐานะของผู้ฝากขนาดกลางและขนาดใหญ่”

การอ้างถึงกระเป๋าเงิน 7 ใบ ‘เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่ขยายขึ้น’

รายงานนี้ยังยอมรับรายงานของแพลตฟอร์ม Nansen เมื่อก่อนหน้านี้ด้วย การวิเคราะห์ของ Nansen อ้างว่าการล่มของบล็อกเชน Terra สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังกระเป๋าเงินทั้ง 7 ใบ ซึ่งรวมไปถึงกระเป๋าที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ให้บริการกู้ยืม Crypto อย่าง Celsius ด้วย

จากข้อมูลของ Jump Crypto กระเป๋าเงิน 7 ใบที่ Nansen เน้นย้ำนั้น “เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่ขยายขึ้น” ซึ่งผลักดันการไหลออกใน Anchor ในช่วงที่ UST เริ่มสูญเสียหมุด

กระเป๋าเงินใบหนึ่งก่อให้เกิดการล่มโดยเฉพาะหลังมีการลดฐานะ UST ลงประมาณ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 7 พฤษภาคม หลายคนเชื่อว่ากระเป๋าเงินดังกล่าวทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องที่นำไปสู่การล่มสลายของเครือข่ายในที่สุด

มีการคาดเดาว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกระเป๋าเงินใบนั้น โดยที่หลายคนบอกว่าเป็นของบริษัทซื้อขายแลกเปลี่ยน Crypto แต่รายงานกล่าวว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่กระเป๋าเงินใบนั้นจะเกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยน เมื่อตัดสินจากประวัติของกระเป๋าเงินใบนั้นแล้ว

รายงานไม่ได้กล่าวถึงบทบาทของ Luna Foundation Guard (LFG) ในการล่มครั้งนี้ Kanav Kariya ประธานบริษัท Jump Trading เป็นคณะกรรมการกำกับดูแลขององค์กร ทาง LFG พยายามที่จะรักษาเสถียรภาพของ UST ด้วยการขาย Bitcoin ที่สำรองไว้ แต่ความพยายามนั้นมาช้าเกินกว่าที่จะรักษาระบบนิเวศเอาไว้ได้

การล่มของบล็อกเชน Terra เมื่อเดือนที่แล้วได้กวาดล้างอุตสาหกรรมไปประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกทำให้รุนแรงขึ้นอีกจากการเทขายในตลาด Crypto ที่มากขึ้น ตั้งแต่นั้นหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกได้เพิ่มการตรวจสอบ Terraform และอุตสาหกรรม Crypto เป็นวงที่กว้างขึ้น

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ

ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน