Wall Street Journal รายงานเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนว่า Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้ง FTX ได้รับเงิน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการระดมทุนรอบ 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐสําหรับแพลตฟอร์มคริปโตรายนี้ซึ่งล้มละลายในเดือนตุลาคม 2021

ตามรายงาน เผยว่า SBF อ้างว่าการชําระเงิน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นการชําระเงินคืนบางส่วนสําหรับเงินที่เขาใช้ไปในการซื้อหุ้นของ Binance ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ในเวลานั้น เงินทุนที่ระดมมาได้มีไว้เพื่อขยายธุรกิจ FTX มีส่วนร่วมกับหน่วยงานกํากับดูแลมากขึ้นและปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน

นักลงทุนเรียกการระดมทุนของ FTX รอบเดือนตุลาคมว่า “Meme Round”

WSJ รายงานว่าการระดมทุนในเดือนตุลาคม 2021 ถูกเรียกว่า “รอบมีม” โดยนักลงทุนอย่าง Sequoia ทั้งนี้ ทางแพลตฟอร์มคริปโตระดมทุนได้ 420.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากนักลงทุน ทำให้แพลตฟอร์มมีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ การระดมทุนเพิ่มอีก 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี 2022 ทําให้การประเมินมูลค่าอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีบันทึกว่า SBF ใช้จ่ายเงินอย่างไร งบการเงินที่ตรวจสอบแล้วของ FTX สําหรับปี 2021 ระบุว่าบริษัทเก็บเงินในนามของบุคคลที่เกี่ยวโยงกันเพื่อ “ความได้เปรียบในการดําเนินงาน”

 John Ray ซีอีโอคนใหม่ของ FTX กล่าวว่าเขาได้พบกับสถานการณ์ที่ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ในการยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อเร็วๆ นี้ เขากล่าวว่าทีมของเขาไม่ได้ระบุว่าใครทํางานในแพลตฟอร์มคริปโต เนื่องจากไม่มีบัญชีรายชื่อบริษัท นอกจากนี้ มีรายงานว่า SBF ทําการตัดสินใจทางธุรกิจที่สําคัญโดยใช้ข้อความลบอัตโนมัติ

SBF ให้ทุนสนับสนุนการบริจาคทางการเมืองของเขาด้วยเงินจำนวน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐจริงหรือไม่

การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวยังเพิ่มเข้าไปในรายการหลักฐานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อ Sam Bankman-Fried ประเด็นทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงการจัดการทางการเงินที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ ซึ่งนําไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรของเขา

ด้วยเงินจากการขายหุ้นของเขา นอกจากนี้ SBF สามารถจัดหาเงินทุนให้กับการบริจาคทางการเมืองหลายครั้งในขณะที่เขาพยายามเข้าซื้ออิทธิพลจากวอชิงตันใช้จ่ายเพื่อการกุศลและซื้อหุ้น Robinhood จำนวน 7.6%

ตามรายงานที่มีเผยแพร่ SBF เป็นผู้บริจาคทางการเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองให้กับพรรคเดโมแครตในช่วงรอบการเลือกตั้งปี 2021-2022

ทนายความของ SBF ละทิ้งเขา

ในขณะเดียวกัน Watcher Guru รายงานว่าทนายความของ SBF Paul Weiss หยุดให้บริการเขาในฐานะลูกค้า

ทนายความคริปโตยอดนิยม Jeremy Hogan กล่าวว่า:

โอกาส 99% ที่ทนายความของ SBF ทิ้งเขาเพราะสิ่งแรกที่ทนายความแนะนําเขาคือ “อย่าพูดกับใครก็ตาม” และสิ่งแรกที่เขาทําคือคุยกับใครสักคน นี่อาจเป็นคนในสื่อในบรรทัดที่ถูกบันทึกไว้

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้งซึ่งน่าอับอายได้โพสต์ข้อความบน Twitter ว่าด้วยข้อความที่คลุมเครือ สิ่งนี้ทําให้ซีอีโอคนใหม่ของ FTX ระบุว่า SBF ไม่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มคริปโตอีกต่อไป SBF อยู่ภายใต้การตรวจสอบด้านกฎระเบียบอันยิ่งใหญ่สําหรับบทบาทในการล่มสลายของ FTX

คลิกที่นี่สําหรับบทวิเคราะห์ Bitcoin (BTC)  ล่าสุดของ BeInCrypto