วัฎจักรของตลาดคริปโต 4 แบบ นั้นแปลเปลี่ยนไปตามฤดูของมัน แม้ว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา แต่คุณจะต้องสร้างพอร์ตที่เตรียมตัวรับมือได้ในทุกช่วงเวลาของตลาด บางเดือน Bitcoin อาจจะรุ่ง บางเดือน Altcoin อาจจะ To the moon บางทีคุณอาจจะต้องอยู่ในตลาดให้ได้นานมากเพียงพอเพื่อที่จะเห็นตลาดเลือดสาดซักครั้งนึง จะได้รู้ว่ามันไม่ได้โลกสวยอย่างเดียว
ในยุค 70’s นักลงทุนชาวฝรั่งเศษที่ชื่อ Charles Gave ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับ แผนผัง 4 แบบสำหรับอธิบายเศรษฐศาสตร์ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่ประเสริฐในการทำความเข้าใจการบริหารกองทุน ซึ่งผมมองว่านี้คือสิ่งที่เยี่ยมยอดสำหรับการแก้ปัญหาและสามารถอ้างอิงได้ ผมจะขอนำมาใช้ ณ ที่นี้
ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร มันจะไม่พ้น 4 รูปแบบนี้

มันจะมีอยู่ 4 แบบเพื่ออธิบายว่าตลาดจะเป็นอย่างไรบ้าง และมันจะเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะถูกทดแทนด้วยอีกรูปแบบหนึ่ง
- ในตลาด Winner-takes-all market – นี้เป็นรูปแบบที่โปรเจ็คใหญ่นั้นจะใหญ่มากยิ่งขึ้น ถ้าเราอยากจะเปรียบเทียบตลาดคริปโตกับ Market caps, ผู้ชนะสูงที่สุดอาจจะเก็บกำไรมากขึ้นเรื่อยๆทำให้เหรียญอื่นค่อยๆตายลงไป ถ้าคุณเชื่อว่าตลาดคริปโตจะเป็นเช่นนี้ในอนาคต ก็จงถือเหรียญ Bitcoin อย่างเดียว
- ในตลาด Challenger market – ตัวกลางเริ่มจะมาแซงตัวใหญ่ เป็นรูปแบบตลาดของโปรเจ็คเล็กๆแต่เก่งกว่า สามารถมาแย่งส่วนแบ่งตลาดใหญ่ไปได้ ซึ่งถ้าคุณเชื่อเช่นนี้คุณก็จะแบ่งสัดส่วนไปลงใน Altcoin มากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มลดได้ตามความชอบ
- ในตลาด Crypto bear market – เป็นรูปแบบตลาดที่ตกลงทั้งหมดทั้งเล็กและใหญ่ คุณควรจะถือแต่เหรียญที่มีคุณค่า และ Stablecoin เพื่อรอวันที่ตลาดจะกลับตัวอีกครั้ง คุณจะได้สามารถเก็บกำไรต่อไปได้
- ในตลาด Generalized Panic – เป็นช่วงที่ตลาดนั้น Panic sale คุณไม่ควรที่จะอยู่ในตลาดนี้หรือถ้าจะลงทุนให้หยุดความคิดไว้ก่อน คนกำลังย้ายเงินทุนหนีจากตลาดนี้ แม้แต่ Stable coin ก็ยังจะโดนเทขาย หากคุณยังมี Asset อยู่ในคริปโต ก็จงทนถือไว้อย่างน้อยเป็นเวลา 3-12 เดือน
ผมรู้ดีว่าหลายๆคนอาจมองว่า Bitcoin เป็น Asset ที่เป็น Store of value อย่างดี แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น มันไม่มี liquidity ที่สูงมากพอที่จะคงมูลค่าในทุกระยะเวลาได้ ถ้าไม่มี liquidity คนซื้อขาย มันก็จะกลายเป็น Risk Asset ไม่ต่างจากทอง, Bond ซึ่งคุณไม่สามารถขาย Bitcoin ได้ในทุกขณะเวลา เพราะจะขาดทุน เหมือนทองและแสมตป์ ในตลาดที่เละ ‘เงิน Fiat’ อาจจะเป็นสิ่งที่คงมูลค่าที่สุด เงินยังมีมูลค่าอยู่ในขณะที่ทุกอย่างแพงขึ้น
วัฎจักรเหล่านี้ไม่ได้อยู่แค่ในตลาดคริปโต แต่มันเกิดขึ้นกับทุกตลาด มันเกิดแบบนี้วนซ้ำมาไม่กี่กี่สิบรอบแล้ว
หากเราไม่มีอคติและมองดูตลาดนี้อย่างเข้าใจ เราจะเข้าใจว่ามันยากมากที่จะคาดการณ์ว่าตลาดจะเป็นรูปแบบอย่างไรต่อไป และอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นอีก สิ่งที่เรารู้มีเพียงตอนนี้ตลาดเป็นอย่างไรแล้ว แล้วถ้าเราตามตลาดไปเรื่อยๆเรามีแต่จะแย่ลง
ผู้ที่มองโลกในแง่ดีสุดๆ คิดว่าตลาดมีอยู่รูปแบบเดียว พวกเขาจะต้องสูญเสียเงินของพวกเขาไป เราจะต้องสร้าง Portfolio ที่สามารถรองรับได้ในทุกสถานการณ์ หรือกระจายความเสี่ยงให้เหมาะสมกับตัวเอง
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
