ธุรกิจที่อยู่บนข้อมูลของ User วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีทำกำไรของ Web2.0 กัน, Web2.0 นั้นสร้างขึ้นเพื่อให้ User มาสร้างคอนเท้นต์บนมันอีกที ซึ่งสิ่งนี้แหละที่มีค่า แพลตฟอร์มต่างๆล้วนอยากให้แบรนด์ต่างๆมาจอยกับตน พวกเขาสามารถนำสินค้า Traditional มาขายบนออนไลน์ได้ มาทำการตลาดบนออนไลน์ได้ สามารถจ้าง Influencer หรือใครก็ตามมาช่วยขายของเขาได้ แถมมีข้อมูลของลูกค้าทุกคนอยู่ในมือ ทำให้พวกเขามีพลังอย่างมากในการทำการตลาดแบบถูกจุด
ธุรกิจซื้อขาย Data
จากงานวิจัยของ ICLP เกี่ยวกับประสบการณ์การซื้อของ 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่ายินยอมที่จะแชร์ข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง 48% เชื่อมั่นว่าแบรนด์จะนำไปใช้มันในทางที่ถูกต้อง ซึ่งนี้เป็นจุดสำคัญว่าคนมากกว่าครึ่งไม่ยินยอมที่จะแชร์ข้อมูลของตัวเองอีกต่อไปหากมีทางเลือก
ด้วยระบบ Centralized ในปัจจุบัน คนไม่มีช้อยส์อื่นในการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ปราศจาคการเก็บ Data ได้ พวกเขากังวลเกี่ยวกับการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ดี แถมบางบริษัทยังนำข้อมูลของเราไปขายให้บริษัทประกันหรือบริษัทยิงแอดอีก สิ่งเหล่านี้เป็นทรัพย์สินที่สำคัญในยุค Web2.0 แต่คนส่ายหน้าพยายามหาหนทางที่ดีกว่านี้

Web3.0 คือ Data privacy
เร็วๆนี้ Equifax บริษัทวิจัยได้แฮ็ค 143 ล้าน User เพื่อการ Mining Data (การหาความสัมพันธ์ที่แม่นยำที่สุดด้วยการ Test ไปเรื่อยๆ) เพื่อช่วยในการหาเสียงของ Donald Trumph
ผู้คนรู้สึกเป็นเจ้าของของ Data ส่วนตัวกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มี Platform ไหนที่จริงจังกับเรื่องนี้ เพราะว่า Data นั้นแหละคือสิ่งที่บริษัทต้องการตั้งแต่แรกเพื่อหากำไร
ปัจจุบัน Brave เว็ปไซต์ที่เก็บความเป็นส่วนตัวได้มีผู้ใช้จากปี 2018 จนกลายเป็นมีผู้ใช้ 4 ล้านคนทั่วโลกต่อเดือนในปัจจุบัน
Web3.0 กำลังใกล้เข้ามา ขอบคุณเทคโนโลยี Decentralized ที่ทำให้เกิดขึ้นได้จริง
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ
