คณะกรรมการกํากับดูแลทางการเงินของไต้หวัน (FSC) ได้ออกกฎเพื่อควบคุมภาคคริปโตใน ทีท่าดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ไต้หวันต้องการหาประโยชน์จากการมองหาศูนย์กลางคริปโตแห่งใหม่ในเอเชียของนักลงทุนคริปโต
ไต้หวันออกกฎกำกับดูแลเช่นเดียวกับกฎระเบียบของยุโรปที่กำลังจะมีขึ้นและกฎหมายฮ่องกงที่มีอยู่ โดยระบุว่าภาคธุรกิจต่าง ๆ จะต้องแยกสัดส่วนเงินทุนของลูกค้า เสริมสร้างระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง และจำกัดการฟอกเงิน และผู้ออกโทเค็นรายใหม่จะต้องส่งเอกสารไวท์เปเปอร์ก่อนที่แพลตฟอร์มจะสามารถจัดจำหน่ายโทเค็นของตนได้
กฎระเบียบคริปโตของไต้หวันมุ่งเน้นไปที่การปกป้องผู้ใช้งาน
กฎหมายใหม่ยังห้ามไม่ให้แพลตฟอร์มคริปโตและนักลงทุนใช้งานเหรียญ Stablecoin หรือซื้อลงทุนอนุพันธ์ ทั้งนี้ FSC อ้างว่าความเสี่ยงที่เกิดจากความปั่นป่วนตลาดในอนุพันธ์จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้บริโภครายย่อยทั่วไปเช่นเดียวกัน
“เมื่อพิจารณาว่าราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนอย่างรุนแรง ราคาจึงถูกปั่นได้ง่าย และอนุพันธ์ที่ลงทุนได้ ได้นั้นมีความซับซ้อนมากกว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ อนุพันธ์ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นยากเกินกว่าคนทั่วไปจะทำความเข้าใจได้”
บริษัทในต่างประเทศไม่สามารถโฆษณาหรือเสนอบริการแก่นักลงทุนชาวจีนได้ เว้นแต่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบการฟอกเงินของ FSC นอกจากนี้ ธุรกิจคริปโตที่จดทะเบียนจะต้องรายงานข้อมูลประจำตัวของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมคริปโตทุกรายการ
เศรษฐกิจของไต้หวันเติบโต
การควบคุมอุตสาหกรรมคริปโตหมายความว่าความสำคัญทางเศรษฐกิจของไต้หวันยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา สำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง และคณะกรรมการบริการทางการเงินของเกาหลีใต้ ได้ผ่านกฎหมายคริปโตที่มีเนื้อหาครอบคลุมตลาดคริปโตโดยรวม

ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ
