5 พอร์ตคริปโตที่ควรจัดในแต่ละรอบตลาด ในบทความนี้ ผมจะแสดงให้คุณรู้ถึงวิธีการสร้างพอร์ตโฟลิโอคริปโตที่สมบูรณ์แบบที่ตรงตามความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้ใช้คริปโตมืออาชีพ
ทำไมสิ่งนี้จึงสำคัญ?
ความจริงง่ายๆก็คือคนส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างพอร์ตการลงทุน crypto ที่ดีซึ่งสอดคล้องกับโปรไฟล์ความเสี่ยงของแต่ละบุคคลและสะท้อนถึงสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเสียเงิน
การทำความเข้าใจส่วนประกอบของพอร์ตการลงทุน crypto ของคุณ
Crypto Porfolio แต่ละแบบประกอบด้วยองค์ประกอบที่แตกต่างกันซึ่งก่อให้เกิดระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ลองดูทีละแบบกันเลยดีกว่า
- Stablecoins: มีความผันผวนน้อยที่สุดและมีความเสี่ยงต่ำที่สุด ใช้เป็นเงินสำรองในกรณีที่คุณต้องการถอนเงินจากโครงการที่มีความเสี่ยงสูงหรือซื้อเหรียญในโครงการใหม่
- Large caps: โครงการเหล่านี้เป็นโครงการ Crypto ที่มีกรณีการใช้งานที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เช่น BTC, ETH และ DOT คุณสามารถซื้อมันที่จุดต่ำสุดของตลาดและถือไว้หลายปี
- Medium caps: โครงการเหล่านี้เป็นโครงการ crypto ที่อยู่ในตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีศักยภาพในการเติบโต มีความเสี่ยงปานกลางและควรถือไว้ตั้งแต่สองสามเดือนถึงสองสามปี
- Small caps: เหรียญและโทเค็นที่มีความเสี่ยงสูงที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10-100 เท่า โดยปกติแล้วควรจะถือในช่วงเวลาสั้นๆ
5 Portfolio Crypto ที่ดีที่สุด (+ The Worst One)
มาดูพอร์ตการลงทุนประเภทต่างๆ กันดีกว่า แต่ก่อนอื่น ให้ฉันแสดงให้คุณเห็นว่าไม่ควรทำอย่างไร
แผนภูมิด้านบนแสดงตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับพอร์ต crypto เนื่องจากประกอบด้วยเหรียญมากเกินไป สิ่งนี้ทำให้ยากต่อการติดตามผลงานของเหรียญต่าง ๆ ที่อาจทำให้คุณพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหรียญขนาดเล็กที่มีความเสี่ยง
สิ่งที่คุณควรทำแทนคือเริ่มต้นด้วยเหรียญเพียงไม่กี่เหรียญแล้วจึงกระจายการถือครองของคุณตามที่ฉันได้กล่าวถึงในบทความก่อนหน้านี้
1) BTC / ETH — พอร์ตความเสี่ยงต่ำ
หากคุณเพิ่งเริ่มใช้สกุลเงินดิจิทัล พอร์ตโฟลิโอนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับโครงการที่เชื่อถือได้ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ปลอดภัยและเรียบง่าย หากต้องการ คุณสามารถเพิ่มการถือครองเหรียญขนาดเล็ก (10%) ลงในส่วนผสมได้
2) The Barbell — พอร์ตความเสี่ยงต่ำ
กลยุทธ์อันโด่งดันนี้สร้างโดย Nassim Taleb ด้วยพอร์ตโฟลิโอ Crypto นี้ คุณจะครอบคลุมทั้งความเสี่ยงสุดขั้ว 10–20% ของเงินทุนของคุณอยู่ในการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง (Small cap) และส่วนที่เหลือในการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ (Large caps และ Stablecoin) กลยุทธ์ barbell ช่วยให้คุณทำกำไรได้ดีในช่วงตลาดกระทิง ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อเกิดการขัดข้องกะทันหัน
3) The 50/25/25 — พอร์ตความเสี่ยงปานกลาง
ในพอร์ตนี้ 50% ของเงินทุนของคุณอยู่ในเหรียญขนาดใหญ่ (และ Stablecoin) 25% ในกลุ่มเหรียญขนาดกลาง และ 25% ในกลุ่มเหรียญขนาดเล็ก พอร์ตโฟลิโอที่สมดุลอย่างดีซึ่งช่วยให้คุณได้รับโอกาสมากมายจากโครงการที่จัดตั้งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้มีพื้นที่มากขึ้นสำหรับโทเค็นที่มีความเสี่ยงสูง
4) The Bullish Portfolio — ความเสี่ยงสูง
Crypto อยู่ในตลาดกระทิง? นี่คือพอร์ตโฟลิโอที่ใช่สำหรับคุณ! พอร์ตตลาดกระทิงมีไว้สำหรับเมื่อแนวโน้มตลาดทั่วไปสูงขึ้นและเมื่อมีโอกาสสูงสำหรับการเล่นที่กระจายความเสี่ยงออกไป
5) The Bearish Portfolio — ความเสี่ยงต่ำ
พอร์ตการลงทุน crypto แบบหมีเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบเมื่อสถานการณ์ตลาดโดยรวมกลายเป็นลบ ด้วยเงินส่วนใหญ่ของคุณใส่ลงใน Stablecoin และ Large Caps ทำให้โอกาสในการขาดทุนจะลดลงอย่างมาก
วิธีการใช้พอร์ตโฟลิโอ Crypto ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอ มีสองสิ่งที่คุณควรใส่ใจเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไป
- ทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ดังที่แสดงในแผนภูมิแรก อย่ากระจายความเสี่ยงมากเกินไป
- การ Re-balancing การถือครองของคุณใหม่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อสะท้อนสภาพตลาดในปัจจุบัน
- อย่าลืมเปลี่ยนจากพอร์ตการลงทุนในตลาดกระทิงเป็นตลาดหมีตามสภาพตลาด
- อย่ากลายเป็นคนโลภและใจร้อน เพื่อหวังผลกำไรมากเกินกว่าความเสี่ยงที่รับได้ นักลงทุนจำนวนมากออกแบบพอร์ตการลงทุนของตนที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป
- Crypto ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ดีสิ่งหนึ่ง แต่อย่าลืมเก็บเงินไว้นอกสกุลเงินดิจิทัล เช่น เงินสด ทองคำ
Trusted
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์
