ดูเพิ่มเติม

Anchor Protocol คืออะไร? ใช้งานอย่างไร?

4 mins
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

วันคืนของการได้รับผลตอบแทนจาก DeFi จำนวนมากจากการ Staking หรือการให้กู้ยืมเหรียญสกุลเงินดิจิทัลของคุณกำลังถูกท้าทายโดยรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาของพื้นที่ Crypto แต่มันยังมีโครงการต่างๆ เช่น Anchor Protocol ที่ต้องการรักษาผลกำไรที่ผู้ใช้งาน Crypto คุ้นเคย

ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า Anchor Protocol คืออะไร ทำงานอย่างไร ข้อดีและข้อเสียของมันเป็นอย่างไร และจะพยายามช่วยให้คุณเข้าใจว่าสิ่งนี้คุ้มค่ากับเวลาและความสนใจของคุณหรือไม่

บทนำสั้นๆ เกี่ยวกับตลาด Stablecoin

Anchor Protocol 2

Tether นั้นเป็น Stablecoin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาที่อยู่เบื้องหลังเหรียญนี้นั้นมีความพยายามที่จะจัดเตรียมเอกสารเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเหรียญในการตรึงราคาต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

Stablecoins คือกลุ่มของ Cryptocurrency ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ราคามีเสถียรภาพ มีสินทรัพย์สำรองที่สนับสนุนเหรียญเหล่านี้ พวกเขาได้รับการสนับสนุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักลงทุน Crypto ที่กำลังมองหาทางเลือกอื่นๆ แทนสกุลเงินทั่วไป เช่น ดอลลาร์ ยูโร หรือรูปี

Stablecoins ช่วยให้นักลงทุน Bitcoin สามารถแปลงผลกำไรเป็นเงินดอลลาร์ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาสามารถนำเงินไปลงทุนที่อื่นหรือถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของพวกเขาได้ Stablecoins คือ Cryptocurrency ที่จะพยายามเชื่อมโยงมูลค่าทางการตลาดกับการอ้างอิงภายนอกบางอย่าง

เหรียญเหล่านี้ทำให้นักลงทุนสามารถ “ถอนเงิน” ออกไปได้ทันที ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าพอร์ตลงทุนของพวกเขาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืน ซึ่งเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนของตลาด Crypto

Stablecoins จะไม่เปลี่ยนแปลงจากระบบหลักประกันหรือกลไกอัลกอริทึมที่ช่วยให้สามารถซื้อและขายสินทรัพย์อ้างอิงหรืออนุพันธ์ได้

Stablecoins คืออะไร?

Stablecoins มีข้อได้เปรียบในการทนต่อความผันผวนของตลาดสกุลเงินดิจิทัล พวกมันยังให้การเข้าถึงและความคล่องตัวที่ดีเยี่ยม สิ่งนี้ทำให้สกุลเงินดิจิทัลที่มีการกระจายศูนย์มีความเสถียรภาพเป็นพื้นฐาน

UST เป็นเหรียญ Stablecoin แบบกระจายศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หลังจากล้ม DAI ซึ่งเป็นคู่แข่งไปได้แล้ว UST ก็ได้บรรลุเป้าหมายนี้ จากข้อมูลที่มีอยู่ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ UST Stablecoin อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ในปี 2021

ตลาด Stablecoin เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดของอุตสาหกรรมคริปโตในปีนี้ ในปี 2021 มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 500% สำหรับผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม มูลค่าเพิ่มขึ้นนี้ยังมาพร้อมกับความต้องการในการทำให้มันเป็นมาตรฐานที่เพิ่มขึ้น มันเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทที่ออกเหรียญเหล่านี้จะต้องรับรองความสามารถในการรักษาเสถียรภาพราคาของเหรียญอย่างต่อเนื่อง

จุดเริ่มต้นของ Anchor Protocol

Anchor Protocol 3

Anchor Protocol ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2021 Terraform Labs (TFL) เป็นบริษัทที่พัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าว มันได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทำงานร่วมกับบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล LUNA

มันเป็นวิสัยทัศน์ของ TFL ที่จะรวมเอาพื้นฐานทางการเงินเบื้องต้นสามประการบน Cosmos SDK ที่ใช้บล็อกเชน Terra รวมไปถึงการออมเงินผ่าน Anchor และการชำระเงินผ่าน UST

แผนของ TFL คือการผสานรวมคำสั่งหลักสามประการ ทั้ง 3 สิ่งนี้คือ การชำระเงินโดยใช้ UST การออมเงินโดยใช้ Anchor และการลงทุนด้วย Mirror Protocol ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานบนบล็อกเชน Terra โดยใช้ Cosmos SDK

เนื่องจากความผันผวนของราคาของสินทรัพย์ Crypto การ Stake จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนส่วนใหญ่ Anchor เป็นแพลตฟอร์มการออมเงิน จ่ายเงินปันผลตามรางวัลบล็อกจากบล็อกเชน PoS ที่สำคัญ Anchor กำหนดรางวัลบล็อกให้กับสินทรัพย์ที่ถูกใช้ในการกู้ยืมเหรียญ Stablecoin เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ

Anchor Protocol ก่อตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มความต้องการ มันให้ผลตอบแทนประมาณ 20% ต่อผู้ให้กู้ยืม

Anchor จับคู่กับ Mirror Protocol และ Chai Wallets ของ TFL เพื่อขยายขอบเขตการใช้งานสำหรับ Stablecoin ที่ใช้บล็อกเชน Terra เป้าหมายสูงสุดของโปรโตคอลคือการเป็นโปรโตคอลอินเตอร์เชนที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานเข้าถึงบริการ DeFi ในระบบนิเวศของ Terra-Luna

Anchor Protocol คืออะไร?

Anchor Protocol คืออะไร? มันคือโปรโตคอลการให้กู้ยืมและการกู้ยืมของ Terra ซึ่งจะทำให้ผู้ฝากเงิน UST ได้รับผลตอบแทนร้อยละ 20 ต่อปี สิ่งนี้เรียกว่า APY ผู้กู้ยืมสามารถใช้พันธบัตร LUNA (bLuna) หรือพันธบัตร ETH (bETH) เพื่อค้ำประกันเงินกู้ UST

มันใช้สถาปัตยกรรม Over-Collateralized (การค้ำประกันในสัดส่วนที่มากกว่า) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกู้ยืม ให้กู้ยืม และรับดอกเบี้ยจากสินทรัพย์ดิจิทัลของตนได้ โปรโตคอลนี้ยังช่วยให้สามารถถอนเงินได้อย่างรวดเร็วและจ่ายให้ผู้ฝากโดยมีอัตราการผันผวนต่ำ ซึ่งนับว่ามันเป็นหนึ่งในเหรียญที่มีเสถียรภาพมากที่สุด

ระบบการออมเงินแบบกระจายศูนย์จากการฝาก Stablecoin บน Terra นั้นให้ผลตอบแทนที่มีความผันผวนต่ำ อัตรา(รายได้)ของ Anchor นั้นถูกขับเคลื่อนโดยผลตอบแทนการ Stake ที่หลากหลายจากบล็อกเชน PoS ยักษ์ใหญ่ เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้แล้ว พวกเขาสามารถคาดหวังได้ว่ามันจะมีเสถียรภาพมากกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินทั่วไป

ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในโปรโตคอลนี้ได้ Anchor นั้นเป็นเครื่องมือในการออมเงินที่มีแนวโน้มที่ดี นอกจากนี้มันยังเป็นโปรโตคอลแบบกระจายศูนย์ ซึ่งหมายความว่าทุกคนสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่ต้องมี KYC จากที่ใดก็แล้วแต่

Earn คืออะไร? มันทำงานอย่างไร?

Anchor Protocol ถือเป็นตัวเลือกการออมเงินอย่างแท้จริงสำหรับครัวเรือนทั่วไป แนวคิดของมันก็คือให้ผู้ใช้งานได้เลือกตัวเลือก “Earn” (รับรายได้) แล้วสะสมดอกเบี้ยโดยไม่ต้องทำสิ่งใดเพิ่มเติม ด้วยเหตุนี้ ตัวเลือก “Earn” จึงเป็นเสาหลักของโครงการนี้

Earn ทำให้ผู้ใช้งานได้รับผลตอบแทนจาก Anchor บน Terra Stablecoins คุณสามารถฝากและถอน Terra Stablecoins จากมันได้ และคอยตรวจสอบมูลค่าเงินฝากปัจจุบัน ประวัติการทำธุรกรรม อัตราดอกเบี้ยเงินฝากกระแสรายวัน (APY) รวมถึงจำนวนดอกเบี้ย Anchor ที่คุณได้รับได้

กระบวนการนี้ทำได้ง่ายมาก เพียงเข้าไปที่หน้า Anchor Protocol ไปที่ส่วน “Earn” เมื่อคลิกที่ “Deposit” และป้อนรายละเอียด Crypto ที่จำเป็นสำหรับการฝากเงิน

Anchor Protocol 4

ในตอนนี้ หากคุณเป็นเจ้าของ UST ใดๆ คุณสามารถซื้อ LUNA หรือ UST จากเว็บเทรดที่มีสกุลเงินเหล่านี้

หลังจากซื้อมันแล้ว คุณจะต้องถอนเงินรวมไปยังกระเป๋าเงิน Terra Station ของคุณ อย่าลืมจดรหัสผ่านและ mnemonic phrase ของคุณ

Anchor Protocol 5

คุณยังมีตัวเลือกในการใช้ Terra Wallet เพื่อสลับจาก LUNA เป็น Stablecoin UST และสลับ Stablecoin UST เป็น LUNA อีกด้วย

Anchor Protocol 6

เมื่อคุณล็อค Stablecoin ของคุณแล้ว ดอกเบี้ยจะถูกจ่ายให้คุณเป็นโทเค็น aUST ซึ่งคุณสามารถแปลงเป็น UST ได้ในภายหลัง จากนั้นคุณจะสามารถถอนมันออกได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ

ผู้ใช้งานสามารถฝากเหรียญ Stablecoin ที่มีพื้นฐานของ Ethereum ได้เช่นกัน ซึ่งรวมไปถึง BUSD, USDC, DAI และ USDT โดยอัตราผลตอบแทนจะอ้างอิงจาก Anchor Rate

Borrow คืออะไร? มันทำงานอย่างไร?

Anchor Protocol ยังรวมตัวเลือก “Borrow” (ยืม) เข้ามาด้วย ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสมัครสินเชื่อ ในการนี้ ผู้ใช้งานจำเป็นต้องสร้าง bAssets (bLuna หรือ bETH) เสียก่อน ซึ่งพวกเขาสามารถทำได้โดยไปที่แถบ “bAssets”

Anchor Protocol 7

ตลาดเงินของ Terra เป็นสัญญาอัจฉริยะของ WebAssembly ซึ่งทำงานบนบล็อกเชน Terra ตัว Terra Stablecoins นั้นมีทั้งการกู้ยืมและฝากเงิน

ตลาดเงิน Terra จะช่วยให้ทุกคนได้รับเงินกู้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องมีหลักประกันที่เหมาะสมจึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงินกู้ Anchor Protocol จะรักษาอัลกอริทึมที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับทั้งผู้กู้ยืมและผู้ฝากเงินเอาไว้ อัลกอริทึมนี้จะสร้างอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ตามความพร้อมและความต้องการเงินกู้ในปัจจุบัน

เพื่อที่จะให้กู้ยืม Terra Stablecoins ในตลาดของ Anchor นั้น จะมีสิ่งจูงใจถูกจัดเตรียมไว้ให้ ผู้กู้ยืมจะได้รับ Terra Stablecoins ผ่านเงินกู้ที่มีหลักประกันใน bAsset พวกเขาให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ฝากเงิน อีกทั้ง หลักประกันที่ฝากไว้จะสร้างเงินสมทบขึ้นมา

องค์ประกอบ “Borrow” ของ Anchor Protocol มีโอกาสที่จะให้รางวัลมากมายแก่ผู้ใช้งาน ด้วยอัตราที่กำหนด ผู้ใช้งานสามารถยืมเหรียญ Stablecoin (UST) แลกกับหลักประกัน (LUNA/ETH) ของพวกเขา

เมื่อคุณต้องการถอนเงินทุนของคุณ คุณจะต้องกดปุ่ม “Repay” ซึ่งจะทำให้คุณสามารถถอนหลักประกันที่คุณให้ไว้ได้ จากนั้นคุณไปที่แถบ “พันธบัตร” และ “เผา” หลักประกันนั้น

แพลตฟอร์มนี้จะให้ตัวเลือกแก่คุณ 2 ตัวในแถบ “Burn” ด้วย “Direct Burn” คุณจะต้องรอ 24 วันเพื่อรับหลักประกัน LUNA ของคุณคืน เวลาในการรอนั้นเกิดจากการที่เหรียญเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Staking ของ Terra

และคุณยังมีอีกตัวเลือก ซึ่งก็คือ “Immediate Burn” ด้วยสิ่งนี้ คุณจะได้รับการถอนเงินในทันที อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโดยรวมมากขึ้น

Anchor Protocol ทำงานอย่างไร?

โดยพื้นฐานแล้ว Anchor Protocol นั้นตั้งใจที่จะเป็นแอปพลิเคชั่นแบบกระจายศูนย์ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกู้ยืม Crypto และรับผลตอบแทนที่มั่นคงจากเงินฝากของพวกเขา

Anchor Protocol ต้องการที่จะสร้างความสมดุลระหว่างทั้งสองหมวดหมู่ผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการตัวกลางและกระจายศูนย์ การทำความเข้าใจว่า Anchor Protocol ทำงานอย่างไรจะช่วยให้เราเข้าใจภูมิทัศน์ของ DeFi ได้ดีมากยิ่งขึ้น มาดูกันสั้นๆ ว่า Anchor Protocol นั้นทำงานอย่างไร

ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Anchor Protocol ทำตามวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ

  • ประการแรก การชำระเงินใน UST
  • ประการที่สอง การออมเงินที่ทำโดยใช้ Anchor
  • ประการที่สาม เพื่อเป็นโอกาสในการลงทุน มันทำสิ่งเหล่านี้โดยใช้การชำระบัญชีเงินกู้ ซึ่งก็คือ bAsset (พันธบัตรสินทรัพย์) ที่เราได้กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ และตลาดเงินของแพลตฟอร์ม

เราสามารถให้คำอธิบาย bAsset ได้ว่าเป็นโทเค็นที่ Stake บนบล็อกเชน PoS ในทางเทคนิคแล้ว เราสามารถสร้าง bAssets บนบล็อกเชน PoS ที่รองรับสัญญาอัจฉริยะได้ โทเค็นนี้จะให้รางวัลบล็อกแก่คุณ เช่นเดียวกับสินทรัพย์ที่คุณ Stake

bAsset แตกต่างจากสินทรัพย์ที่ Stake ตรงที่สามารถแลกเปลี่ยนได้และสามารถนำส่งได้ ซึ่งหมายความว่าการทำธุรกรรมกับ bAsset ก็เหมือนกันกับที่คุณทำกับสินทรัพย์อ้างอิง

การใช้งานบล็อกเชน Terra

สัญญาอัจฉริยะของ Web Assembly จะควบคุมตลาดเงินบนบล็อกเชน Terra สิ่งนี้จะควบคุมระบบการกู้ยืมและให้กู้ยืม โดยมี UST Stablecoin เป็นแกนหลัก โดยพื้นฐานแล้ว เมื่อคุณฝากเหรียญบน Terra แสดงว่าคุณกำลังมีส่วนสนับสนุนในกลุ่ม(สภาพคล่อง) ดอกเบี้ยเงินกู้ก็มาจากกลุ่มนี้

การยืมเหรียญนั้นเกี่ยวข้องกับการจัดหาเหรียญคืนเพื่อเป็นหลักประกัน จำนวนที่แน่นอนจะถูกคำนวณจากอุปสงค์และอุปทานภายในโปรโตคอล ในทำนองเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยจะถูกจ่ายให้ตามอัลกอริทึมที่ดูแลบน Anchor Protocol อัลกอริทึมจะพิจารณาปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานเดียวกัน ซึ่งนี่ก็คือ Anchor Rate เพื่อกำหนดอัตราดังกล่าว สัญญาอัจฉริยะจะแบ่งรางวัลบล็อกที่ได้รับจาก bAssets ซึ่งทำหน้าที่เป็นหลักประกันให้กับทั้งผู้ฝากและผู้ยืม

ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Anchor Protocol ตั้งเป้าที่จะให้ผลตอบแทนสูงถึง 20% UST Stablecoin ให้ผลตอบแทน bETH และ bLuna เป็น bAssets ที่ได้รับการยอมรับ

ประโยชน์ของ Anchor Protocol

ดูเหมือนว่า Anchor Protocol นั้นจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดที่มีศักยภาพด้วยคุณสมบัติบางประการที่สำคัญ ประการแรก มันให้ผลตอบแทนสูงเพื่อแลกกับเงินฝาก นอกจากนี้ มันยังช่วยให้สามารถถอนเงินได้ทันที และสุดท้าย อัตราดอกเบี้ยต่อความผันผวนต่ำ ทั้งหมดนี้ทำให้มันเป็นโอกาสในการออมเงินที่มีศักยภาพ

ผู้ใช้งานที่ได้รับ bAssets จะได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงจากการ Stake สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดการใช้โปรโตคอล เนื่องจากมันยอมรับ bAssets เป็นหลักประกัน Anchor Protocol จึงมีคุณสมบัติที่จะกลายเป็นข้อเสนอระยะยาวได้

โดยทั่วไปแล้ว สินทรัพย์ Crypto นั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่กำลังมองหา Passive Income ที่มีความเสี่ยงต่ำ Anchor นั้นพยายามที่จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ผู้ฝากเงิน Terra Stablecoin จะสามารถรับเหรียญ Stablecoin เป็นการตอบแทนได้ ด้วยวิธีนี้จะสามารถเลี่ยงความผันผวนของสินทรัพย์ Crypto ได้

ผู้ใช้งานจะสามารถกู้ยืม Stablecoins ด้วยสินทรัพย์ของตนได้ และยังสามารถซื้อสินทรัพย์เดียวกันได้มากขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มเลเวอเรจ ผู้ใช้งานยังจะได้รับผลประโยชน์จากอัตราที่ต่ำโดยการยืม Stablecoin ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า และลงทุนใน bAssets ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าต้นทุนที่ใช้ในการยืม

ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น

เราได้พิจารณาโอกาสที่นำเสนอโดย Anchor Protocol เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์อย่างถ่องแท้ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ซึ่งในกรณีนี้หมายถึงความเสี่ยงสองประการ ประการแรกคือความเสี่ยงของสัญญาอัจฉริยะ ประการที่สองคือความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสถานะการตรึงราคาของ UST

สัญญาอัจฉริยะเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่น่าเหลือเชื่อ แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว พวกมันก็ยังอ่อนไหวต่อการโจมตีทางไซเบอร์และความล้มเหลวของเทคโนโลยี เช่นเดียวกับ Software code อื่นๆ สัญญาอัจฉริยะต้องการการทดสอบอย่างเข้มงวดและการควบคุมที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการทางธุรกิจที่ใช้บล็อกเชน

แฮ็กเกอร์อาจจะขโมยเงินจากผู้ใช้งานได้หากมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในเครือข่ายบล็อกเชนที่ใช้สัญญาอัจฉริยะ การกระทำที่เป็นการฉ้อโกงอาจจะไม่ถูกตรวจพบ ซึ่งแฮ็กเกอร์สามารถใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ได้

อย่างไรก็ตาม Terra ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการประกันภัยบุคคลที่สามหลายรายเพื่อเสนอแผนที่ช่วยลดความเสี่ยงของสัญญาอัจฉริยะและการยกเลิกการตรึงราคา นอกจากนี้ Terra ยังได้ทำสัญญากับสำนักงานตรวจสอบบัญชีสองแห่งเพื่อให้แน่ใจว่าโปรโตคอลนั้นปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานทุกคน พวกเขาจะทำการตรวจสอบเป็นประจำเพื่อระบุถึงปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น

ความเสถียรของ Stablecoin

ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคือมูลค่าที่คงที่ของ Stablecoin อัลกอริทึมคำนวณมูลค่าของ UST สกุลเงินดิจิทัล LUNA หนุนหลังมูลค่าของมัน

มันเป็นไปได้ว่าอัตราส่วนการแปลงต่อ Stablecoin อาจจะแตกต่างกันไปเมื่อตลาดของ LUNA มีความผันผวนเป็นพิเศษ เพื่อนำ UST ให้กลับมาเป็น 1 ดอลลาร์นั้น จำเป็นจะต้องเผา LUNA ด้วย ซึ่งก็หมายความว่าจะมี LUNA ที่สามารถขายได้จริงน้อยลง

UST นั้นค่อนข้างมีเสถียรภาพ แต่อย่างไรก็ตาม มันพึ่งจะถือกำเนิดมาในช่วงปลายปี 2020 เท่านั้น จึงจำเป็นจะต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมในเรื่องสภาวะความผันผวนของตลาด ตัวอย่างเช่น IRON ซึ่งเป็นเหรียญที่ตรึงราคา USD เห็นว่ามูลค่าของมันลดลงในปี 2021 สิ่งนี้ก็ยังเกิดขึ้นแม้ว่ามันจะได้รับการสนับสนุนจาก USDC อย่างไรก็ตาม คุณจะสามารถพบ Terra ได้จากทั่วทั้งระบบนิเวศของ Terra โปรโตคอล Pylon, Anchor และ Mirror ก็เป็นส่วนหนึ่งของโปรโตคอลนี้

จะใช้ Anchor Protocol ได้อย่างไร?

Anchor Protocol เป็นโปรโตคอลการออมเงินแบบกระจายศูนย์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับผลประโยชน์ในหลายๆ ทาง เรามาเรียนรู้วิธีการเริ่มต้นการใช้งานกัน

Anchor Protocol สามารถใช้ได้กับกระเป๋าเงินจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้กระเป๋าเงินเบราว์เซอร์ Terra Station ซึ่งจะเชื่อมต่อพวกเขากับแอพพลิเคชั่นบนบล็อกเชน Terra

ติดตั้งกระเป๋าเงินของคุณก่อน จากนั้นจึงเข้าถึง Anchor Protocol แล้วเลือกตัวเลือก “Connect Wallet” คุณจะต้องสแกนรหัส QR และเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณ

ขั้นตอนถัดไป คุณจะต้องยืนยันการโต้ตอบและเชื่อมต่อกับ Anchor Protocol DApp ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เมื่อตั้งค่ากระเป๋าเงินของคุณ อย่าลืมจด seed phrase และรหัสผ่านที่ถูกต้องเอาไว้ ข้อมูลความปลอดภัยของคุณจะช่วยให้คุณเข้าถึงกระเป๋าเงินได้จากเบราว์เซอร์ใดๆ บนอุปกรณ์ใดก็ได้

ANC token คืออะไร?

Governance Token ของ Anchor Protocol คือ Anchor Token (ANC)

คุณสามารถซื้อหรือขายโทเค็น ANC ได้หากคุณต้องการมีส่วนร่วมในกระบวนการกำกับดูแล โทเค็นนั้นจะปรับปรุงเงื่อนไขรางวัลเช่นกัน สุดท้าย กลุ่ม ANC–UST จะรวมโทเค็นที่ Stake เอาไว้ด้วยกัน

Tokenomics

ปริมาณรวมทั้งหมดของโทเค็น ANC คือ 1 พันล้าน อุปทานหมุนเวียนในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 264 .6 ล้าน ANC เงินจูงใจสำหรับผู้กู้ยืม Anchor Protocol ในอีกสี่ปีข้างหน้าจะรวมถึง 40% ของจำนวนทั้งหมดที่สำรองไว้

ราคาและการคาดการณ์ราคา

ราคา ANC: TradingView

เช่นเดียวกับการซื้อสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ การพิจารณาในหลายๆ ปัจจัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญ หนึ่งในนั้นคือความผันผวนของตลาด ซึ่งเป็นเรื่องทั่วไปของ Crypto การคาดการณ์ใดๆ จะต้องคำนึงถึงสิ่งนี้ด้วย โดยปกติแล้ว ความสำเร็จของโครงการที่เหรียญนั้นเป็นตัวแทนอยู่ควรจะนำมาคิดรวมไปด้วย

ราคาปัจจุบันสำหรับ Anchor Protocol อยู่ที่ประมาณ 2.83 ดอลลาร์ อุปทานหมุนเวียนในปัจจุบันของ ANC อยู่ที่ 264.6 ล้านดอลลาร์ และมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 747.8 ล้านดอลลาร์ ราคาของ Anchor Protocol เพิ่มขึ้นเกือบ 5% ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณการซื้อขายและมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มขึ้น

ANC ก็เหมือนกับเหรียญอื่นๆ ที่ต้องเผชิญกับราคาที่ตกต่ำลง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของโทเค็นลดลงเกือบ 31.14% ทำให้นักวิเคราะห์บางคนสงสัยในศักยภาพการลงทุนระยะสั้นของ ANC อย่างไรก็ตาม โครงการเสียงที่อยู่เบื้องหลังนั้นทำให้นักลงทุนมีความหวังในระยะยาว

นักวิเคราะห์คริปโตบางคนคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.70 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2022 นักวิเคราะห์คนเดียวกันนี้ยังคิดว่า ANC สามารถแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.10 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2023 และอาจถึงเกือบ 10 ดอลลาร์ภายในปี 2025

คุณควรซื้อ ANC หรือไม่?

ตามที่นักวิเคราะห์ Crypto ส่วนใหญ่ได้ให้ข้อมูล ดูเหมือนว่าเขาจะไม่แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นใน ANC จากข้อมูลทางสถิติล่าสุด แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คนเดียวกันนั้นยังมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มระยะกลางและระยะยาวของโทเค็นตัวนี้ พวกเขาเชื่อว่าภายใน 5 ปี ราคาของ ANC อาจจะไปถึง 16 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์คนเดียวกันยังคาดหวังถึงราคาโทเค็นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไปอีกด้วย

จะซื้อ ANC ได้อย่างไร?

โทเค็นดั้งเดิมของ Anchor Protocol มีอยู่ในเว็บเทรดระดับสูงหลายเว็บ ซึ่งรวมไปถึง Binance และ KuCoin ขั้นตอนการซื้อ ANC นั้นก็เหมือนกับการซื้อ Crypto อื่นๆ ที่ระบุไว้ในเว็บเทรดเหล่านั้น ผู้ซื้อจะต้อง:

  • ศึกษาการกำหนดราคา ANC ในเว็บเทรดต่างๆ คุณจะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับเว็บเทรดที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด
  • ถัดไป คุณจะต้องสร้างบัญชีกับของเว็บเทรดเหล่านั้น
  • คุณต้องฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ
  • สุดท้าย คุณสามารถซื้อ ANC ได้ในราคาที่มีอยู่บนเว็บเทรด พวกเขาสามารถถือโทเค็น Anchor Protocol ไว้ภายในเว็บเทรด ในกระเป๋าเงิน Crypto หรือย้ายไปยังแพลตฟอร์ม Anchor เอง

คุณควรใช้ Anchor Protocol หรือไม่?

เมื่อลงทุนในโครงการ Crypto ใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบเป้าหมายการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ปัจจุบัน Anchor Protocol ให้ผลตอบแทนสูงถึงเกือบ 20% ต่อปี นอกจากนี้ยังรับประกันความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยและป้องกันความผันผวนของตลาดผ่าน Stablecoin อีกด้วย

แพลตฟอร์มนี้ใช้งานได้ง่าย มือใหม่สามารถเข้าสู่กระบวนการซื้อเหรียญดั้งเดิมและ Stake มันได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ แม้ว่าการลงทุนนั้นจะไม่ปราศจากความเสี่ยงเสียทีเดียว แต่โครงการนี้ก็ยังได้รับการตอบรับที่ดีอยู่ดี การใช้ Anchor Protocol เป็นวิธีที่ดีในการสร้าง Passive Income

Anchor Protocol อาจจะปฏิวัติการออมเงินได้

เกือบทุกคนที่ก้าวเข้าสู่โลกของ Cryptocurrency นั้นล้วนแต่มองหาวิธีหารายได้เสริมและเพิ่มพอร์ตการลงทุนของพวกเขา Anchor Protocol นั้นถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการทำทั้งสองอย่างนั้น

Anchor Protocol นำเสนอตนเองว่าเป็นโซลูชันการออมเงินที่แท้จริงสำหรับผู้ที่อยู่ในระบบนิเวศของ Terra มันยังคงมีความเสี่ยงต่อสิ่งนี้ โดยเกี่ยวข้องกับมูลค่าของ Stablecoin ที่ Stake ไว้ นอกจากนี้ ยังอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องช่องโหว่ของสัญญาอัจฉริยะ อย่างไรก็ตาม Anchor Protocol ก็ยังมีบุคคลที่สามที่คอยช่วยในการติดตามและตรวจสอบสถานการณ์ต่างๆ อยู่อีกด้วย

หากมองในภาพรวมแล้ว Anchor Protocol นั้นดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน Cryptocurrency และมันยังเป็นการทดลองที่น่าตื่นเต้นที่นำเสนอโดย Terra Blockchain

คำถามที่พบบ่อย

Anchor Protocol คืออะไร?

ฉันจะรับ Anchor Protocol (ANC) ได้อย่างไร?

Anchor Protocol ให้ดอกเบี้ยคุณอย่างไร?

ฉันจะทำการฝากใน Anchor protocol ได้อย่างไร?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน