หนึ่งในความเสี่ยงของการลงทุนในตลาดคริปโตก็คือความผันผวน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในบางครั้ง ความผันผวนของราคาก็ทำให้นักลงทุนเกิดความเครียดได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าราคาของมันจะขึ้นหรือลงก็ตาม แต่ถ้าเรามีกลยุทธ์การลงทุนที่จะช่วยลดทั้งความเสี่ยงและความเครียดที่อาจจะเกิดขึ้นได้หล่ะ? ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับ “การลงทุนแบบ Dollar Cost Averaging (DCA)” หรือ “การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน” กัน มันคืออะไร? แล้วมันจะช่วยลดความเสี่ยงและความเครียดให้เราได้อย่างไร? ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
BeInCrypto Trading Community บน Telegram: พูดคุยกันเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด รับชมคอร์สพื้นฐานการซื้อขายฟรี และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่คุณต้องการจากนักเทรดมืออาชีพ!
Dollar Cost Averaging (DCA) คืออะไร?
DCA หรือ Dollar Cost Averaging คือ กลยุทธ์การลงทุนแบบ “ถัวเฉลี่ยต้นทุน” หรือก็คือการลงทุนในสินทรัพย์ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมเป็นงวดๆ อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยไม่สนใจว่าสินทรัพย์จะมีมูลค่าเท่าใดในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งจะช่วยให้เราจัดการความเสี่ยงกับความผันผวนของตลาดคริปโตได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยลดความเครียดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลงทุนของคุณ เพราะคุณจะไม่ต้องมานั่งกังวลว่ามูลค่าของสินทรัพย์ที่คุณลงทุนนั้นจะขึ้นหรือจะลง เนื่องจากเป้าหมายของคุณคือการลงทุนเท่าเดิมในแต่ละงวดอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น การลงทุนแบบ DCA นั้นยังช่วยให้เรามีวินัยทางการเงินอีกด้วย
วิธีการคำนวนค่า DCA
วิธีการคำนวนค่า DCA นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะอันที่จริงแล้ว มันก็คือการคำนวนหาค่าเฉลี่ยราคาของสินทรัพย์นั่นเอง โดยจะมีสูตรคำนวนดังนี้
ค่าเฉลี่ยราคาสินทรัพย์ต่อหน่วย = จำนวนเงินลงทุนทั้งหมด/จำนวนหน่วยของสินทรัพย์ที่ได้รับ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบ DCA จะทำให้เราเห็นถึงข้อแตกต่างของการลงทุนด้วยเงินก้อนนึงในครั้งเดียว และ การลงทุนแบบ DCA ได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น หากเรามีเงินลงทุนอยู่ 15,000 บาท และต้องการที่จะลงทุนในสินทรัพย์คริปโตตัวหนึ่ง ลักษณะการลงทุนทั่วไปก็จะเป็นเช่นนี้:
จะเห็นได้ว่า เงินจำนวน 15,000 บาท จะสามารถซื้อสินทรัพย์คริปโตได้เป็นจำนวนทั้งหมด 30 หน่วย และมีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 500 บาท/หน่วย แล้วถ้าเป็นการลงทุนแบบ DCA หล่ะ? เราลองไปดูกัน
ถึงแม้ว่าจำนวนเงินลงทุนจะเท่ากันที่ 15,000 บาท แต่การลงทุนแบบ DCA นั้นจะทำให้คุณได้รับสินทรัพย์คริปโตเป็นจำนวนถึง 41 หน่วยเลยทีเดียว ทำให้ค่าเฉลี่ยราคาสินทรัพย์ต่อหน่วยอยู่ที่ 365.85 บาท/หน่วย เท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่า ด้วยการลงทุนแบบ DCA คุณสามารถซื้อหุ้นได้มากขึ้นในราคาที่ต่ำกว่า
และเมื่อเรานำเอาจำนวนสินทรัพย์ที่เรามีไว้ในครอบครองมาคูณกับราคาของสินทรัพย์ในเดือนที่ 5 เราก็ยิ่งจะเห็นถึงผลลัพท์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การลงทุนด้วยเงินก้อนครั้งเดียว: 30 หน่วย x 600 บาท = 18,000 บาท (ได้กำไร 20% จากต้นทุน)
การลงทุนแบบ DCA: 41 หน่วย x 600 บาท = 24,600 บาท (ได้กำไร 64% จากต้นทุน)
นอกจากผลกำไรที่มากกว่าแล้ว ในความเป็นจริง หากเราเป็นนักลงทุนที่ไม่ได้มีประการณ์อะไรมากนัก ตอนที่ราคาของสินทรัพย์ที่เราถือครองไว้ตกลงมาเหลือ 200 บาท/หน่วย ในเดือนที่3 เราอาจจะขายมันไปทิ้งไปอย่างตื่นตะหนกแล้วก็ได้ ซึ่งนั่นยิ่งจะทำให้เราขาดทุนมากยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้น จะเห็นได้เลยว่า กลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA ช่วยลดความเสี่ยงให้กับเราได้เป็นอย่างมาก
ข้อดีและข้อเสียต่างๆ ของการลงทุนแบบ DCA
หากคุณเริ่มที่จะสนใจในการลงทุนแบบ DCA แล้ว ลองอ่านถึงข้อดีและข้อเสียต่างๆ แล้วลองตัดสินใจดูว่า การลงทุนในลักษณะนี้ตอบโจทย์กับความเป็นตัวคุณหรือไม่?
ข้อดี
- ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน — การลงทุนแบบ DCA นั้นจะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนของเรา ดังเช่นตัวอย่างที่เราได้ให้ไปแล้วก่อนหน้านี้ในเรื่องความเสี่ยงของราคาสินทรัพย์ที่ลดลง การถัวเฉลี่ยต้นทุนจะช่วยให้คุณได้รับโอกาสที่จะเปลี่ยนความสูญเสียเหล่านั้นให้เป็นโอกาสในการทำกำไรได้
- ใช้ต้นทุนที่ต่ำลง — เช่นเดียวกับตัวอย่างในหัวข้อที่ผ่านมา เราจะสามารถซื้อสินทรัพย์ได้มากยิ่งขึ้นด้วยปริมาณเงินทุนเท่าเดิมของเรา ซึ่งก็เปรียบเสมือนเราซื้อของได้มากขึ้นในราคาที่ต่ำลงนั่นเอง
- ช่วยฝึกฝนวินัยทางการเงิน — การลงทุนอย่างสม่ำเสมอนั้นก็เป็นเหมือนการฝึกฝนตัวเราเองให้มีวินัยทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น ไม่หวั่นไหวไปกับสภาวะตลาดที่อาจจะส่งผลให้เกิดการตัดสินใจที่ขาดการคิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบ
- ตัดเรื่องการใช้อารมณ์ในการลงทุนออกไป — เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในบางครั้ง การลงทุนก็เต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆ ที่ขาดการพินิจพิเคราะห์อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการ Panic Sell (ขายอย่างตื่นตระหนก) หรือ FOMO (กลัวที่จะพลาดโอกาสในการทำกำไร) การลงทุนอย่างมีวินัยผ่านการ DCA นี้จะช่วยให้คุณจดจ่ออยู่เพียงแค่กับการลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น
- ลดความเครียดต่างๆ จากเรื่องการลงทุน — คล้ายคลึงกับในหัวข้อก่อนหน้านี้ การทำ DCA นั้นจะช่วยลดความเครียดของเราที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาด ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากราคาสินทรัพย์ที่ลดลง หรือความเซงจากการตกรถ เป็นต้น
- กระจายเสี่ยงในการเข้าซื้อในจังหวะที่ย่ำแย่ — ในเรื่องการลงทุน อย่าว่าแต่นักลงทุนมือใหม่เลย บางครั้ง แม้แต่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเองก็สามารถตกม้าตายจากโอกาสการเข้าซื้อที่ย่ำแย่ได้ เพราะความผันผวนนั้นอยู่คู่กับตลาดคริปโตมาช้านาน ดังนั้น การซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุนนั้นจะช่วยให้คุณกระจายความเสี่ยงในเงินลงทุนของคุณได้
- ไม่เสียเวลามาก — คุณไม่ต้องใช้เวลาอะไรมากมายในการทำการลงทุนแบบ DCA เนื่องจากธรรมชาติของการลงทุนในรูปแบบนี้ก็เป็นแค่เพียงการลงทุนในสินทรัพย์ที่เราเลือกไว้ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมอย่างต่อเนื่อง เราจะไม่ต้องมาเสียเวลานั่งวิเคราะห์ตลาดใหม่ในทุกๆ ครั้งที่เราจะลงเงินลงไป หมายความว่ามันจะช่วยประหยัดเวลาให้เราได้อย่างมากเลยทีเดียว
ข้อเสีย
- เสียค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมมากยิ่งขึ้น — การลงทุนด้วยการ DCA นั้นหมายความว่า คุณจะต้องทำการแบ่งเงินก้อนใหญ่ของคุณออกมาเป็นก้อนเล็กๆ เพื่อทำการซื้อสินทรัพย์ในปริมาณที่น้อยลงด้วยจำนวนครั้งที่มากขึ้น ซึ่งนั่นส่งผลให้คุณอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมการซื้อขายหรือการโอนก็ตาม
- มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนต่ำ — กลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA นั้นมีความเสี่ยงต่ำทำให้ผลตอบแทนที่ได้ก็จะไม่สูงเท่ากับกลยุทธ์การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อตลาดอยู่ในสภาวะขาขึ้นเป็นเวลานาน ผู้ที่ทำการลงทุนแบบ DCA ก็จะมีแนวโน้มที่จะเสียโอกาสในการทำกำไรมากกว่าผู้ที่ทำการลงทุนในครั้งเดียว
- ต้องศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์ที่คุณจะลงทุนอย่างละเอียด — สำหรับการลงทุนแบบ DCA นั้น คุณจำเป็นจะต้องเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่ดี ไม่เช่นนั้น มันจะกลายเป็นว่าคุณจะต้องลงทุนไปกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้คุณเกิดการขาดทุนได้ ดังนั้น คุณอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควรในการศึกษาข้อมูลต่างๆ ของสินทรัพย์ที่คุณต้องการจะลงทุนเพื่อให้มั่นใจได้ว่ามันจะเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่ดีในอนาคต
สิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาก่อนทำการลงทุนแบบ DCA
ถึงแม้ว่าโดยรวมๆ แล้ว การลงทุนแบบ DCA อาจจะดูเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ดี อย่างไรก็ตาม มันมีปัจจัยอยู่บางประการที่คุณจะต้องทำการพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนที่คุณจะตัดสินใจ
ต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า กลยุทธ์การลงทุนนี้เป็นการลงทุนในระยะยาว
ก่อนอื่น นักลงทุนจะต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า กลยุทธ์การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนนี้เป็นการลงทุนในระยะยาว และมันจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนมากมายให้กับคุณได้ในระยะสั้น ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลกำไรอย่างรวดเร็วหรือมีความกระตือรือร้นในการเทรดทำกำไรวันต่อวัน นี่อาจจะไม่ใช่กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสำหรับคุณ
ต้องมีการวางแผนการลงทุนในระยะยาว
ในการทำ DCA นั้น เราจะต้องมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน เงินลงทุนที่คุณสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่องคือเท่าใด ช่วงระยะเวลาที่ตั้งเป้าไว้คือเท่าใด สินทรัพย์ใดที่คุณต้องการจะลงทุนด้วย คุณจำเป็นจะต้องตอบคำถามทั้งหมดเหล่านี้ให้ได้ก่อนที่คุณจะสามารถทำการลงทุนแบบ DCA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ควรนำเงินออมของคุณมาลงทุน
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในรูปแบบใดๆ มันก็จะมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ดังนั้น คุณไม่ควรที่จะนำเงินออมของคุณมาทำการลงทุน เพราะไม่มีสิ่งใดที่จะรับประกันได้ว่าการลงทุนของคุณจะสร้างผลตอบแทนให้ได้เป็นอย่างดี คุณควรที่จะแยกเงินเย็น (เงินที่คุณสามารถเสียไปได้โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการใช้ชีวิตของคุณ) สำหรับการลงทุนออกจากเงินออมของคุณให้ชัดเจน
กระจายเงินลงทุนของคุณไว้หลายๆ ที่
ดั่งเช่นสำนวนที่ว่า “อย่าเก็บไข่ทั้งหมดไว้ในตระกร้าใบเดียว” การกระจายเงินลงทุนของคุณไว้หลายๆ ที่หรือไว้กับสินทรัพย์คริปโตหลายๆ ตัวจะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณไปได้
การลงทุนด้วยการ DCA เหมาะกับใครบ้าง?
คุณอาจจะพิจารณาเรื่องการลงทุนด้วยการ DCA หากคุณ:
- เป็นมือใหม่ในเรื่องการลงทุน
- มีเงินลงทุนจำนวนไม่มาก (ทั้งต่อเดือนและโดยรวม)
- ไม่มีเวลามานั่งศึกษาข้อมูลราคาสินทรัพย์ทุกๆ วัน
- ไม่ค่อยสนใจเรื่องความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์
- ทำการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ (เช่น การซื้อกองทุน) อยู่แล้ว
- ชื่นชอบการลงทุนในระยะยาว
ขั้นตอนการลงทุนแบบ DCA ในคริปโต
หากคุณสนใจที่จะทำการลงทุนคริปโตด้วยการ DCA ต่อไปนี้คือขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอนที่คุณสามารถปฏิบัติตามได้:
- เปิดบัญชีบนกระดานเทรดที่คุณต้องการ — สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ เปิดบัญชีบนกระดานเทรดที่คุณต้องการจะทำการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้แน่ใจว่ากระดานเทรดที่คุณเลือกนั้นมีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย และรองรับสินทรัพย์คริปโตที่คุณต้องการจะลงทุน หากคุณยังไม่มีตัวเลือกใดๆ ในใจ คุณสามารถลองเข้าไปดูที่บทความ “กระดานเทรดคริปโตที่ปลอดภัยที่สุดในปี 2023” ของเราเพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมก่อนได้
- เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการจะลงทุน — การเลือกสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่ดีอย่าง BTC หรือ ETH จะช่วยให้คุณมีโอกาสที่ได้จะรับผลตอบแทนเพิ่มมากยิ่งขึ้น โปรดศึกษาข้อมูลของเหรียญคริปโตต่างๆ ให้ดีก่อนที่คุณจะเลือกลงทุน
- ตัดสินใจให้ดีว่าจะลงทุนเป็นจำนวนเท่าใด — ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อนที่จะนำมาแบ่งลงทุนเป็นงวดๆ หรือแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งของคุณออกมาเป็นเงินลงทุน จงเตรียมการวางแผนการใช้เงินทุนของคุณไว้ให้พร้อม
- คุณจะทำการลงทุนบ่อยเพียงใด — ความถี่ในการลงทุนนั้นจะผกผันกับอัตราส่วนค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่คุณจะต้องจ่าย ดังนั้น โปรดคิดคำนวนให้ดีกว่า คุณจะทำการลงทุนเป็นรายสัปดาห์, รายเดือน, หรือตามกรอบเวลาที่คุณต้องการ
- กำหนดช่วงระยะเวลาที่คุณจะทำการลงทุน — คุณอาจจะเลือกลงทุนในทรัพย์สินใดๆ เป็นช่วงเวลา 6 เดือน, 1 ปี, 3 ปี หรือมากเท่าที่คุณต้องการ การกำหนดช่วงระยะเวลาจะทำให้คุณคำนวนต้นทุนในการลงทุนของคุณได้อย่างชัดเจน อีกทั้ง เมื่อครบกำหนดระยะเวลาแล้ว คุณยังสามารถเปลี่ยนใจไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ได้ในกรณีที่คุณได้รับผลตอบแทนไม่มากอย่างที่หวังไว้
- สุดท้าย ทำตามแผนที่คุณวางเอาไว้ — เมื่อคุณได้วางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว มันก็ถึงเวลาที่จะทำตามแผนของคุณอย่างเคร่งครัดและมีวินัย
บทส่งท้าย
สรุปแล้ว การลงทุนแบบ DCA นั้นเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลา ต้องการลดความเสี่ยงในการลงทุน และต้องการสร้างวินัยในการลงทุนให้กับตนเอง ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถทำกำไรเป็นกอบเป็นกำให้คุณได้ในชั่วข้ามคืน แต่การได้เห็นผลตอบแทนที่ไม่สั่นคลอนจากสภาวะตลาดใดๆ หลังจากที่คุณรอคอยมาเป็นเวลานาน เปรียบเสมือนการได้เห็นดอกไม้ที่สวยงามหลังจากเราเฝ้ารดน้ำมาเป็นเวลานาน มันก็ให้ความรู้สึกที่ดีเช่นกัน!
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์