Trusted

Kaspa (KAS) คืออะไร ทำงานอย่างไร [อัปเดต 2024]

13 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

Kaspa (KAS) คืออะไร? Kaspa กล่าวอ้างว่า พวกเขาคือ Layer-1 Scaling Solution ที่รวดเร็วและปรับขนาดได้มากที่สุด ทำให้การตรวจสอบธุรกรรมเกิดขึ้นในทันที Kaspa ใช้ประโยชน์จากการผสมผสานเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใครอย่าง GHOSTDAG และ PHANTOM — ซึ่งเป็นกลไกฉันทามติเวอร์ชั่นปรับขนาดได้ของ Bitcoin — ทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้เป็นการรวมตัวของความรวดเร็วและความสามารถในการปรับขนาดซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในบล็อกเชนแบบดั้งเดิม ควบคู่ไปกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่คุณสามารถคาดหวังได้ในฐานะผู้ใช้งาน

ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจในทุกเรื่องที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ Kaspa ในส่วนที่เป็นเครือข่าย และ KAS ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของเครือข่าย รวมไปถึง โปรโตคอล PHANTOM/GHOSTAG ด้วย

Kaspa คืออะไร?

ภารกิจหลักของ Kaspa คือ การแก้ปัญหาเรื่องความสามารถในการปรับขนาดและความรวดเร็วของการทำธุรกรรมแบบกระจายอำนาจ ระบบบล็อกเชนแบบดั้งเดิมมักจะต้องเผชิญหน้ากับความแออัดของเครือข่ายเมื่อมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้น และปัญหาดังกล่าวก็มักจะนำไปสู่การทำธุรกรรมที่ช้าลงและค่า Gas ที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Kaspa ได้รับการออกแบบมาเพื่อเอาชนะข้อจำกัดของเทคโนโลยีบล็อกเชนในปัจจุบัน ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของบล็อกเชนในระดับแกนกลาง Kaspa ได้พัฒนาโปรโตคอลที่โดดเด่นที่เรียกว่า GhostDAG ขึ้นมาเพื่อช่วยในการบรรลุเป้าหมายนี้ เบื้องหลังโปรโตคอลนี้คืออัลกอริธึมแบบใหม่ที่ช่วยให้ธุรกรรมสามารถประมวลผลพร้อมกันทั้งหมดได้ในคราวเดียว แทนที่จะเป็นตามลำดับแบบเดิม ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและปริมาณธุรกรรมของบล็อกเชนได้เป็นอย่างมาก ส่งผลให้เครือข่ายของพวกเขาสามารถทำธุรกรรมได้ในทันทีโดยมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น Kaspa ยังเป็นโปรเจกต์โอเพ่นซอร์สอีกด้วย นั่นหมายความว่า มันถูกสร้างขึ้นจากความพยายามของนักพัฒนากลุ่มใหญ่จากทั่วทุกมุมโลก ชุมชนของนักพัฒนานี้จะช่วยรักษา, ปรับปรุง, และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับรากฐานเทคโนโลยีของ Kaspa สืบต่อไป

สำรวจศักยภาพเต็มรูปแบบของ Kaspa

สำรวจศักยภาพเต็มรูปแบบของ Kaspa

Kaspa มองตัวเองว่าเป็น ”ชุดบริการที่ครอบคลุม” ของฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะช่วยให้เครือข่ายบล็อกเชนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ความสามารถที่โดดเด่นประการหนึ่งก็คือ ความสามารถในการเข้าถึง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สำรวจโครงสร้างเครือข่ายการเชื่อมต่อของ DAG ได้

สิ่งนี้จะช่วยมอบข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของเครือข่าย นอกจากนี้ Kaspa ยังนำเสนอการตัดแต่งบล็อกข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ในขณะที่ยังคงรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูลเอาไว้ได้

นอกจากนี้ Kaspa ยังก้าวไปอีกขั้นด้วยการสนับสนุน Simple Payment Verification (SPV) Proofs ซึ่งเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดบล็อกเชนทั้งหมด

ในเวลาเดียวกัน ทีมงาน Kaspa ก็ยังคงทำงานอย่างแข็งขันในเรื่องการตัดแต่งส่วนหัวของบล็อก เพื่อทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (ใช้พื้นที่น้อยลง) และเมื่อเราพูดถึงทีมงานแล้ว เรามาดูรายชื่อของบุคคลสำคัญที่รับผิดชอบในโปรเจกต์ Kaspa กันแบบสั้นๆ กันดีกว่า

ทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง Kaspa

การเดินทางของ Kaspa เริ่มต้นจาก DAGLabs ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาที่ก่อตั้งโดย Yonatan Sompolinsky ถึงแม้ว่า DAGLabs จะถูกยุบลงไปในที่สุด แต่โปรเจกต์ก็ยังคงดำเนินต่อไป — ซึ่งเป็นผลมาจากความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องของอดีตนักพัฒนาและนักวิจัยของ DAGLabs

ผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจกต์ ได้แก่ Yonatan Sompolinsky, Michael Sutton, Shai Wyborski, Elichai Turkel, Ori Newman และ Mike Zak พวกเขามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการกำหนดวิสัยทัศน์และการพัฒนาของ Kaspa ด้วยความเชี่ยวชาญต่างๆ ที่ผสมผสานกันทั้งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์, ระบบแบบกระจาย, การเข้ารหัส, และ เทคโนโลยีบล็อกเชน พวกเขาเหล่านี้ต่างก็มีส่วนอย่างมากต่อความสำเร็จของโปรเจกต์

Kaspa สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของแพลตฟอร์มที่มีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง นั่นหมายความว่า การตัดสินใจต่างๆ จะขึ้นอยู่กับชุมชนของนักพัฒนา นักวิจัย และเหล่าสาวกเท่านั้น ไม่ได้มาจากหน่วยงานส่วนกลางใดๆ Kaspa มีการดำเนินงานที่โปร่งใส กระจายอำนาจ และทำงานร่วมกัน โดยไม่มีอำนาจจากส่วนกลางใดๆ ที่สามารถกำหนดเงื่อนไขหรือแทนที่ฉันทามติดังกล่าวได้

Kaspa ทำงานอย่างไร?

Highway Analogy คือสิ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการอธิบายว่า Kaspa มีเป้าหมายที่จะบรรลุอะไร และจะบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้อย่างไร

Blockchain และ Highway Analogy

Blockchain และ Highway Analogy

ให้ลองนึกภาพทางหลวงสำหรับสำหรับข้อมูล (เช่น ธุรกรรมต่างๆ) ในบล็อกเชนแบบดั้งเดิม เช่น Bitcoin ทางหลวงสายนี้จะมีบูธเก็บเงินค่าผ่านทางเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ทางหลวงนี้จะเต็มไปด้วยยานพาหนะมากมาย ส่งผลให้การทำธุรกรรม (ที่เปรียบเสมือนรถยนต์) ต้องเข้าคิวผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง (เปรียบเสมือนนักขุดหรือผู้ตรวจสอบ) ที่ให้รถผ่านไปได้ทีละคัน จุดคอขวดนี้คือสิ่งที่ทำให้เกิดความแออัด ทำให้เกิดการเดินทางที่ล่าช้า (เปรียบเสมือนการประมวลผลธุรกรรมที่ล่าช้า) และการเพิ่มค่าผ่านทางเพื่อโอกาสในการเดินทางที่รวดเร็วยิ่งขึ้น (เปรียบเสมือนค่าแก๊สที่เพิ่มขึ้นในช่วงเครือข่ายแออัด)

โปรโตคอล PHANTOM & GHOSTDAG

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Kaspa ใช้วิธีการพิเศษที่ผสมผสานความรวดเร็วและความสามารถในการปรับขนาดของโครงสร้าง Directed Acyclic Graph (DAG) โดยพื้นฐานแล้ว Kaspa ใช้โปรโตคอลหลัก 2 ตัว ได้แก่ PHANTOM และ GHOSTDAG โปรโตคอลเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายในการจัดการกับปัญหา 3 ประการของบล็อกเชน (Blockchain Trilemma) ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่ไม่กระทบต่อเรื่องความปลอดภัยหรือการกระจายอำนาจ

PHANTOM เป็นโปรโตคอล Proof-of-Work ที่ใช้โครงสร้าง DAG ต่างจากบล็อกเชนที่ทำงานในลักษณะของเครือข่ายเส้นเดียวเพื่อเชื่อมโยงบล็อกต่างๆ DAG จะช่วยให้สามารถทำการเพิ่มบล็อกแบบคู่ขนานได้ เนื่องจากมันสามารถประมวลผลธุรกรรมหลายรายการพร้อมกันได้ แทนที่จะประมวลผลไปตามลำดับ

“PHANTOM ช่วยแก้ปัญหาการปรับแต่งบน blockDAG เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างบล็อกที่ขุดอย่างเหมาะสมโดยโหนดที่ซื่อสัตย์ และบล็อกที่สร้างขึ้นโดยโหนดที่ไม่ให้ความร่วมมือซึ่งเลือกที่จะหันเหออกไปจากโปรโตคอลการขุด ด้วยเหตุนี้ PHANTOM จึงสามารถจัดระเบียบบน blockDAG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในลักษณะที่โหนดที่ซื่อสัตย์ทั้งหมดสามารถตกลงกันได้ในท้ายที่สุด”

– ตัดมาจากรายงานใน เอกสาร PHANTOM GHOSTDAG (2021) ที่ร่วมเขียนโดย Yonatan Sompolinsky

ในขณะเดียวกัน GHOSTDAG ได้นำเอาคอนเซปต์ของ DAG มาใช้และปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยการใช้วิธีการออกคำสั่งต่อบล็อกคู่ขนานเหล่านี้ในลักษณะที่ยังสามารถรักษาความปลอดภัยและฉันทามติของเครือข่ายได้ มันเหนือล้ำไปกว่าระบบฉันทามติของ Nakamoto โดยการควบคุมธุรกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในโครงสร้าง DAG ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการรักษาความปลอดภัยและความเห็นพ้องต้องกัน แม้ว่าจะมีการเพิ่มบล็อกแบบคู่ขนานก็ตาม

พูดอีกอย่างก็คือ ถึงแม้ว่าธุรกรรมจะได้รับการประมวลผลแบบคู่ขนาน แต่เครือข่ายก็ยังสามารถมีความเห็นพ้องต้องกันได้ว่าธุรกรรมใดเกิดขึ้นก่อน

กลไกและการขยายขอบเขตของ Highway Analogy

พูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขานำเอา PHANTOM เข้ามาใช้งานเพื่อเปลี่ยนวิธีการทำงานของสิ่งต่างๆ โดยการใช้โครงสร้าง DAG ซึ่งจะเปิดบูธเก็บค่าผ่านทางหลายจุดบนทางหลวง ทำให้รถยนต์ (ธุรกรรม) หลายคันสามารถผ่านไปได้พร้อมกันในลักษณะแบบคู่ขนาน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด (ความแออัดของเครือข่าย) ลงเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ต่างจากบูธเก็บค่าผ่านทาง ที่เวลาเข้าหรือออกที่แน่นอนอาจจะไม่สำคัญ การประทับเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับการทำธุรกรรมในเครือข่ายบล็อกเชน ลำดับที่ถูกต้องจะเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหา เช่น การใช้จ่ายซ้ำซ้อน (Double-Spending) เป็นต้น

ดังนั้น ในปัจจุบัน เนื่องจากมีบูธเก็บค่าผ่านทางหลายบูธที่ทำงานขนานกันไป ความท้าทายก็คือการทำให้แน่ใจว่ารถทุกคันที่ผ่านบูธเก็บค่าผ่านทางไปได้จะมีการบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบระเบียบ และนี่คือจุดที่ GHOSTDAG เข้ามามีบทบาท

มันจะทำหน้าที่เป็น “ระบบควบคุมการจราจรอัจฉริยะ” ที่ช่วยในการจัดการกระแสการไหลของรถยนต์ (ธุรกรรม) ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อในบูธเก็บค่าผ่านทางทั้งหมด (การยืนยันสิทธิ์นักขุด) GHOSTDAG จะทำให้แน่ใจว่าลำดับการทำธุรกรรมมีความสมเหตุสมผลและช่วยให้เครือข่ายทางหลวงทั้งหมด (บล็อกเชน) ทำงานได้อย่างราบรื่น ถึงแม้ว่าจะมีหลายบูธที่ทำงานพร้อมกัน GHOSTDAG ก็จะตรวจสอบลำดับการเข้าและออกของรถทุกคัน (รายละเอียดธุรกรรม)

สิ่งใดที่ทำให้ Kaspa แตกต่างจากผู้อื่น?

นี่คือคุณลักษณะสำคัญต่างๆ ของ Kaspa:

  • แตกต่างจากบล็อกเชนแบบดั้งเดิมที่มีเครือข่ายเดี่ยว (Single Chain) Kaspa เลือกใช้งาน BlockDAG (Directed Acyclic Graph) สิ่งนี้ช่วยให้เครือข่ายสามารถประมวลผลธุรกรรมได้แบบคู่ขนาน เพิ่มความสามารถในการปรับขนาด และเพิ่มความรวดเร็วของธุรกรรมได้อย่างมาก
  • Kaspa ยังมีการใช้งานโปรโตคอล GHOSTDAG อีกด้วย โปรโตคอลนี้จะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการรับส่งข้อมูลภายใน BlockDAG ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการทำงานที่ราบรื่นและปลอดภัย โดยการตรวจสอบธุรกรรมและรักษาลำดับอย่างถูกต้อง
  • ต่างจากบล็อกเชนอื่นๆ ที่ยอมรับเพียงหนึ่งบล็อกต่อรอบ Kaspa จะยอมรับบล็อกที่ถูกต้องทั้งหมด ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและหลีกเลี่ยงการสูญเสียพลังการประมวลผลไปอย่างเสียเปล่าให้มากที่สุด
  • เพิ่มความสามารถในการประมวลผลและการแข่งขันสำหรับพื้นที่บล็อกที่จำกัด ซึ่งจะส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำกว่าบล็อกเชนแบบดั้งเดิมอย่างมาก
  • Kaspa ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถรองรับธุรกรรมได้เป็นจำนวนมาก ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย

KAS: สกุลเงินของเครือข่าย Kaspa

KAS เป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักของโปรโตคอล Kaspa และใช้สำหรับขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเงินทั้งหมดในเครือข่าย รวมถึง การใช้ชำระค่าธรรมเนียมธุรกรรมและค่าธรรมเนียมสำหรับนักพัฒนา

Kaspa ใช้สถาปัตยกรรม BlockDAG ที่สามารถสร้างบล็อกได้อย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ช่วยเรื่องการกระจายการขุด KAS และทำให้การขุดเดี่ยวสามารถเป็นไปได้ถึงแม้จะมี Hash Rate ที่ต่ำกว่าก็ตาม

โปรเจกต์นี้เปิดตัวเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 โดยไม่มีการให้ขุดล่วงหน้า รอบพรีเซลล์ หรือการจัดสรรเหรียญ ก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างมีการกระจายอำนาจ เป็นโอเพ่นซอร์ส และขับเคลื่อนโดยชุมชนอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้น

อัตราการ Halving และการปล่อยเหรียญของ KAS

Kaspa มีอุปทานสูงสุดคงที่และมีกำหนดการ Halving เช่นเดียวกับ Bitcoin (BTC) มันมีอุปทานสูงสุดที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่ 2.87 หมื่นล้านเหรียญ KAS ขีดจำกัดของอุปทานนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อและรักษามูลค่าของ KAS ให้คงที่เมื่อเวลาผ่านไป

Kaspa จะลดจำนวนเหรียญใหม่ที่สร้างขึ้นได้ลงครึ่งหนึ่งทุกปี (แตกต่างจากการ Bitcoin Halving ทุกๆ 4 ปี) แต่แทนที่จะเป็นการลดลงครึ่งหนึ่งในคราวเดียว Kaspa จะค่อยๆ ลดมันลงอย่างช้าๆ เดือนต่อเดือน

นี่คือวิธีการทำงานของมัน:

  • อัตราการปล่อยเหรียญจะเริ่มต้นที่ค่าที่เฉพาะเจาะจง
  • ในแต่ละเดือน อัตราการปล่อยเหรียญจะคูณด้วยตัวประกอบของ (1/2)^(1/12) ซึ่งก็คือรากที่ 2 ของครึ่งหนึ่ง
  • การลดลงอย่างช้าๆ นี้จะดำเนินต่อไปเป็นเวลา 12 เดือน ส่งผลให้อัตราการปล่อยเหรียญในแต่ละปีลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 50%

เริ่มแรก การขุดจะดำเนินการบน CPU โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรกของการเปิดตัวเครือข่ายหลัก (Mainnet) ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2021 สมาชิกชุมชนได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ขุดด้วย GPU แบบโอเพ่นซอร์สตัวแรกสำหรับ Kaspa ซึ่ง GPU และ FPGA รุ่นต่อมายังคงเป็นเครื่องมือหลักในการขุดอยู่เป็นเวลา 1 ปีครึ่ง

จากนั้น ในวันที่ 13 เมษายน 2023 ตัวแทนจาก IceRiver ได้เข้าร่วมช่อง Discord อย่างเป็นทางการเพื่อเปิดตัวเครื่องขุด ASIC สำหรับโปรเจกต์นี้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขุด ASIC สำหรับโปรเจกต์นี้

ประวัติราคาของ Kaspa
ประวัติราคาของ Kaspa: CoinMarketCap

กระเป๋าเงิน Kaspa

ระบบนิเวศของ Kaspa มีกระเป๋าเงินมากมายที่ขึ้นชื่อในเรื่องความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและความใช้งานง่าย กระเป๋าเงินเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Bitcore และมีคุณสมบัติความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น Multi-Sig เป็นต้น คุณสามารถเลือกหนึ่งในกระเป๋าเงิน Kaspa เหล่านี้เพื่อใช้งานได้ โดยจะขึ้นอยู่กับความต้องการและความชื่นชอบโดยส่วนตัวของคุณ

  • Web Wallet: Kaspa Web Wallet ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี PWA (Progressive Web App) มันมีอินเตอร์เฟสที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้งานที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานได้จากทุกที่ คุณสามารถใช้งานมันบนอุปกรณ์ใดก็ได้ที่มีเว็บเบราว์เซอร์ Web Wallet นี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดี แม้ว่าผู้ใช้งานบางรายอาจจะชอบกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์หรือเดสก์ท็อปมากกว่าหากต้องการความปลอดภัยมากขึ้นหรือการจัดเก็บแบบออฟไลน์
  • Desktop Wallet: KDX Process Manager จะช่วยลดความยุ่งยากในการตั้งค่าซอฟต์แวร์ Full-Node ของ Kaspa และกระเป๋าเงินเดสก์ท็อปที่มาพร้อมกัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานบนเดสก์ท็อปได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • Command Line Wallet: Command Line Wallet ได้รับการดูแลโดยทีมงานหลักของ Kaspa เป็นส่วนสำคัญของชุดซอฟต์แวร์โหนดหลักและมอบความสามารถในการใช้งานอินเตอร์เฟสแบบ Command-Line ที่ทรงพลังให้กับผู้ใช้งานระดับสูง
  • การผสานรวม Hardware: KasVault เป็นอินเทอร์เฟสที่ใช้งานได้ง่ายสำหรับการส่งและรับธุรกรรม Kaspa โดยด้วยการผสานรวมกับกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ ซึ่งปัจจุบันรองรับการผสานรวมกับกระเป๋าเงิน Ledger ด้วย

บทเรียนจาก Kaspa

Kaspa นำเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับปัญหา Blockchain Trilemma ด้วยการผสานรวมกลไกฉันทามติที่ได้รับการยอมรับอย่าง Proof-of-Work เข้ากับโครงสร้าง BlockDAG และโปรโตคอล GHOSTDAG ที่ไม่เหมือนใคร การผสมผสานนี้ช่วยจัดการกับปัญหาความสามารถในการปรับขนาดที่มักจะทำให้บล็อกเชนแบบดั้งเดิมช้าลง ซึ่งอาจจะส่งผลให้การทำธุรกรรมรวดเร็วยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในเวลาเดียวกัน KAS ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของ Kaspa มีโทเค็นโนมิคส์ที่แข็งแกร่งและมีประวัติที่น่าเชื่อถือ ถึงแม้ว่ามันจะดูมีศักยภาพที่ดี แต่การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลนั้นล้วนมีความเสี่ยง หากพิจารณาถึงผลกระทบจากความผันผวนของตลาดและราคา การลงทุนเฉพาะเท่าที่คุณจะสูญเสียได้จึงเป็นหลักการที่สำคัญมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

สกุลเงินดิจิทัลของโปรเจกต์ Kaspa คือตัวใด?

อุปทานสูงสุดของเหรียญ Kaspa (KAS) คือเท่าใด?

ราคา Kaspa (KAS) จะขึ้นไปที่ 10 ดอลลาร์ได้หรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน