Financial Stability Board (FSB)  แนะบริษัทคริปโตอาจต้องการทุนสำรองเหมือนธนาคาร

Financial Stability Board (FSB) ผู้ประสานงานระดับโลกด้านกฎระเบียบทางการเงินได้เสนอข้อเสนอสำหรับกฎระเบียบของคริปโตเคอเรนซี โดยหวังว่าประเทศต่าง ๆ จะนำไปปฏิบัติใช้ก่อนสิ้นสุด Crypto Winter

FSB ซึ่งติดตามและให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบการเงินทั่วโลกสำหรับกลุ่มประเทศ G20 ได้เสนอคำแนะนำเก้าข้อ สำหรับประเทศเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ 

ปัจจุบัน คริปโตเคอเรนซีส่วนใหญ่ไม่ได้รับการกำกับดูแลในประเทศต่างๆ โดยบริษัทส่วนใหญ่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎที่ต่อต้านการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้ายเท่านั้น 

ทว่า ความน่าสะพรึงจากการที่มูลค่าของตลาดคริปโตลดลงจาก 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหากคิดจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่จุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเหลือต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ทำให้ FSB เชื่อว่าบริษัทคริปโตควรจะต้องมีเงินทุนจำนวนมากขึ้นเช่นเดียวกัน ให้กับธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินอื่น ๆ 

“ผู้ให้กู้สินทรัพยคริปโตหลายรายล้มเหลวในช่วงที่ตลาดเกิดความปั่นป่วนเมื่อเร็ว ๆ นี้อันเป็นผลมาจากความอ่อนแอในการดำเนินงาน การใช้เงินทุนในปริมาณที่น้อย การเปิดรับความเสี่ยงแบบเข้มข้น และการซื้อขายที่มีความเสี่ยงและการลงทุนทางธุรกิจ” FSB กล่าว

คำแนะนำของ FSB สำหรับข้อมูลและความเสี่ยง

นอกเหนือจากข้อกำหนดเหล่านี้แล้ว FSB กล่าวว่าบริษัทคริปโตควรมีกรอบการกำกับดูแลที่จะจัดการความเสี่ยงและข้อมูลในบริษัทเหล่านี้ และรวมถึงแผนฉุกเฉินสำหรับการปิดระบบอย่างราบรื่นในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ใด ๆ ก็ตาม

FSB ยังได้ปรับปรุงคำแนะนำเกี่ยวกับ Stablecoin โดยกล่าวว่าสินทรัพย์ดังกล่าวที่มีอยู่ส่วนใหญ่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ตามที่ผู้อำนวยความสะดวกด้านกฎระเบียบระบุว่าการล่มสลายของ Terra Stablecoin เมื่อต้นปีนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่สินทรัพย์เหล่านี้จะต้องมีหลักประกันที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลัง 

ดังนั้น FSB จึงเสนอให้ผู้ออกเหรียญ Stablecoin เสริมความแข็งแกร่งในการกำกับดูแลทรัพย์สินของตน จัดให้มีกลไกการรักษาเสถียรภาพที่มีประสิทธิภาพสำหรับพวกเขา ตลอดจนชี้แจงวิธีการไถ่ถอน

ความเสี่ยงของคริปโตจะมา “เร็วกว่าที่คิด”

ตามที่ Klaas Knot ประธาน FSB วิเคราะห์ ราคาของสินทรัพย์คริปโตที่ลดลงในปีที่ผ่านมานั้นยืนยันมุมมองของคณะกรรมการว่าภาคส่วนคริปโตยังคงขาดความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐาน

แม้ว่าในปัจจุบัน ปัญหาดังกล่าวจะไม่ใหญ่พอที่จะคุกคามความมั่นคงทางการเงินโดยรวม Knot กล่าวว่าคริปโตเคอเรนซีจะต้องมีกรอบการกำกับดูแลเพื่ออำนวยความสะดวกในการคืนสภาพตลาด

“ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่มีต่อเสถียรภาพทางการเงินจึงมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เร็วกว่าในภายหลัง” Knot กล่าวในจดหมายถึงรัฐมนตรีคลัง G20 

ข้อเสนอดังกล่าวจะเผยแพร่เพื่อขอปรึกษาหารือกับสาธารณะจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม /จ// .นการสรุปผลในปีหน้า สมาชิก FSB จะถูกคาดหวังให้นำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้โดยเร็ว

ในขณะเดียวกันสหภาพยุโรปมุ่งหน้าไปยังการออกกับกฎหมาย Markets in Crypto Assets (MiCA) นอกเหนือจากการเปิดเผย “กำกับดูแลแบบฝัง” สำหรับโครงการการเงินแบบกระจายอำนาจรายต่าง ๆ