Satoshi Nakamoto คือ นามแฝงของผู้สร้าง Bitcoin ของตัวจริงที่ยังคงเป็นปริศนาจวบจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเขาเป็นผู้สร้างเหรียญและรากฐานของเครือข่ายทำให้หลายๆ คนสงสัยว่าเขาเป็นใครและยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
Bitcoin (BTC) กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าทางการตลาดใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากทั้งรายย่อยและสถาบันทางการเงินบางแห่ง ถึงขนาดที่ว่าประเทศอย่าง El Salvador ได้ประกาศให้ BTC สามารถใช้ชำระหนี้ในประเทศได้ (Legal Tender)
ทว่าสิ่งที่ผู้คนยังคงสงสัยและอาจกังวล คือตัวตนของ “ซาโตชิ นากาโมโตะ” ว่าเขาเป็นใครและมีอำนาจมากพอที่จะส่งผลต่อสินทรัพย์และเครือข่ายในอนาคตหรือไม่
Satoshi Nakamoto คือใคร
“ซาโตชิ นากาโมโตะ” เป็นนามแฝงของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่สร้างเครือข่ายบล็อคเชนของ Bitcoin และเหรียญขึ้นมา ในช่วงที่สร้างเทคโนโลยีนี้ขึ้น เขาเคยติดต่อกับนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์หลายๆ คนผ่านอีเมล และติดต่อกับนักพัฒนาผ่านทางเว็ปบอร์ดต่างๆ ในช่วงปี 2009
ในปี 2011 เขาทิ้งข้อความสุดท้ายไว้ว่าเขาจะย้ายไปทำโปรเจคอื่นแล้วหลังจากพัฒนา Bitcoin และเทคโนโลยี Blockchain เสร็จสิ้น หลังจากนั้นเขาก็หายไปตลาดกาลโดยไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีกจนถึงปัจจุบัน
เหตุผลในการสร้าง Bitcoin
อุดมการณ์ในการสร้าง Bitcoin เกิดขึ้นเพื่อเสนอทางเลือกของระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลางและเป็นอิสระจากการควบคุมจากผู้มีอำนาจอย่างระบบการเงินปัจจุบันอย่างธนาคารกลางหรือรัฐบาล
สิ่งที่ผลักดันให้เกิดบิทคอยน์ขึ้นมาคือ วิกฤตสินเชื่อ Subprime หรือที่เรียกกันว่า วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ในช่วงปี 2007-2008 ที่ทำให้ระบบทางการเงินของทั้งโลกปั่นป่วน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นความล้มเหลวของระบบของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ล่มสลาย เนื่องจากปล่อยกู้สินเชื่อบ้านมากเกินไป ทำให้การปรับดอกเบี้ยขึ้นส่งผลต่อการผิดชำระหนี้จำนวนมหาศาล
Bitcoin จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างระบบการเงินทางเลือกที่ธนาคารกลางหรือผู้มีอำนาจ “ไม่สามารถแทรกแซงนโยบายทางการเงินได้” อุปทานจึงถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์แบบไร้ศูนย์กลางโดยสิ้นเชิง
Blockchain เป็นเทคโนโลยีรองรับซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทในการตรวจสอบและบันทึกธุรกรรมแบบไร้ศูนย์เพื่อป้องกันการปลอมแปลงธุรกรรมโดยคนกลาง โดยวันที่ 3 มกราคม 2009 Genesis Block หรือบล็อกธุรกรรมแรกก็ได้ถูกขุดขึ้น
นอกจากนี้การจะเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Bitcoin นั้นเป็นไปได้ยากมากในปัจจุบันที่ผู้คนหลากหลายกลุ่มจากทั่วโลกเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม เพราะการเปลี่ยนแปลงต้องการฉันทามติจากผู้ตรวจสอบที่อยู่ทั่วโลกที่ทำ “การขุด Bitcoin” แน่นอนว่าเคยมีความพยายามเกิดขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จจึงต้องทำการ Hard Fork ออกมาเป็นเหรียญอื่น เช่น Bitcoin Cash นั่นเอง
บุคคลที่อาจเป็น “ซาโตชิ นากาโมโตะ”
ผู้คนที่พยายามจะคาดเดาว่าเขาเป็นใครได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เขาเหลือทิ้งเอาไว้และอนุมานเกี่ยวกับเขาไว้ดังนี้
- อัจฉริยะด้านการเข้ารหัส (Cryptography)
ซาโตชิ นากาโมโตะ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้ที่มีความสามารถด้านการเข้ารหัสคอมพิวเตอร์ที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของโลก ชุดรหัสที่เขาสร้างขึ้นมีความยาวกว่า 31,000 บรรทัด และยังไม่เคยมี hacker คนใดที่สามารถแฮค Bitcoin ได้สำเร็จมากว่าทศวรรษแล้ว
- ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ
เมื่อพิจารณาเอกสารทางเทคนิคของ Bitcoin เราสามารถอุนมานได้ว่า เขาเป็นคนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วและไม่ผิดหลักไวยากรณ์เลย อีกทั้งการติดต่อกับผู้ร่วมงานผ่านอีเมลหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ก็เป็นการติดต่อด้วยภาษาอังกฤษทั้งสิ้น จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าเขาอาจเป็นชาวยุโรปหรืออมเริกันแม้เขาจะใช้นามแฝงเป็นชื่อญี่ปุ่นก็ตาม
- ไม่ใช่ปัจเจกบุคคล
อีกข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจคือ เขาอาจไม่ใช่บุคคลเพียงบุคคลเดียว แต่เป็นกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันสร้างโค้ดของ Bitcoin ขึ้น เพราะโค้ดที่เขียนออกมามีความสมบูรณ์แบบสูงมากเกินกว่าที่บุคคลเพียงคนเดียวจะทำได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เข้าข่ายจะเป็นตัวจริง
จากข้อมูลเหล่านี้ทำให้ชุมชนคาดว่าบุคคลเหล่านี้อาจจะเป็น ซาโตชิ นากาโมโตะ ตัวจริง
- Craig Steven Wright : นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรีย ที่ออกมายืนยันว่าตนคือตัวจริง
- Dorian Nakamoto : นักฟิสิกส์ที่เคยร่วมโครงการระหว่างชาวอเมริกันและชาวญี่ปุ่น
- Nick Szabo : วิศวกรคอมพิวเตอร์และนักกฎหมาย ที่เคยคิดค้นระบบ Smart Contract ในปี 2008
ซาโตชิ นากาโมโตะ ถือครอง Bitcoin จำนวนเท่าไหร่
Sergio Demian Lerner นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยด้านคริปโตเคอเรนซี่ คาดว่าจำนวนที่ ซาโตชิ ถือครองอยู่มีราว 1 ล้าน BTC อ้างอิงจากข้อมูลการขุด Bitcoin โดยคิดรวมจากรางวัลที่ได้รับในแต่ละบล็อคที่ขุดซึ่งอยู่ที่ 50 BTC ต่อบล็อคที่เขาได้รับ
ทำไม Satoshi Nakamoto ต้องปกปิดตัวตน
- ความปลอดภัยของบล็อคเชน
การปกปิดตัวตนของ ซาโตชิ นากาโมโตะ เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของบล็อคเชนทั้งหมด เพราะหากตัวจริงถูกเปิดเผยเขาอาจโดนผู้มีอำนาจกดดันหรือข่มขู่ให้กระทำการบางอย่างเกี่ยวกับตัวบล็อคเชนได้
- การละเมิดสิทธิ์
เขาอาจถูกผู้คนและสถาบันต่างๆ โจมตีหรือฟ้องร้อง หรือแม้แต่การลักพาตัวและรีดไถ่จากกลุ่มคนต่างๆ เพราะเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกันเคยเกิดขึ้นกับ Dorian Nakamoto ที่เคยตกเป็นเป้าของการฟ้องร้องมาแล้ว
- การกระจายอำนาจ
อุดมคติของ Bitcoin คือการกระจายอำนาจโดยไร้ผู้นำที่จะมาคอยชี้นำความเป็นไปของ Bitcoin เขาต้องการให้ระบบการเงินใหม่นี้ ปราศจากการรวมศูนย์อย่างแท้จริง
สรุป
Satoshi Nakamoto เป็นผู้สร้าง Bitcoin โดยมีอุดมการณ์เพื่อกระจายอำนาจในระบบการเงินและทางเลือกจากระบบการเงินที่ล่มเหลวดังที่เกิดขึ้นใน วิกฤต Subprime
ทว่าปัจจุบันเวลาผ่านไปกว่าทศวรรษกลับยังไม่มีใครทราบตัวตนที่แท้จริงของเขา ซึ่งการปกปิดตัวตนของเขานั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์และอุดมการณ์ของ Bitcoin ที่จะไร้ศูนย์กลางอย่างแท้จริง เพราะจะไม่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาคอยชี้นำความเป็นไปของบล็อคเชน
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์