ดูเพิ่มเติม

7 แพลตฟอร์ม การซื้อขายเลเวอเรจคริปโต ที่ดีที่สุดในปี 2024

42 mins
โดย Iulia Vasile
แปลแล้ว Akradet Mornthong

‘การซื้อขายเลเวอเรจคริปโต’ เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนให้ได้มากที่สุด ในบทความนี้ เราจะไปสำรวจความซับซ้อนของการใช้กลยุทธ์การซื้อขายคริปโตด้วยเลเวอเรจ เทคนิคในการจัดการความเสี่ยง และโอกาสในการทำกำไรระยะสั้นจากสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum รวมไปถึง การแนะนำรายชื่อของแพลตฟอร์ม “การซื้อขายเลเวอเรจคริปโต” ที่ดีที่สุดในปี 2024 อีกด้วย

เราจะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานของการซื้อขายคริปโต ตั้งแต่ การมองหากระดานเทรดที่เหมาะกับคุณ ไปจนถึง การเปิดบัญชีบนกระดานเทรดดังกล่าว ไม่ต้องห่วง เรารวบรวมทุกอย่างมาไว้ให้คุณแล้วที่นี่!!

แนวทางที่เราใช้เลือกแพลตฟอร์มที่ดีที่สุด

[สารบัญ]

7 แพลตฟอร์ม ‘การซื้อขายเลเวอเรจคริปโต’ ที่ดีที่สุดในปี 2024

1. Coinbase

กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่
ค่าธรรมเนียมการเทรดด้วยเลเวอเรจ
0%
คู่เทรดที่มีให้บริการ
390+
เลเวอเรจสูงสุด
10 เท่า
ประเทศที่เปิดให้บริการ
170+

2. Kraken

กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดในเรื่องความปลอดภัย
ค่าธรรมเนียมการเทรดด้วยเลเวอเรจ
0.02% หรือ 0.05% + ค่าโรลโอเวอร์
คู่เทรดที่มีให้บริการ
790+
เลเวอเรจสูงสุด
50 เท่า
ประเทศที่เปิดให้บริการ
190+

3. KuCoin

กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย Altcoins
ค่าธรรมเนียมการเทรดด้วยเลเวอเรจ
0.06%
คู่เทรดที่มีให้บริการ
1300+
เลเวอเรจสูงสุด
100 เท่า
ประเทศที่เปิดให้บริการ
190+

4. MEXC

กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดในเรื่องค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
ค่าธรรมเนียมการเทรดด้วยเลเวอเรจ
0.02%
คู่เทรดที่มีให้บริการ
2500+
เลเวอเรจสูงสุด
200 เท่า
ประเทศที่เปิดให้บริการ
170+

5. OKX

กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับ DeFi
ค่าธรรมเนียมการเทรดด้วยเลเวอเรจ
0.05% (Futures) และ 0.03% (Options)
คู่เทรดที่มีให้บริการ
640+
เลเวอเรจสูงสุด
125 เท่า
ประเทศที่เปิดให้บริการ
180+

6. Bybit

กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดด้วยเลเวอเรจ
ค่าธรรมเนียมการเทรดด้วยเลเวอเรจ
0.055% (Futures) และ 0.02% (Options)
คู่เทรดที่มีให้บริการ
800+
เลเวอเรจสูงสุด
100 เท่า
ประเทศที่เปิดให้บริการ
160+

7. Binance

กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
ค่าธรรมเนียมการเทรดด้วยเลเวอเรจ
0.05% (Futures) และ 0.03% (Options)
คู่เทรดที่มีให้บริการ
330+
เลเวอเรจสูงสุด
125 เท่า
ประเทศที่เปิดให้บริการ
100+

การเปรียบเทียบแพลตฟอร์มการซื้อขายเลเวอเรจคริปโต

แพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับคู่เทรดเลเวอเรจสูงสุดประเทศที่เปิดให้บริการค่าธรรมเนียมการเทรดด้วยเลเวอเรจ
Coinbase240+390+10 เท่า170+0%
Kraken240+600+50 เท่า190+0.02% หรือ 0.05% + ค่าโรลโอเวอร์
KuCoin770+1300+100 เท่า190+0.06%
MEXC1900+2500+200 เท่า170+0.02%
OKX310+640+125 เท่า180+0.05% (Futures) และ 0.03% (Options)
Bybit560+800+100 เท่า160+0.055% (Futures) และ 0.02% (Options)
Binance400+1500+125 เท่า100+0.05% (Futures) และ 0.03% (Options)

การซื้อขายเลเวอเรจคริปโต คืออะไร?

‘การซื้อขายเลเวอเรจคริปโต’ คือ การใช้เงินที่ยืมมาเพื่อที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากยิ่งขึ้นในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum เทรดเดอร์จะต้องใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย ทั้งผสมผสานการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานเพื่อทำการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของตลาด

การใช้เลเวอเรจในการซื้อขายใดๆ มันก็เป็นเหมือนดาบสองคม ใช่แล้ว มันช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้ แต่ผลลัพธ์ในเชิงลบมันก็จะถูกขยายมากขึ้นเช่นกัน

Siam Kidd, ที่ปรึกษาทางการเงิน (สกุลเงินดิจิทัล) และผู้เขียนหนังสือขายดี “The Crypto Book”

ารใช้เลเวอเรจจะขยายทั้งผลกำไรและผลลัพธ์ในการสูญเสียของคุณ ทำให้การบริหารความเสี่ยงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง อนุพันธ์ฟิวเจอร์สนั้นจะเป็นการเดิมพันว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นๆ จะมีราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลง และฟิวเจอร์จะช่วยให้คุณได้รับสถานะที่ใหญ่กว่าที่คุณสามารถทำได้โดยการซื้อโทเค็นโดยตรง

จากการจำลองข้อมูลของ Tradeciety จะแสดงให้เห็นว่า ผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นของการซื้อขายมาร์จิ้นด้วยอัตราส่วนเลเวอเรจ 2:1 นั้นค่อนข้างมาก แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงของราคาเพียงแค่ 10% ก็ตาม

ผลลัพธ์การซื้อขายด้วยการใช้ เลเวอเรจ 2:1
ที่มา: Tradeciety

เทรดเดอร์ควรที่จะใช้งานคำสั่ง Stop-Loss และทำความเข้าใจระบบ Order Book ของกระดานเทรดด้วยเพื่อการจำกัดความเสี่ยง แม้ว่าเลเวอเรจจะช่วยเพิ่มผลกำไรในระยะสั้นได้ แต่มันก็ยังเพิ่มค่าธรรมเนียมการซื้อขายและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจในตลาดคริปโตให้ดี และใช้วิธีการชำระงเนิที่รองรับในพื้นที่ของคุณ ก่อนที่จะทำการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ นักลงทุนควรที่จะศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนและทำการตัดสินใจเรื่องทางการเงินอย่างรอบคอบ

การซื้อขายอนุพันธ์คริปโตในประเภทต่างๆ

การซื้อขายเลเวอเรจคริปโตนั้นอาจจะมีอยู่หลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีกลไกและความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป และนี่คือประเภทหลักๆ ที่นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมเทรดกัน:

  • ฟิวเจอร์สแบบดั้งเดิม: สัญญาเหล่านี้จะมีวันหมดอายุ เทรดเดอร์ตกลงที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัลในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในวันที่กำหนดในอนาคต สัญญาเหล่านี้สามารถใช้เลเวอเรจได้ เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ขยายสถานะของสัญญาได้มากยิ่งขึ้น
  • ฟิวเจอร์สแบบถาวร: นี่คือสัญญาฟิวเจอร์สแบบที่ไม่มีวันหมดอายุ เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะได้นานเท่าที่ต้องการ ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถรักษาข้อกำหนดมาร์จิ้นไว้ได้ มันจะเลียนแบบราคาแบบสปอตของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างใกล้ชิดและให้เลเวอเรจที่สูง
  • ออปชั่น: ออปชั่นจะให้สิทธิ์แก่เทรดเดอร์ในการซื้อ (คอลออปชั่น) หรือขาย (พุทออปชั่น) สกุลเงินดิจิทัลในราคาที่ระบุ (ราคาใช้สิทธิ) ก่อนวันที่กำหนด เลเวอเรจในการซื้อขายออปชั่นคริปโตจะมาจากความสามารถในการควบคุมโทเค็นจำนวนมากด้วยเงินทุนที่ค่อนข้างน้อย (พรีเมียม)
  • เลเวอเรจโทเค็น: โทเค็นเหล่านี้คือโทเค็น ERC-20 ที่แสดงถึงสถานะเลเวอเรจของสินทรัพย์อ้างอิง ช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับสถานะที่มีเลเวอเรจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องหลักประกัน มาร์จิ้น หรือการชำระบัญชี อย่างไรก็ตาม มันอาจจะมีความผันผวนที่สูงและการถูกปรับสมดุลราคาเป็นระยะๆ ได้
  • การซื้อขายมาร์จิ้น: การซื้อขายมาร์จิ้นหมายถึงการกู้ยืมเงินเพื่อเพิ่มขนาดของสถานะ เทรดเดอร์จะต้องรักษาระดับมาร์จิ้นขั้นต่ำเอาไว้ และหากตลาดไม่เป็นไปตามที่ต้องการ พวกเขาอาจจะถูกเรียกหลักประกันเพิ่มเติม (Margin Call) หรือ เกิดการชำระบัญชีได้
  • ฟิวเจอร์สผกผัน: นี่คือสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์สที่สกุลเงินอ้างอิงเป็นสกุลเงินดิจิทัลแทนที่จะเป็นสกุลเงินเฟียต ช่วยให้เทรดเดอร์ป้องกันความเสี่ยงจากการลดราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลได้

การซื้อขายเลเวอเรจของสกุลเงินดิจิทัลทำงานอย่างไร?

การซื้อขายเลเวอเรจของสกุลเงินดิจิทัลช่วยให้เทรดเดอร์เพิ่มสถานะในตลาดซื้อขายได้มากกว่าที่เงินพวกเขามีในบัญชีจริงๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดสถานะ Ethereum มูลค่า 500 ดอลลาร์ ที่เลเวอเรจ 20 เท่า ประสิทธิภาพของสถานะในตลาดซื้อขายของคุณก็จะกลายมาเป็น 10,000 ดอลลาร์

วิธีนี้เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่ต้องการสร้างรายได้มากขึ้นโดยไม่ต้องใส่เงินสดลงไปเพิ่ม มันจะเป็นการใช้กลยุทธ์จากการวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจที่เพิ่มขึ้นจะขยายทั้งผลกำไรและผลขาดทุน ดังนั้น หากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ไม่ดี สถานะที่เปิดไว้ก็อาจจะถูกชำระบัญชีได้ ซึ่งอาจจะทำให้สูญเสียเงินลงทุนก้อนแรกไปทั้งหมด

แพลตฟอร์มต่างๆ มักจะนำเสนอการซื้อขายประเภทนี้ พร้อมด้วยตัวเลือกต่างๆ เช่น ฟิวเจอร์สแบบถาวร เลเวอเรจโทเค็น และการเปิดสถานะ Long และ Short ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่หลากหลายได้ทั้งในสถานการณ์ขาขึ้นและขาลง ดังนั้น เทรดเดอร์ควรที่จะทำความคุ้นเคยกับระบบคำสั่งซื้อต่างๆ และค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และใช้เงินทุนอย่างเหมาะสม

ก่อนที่จะเริ่มการซื้อขายเลเวอเรจ สิ่งสำคัญคือต้องศึกษารูปแบบทางเทคนิค, ทำความเข้าใจรูปแบบแท่งเทียน และมีกลยุทธ์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดีเสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดที่มีความผันผวนอย่าง Bitcoin, Ethereum และ Altcoins อื่นๆ

ประโยชน์และความเสี่ยงของ ‘การซื้อขายด้วยเลเวอเรจ’

ก่อนที่จะทำการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ การทำความเข้าใจทั้งประโยชน์และความเสี่ยงถือเป็นสิ่งที่สำคัญ โปรดจำไว้ว่า คุณจะต้องมีแผนการที่มั่นคงในการรับมือกับความเสี่ยงเพื่อบรรเทาความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

ประโยชน์ของ ‘การซื้อขายด้วยเลเวอเรจ’

  • เพิ่มประสิทธิภาพของเงินทุน: เลเวอเรจจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วยเงินทุนเริ่มต้นที่น้อยลง และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สูงสุด
  • เข้าถึงตลาดได้มากยิ่งขึ้น: เทรดเดอร์ที่มีเงินทุนที่จำกัดจะสามารถเข้าถึงตลาดและสินทรัพย์ที่มีราคาแพงยิ่งขึ้นได้ เพิ่มความหลากหลายและโอกาสให้กับพวกเขามากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มศักยภาพในการทำกำไร: ในสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย การใช้เลเวอเรจสามารถเพิ่มผลกำไรได้อย่างมหาศาลจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย
  • การป้องกันความเสี่ยง: เลเวอเรจสามารถใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ได้ ป้องกันการตกต่ำของตลาดด้วยการเปิดตำแหน่งในทางตรงกันข้าม
  • การขายชอร์ต: เลเวอเรจช่วยให้เทรดเดอร์สามารถขายชอร์ตได้ โดยได้กำไรจากราคาที่ลดลงโดยการยืมและขายในราคาที่สูงขึ้น จากนั้น ก็ซื้อคืนในราคาที่ต่ำลง
  • การซื้อขายเชิงกลยุทธ์: ช่วยให้เทรดเดอร์มีกลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การซื้อขายแบบสเปรดหรือการซื้อขายคู่ ซึ่งอาจจะต้องใช้เลเวอเรจเพื่อเปิดหลายๆ สถานะ

ความเสี่ยงของ ‘การซื้อขายด้วยเลเวอเรจ’

  • ความสูญเสียที่เพิ่มขึ้น: เมื่อเลเวอเรจสามารถเพิ่มผลกำไรได้ เลเวอเรจก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ของการสูญเสียได้เช่นกัน หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับสถานะที่เทรดเดอร์เปิดไว้
  • การเรียกหลักประกันและการชำระบัญชี: หากมูลค่าของสถานะต่ำกว่าระดับที่กำหนด (ข้อกำหนดเรื่องหลักประกัน) เทรดเดอร์อาจจะโดนเรียกหลักประกัน (Margin Call) ซึ่งต้องใช้เงินทุนเพิ่มเติมหรือถูกชำระบัญชีโดยอัตโนมัติ
  • ความผันผวนของตลาด: เลเวอเรจที่สูงอาจมีความเสี่ยงเป็นพิเศษในตลาดที่มีความผันผวน ซึ่งนำไปสู่การขาดทุนและการชำระบัญชีอย่างรวดเร็ว
  • ต้นทุนดอกเบี้ย: การถือสถานะที่มีเลเวอเรจข้ามคืนอาจจะทำให้เกิดต้นทุนดอกเบี้ย และลดผลกำไรที่อาจจะเกิดขึ้นได้
  • ความซับซ้อนและการซื้อขายมากจนเกินไป: การซื้อขายด้วยเลเวอเรจมีความซับซ้อนและอาจกระตุ้นให้มีการซื้อขายมากจนเกินไป หรือ เปิดสถานะโดยที่ไม่ได้คิดให้ดี เนื่องจากการรับรู้เกี่ยวกับต้นทุนในการเปิดสถานะอาจจะต่ำกว่าปกติ
  • ความเสี่ยงของคู่สัญญา: ในการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ มันมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้กู้หรือแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานะหรือเงินทุนของเทรดเดอร์ได้
  • แรงกดดันทางจิตวิทยา: การซื้อขายด้วยเลเวอเรจอาจจะทำให้เกิดความเครียดและนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผลเนื่องจากมีโอกาสขาดทุนสูงได้ ดังนั้น อย่าลืมเรียนรู้วิธีการที่จะควบคุมอารมณ์ในการซื้อขายคริปโตของคุณให้ดี

การซื้อขายเลเวอเรจ vs. การซื้อขายมาร์จิ้น

การซื้อขายเลเวอเรจและการซื้อขายมาร์จิ้นถือเป็นแนวทางการซื้อขายยอดนิยมในชุมชนเทรดคริปโต ซึ่งมักจะถูกใช้โดยผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวน

ทั้ง 2 วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินเพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่อาจจะเป็นไปได้ แต่ทั้ง 2 วิธีนี้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การซื้อขายและแนวทางการจัดการความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป

การซื้อขายเลเวอเรจ

  • คำนิยาม: ในการซื้อขายเลเวอเรจคริปโต นักลงทุนจะยืมเงินเพื่อเพิ่มขนาดการซื้อขายของพวกเขา เพื่อเพิ่มผลกำไรที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น การใช้เลเวอเรจ 10 เท่า การลงทุน 1,000 ดอลลาร์จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้เปรียบเสมือนว่ามีเงินทุน 10,000 ดอลลาร์
  • ข้อดี: ระดับเลเวอเรจที่สูงช่วยเพิ่มผลกำไรจากการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จได้ เหมาะสำหรับกลยุทธ์การเทรดในระยะสั้น และช่วยให้เทรดเดอร์ได้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย
  • ข้อเสีย: เลเวอเรจจะขยายความสูญเสียของคุณด้วย ****หากตลาดไม่เคลื่อนไหวไปอย่างที่คุณคิด คุณก็อาจจะสูญเสียเงินทุนของคุณได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นั่นหมายคววาม คุณอาจจะต้องจับตาดูการลงทุนของคุณอย่างใกล้ชิด และใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อจำกัดความเสี่ยง เช่น การตั้งคำสั่ง Stop-Loss เอาไว้
  • ดีที่สุดสำหรับ: เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ซึ่งใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและเข้าใจแนวโน้มของตลาดอย่างชัดเจน วิธีนี้เป็นที่นิยมในตลาดที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรูปแบบแท่งเทียนและการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมีบทบาทที่สำคัญมาก

การซื้อขายมาร์จิ้น

  • คำนิยาม: การซื้อขายมาร์จิ้นจะเกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยจะมีการใช้สินทรัพย์เป็นหลักประกัน ต่างจากการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นนั้นจะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ส่วนใหญ่มักจะจำกัดการกู้ยืมอยู่ที่ 5 เท่า
  • ข้อดี: ช่วยให้สามารถทำการซื้อขายได้มากขึ้นโดยไม่ต้องใช้เงินทุนล่วงหน้าแบบเต็มจำนวน เหมาะสำหรับทั้งสถานะซื้อและขาย ช่วยให้นักลงทุนสามารถผสมผสานกลยุทธ์การซื้อขายได้มากยิ่งขึ้น
  • ข้อเสีย: ถึงแม้ว่าจะไม่มีความเสี่ยงเท่ากับการซื้อขายที่มีเลเวอเรจสูง แต่การสูญเสียก็ยังคงจะมากเกินกว่าเงินลงทุนก้อนแรก ค่าธรรมเนียมในการยืมเงินยังทำให้รายได้ของคุณลดลงอีกด้วย
  • ดีที่สุดสำหรับ: เทรดเดอร์ที่ต้องการเพิ่มสถานะของตนในระดับปานกลาง เปิดสถานะเป็นระยะเวลานานขึ้น และผู้ที่มีแนวทางการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด

รูปแบบการซื้อขายทั้ง 2 ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะกำหนดให้ผู้ใช้งานจะต้องเปิดบัญชีในกระดานเทรดที่นำเสนอบริการเหล่านี้ ในขณะที่การซื้อขายด้วยเลเวอเรจเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการผลกำไรในระยะสั้น การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการความเสี่ยงที่น้อยกว่าและมีการวางแผนอย่างรอบคอบมากกว่า

แต่ไม่ว่าจะเลือกการซื้อขายประเภทใดก็แล้วแต่ สิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องคำนึงถึงอยู่เสมอคือการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค การทำความเข้าใจระบบการซื้อขายของแพลตฟอร์ม และการปฏิบัติตามกฏที่ชัดเจนเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและการจัดการความเสี่ยง เพื่อที่จะสามารถเดินบนเส้นทางของการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่ควรมองหาเมื่อทำการเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายเลเวอเรจคริปโตที่ดีที่สุด

ในการเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายเลเวอเรจคริปโตที่ดีที่สุด คุณจะต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายประการเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการมีเครื่องมือวิเคราะห์การซื้อขาย เช่น RSI Indicator และและความสามารถในการมองเห็นรูปแบบ เช่น Wyckoff Pattern หรือ “Bull Flag” Pattern

โปรดจำไว้เสมอว่า การซื้อขายด้วยเลเวอเรจนั้นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ให้เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และห้ามลงทุนมากเกินกว่าที่คุณจะยอมขาดทุนได้ และให้ระมัดระวังปรากฏการณ์ “Falling Knife” ที่อาจจะเกิดขึ้นในตลาดที่ผันผวนนี้

การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และ การรักษาความปลอดภัย

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศของคุณ แพลตฟอร์มที่ปฏิบัติตามกฎหมายมักจะมีความปลอดภัยมากกว่าสำหรับการซื้อขาย นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบคุณสมบัติความปลอดภัยต่างๆ เช่น การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (2FA), การจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลแบบออฟไลน์ หรือ การรับประกันต่อการโจรกรรมทางไซเบอร์

UI และ การสนับสนุนลูกค้า

หากคุณยังเป็นมือใหม่ ให้เลือกแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ง่าย และมีแหล่งข้อมูลทางการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจะรวมไปถึง บทช่วยสอน คำแนะนำเกี่ยวกับการซื้อขายแบบกริด และบัญชีทดลองสำหรับฝึกการซื้อขายคริปโตได้ฟรี โดยไม่ต้องใช้เงินจริงๆ นอกจากนี้ การสนับสนุนลูกค้าที่มีประสิทธิภาพซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ผ่านช่องทางต่างๆ มากมาย ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน

ขีดจำกัดและเงื่อนไขของ ‘เลเวอเรจ

แพลตฟอร์มที่แตกต่างกันก็จะมีระดับเลเวอเรจที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าเลเวอเรจที่สูงขึ้นอาจจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผลกำไรเป็นอย่างมาก แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ให้เริ่มต้นด้วยแพลตฟอร์มที่มีตัวเลือกเลเวอเรจที่ต่ำกว่า (เช่น 5 หรือ 10 เท่า) ซึ่งจะช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้นในขณะที่เรียนรู้ปัจจัยพื้นฐานต่างๆ

ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย

ทำความเข้าใจโครงสร้างของค่าธรรมเนียม ซึ่งอาจจะรวมไปถึง ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ค่าธรรมเนียมข้ามคืน และค่าธรรมเนียมการถอน ค่าธรรมเนียมที่ลดลงอาจจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลกำไรของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้น ให้คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่เสมอ

ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม DeFi อาจจะเสนอผลตอบแทนให้มากกว่ากระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ แต่ในพื้นที่ DeFi คุณอาจจะต้องทำความเข้าใจในเรื่องธุรกรรมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าความคลาดเคลื่อนของสกุลเงินดิจิทัล

ความลึกของสภาพคล่องและระบบคำสั่งซื้อขาย (Order Book)

สภาพคล่องที่สูงเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งหมายความว่า คำสั่งซื้อของคุณมีแนวโน้มที่จะได้รับการดำเนินการในราคาที่ต้องการ และมีความคลาดเคลื่อน (Slippage) น้อยที่สุด ให้ตรวจสอบระบบคำสั่งซื้อขายและสภาพคล่องของตลาดโดยรวมอย่างละเอียด

เพื่อที่จะทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ตัวชี้วัดของสภาพคล่องเหล่านี้ก่อนที่จะทำการซื้อขายเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งสามารถส่งผลต่อผลการซื้อขายของคุณได้อย่างแน่นอน

รองรับสินทรัพย์และคู่ซื้อขายที่หลากหลาย

ให้มองหาแพลตฟอร์มที่รองรับสกุลเงินดิจิทัลและคู่ซื้อขายที่หลากหลาย สิ่งนี้ทำให้คุณสามารถทำการซื้อขายได้ยืดหยุ่นมากขึ้นและช่วยให้คุณกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณได้ การทำความเข้าใจสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลายจะช่วยยกระดับประสบการณ์การซื้อขายของคุณได้

เครื่องมือช่วยจัดการความเสี่ยง

ให้ลองมองหาแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือที่จะช่วยคุณในการจัดการความเสี่ยงได้ เช่น คำสั่ง Stop-Loss ซึ่งสามารถช่วยลดการสูญเสียเมื่อตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับสถานะที่เปิดไว้ของคุณได้

บอทเทรดคริปโตก็จะช่วยให้แผนการซื้อขายของคุณเป็นไปอย่างอัตโนมัติได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มที่คุณเลือกใช้งานมีบริการบอทเทรดที่ถูกต้องตามกฏหมายและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการทำการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ

ตัวเลือกในการฝากและถอนเงิน

ตรวจสอบตัวเลือกในการชำระเงินสำหรับการฝากและถอนเงินของแพลตฟอร์ม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขามีตัวเลือกที่สะดวกและคุ้มค่าสำหรับคุณ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อจำกัดในการฝากหรือถอนเงินให้ชัดเจน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณจัดการเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและวางแผนการซื้อขายได้โดยไม่มีเรื่องติดขัดใดๆ

ชื่อเสียง และ ชุมชน

ลองศึกษาข้อมูลว่าผู้คนในโลกคริปโตคิดอย่างไรกับแพลตฟอร์มนี้ อ่านความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงรายอื่นๆ โดยเฉพาะผู้ใช้งานใหม่บนแพลตฟอร์ม ชุมชนที่เข้มแข็งจะให้การสนับสนุนและช่วยให้คุณได้มีโอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติม ทำให้คุณสามารถเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและเทคนิคการบริหารความเสี่ยงได้มากขึ้น

ทำความเข้าใจความเสี่ยงให้ดี

หากคุณยังเป็นมือใหม่ในโลกของ ‘การซื้อขายเลเวอเรจคริปโต’ สิ่งสำคัญก็คือ คุณจะต้องมีความรู้และใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก การเลือกใช้งานกลยุทธ์การซื้อขายที่คุณมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งคือหัวใจสำคัญ โดยการใช้ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ

การจัดการความเสี่ยงก็ควรที่จะเป็นอีกหนึ่งแกนหลักของกลยุทธ์การซื้อขายของคุณเช่นกัน นอกจากนี้ ให้ทำความคุ้นเคยเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียน ตัวชี้วัดของตลาดซื้อขาย และดัชนีความกลัวและความโลภของสกุลเงินดิจิทัล เพื่อที่จะสามารถคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของตลาดได้ดียิ่งขึ้น

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณได้เลือกใช้งานกระดานเทรดที่มีชื่อเสียงซึ่งมีสื่อการเรียนรู้ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะทำการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆ ให้เริ่มจากการซื้อขายระยะสั้นเพื่อสร้างความมั่นใจและเสริมสร้างประสบการณ์ของคุณ ด้วยการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ คุณจะสามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการซื้อขายเลเวอเรจที่ประสบความสำเร็จในโลกสกุลเงินดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ได้

คำถามที่พบบ่อย

การซื้อขายเลเวอเรจคริปโต คืออะไร?

เลเวอเรจ 100 เท่าในคริปโตคืออะไร?

เลเวอเรจที่ดีที่สุดสำหรับคริปโตคือเท่าใด?

เลเวอเรจ 20 เท่าในการซื้อขายคืออะไร?

เลเวอเรจ 10 เท่าเสี่ยงหรือไม่?

เลเวอเรจที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่คือเท่าใด?

แพลตฟอร์มใดที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายคริปโตในปี 2024 คือแพลตฟอร์มใด?

สกุลเงินดิจิทัลใดมีเลเวอเรจสูงสุด?

กระดานเทรดคริปโตใดที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายเลเวอเรจคริปโต?

คริปโตใดที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน