ดูเพิ่มเติม

TAO Coin คืออะไร

10 mins
อัพเดทโดย Akradet Mornthong

TAO Coin คือ สกุลเงินหลักของ Bittensor โปรเจกต์คริปโตที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างเครือข่าย Peer-to-Peer แบบกระจายอำนาจที่เชื่อมต่อโมเดล AI และ Machine Learning ของบุคคลต่างๆ ทั่วโลกเข้าด้วยกัน ก่อให้เกิดระบบโครงข่ายอินเตอร์เน็ตที่ทำงานเสมือนกับ “สมอง” ที่รวบรวมข้อมูลมาจากทั่วทุกมุมโลก ในบทความนี้ เราจะมาดูไปพร้อมๆ กันว่า Bittensor (TAO) คืออะไร? เทคโนโลยีนี้จะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างไร? รวมไปถึง เรียนรู้แง่มุมต่างๆ ของบล็อกเชนที่เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายนี้กัน

Bittensor (TAO) คืออะไร

Bittensor คือ เครือข่ายบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจ ซึ่งทำหน้าที่เป็นระบบนิเวศแบบ Peer-to-Peer (P2P) แบบเปิดสำหรับการสร้าง, การฝึกฝน, การแบ่งปัน, และ การซื้อขายโมเดลของ Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML)

ให้คิดซะว่ามันเป็นเหมือน “สมองระดับโลก” ที่ “เซลล์ประสาท” แต่ละตัวคือโมเดลของ Machine Learning ที่ผู้คนทั่วโลกเป็นเจ้าของ โมเดลเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อประมวลผลข้อมูล และ ให้การตอบสนองอย่างชาญฉลาด คล้ายกับวิธีที่ ‘เซลล์ประสาท’ ใน ‘สมอง’ ของคุณทำงานร่วมกันเพื่อช่วยคุณในการคิดและการตัดสินใจ

โครงสร้างของเครือข่าย

บล็อกเชนของ Bittensor สร้างขึ้นโดยใช้เฟรมเวิร์ก Substrate ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กแบบแยกส่วนที่ช่วยให้สามารถสร้างบล็อกเชนที่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงได้ Bittensor ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับที่เป็นเทคโนโลยีรากฐานของ Polkadot โดย Substrate นั้นได้รับการพัฒนาจาก Parity Technologies และถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างบล็อกเชนที่สามารถปรับแต่งเองได้ในหลายๆ ด้าน และยังสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ Polkadot ได้อย่างง่ายดาย หากต้องการ

Substrate จะมอบส่วนประกอบพื้นฐาน หรือ “Pallets” ที่สามารถปรับแต่งได้เพื่อสร้างบล็อกเชนที่ตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจง สิ่งนี้ทำให้ Bittensor สามารถสร้างบล็อกเชนที่ได้รับการปรับแต่งมาให้เหมาะสมสำหรับเครือข่าย Machine Learning แบบกระจายอำนาจของพวกเขาได้

โปรโตคอล Bittensor ทำงานอย่างไร?

Bittensor Protocol Workflow
ตัวอย่างการทำงานของโปรโตคอล Bittensor: เว็บไซต์หลักของโปรเจกต์

ผู้ให้บริการอัลกอริธึม ML จะต้องเข้าร่วม Bittensor โดยการสมัครเป็นนักขุด (Miner) เสียก่อน นักขุดในโปรโตคอลนี้ค่อนข้างที่จะแตกต่างจากนักขุดทั่วไปที่คุณอาจจะพบได้ในเครือข่าย Bitcoin (BTC) หรือ เครือข่ายบล็อกเชนอื่นๆ ที่มีสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถขุดได้ นักขุดใน Bittensor จะขุด Crypto โดยการให้อัลกอริธึมของตนตอบสนองคำขอของลูกค้า พวกเขาจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมการตรวจสอบบล็อกในภายหลัง แต่กลไกฉันทามติในเครือข่าย Bittensor ไม่ได้เป็นการ “ขุด” เหมือนในเครือข่ายแบบ Proof of Work (PoW) ในสไตล์ของ Bitcoin

หลังจากที่โหนด (Node) ถูกลงทะเบียนเป็นนักขุด (Miner) แล้ว โหนดนั้นจะถูกมอบหมายให้อยู่ใน Subtensor/Subnet ที่มีความเกี่ยวข้องกับประเภทของอัลกอริธึม Machine Learning ที่พวกเขาให้บริการมากที่สุด Bittensor มีการให้บริการเครือข่ายย่อยที่หลากหลาย เช่น การสร้างข้อความ, การฝึกฝนข้อความ, การจัดเก็บข้อมูล, การสร้างเสียง, การสร้างภาพ, การวิเคราะห์การคาดการณ์, และ อื่นๆ อีกมากมาย เมื่อลูกค้าต้องการการประมวลผลด้วย ML คำขอก็จะถูกส่งไปยังเครือข่ายย่อยที่มีความสอดคล้องกับงานมากที่สุด

คำขอของลูกค้าจะได้รับการประมวลผลแบบกระจายอำนาจ โดยโหนดนักขุด (Miner Node) หลายๆ โหนดจะมีการโต้ตอบกัน รวมถึง นำเสนอชุดข้อมูลของพวกเขาแต่ละคน

หลักการทำงานของกลไกฉันทามติของ Bittensor

กลไกฉันทามติของ Bittensor ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรก คือ การเลือกอัลกอริธึมที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคำขอของลูกค้า โดยใช้กระบวนการ Proof of Intelligence (PoI) เพื่อคัดเลือก นักขุดที่มีการให้บริการข้อมูลที่มีคุณภาพสูง (จากโมเดล Machine Learning ของพวกเขา) ก็จะมีโอกาสมากขึ้นในการถูกเลือกเพื่อตรวจสอบบล็อกธุรกรรม ขั้นตอนนี้จะคล้ายกับ PoW ที่จะต้องมีการแข่งขันในการแก้ไขปริศนาทางคณิตศาสตร์ และ ใช้พลังงานในการประมวลผลที่สูง

ขั้นตอนที่ 2 คือ กิจกรรมในการตรวจสอบบล็อคจริง ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่นักขุดที่ถูกเลือกในขั้นตอนแรก (ด้วย PoI) ได้รับโอกาสในการตรวจสอบบล็อกธุรกรรม ขั้นตอนนี้จะเป็นการตรวจสอบแบบ Proof of Stake (PoS) ที่นักขุดต้องเดิมพัน TAO ของพวกเขา นอกจากนี้ ผู้ถือเหรียญ TAO ก็สามารถมอบหมาย TAO ที่ล็อก (Staked) เอาไว้ ให้กับผู้ตรวจสอบ (Validators) ของ Subnet ได้ เพื่อรับส่วนหนึ่งของรางวัลจากการ Staking

การพึ่งการผสมผสานกลไกฉันทามติแบบ 2 ชั้น (กลไกที่คล้ายกับ PoW และ PoS) นี้ทำให้ Bittensor เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ไม่เหมือนใคร

ประวัติความเป็นมา

Bittensor Founder
ผู้ก่อตั้งทั้ง 2 คนของ Bittensor: เว็บไซต์หลักของโปรเจกต์

Bittensor เปิดตัวโดย Opentensor Foundation ในปี 2021 ถือเป็นโครงการที่ค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับโปรเจกต์บล็อคเชนยอดนิยมอื่นๆ เช่น Tron และ Arbitrum โดยมี Jacob Robert Steeves และ Ala Shabaana คือ 2 นักพัฒนาที่จัดตั้ง Opentensor Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังของ Bittensor ขึ้นมา

โปรเจกต์นี้มีเป้าหมายที่จะสร้างแหล่งทรัพยากรในการประมวลผลระดับโลก — ซึ่งเป็น Open-Source และเข้าถึงได้ง่าย — ที่เชื่อมโยงถึงกันและทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI ขึ้นมา Bittensor ยังได้รับการแนะนำโดยกฎบัตรที่ลงนามโดย Opentensor Foundation และ ผู้เข้าร่วมหลักรายอื่นๆ กฎบัตรนี้ระบุถึงหลักการและข้อผูกพันที่เครือข่าย Bittensor จะต้องปฏิบัติตามเมื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่น AI ซึ่งประกอบไปด้วยเงื่อนไขดังต่อไปนี้:

  • AI อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นอย่างมากหากมีการรวมศูนย์เกิดขึ้น ดังนั้น การกระจายอำนาจของ AI จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
  • ป้องกันการใช้งาน AI และ ML ที่เป็นอันตราย
  • การพัฒนา AI แบบ Open-Source ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
  • เปิดการเป็นเจ้าของแอปพลิเคชั่น AI
  • ความโปร่งใสสำหรับบล็อกเชน Bittensor และการตัดสินใจของโปรเจกต์

เป้าหมายของ Bittensor

Bittensor มีเป้าหมายที่จะสร้างตลาดแบบ Peer-to-Peer ที่จะมอบรางวัลตอบแทนให้กับผลผลิตที่มาจากปัญญาประดิษฐ์ ผ่านเทคนิคที่ล้ำสมัย เช่น การผสมผสานของข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในหลายๆ รูปแบบ แพลตฟอร์มนี้จะสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ผู้ให้บริการสามารถขายผลผลิตของตนได้ และผู้บริโภคก็สามารถซื้อความรู้เหล่านั้นเพื่อใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพ AI ของตนได้ Bittensor จะส่งเสริมการแบ่งปันความรู้ โดยมีเป้าหมายในการเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนา AI ผ่านการผสานรวมความรู้จากบุคคลต่างๆ และเมื่อผู้เข้าร่วมที่สนับสนุนข้อมูลจากโมเดล AI เพื่อเป็นการฝึกอบรมให้กับเครือข่าย Bittensor พวกเขาก็จะได้รับรางวัลตอบแทนเป็น TAO

ท้ายที่สุดแล้ว วิสัยทัศน์ของพวกเขาก็คือ การสร้างตลาดสำหรับปัญญาประดิษฐ์ที่มีความยุติธรรม โปร่งใส และเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

ประโยชน์และความเสี่ยงของ Bittensor

ประโยชน์

  • ทำให้แอปพลิเคชั่น AI — ซึ่งโดยปกติแล้ว มักจะถูกจำกัดไว้เฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทุนหนา — สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
  • กระจายอำนาจในการพัฒนา AI เพื่อการควบคุมและความโปร่งใสที่ดียิ่งขึ้นสำหรับแต่ละบุคคล
  • เปิดโอกาสให้กับทุกคน ผู้ใช้งานที่มีทรัพยากรในการประมวลผลสามารถเข้าร่วมเป็นนักขุด (Miner) ได้ ในขณะที่ผู้ถือโทเค็น TAO สามารถเข้าร่วมเป็นผู้ตรวจสอบ (Validator) ได้
  • นำเสนอเครือข่าย AI ที่ปรับขนาดได้และพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในวงกว้าง
  • เป็น Open-Source อย่างเต็มรูปแบบ ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ตามต้องการ

ความเสี่ยง

  • เครือข่าย Bittensor มีความซับซ้อนมากจนเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ที่จะใช้งาน และอาจจะต้องใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ
  • แม้ว่าเครือข่ายจะถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถปรับขนาดได้ แต่ก็ยังไม่ได้มีการ Stress-tested แต่อย่างใด
  • เมื่อประเทศต่างๆ เริ่มมีการกำกับดูแลและกฏระเบียบเกี่ยวกับ AI มากยิ่งขึ้น Bittensor ก็อาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายในอนาคต
  • จำเป็นที่จะต้องมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพื่อเข้าร่วมในเครือข่าย

TAO Coin คืออะไร

TAO Coin เป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักและเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของระบบนิเวศของแพลตฟอร์ม Bittensor นักขุดจะได้รับ TAO โดยการให้บริการอัลกอริธึม ML ให้กับคำขอของลูกค้า และลูกค้าจะต้องใช้ TAO ในการชำระเงินเพื่อเข้าถึงอัลกอริธึมและการประมวลผลของ Machine Learning เหรียญ TAO ยังสามารถนำไป Staking เพื่อตรวจสอบบล็อกธุรกรรมได้ นักขุดที่ถูกเลือกเป็น Validator จะต้องล็อก TAO เอาไว้ เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างบล็อก นอกจากนี้ ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มยังสามารถมอบหมาย TAO ให้กับ Validator ที่ทำงานอยู่เพื่อรับส่วนแบ่งจากรางวัลบล็อกได้

โทเค็นโนมิกส์ของ TAO คล้ายคลึงกับ BTC อย่างไม่น่าเชื่อ โดยมีอุปทานสูงสุดจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ ปัจจุบัน จำนวนเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 5.97 ล้านเหรียญ เหรียญทั้งหมด 21 ล้านเหรียญจะถูกปล่อยออกมาโดยสมบูรณ์ผ่านรางวัลบล็อกภายในปี 2046 และเช่นเดียวกับ Bitcoin, TAO มีกลไกในการลดรางวัลบล็อกลงครึ่งหนึ่งเช่นเดียวกัน

ปัจจุบัน นักขุดและผู้ตรวจสอบจะได้รับ 1 TAO เป็นรางวัลต่อบล็อก (หารแบ่งกัน) การ Halving ครั้งแรกมีกำหนดการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2025 และจะมีการ Halving เกิดขึ้นต่อไปในทุกๆ 4 ปี

ประโยชน์ใช้งานของ TAO

TAO เป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักของระบบนิเวศ Bittensor มีประโยชน์ใช้งานหลากหลายฟังก์ชั่นดังนี้:

  • ใช้เป็นรางวัล — TAO จะใช้เพื่อเป็นรางวัลให้แก่นักขุดที่สนับสนุนทรัพยากรการประมวลผลสำหรับคำขอใช้งาน Machine Learning ต่างๆ
  • ใช้เพื่อ Staking — นักขุดและผู้ตรวจสอบจะต้อง Staked เหรียญ TAO เพื่อเข้าร่วมและรับรางวัล อีกทั้ง ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครือข่ายอีกด้วย
  • ใช้เพื่อกำกับดูแล — ผู้ถือ TAO สามารถมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลโดยการเสนอการเปลี่ยนแปลงและการลงคะแนนในการอัพเกรดโปรโตคอลได้
  • ใช้ชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการ — โทเค็น TAO ใช้เพื่อชำระค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมเครือข่าย และใช้เพื่อชำระค่าบริการของ Machine Learning ที่เครือข่าย Bittensor มอบให้

ศักยภาพของ $TAO

TAO เป็น Deflationary Token (โทเค็นที่เป็นภาวะเงินฝืด หรือก็คือ โทเค็นที่จะมีปริมาณการออกโทเค็น/เหรียญลดลงเรื่อยๆ ทำให้มีภาวะฝืดเคืองมากขึ้นในอนาคต) ซึ่งมีอุปทานรวมอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ เช่นเดียวกับ Bitcoin (BTC) โทเค็นจะค่อยๆ ถูกแจกจ่ายออกไปในรูปแบบของรางวัลสำหรับการขุดและรางวัลจูงใจในรูปแบบอื่นๆ ปัจจุบัน $TAO ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบนั้นมีจำนวนประมาณ 6.6 ล้านเหรียญ หรือ คิดเป็นราวๆ 30% ของอุปทานทั้งหมด

ในช่วงปีที่ผ่านมา ราคาของ TAO เริ่มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 2023 โดยได้รับแรงหนุนจากความกระตือรือร้นที่เพิ่มขึ้นต่อโซลูชั่นบล็อกเชนที่ให้ความสำคัญในเรื่อง AI เป็นหลัก โดยมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจาก 1 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2023 เพิ่มขึ้นเป็น 4.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ทำให้มันได้กลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต AI ที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดอย่างรวดเร็ว

และจากที่มีการซื้อขายอยู่ที่ราวๆ 50 ดอลลาร์ ในช่วงวันที่ 20 ตุลาคม 2023 ราคาของ TAO พุ่งสูงขึ้นเกือบ 570% และขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเป็นครั้งแรกที่เกือบๆ 400 ดอลลาร์ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2023 หลังจากนั้น ราคาของ TAO ก็ลดลงเล็กน้อย ก่อนที่จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุด (ATH) อีกครั้ง ในวันที่ 11 เมษายน 2024 ที่ราคา 767.68 ดอลลาร์ (ข้อมูลอ้างอิงจาก CoinMarketCap)

ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าราคาของ TAO จะเริ่มปรับตัวลง (ตามรอยสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่เริ่มปรับลดลงเช่นกัน) แต่การคาดการณ์ราคา TAO ในระยะยาวก็ยังคงเป็นไปในเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ TAO อาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น ความสามารถในการปรับขนาดของเครือข่าย, ความสะดวกในการใช้งานสำหรับทั้งนักขุดและผู้ใช้บริการ AI, ความสามารถของเครือข่ายในการรับรองคุณภาพและความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้รับจาก AI และ การยอมรับโดยรวมของ เทคโนโลยี Blockchain และ AI ในภาคส่วนอุตสาหกรรมต่างๆ

หาก Bittensor สามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ และสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดจากการผสานรวมตัวของ AI และ Blockchain ได้ TAO อาจจะกลายหนึ่งในเป็นสินทรัพย์คริปโตชั้นนำในด้าน AI ได้

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤษภาคม 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน