ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่เป็นตลาดที่มีความผันผวนและมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับตลาดการลงทุนอื่นๆ ถึงแม้ว่านั่นอาจจะดูเป็นข้อเสียสำหรับใครบางคน แต่สำหรับเหล่านักเทรดและนักลงทุนแล้ว ความผันผวนนั้นเท่ากับโอกาสในการทำกำไรที่เพิ่มมากขึ้น และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในบทความนี้ เราจะไปเรียนรู้เกี่ยวกับ “การเทรดคริปโต” สิ่งใดบ้างที่เราควรจะรู้และเตรียมพร้อมก่อนที่จะเริ่มทำการเทรดคริปโต รวมถึงรายชื่อของกระดานเทรดคริปโตต่างๆ ที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลย!
ต้องการข้อมูลเชิงลึกในเรื่องจากซื้อขายจากนักเทรดมือโปรหรือไม่? เข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram สิ: สอบถามข้อมูลต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญของ BeInCrypto รับชมคอร์สพื้นฐานการซื้อขายฟรี พูดคุยกันเรื่องโปรเจกต์คริปโตต่างๆ และรับข้อเสนอและโบนัสสุดพิเศษจากแพลตฟอร์มคริปโตที่น่ารักที่สุดของเรา! เข้าร่วมเลยเดี๋ยวนี้
คริปโตเคอร์เรนซี่ คืออะไร?
“คริปโตเคอร์เรนซี่” (Cryptocurrency) คือสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินเสมือน (Currency) ที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส (Cryptography) ซึ่งทำงานอยู่บนบนบัญชีแยกประเภทสาธารณะแบบกระจาย (Distributed Public Ledger) หรือที่เรียกกันว่า “บล็อกเชน” (Blockchain)
เนื่องจากธุรกรรมต่างๆ ของคริปโตเคอร์เรนซี่นั้นจะถูกอัพเดตลงบนบัญชีแยกประเภทสาธารณะ ทำให้มันมีความโปร่งใสเป็นอย่างมาก และจากการที่ข้อมูลธุรกรรมใดๆ ที่ถูกบันทึกไว้เหล่านั้นจะไม่สามารถทำซ้ำ, ดัดแปลง, หรือทำลายได้ คริปโตเคอร์เรนซี่จึงมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก และข้อดีอีกอย่างของคริปโตเคอร์เรนซี่ก็คือมันอยู่นอกเหนือการควบคุมและแทรกแซงของหน่วยงานกลางหรือรัฐบาลใดๆ จากโครงสร้างแบบกระจายอำนาจที่กระจายอยู่ในคอมพิวเตอร์ต่างๆ เป็นจำนวนมากของมัน
แล้วคริปโตเคอร์เรนซี่ใช้ทำอะไรได้บ้างล่ะ? กรณีการใช้งานหลักๆ ของคริปโตเคอร์เรนซี่มีดังต่อไปนี้:
1. ใช้ชำระเงินต่อสินค้าหรือบริการต่างๆ ที่รองรับ
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ คริปโตเคอร์เรนซี่นั้นก็คือสกุลเงินดิจิทัล เราจึงสามารถใช้มันเพื่อชำระเงินสำหรับสินค้าหรือบริการต่างๆ ที่รองรับได้ ตัวอย่างเช่น McDonald ในเมืองลูกาโน่ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่เปิดรับชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี่สกุลต่างๆ อย่าง Bitcoin หรือ Tether
2. ใช้เก็บเป็นสินทรัพย์สำหรับรักษามูลค่า
คริปโตเคอร์เรนซี่เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ในกลุ่ม Store of Value ที่ผู้คนมักจะใช้เพื่อเก็บรักษาเงินสำรองของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนที่สกุลเงินเฟียต (สกุลเงินใช้งานทั่วไปที่ออกโดยรัฐบาลของประเทศต่างๆ) เสื่อมมูลค่าลงด้วยสาเหตุต่างๆ ตัวอย่างของคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ผู้คนมักจะใช้รักษามูลค่าก็ได้แก่ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), USDT, USDC เป็นต้น
3. ใช้เทรดเพื่อเก็งกำไร
นักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพมากมายมักจะเลือกเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่เนื่องจากมันเป็นสินทรัพย์ประเภทที่มีความผันผวนสูง หากเราสามารถเข้าและออกได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม การเทรดคริปโตนั้นจะสามารถสร้างผลกำไรได้มากมายกว่าการลงทุนแบบเดิมๆ อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความผันผวนที่สูงก็นำมาซึ่งความเสี่ยงที่มากกว่าการลงทุนแบบทั่วไปอย่างแน่นอน
พื้นฐาน “การเทรดคริปโต” สำหรับมือใหม่
“การเทรดคริปโต” ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่เพื่อที่จะเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
1. สมัครบัญชีบนเว็บเทรดคริปโตที่คุณเลือก
ก่อนอื่น เราจะต้องสมัครบัญชีของเว็บเทรดคริปโตที่ต้องการเพื่อทำการเทรดคริปโต ซึ่งเราควรจะศึกษารายละเอียดข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อดี, ข้อเสีย, ของเว็บเทรดคริปโตต่างๆ ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าธรรมเนียมการฝาก/ถอน/เทรด, คู่สกุลเงินดิจิทัลที่เราต้องการจะเทรด, ฟีเจอร์ต่างๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้เราในการเทรด และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อผลประโยชน์สูงสุดในการทำกำไรของเรา
หากคุณยังไม่มีเว็บเทรดในใจ เราขอแนะนำให้ลองเข้าไปดูบทความ “10 เว็บเทรดคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่” ของเรา เราได้รวบรวมข้อมูลและข้อดี ข้อเสียของเว็บเทรดต่างๆ ที่เหมาะกับมือใหม่ไว้ให้แล้ว
เพื่อสมัครบัญชีเว็บเทรดคริปโต เราอาจจะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วยการให้รายละเอียดส่วนตัวต่างๆ เช่น หมายเลขบัตรประจำตัว, ที่อยู่, วันเกิด หรือข้อมูลต่างๆ ที่เว็บเทรดดังกล่าวร้องขอ หากคุณไม่ต้องการที่จะเปิดเผยตัวตนของคุณ คุณอาจจะเลือกใช้งาน “เว็บเทรดแบบกระจายอำนาจ” (Decentralized Exchanges) แทน ซึ่งผู้ใช้งานไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยตัวตนผ่านกระบวนการ KYC (Know Your Customer) เพียงแค่เชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโต เลือกคริปโตที่ต้องการจะเทรด ก็สามารถเริ่มเทรดได้เลย
2. เพิ่มเงินทุนลงไปในบัญชีเว็บเทรดของคุณ
เมื่อทำการสมัครบัญชีเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะเพิ่มหรือเติมเงินลงไปในบัญชีเทรดคริปโตของเรา เพื่อใช้ในการซื้อคริปโตโดยตรงหรือซื้อคริปโตที่เป็นคู่การซื้อขายของคริปโตตัวที่เราต้องการจะเทรด (เช่น คู่ BTC/USDT คุณจำเป็นจะต้องมี USDT เพื่อที่จะทำการซื้อ BTC ได้) โดยทั่วไปแล้ว เว็บเทรดคริปโตส่วนใหญ่จะรองรับการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารหรือตัดเงินผ่านบัตรเดบิต/เครดิต (หรือคุณสามารถโอนคริปโตที่คุณมีอยู่แล้วไปยังบัญชีเว็บเทรดได้โดยตรงเช่นกัน) การโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารนั้นมักจะเป็นตัวเลือกที่มีค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด
3. เลือกคริปโตที่คุณต้องการจะเทรด
นักเทรดส่วนใหญ่มักเลือกที่จะลงทุนในเหรียญหรือโทเค็นที่สามารถคาดเดาความเคลื่อนไหวของราคาได้ง่ายกว่าและสามารถหาข้อมูลการวิเคราะห์ในโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างไม่ยากเย็น เช่น BTC หรือ ETH อย่างไรก็ตาม คริปโตเหล่านี้มักจะเป็นที่นิยมในการถือไว้ในระยะยาว (HODL) มากกว่าการเทรดทำกำไร
ในการกลับกัน นักเทรดบางส่วนนั้นเลือกที่จะเดิมพันเงินทุนของพวกเขากับ Altcoins ที่มีมูลค่าต่ำกว่าซึ่งมีความผันผวนที่สูงกว่า ถึงแม้ว่าคริปโตเหล่านี้จะมีมูลค่าที่ไม่สูงมาก แต่มันก็มีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเนื่องจากการแกว่งตัวของราคาที่สูงอันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องพื้นฐานของตัวคริปโตเอง หรือแม้กระทั่งพื้นฐานจากตัวโปรเจกต์ของคริปโตเหล่านี้ ซึ่งในบางกรณี ราคาของมันอาจจะพุ่งสูงขึ้นได้มากกว่า 1,000% ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนบางส่วนยอมรับความเสี่ยงเหล่านั้นได้
4. ศึกษาและเลือกกลยุทธ์การเทรดของคุณ
พื้นฐานของ “การเทรดคริปโต” โดยทั่วไปนั้นก็คือ “การซื้อเมื่อราคาต่ำ แล้วขายทำกำไรเมื่อราคาสูง” ถึงแม้ว่าอาจจะฟังดูง่าย แต่คุณก็จำเป็นที่จะต้องมีกลยุทธ์ในการเทรดเพื่อที่จะช่วยให้คุณ “ซื้อถูกและขายแพง” ได้ กลยุทธ์ทั่วไปที่นักเทรดมักจะใช้ในการเทรดได้แก่:
4.1 Day Trading
กลยุทธ์การเทรดแบบซื้อและขายคริปโตภายใน 1 วัน ซึ่งจะเป็นการหวังทำกำไรจากส่วนต่างของราคาในระยะสั้นที่เกิดขึ้นภายในรอบวันเท่านั้น การเทรดในรอบวันสามารถเกิดขึ้นได้หลายครั้ง แต่จะไม่มีการเปิดสถานะข้ามวัน ข้อดีของการเทรดในรูปแบบนี้ก็คือ การทำกำไรได้รวดเร็ว (จากการที่เราเปิดและปิดสถานะในรอบวันเท่านั้น) และสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของราคาในช่วงข้ามคืนที่เรานอนหลับพักผ่อนอยู่
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ Day Trading นั้นเหมาะกับผู้ที่มีเวลาในการเฝ้าหน้าจอเพื่อดูกราฟราคาและมีความรู้เรื่องการวิเคราะห์สัญญาณทางเทคนิคในระดับหนึ่งเพื่อที่จะสามารถทำกำไรได้ สำหรับมือใหม่ที่อาจจะยังไม่เคยมีประสบการณ์หรือความรู้มาก่อน กลยุทธ์การเทรดในรูปแบบนี้อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อเงินทุนของคุณได้มากกว่า
4.2 Swing Trading
กลยุทธ์การเทรดแบบเน้นทำกำไรในระยะสั้นถึงกลาง โดยจะเน้นทำกำไรจากการแกว่งตัว (Swing) ของราคาเป็นรอบๆ โดยจะเข้าซื้อเมื่อราคาทำจุดต่ำสุด และขายเมื่อราคาทำจุดสูงสุดในรอบช่วงระยะเวลา กลยุทธ์การเทรดในรูปแบบนี้มีข้อดีคือประหยัดเวลามากกว่าแบบ Day Trading เราไม่จำเป็นจะต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอเพื่อดูกราฟราคาแบบเรียลไทม์ แต่จะเป็นการตัดสินใจในการเทรดเป็นรอบๆ ไป
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ Swing Trading นั้นต้องการความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มากขึ้น รวมถึงความสามารถในการอ่านสัญญาณการกลับตัวต่างๆ เช่น การอ่านรูปแบบการกลับตัวของแท่งเทียน หรือ ตัวชี้วัดโมเมนตัม เป็นต้น
4.3 Trend Trading
กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มของราคาในภาพรวม เน้นการถือสินทรัพย์ไว้ในระยะยาวเพื่อขายทำกำไรจากราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เป็นกลยุทธ์การเทรดที่เข้าใจได้ง่ายและไม่ซับซ้อน เหมาะกับมือใหม่ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากการศึกษาแนวโน้มของราคาคริปโตที่เราต้องการจะลงทุนแล้ว เราอาจจะต้องทำการศึกษาข้อมูลอื่นๆ ของคริปโตหรือโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ภาพรวมที่กว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันในกรณีที่คริปโตอาจจะสูญเสียมูลค่าไปโดยฉับพลันจากปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเทรด
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การเทรดในลักษณะนี้จะไม่ทำกำไรให้คุณได้ในระยะสั้น เนื่องจากเราจะเปิดและถือสถานะไว้เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้คุณอาจจะเสียโอกาสจากการลงทุนในสินทรัพย์คริปโตตัวอื่นๆ ได้
5. เริ่มทำการเทรดคริปโต
เมื่อเตรียมการทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเริ่มทำการเทรดคริปโต หรือหากคุณยังไม่พร้อมดีนัก คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย หรือลองใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝนทักษะในการเทรดของคุณเพิ่มเติมก่อนได้
บัญชีทดลองคือบัญชีที่มาพร้อมกับเงินเสมือนจริงที่ผู้ใช้งานสามารถใช้เทรดเพื่อฝึกฝนหรือเรียนรู้การเทรดในสภาพแวดล้อมของตลาดซื้อขายที่จำลองขึ้นด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ ซึ่งเว็บเทรดส่วนใหญ่มักจะมีบัญชีทดลองให้ผู้ใช้งานสามารถลองทำการเทรดก่อนที่จะสมัครบัญชีเพื่อทำการเทรดจริงๆ การใช้งานบัญชีทดลองนั้นจะช่วยให้คุณเข้าใจสภาพความเป็นจริงของตลาดซื้อขายได้มากยิ่งขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนไปโดยไม่ตั้งใจหรือขาดความรู้ได้
6. จัดเก็บคริปโตของคุณเอาไว้อย่างปลอดภัย
ถึงแม้ว่าการจัดเก็บคริปโตของคุณไว้ในบัญชีเว็บเทรดจะช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่หากคุณต้องการซื้อและถือคริปโตของคุณไว้เพื่อทำกำไรในระยะยาว คุณอาจจะต้องพิจารณาเรื่องการใช้งานกระเป๋าเงินคริปโตแบบ Non-Custodial เพื่อใช้เก็บรักษาคริปโต โดยสามารถเลือกเก็บคริปโตสำหรับการเทรดของคุณไว้ในบัญชีเว็บเทรดคริปโตได้ แล้วเลือกเฉพาะคริปโตที่ต้องการถือระยะยาวหรือมีมูลค่าสูงเพื่อโอนมันไปเก็บไว้ในกระเป๋าเงินคริปโตที่เราสามารถควบคุมเองได้อย่างสมบูรณ์เพื่อความปลอดภัย
“เว็บเทรดคริปโต” ที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่
1. Bitkub
Bitkub เป็นเว็บเทรดคริปโตที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 และได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบัน โดยถือครองเปอร์เซ็นการซื้อขายคริปโตมากกว่า 90% อีกทั้งยังเป็นเว็บเทรดที่ได้รับการรับรองการ ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) อีกด้วย
ปริมาณการซื้อขาย (ใน 24 ชั่วโมง): ราวๆ 1,185 ล้านบาท
เหรียญคริปโตที่รองรับ: 79 เหรียญ
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: 0.25% ต่อการเทรด
2. Satang Pro
Satang Pro เป็นอีกหนึ่งเว็บเทรดคริปโตที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ประเทศไทย มีจุดเด่นในเรื่อง Multiple Network ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกเครือข่ายได้ตามต้องการ และยังมีค่าธรรมเนียมการเทรดที่ถูกมาก และยังมีเหรียญคริปโตสัญชาติไทยเปิดให้ซื้อขายกันอีกด้วย
ปริมาณการซื้อขาย (ใน 24 ชั่วโมง): ราวๆ 27 ล้านบาท
เหรียญคริปโตที่รองรับ: 35 เหรียญ
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: 0.2% ต่อการเทรด
3. Binance
Binance ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Changpeng Zhao (CZ) มันเป็นหนึ่งในเว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเรื่องปริมาณการซื้อขาย มีจุดเด่นในเรื่องตัวเลือกการเทรดที่หลากหลาย, ใช้งานได้ง่าย และมีค่าธรรมเนียมต่ำ
ปริมาณการซื้อขาย (ใน 24 ชั่วโมง): ราวๆ 391,224 ล้านบาท
เหรียญคริปโตที่รองรับ: 355 เหรียญ
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: 0.10% ต่อการเทรด
4. OKX
OKX เป็นอีกหนึ่งใน “เว็บเทรดคริปโต” ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาแอปเทรดผ่านมือถือที่ดีที่สุด เว็บเทรด OKX มีผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคนจาก 100 ประเทศทั่วโลก เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเทรดคริปโตที่ต้องการซื้อขายคริปโตด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำ
ปริมาณการซื้อขาย (ใน 24 ชั่วโมง): ราวๆ 56,811 ล้านบาท
เหรียญคริปโตที่รองรับ: 352 เหรียญ
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: 0.08% – 0.10% ต่อการเทรด
สิ่งที่มือใหม่ควรเรียนรู้และข้อควรระวังก่อนเริ่มเทรดคริปโต
1. ศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้พร้อม
ตลาดคริปโตเป็นตลาดซื้อขายที่มีความผันผวนสูงและมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก (เพราะว่าคริปโตต่างๆ มาจากเครือข่ายบล็อกเชนที่แตกต่างกัน) ดังนั้น ก่อนที่เราจะทำการลงทุนใดๆ เราควรจะศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนที่จะเริ่มทำการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลของคริปโตหรือโปรเจกต์ที่คุณจับตามองอยู่ การศึกษาข้อมูลและคุณสมบัติต่างๆ ของเว็บเทรดที่คุณต้องการใช้งาน เป็นต้น เมื่อคุณมั่นใจในข้อมูลของคุณที่รวบรวมมาได้แล้ว จากนั้นจึงค่อยเริ่มทำการเทรดก็ยังไม่สายเกินไป
2. กระจายเงินลงทุนของคุณไว้หลายๆ ที่
ดั่งเช่นสำนวนที่ว่า “อย่าเก็บไข่ทั้งหมดไว้ในตระกร้าใบเดียว” การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่นั้นอาจจะสามารถทำกำไรได้มหาศาล แต่ในทางกลับกัน โอกาสที่จะเกิดความสูญเสียนั้นก็มากเช่นเดียวกัน ดังนั้น การกระจายเงินลงทุนของคุณไว้ใน Altcoins หลายๆ ตัวจะช่วยลดความเสี่ยงที่คุณจะสูญเสียเงินลงทุนของคุณไปทั้งหมดได้
3. ไม่ควรนำเงินออมของคุณมาลงทุน
เหมือนที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การลงทุนใน “คริปโต” นั้นมีความเสี่ยง ถ้าเช่นนั้น คุณจะเสี่ยงนำเงินออมทั้งชีวิตของคุณมาเพื่อลงทุนอย่างนั้นหรือ? ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าการลงทุนของคุณจะผลิดอกออกผลอย่างงดงาม ดังนั้น โปรดลงทุนเฉพาะเงินเย็นที่คุณสามารถสูญเสียได้จริงๆ เท่านั้น หรือให้ทำการแยกเงินลงทุนของคุณออกจากเงินออมให้ชัดเจน
4. อย่ากลัวที่จะพลาดโอกาส (FOMO)
การเทรดคริปโตนั้นต้องการศัยการเรียนรู้และศึกษาข้อมูลต่างๆ มากมายเพื่อที่จะช่วยให้เทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในบางครั้ง ความกลัวที่จะพลาดโอกาสงามๆ หรือการตัดสินใจโดยไม่ยั้งคิดให้ดีนั้นก็เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณสูญเสียเงินลงทุนของคุณไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น อย่ากลัวที่จะพลาดโอกาสใดๆ ไปหากคุณยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลต่างๆ อย่างถ่องแท้
5. คอยอัพเดตข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับคริปโตที่คุณต้องการลงทุนเสมอ
ตลาดคริปโตนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ทุกวัน ดังนั้น เพื่อที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดมากที่สุด การติดตามข่าวสารล่าสุดต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากสื่อต่างๆ เช่น BeInCrypto หรือจากช่องทางอย่างเป็นทางการของโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตนั้นๆ เช่นเพจ Facebook, Twitter, Instagram หรือช่อง Telegram ก็เป็นเรื่องที่สมควรทำเช่นกัน
6. ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ
การเทรดคริปโตนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้คุณร่ำรวยได้ในชั่วข้ามคืน มันต้องมีการฝึกฝนเรื่องวินัยและทักษะเพื่อที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด แต่ในบางครั้ง แม้แต่มืออาชีพก็ยังผิดพลาดได้ ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น ให้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้นๆ เพื่อนำไปปรับปรุงและเก็บไว้เป็นสิ่งเตือนใจเพื่อไม่ให้คุณทำข้อผิดพลาดดังกล่าวขึ้นมาอีก โปรดอย่าท้อแท้หรือสิ้นหวัง ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ
7. หมั่นเรียนรู้สิ่งต่างๆ อยู่เสมอ
การเทรดคริปโตนั้นคือการเดินทางไปสู่ความสำเร็จของคุณ ดังนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ ให้คุณหมั่นเรียนรู้สิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การเทรด ข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้ต่างส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ของคุณ
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์
